มาร่วมกัน...ออกกำลังกาย "สมอง" กันเถอะ

 ถ้าหากถามถึงวิธีดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง คงจะมีวิธีมากมายหลายร้อยวิธีเลย อย่างเช่น กินอาหารให้ครบหมู่ กินแต่สิ่งที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ และน้องๆรู้ไหมว่า สิ่งหนึ่งในร่างกายของเราก็ต้องการ การดูแลและออกกำลังกายเพื่อให้แข็งแรงเหมือนกันนะ นั่นคือ สมอง

 เชื่อหรือไม่ว่าเราสามารถ ดูแลสมองให้แข็งแรงอยู่เสมอได้ เหมือนร่างกายของเรานั่นแหล่ะ เพราะถ้าหากสมองของเราไม่แข็งแรงขึ้นมา ไม่อยากจะคิดเลยถึงผลที่ตามมา เนื่องจาก มันแย่มากๆเลยล่ะ จริงไหม ?

วันนี้พี่ปอจึงมีเคล็ด (ไม่) ลับ ในการพัฒนา หรือออกกำลังกายให้สมองของเรา มาฝาก

 

1. จิบน้ำบ่อย ๆ

สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยวซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

2. กินไขมันดี

คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที

หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ (ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

4. ใส่ความตั้งใจ

การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิดระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรม เราให้ไปสู่เป้าหมายนั้นทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้นทั้งสองอย่างจึงเป็น เสมือนสิ่งเดียวกัน

5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ

 

ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไป เรื่อยๆ

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน

สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่

คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีนซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน

ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง

8. เขียนบันทึก สิ่งดีๆที่พบเจอ

  ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี

  ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

9. ฝึกหายใจลึก ๆ

สมองใช้ออกชิเจน 20-25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง

ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่สามารถหายใจเอาออกชิ เจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %

  พี่ปอขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://amath.igetweb.com/

 

พี่ปอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

12 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
wawaweaw Member 20 มิ.ย. 51 10:45 น. 4

จะลองเอาไปทำตามดูค่ะ

แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้รึป่าว

ตรงนั่งสมาธิ 12 นาทีเนี่ย แค่ตื่นขึ้นมาก็สายแล้ว

ก็ต้องรีบวิ่งหน้าตั้งไปทำงานแล้วค่ะ

555+

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
maiyai Member 26 มิ.ย. 51 19:02 น. 10
ถ้าจะหายใจลึกลึ๊ก~
ต้องไปบนภูเขารึไม่ก็ไปเที่ยวในป่าหรือที่ไหนก็ได้ที่มันไร้ซึ่งมลพิษ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด