EN17 ภารกิจแจกรักของกามเทพพันธุ์พิลึก

คุณเชื่อเรื่องกามเทพไหม? แล้วถ้ากามเทพนั้นเป็นหนุ่มมาดร็อคสุดอินดี้แบกอาวุธสงคราม คุณยังจะเชื่อไหม? จงลืมทุกกามเทพที่คุณเคยรู้จัก เพราะนี่คือกามเทพพันธุ์พิลึกที่จะมาแจกรักให้กับพวกคุณ!

ผู้แต่ง

เทียนหลง

0%

ตอนที่ 2/5 : กามเทพแบบนี้ก็มีด้วย?

บทที่ 2

กามเทพแบบนี้ก็มีด้วย?

            “รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มไหมคะ” บทพูดประจำกับรอยยิ้มพิมพ์ใจจากพนักงานร้านสะดวดซื้อชื่อดังถูกส่งมาให้กับชายร่างท้วมอย่างเป็นมิตร ในขณะที่อีกฝ่ายเพียงแค่ยิ้มรับและส่ายหน้าเท่านั้น

แล้วชายร่างท้วมในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนก็หันหลังเดินออกจากร้านไป และในจังหวะเดียวกับที่ประตูอัตโนมัติเปิดออก เขาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวผมสั้นที่สูงยาวเข่าดี ขาว สวย หมวย เซ็กซี่ตรงสเปคชายไทย จนทำให้ชายร่างท้วมเผลอมองตามตาค้าง

ในตอนนั้นเองก็มีแสงสะท้อนจุดเล็กๆ มาจากบนยอดตึกสูงฝั่งตรงข้ามกับที่ชายร่างท้วมยืนอยู่ แล้วฉับพลันนั้นก็มีเสียงวัตถุบางอย่างพุ่งแหวกอากาศดังขึ้นแล้วเจ้าสิ่งนั้นก็พุ่งทะลุกลางหน้าอกด้านซ้ายของชายร่างท้วมจนร่างของเขาล้มหงายหลังกระแทกพื้นพร้อมกับเลือดสีแดงสดที่สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณก่อนที่เจ้าตัวจะทันรู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

“เฮ้ย!” ชายร่างท้วมสะดุ้งสุดตัวรับตาลีตาเหลือบใช้มือลูบคล้ำร่างกายตัวเองไปทั่วก่อนจะถอดหายใจอย่างโล่งอก เมื่อพบว่าตัวเองยังอยู่ปกติดีไม่ได้มีรูบนหน้าอกข้างซ้ายจึงรีบหันไปมองสาวคนเมื่อครู่อย่างเคลิบเคลิ้มอีกครั้ง

“อ่า สวยโดนใจราวกับถูกปืนไรเฟิลยิงทะลุอกอย่างไรอย่างนั้นเลย” ชายร่างท้วมพูดขึ้นด้วยเสียงมีความสุขอย่างที่สุดพลางเอามือกุมหน้าอกด้านซ้ายของตนเอาไว้

<><><> 

            กริชญะมองลงไปเบื้องล่างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง แม้ว่าเขาจะอยู่สูงมากจนมองแทบไม่เห็นก็ตาม แต่เขากลับสามารถรับรู้ได้ราวกับตัวเองไปยืนอยู่ข้างชายร่างท้วมตอนที่โดนยิงทะลุอกนั้น แม้เขาจะไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้ยังไงก็ตาม

            แล้วทันใดนั้นเหมือนทุกอย่างกลายเป็นเพียงภาพลวงตา เมื่อพบว่าชายคนนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิมและไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนเลยราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น

            กริชญะสะบัดหน้าเรียกสติอีกครั้งก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มมาดร็อค ซึ่งตอนนี้ปืนไรเฟิลในมือได้สลายกลายเป็นละอองแสงหายไปต่อหน้าต่อตา ทำให้เขาอดที่จะตกตะลึงตาโตและสับสนไม่ได้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

            เมื่อครู่เขามั่นใจว่าเห็นชายตรงหน้าลั่นไกปืนไปแล้วแน่นอน จึงรีบก้มลงไปดูข้างล่างแม้ไม่แน่ใจว่าจะมองเห็นอะไรไหมก็ตาม แล้วเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อทันทีที่ก้มลงไปมองเบื้องล่าง เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดไปโผล่ข้างๆ ชายร่างท้วมในจังหวะเดียวกับที่กระสุนพุ่งทะลวงร่างของชายคนนั้นและพอรู้สึกตัวอีกทีเขาก็กลับมายืนอยู่บนดาดฟ้าพร้อมกับที่ชายคนนั้นยังเป็นปกติดีทุกอย่าง

และแม้ว่าตอนนี้กริชญะจะรู้สึกสับสนจนจับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ข้างชายร่างท้วมได้ แล้วทำไมคนที่เขามั่นใจโดนยิงไปแล้วแน่ๆ ถึงยังอยู่รอดปลอดภัยครบสามสิบสอง แต่ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจคือ หนุ่มมาดร็อคคนนี้ต้องสามารถให้คำตอบทั้งหมดกับเขาได้แน่

“นายเป็นใครกันแน่ แล้วเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?”

“หืม? ฉันก็เป็นกามเทพน่ะสิ”

“.........” กริชญะนิ่งเงียบทันทีที่ได้ยินคำตอบจากหนุ่มมาดร็อคที่ตอบกลับมาอย่างหน้าตาเฉยราวกับเป็นเรื่องปกติ ก่อนเจ้าตัวจะถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้ฟังผิดไป

“นายว่านายเป็นอะไรนะ ฉันฟังไม่ค่อยชัด”

“ฉันเป็นกามเทพ” และคนตรงหน้าก็ยังคงยืนยันคำเดิม

“เมื่อกี้ตกลงมาหัวคงไปกระแทกอะไรเข้าสินะ ปวดหัวตรงไหนหรือเปล่า?” กริชญะเดินเข้าไปถามอีกฝ่ายเป็นห่วงพลางทำท่าจะจับหัวอีกฝ่ายเพื่อดูว่าเป็นแผลอะไรไหม แต่ก็โดนอีกฝ่ายปัดมือทิ้งทันทีเหมือนกัน

“หยุดเลยนะ! อย่าบังอาจมาแตะต้องทรงผมอันสง่างามของฉันเชียว แล้วฉันก็ไม่ได้เป็นบ้าหรือหัวกระแทกอะไรทั้งนั้น แต่ฉันคือกามเทพตัวจริงเสียงจริงแท้ๆ ไม่ใช่ของก็อบแน่นอน” แต่กริชญะยังคงจ้องอีกฝ่ายด้วยแววตาสงสัยปนหมั่นไส้นิดๆ ก่อนจะคิดได้ว่าตัวเองอาจจะเข้าใจความหมายผิดไปคนละอย่างกับอีกฝ่ายก็ได้ จึงลองถามออกไปอีกครั้ง

“กามเทพ...เทพกาม...เทพหื่นกามสินะ แหม นายนี่ถึงจะเป็นคนหมกมุ่นในเรื่องอย่างว่าขนาดไหนก็ไม่ควรแสดงออกชัดเจนขนาดนี้นะ เก็บๆ ไว้หน่อยก็ดี เพราะฉันล่ะอายแทนจริงๆ”

“ไม่ใช่เว้ย! ก็บอกแล้วไงว่าฉันคือ กามเทพ เทพแห่งความรักและยังเป็นกามเทพที่ทรงเสน่ห์ที่สุดในสามโลก ผู้มีนามว่า เรนัสต่างหากล่ะไอ้แว่น!

แถมยังหลงตัวเองแบบสุดๆ อีกด้วยกริชญะแอบต่อประโยคให้ในใจ ก่อนจะคิดได้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เขาต้องสนใจจริงๆ มันคืออีกเรื่องต่างหาก

“เมื่อกี้นายเรียกใครว่าไอ้แว่น!” กริชญะถามกลับอย่างเอาเรื่อง

“อ้อ ไม่ชอบชื่อนี้ งั้นก็ ไอ้สี่ตาเป็นไง?” แต่เรนัสก็หาได้สะทกสะท้านไม่แถมตอกกลับไปด้วยรอยยิ้มเยาะอีกต่างหาก

“โอ๊ยยย ไอ้เทพหื่นกาม!

“ก็บอกแล้วไงว่ากามเทพๆ กามเทพน่ะรู้จักไหม”

“กามเทพน่ะรู้จัก แต่ไม่ใช่ไอ้เกรียนหัวตั้งแบบนายแน่ๆ”

“เว้ย! แล้วรูขุมขนตรงไหนบนตัวของกระผมที่มันบอกว่าไม่ใช่กามเทพกันลองบอกมาหน่อยสิไอ้สี่ตา!” เรนัสโวยกลับบ้าง แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจที่โดนว่าเป็นเกรียนซะอย่างนั้น

“ก็ทุกรูขุมขนนั้นล่ะเฟ้ย!” กริชญะสวนกลับจนเรนัสได้แต่กัดฟันกรอดเตรียมจะสรรหาคำด่ากลับไปบ้าง แต่ก็โดนกริชญะชิงตัดหน้าเสียก่อน

“แต่ถ้านายยืนยันขนาดนั้น ไหนลองบอกมาสิว่ากามเทพที่เป็นความเชื่อทางฝั่งยุโรปมาทำบ้าอะไรในประเทศไทยอย่างนี้มิทราบ?” กริชญะยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะเมื่อเจ้าตัวสามารถไล่ต้อนอีกฝ่ายสำเร็จ

“หึ” แต่เรนัสกับส่งเสียงในลำคอพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ทำให้สีหน้ามั่นใจของกริชญะต้องเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว

“งั้นจะบอกให้เอาบุญก็แล้วกัน กามเทพอย่างพวกฉันก็มีกระจายกันอยู่ทั่วโลกนั้นล่ะ ไม่ใช่จำกัดว่าต้องอยู่แค่ในแถบยุโรปสักหน่อย แล้วก็ไม่ใช่ว่าในไทยไม่มีเทพแห่งความรักหรอกนะแต่เพราะส่วนใหญ่พวกท่านจะมีศาลเป็นของตัวเองทำให้แค่จำนวนคนที่มาบนบานศาลกล่าวพวกท่านก็มีงานล้นมือแล้ว ถ้ายังจะให้พวกท่านมาคอยดูแลคู่รักอื่นๆ อีกก็คงไม่ไหว พวกฉันเลยถูกส่งให้มาช่วยงานพวกท่านน่ะสิ” เรนัสอธิบายยาวเหยียดทั้งยังมีท่าทีที่นอบน้อมให้ความเคารพแก่เหล่าเทพองค์อื่นในตอนที่เอ่ยถึงผิดกับรูปลักษณ์ของเจ้าตัวอย่างมาก ทำให้กริชญะเกือบจะหลงเชื่อไปแล้วเหมือนกัน ก่อนเขาจะสะบัดหน้าไล่ความคิดนั้นออกไปแล้วถามต่อ

“เมื่อกี้นายบอกว่า พวกฉันแสดงว่ากามเทพไม่ได้มีตนเดียว?”

“ใช่สิ นี่นายใช้สมองส่วนไหนคิดกันว่ากามเทพต้องมีตนเดียว นายบ้าหรือโง่เนี่ยเรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้” กริชญะถึงกับคิ้วกระตุกเมื่อจู่ๆ ก็เหมือนโดนเอาไม้หน้าสามมาตีแสกหน้าเข้าให้ พลางคิดอย่างโมโหว่าถ้าเขารู้เรื่องพวกนี้สิถึงแปลก

“งั้นที่นายตกลงมาเมื่อกี้ล่ะ อย่าบอกนะว่ากำลังบินๆ อยู่ก็ร่วงลงมาเฉยเลยน่ะ” กริชญะถามต่อเพื่อหวังจะกู้หน้าคืน

“โอ้ นายเริ่มตามเรื่องทันแล้วนี่ แสนรู้มาก”

 “ฉันไม่ใช่หมานะ!” กริชญะสวนกลับทันทีที่รู้ตัวว่าพลาดท่าปล่อยให้โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกครั้ง

“อย่างที่นายบอกนั้นล่ะ ฉันกำลังบินอยู่ดีๆ แล้วก็ร่วงแบบทิ้งดิ่งลงมาเหมือนนกปีกหักเฉยเลย ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นรู้สึกจะอยู่สูงไปหลายพันเมตรได้ล่ะมั่ง” แต่อีกฝ่ายก็ยังพูดเรื่องเหลือเชื่อออกมาได้หน้าตาเฉย ก่อนจะย้อนถามคำถามที่ทำให้กริชญะถึงกับชะงัก “ว่าไงทีนี้จะเชื่อได้หรือยังว่าฉันคือกามเทพจริงๆ”

กริชญะนิ่งเงียบพลางใช้ความคิดเพราะเขาเองก็เริ่มเชื่อขึ้นมาแล้วเหมือนกันว่าอีกฝ่ายคือกามเทพจริงๆ  เนื่องจากหลายๆ อย่างที่เริ่มมาปะติปะต่อกันได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เรนัสตกลงจากท้องฟ้าแล้วยังไม่เป็นอะไรนั้นก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ระดับหนึ่งแล้วเพราะอย่างน้อยๆ คงไม่มีคนธรรมดาที่ไหนตกลงมาแรงขนาดนั้นแล้วไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนแบบนี้หรอก แถมมาถึงตอนนี้กริชญะเองก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ตอนที่เรนัสตกลงมานั้นเขามองเห็นเงาของปีกนกขนาดใหญ่บนหลังของอีกฝ่ายด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าด้วยทิฐิหรือลูกดื้อของตัวกริชญะเองก็ตาม ทำให้เขายังไม่ยอมเชื่อง่ายๆ พยายามดื้อเพ่งต่อไป

“ยัง! ฉันยังไม่เชื่อ แต่ถ้านายยืนกรานขนาดนั้นก็พิสูจน์สิว่านายเป็นกามเทพจริงๆ”

“เฮ้อ ฉันล่ะน่าเบื่อจริงๆ พวกทิฐิสูงเนี่ย” เรนัสนิ่งเงียบไปสักพักราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างก่อนจะตัดสินใจได้แล้วพูดต่อ

“เอาเถอะเห็นมนุษย์ตาดำๆ จะอธิบายให้ฟังล่ะกัน สิ่งที่นายเห็นเมื่อกี้มันก็คือ การแผลงศรแห่งรัก

“แผลงศร? อย่ามาอำให้ขำหน่อยเลย เมื่อกี้นายเพิ่งจะยิงคนตายไปต่างหาก”

“แล้วคนที่ว่าตายไหม?”

“อะ เอ่อ ก็ยังไม่ตาย” กริชญะกล้อมแกล้มตอบกลับไป ก่อนจะพยายามโวยวายเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องหน้าแตกของตัวเอง

“อย่ามาโม้ดีกว่า! ขนาดเด็กอนุบาลมันยังรู้เลยศรรักปักอกของกามเทพมันต้องเป็นรูปหัวใจ ไม่ใช่ปืนไรเฟิลแบบนี้!

“แล้วใครบอกนายว่าศรแห่งรักต้องเป็นรูปหัวใจเสมอไป?” เรนัสถามสวนกลับมาพลางหรี่ตามองฝ่ายตรงข้าม

“ในเรื่องเล่าและตำนานต่างๆ ก็บอกไว้เหมือนกันหมดนั้นล่ะว่าศรแห่งรักเป็นรูปหัวใจ”

“โอ๊ย ตำนานพวกนั้นมันตั้งแต่สมัยไหนแล้วนี่มันยุคไหน เค้าเลิกใช้กันไปตั้งนานแล้วไอ้คันศรเก่าๆ แบบนั้น”

“คะ คันศรเก่าๆ”

“ถูกต้อง ขอถามหน่อยเถอะนายคิดว่าวันๆ หนึ่งพวกฉันต้องแผลงศรกันเท่าไหร่?” กริชญะนิ่งคิดไปแต่เหมือนเรนัสจะไม่ได้ต้องการคำตอบจึงพูดต่อทันที “มากกว่าร้อยครั้งนะขอบอก ขืนมัวแต่ใช้ไอ้คันศรนั้นอยู่ก็ไม่ทันกินกันพอดี”

“งั้นนายจะบอกว่าปืนนั้นก็คือ...?”

คันศรแห่งรัก

“ขอชัดๆ อีกรอบได้ไหม”

“คันศรแห่งรัก”

“ตะ แต่มันจะเป็นคันศรแห่งรักได้ยังไงกัน?” กริชญะถามต่อไปงุนงงหนักยิ่งกว่าเดิม จนตอนนี้กลายเป็นเรนัสที่ต้องถอนหายใจแทน

“นี่คือเครื่องวัดอนุภาครักแรก” เรนัสพูดพลางยกสมาร์ทโฟนในมือให้กริชญะดูจนเขาขมวดคิ้วสงสัย แต่เรนัสก็ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรแล้วชิงอธิบายต่อเสียเอง

“มันคือเครื่องที่ใช้วัดปริมาณอนุภาครักแรกที่ถูกปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัวจากคนที่กำลังมีรักแรกพบ ซึ่งอนุภาคพวกนี้จะมีสีชมพูเป็นละอองเหมือนออร่าเปล่งประกายระยิบระยับและมีสรรพคุณทำให้คนที่กำลังมีรักแรกพบนั้นรู้สึกว่าโลกนี้เป็นสีชมพู เต็มไปด้วยความรักที่แสนจะฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งกระดิ่งแมวไงล่ะ” แถมไม่พูดเปล่าเจ้าตัวยังทำท่าประกอบชูแขนฟ้าแล้วหมุนสามรอบด้วยหน้าตาที่อิ่มเอิบไปด้วยความสุขที่ล้นปรี่ จนกริชญะรู้สึกเหมือนโดนออร่าสีชมพูที่เปล่งออกมาจนแสบตาไปหมด

“แล้วอย่างที่บอกเจ้าเครื่องนี้จะวัดปริมาณของอนุภาคแล้วเอามาประมวลผลว่าคนๆ นั้นมีรักแรกพบรุนแรงขนาดไหนก่อนจะเอามาแปลงค่าเป็นอาวุธต่างๆ”

“อาวุธ?”

“ถูกต้อง แล้วก็ไม่ใช่แค่ปืนไรเฟิลหรอกนะ ยิ่งถ้าใครที่มีรักแรกพบรุนแรงมากๆ อาวุธที่ออกมาก็จะยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น” ฟังมาถึงตอนนี้กริชญะก็นึกถึงภาพตอนที่ปืนปรากฏขึ้นมาจากละอองเสียงในมือถือหรือที่ถูกคือเครื่องวัดอนุภาคอะไรนั้นของเรนัสขึ้นมาได้

“แล้วฉันก็ใช้อาวุธนั้นแทนคันศรจัดการยิงกระสุน...เอ่อ ฉันหมายถึงศรแห่งรักในรูปแบบกระสุนเข้าใส่กลางใจของคนๆ นั้น จนเกิดเป็น มโนภาพรักแรก

“มันคือ?”

“มันก็คือภาพจินตนาการเปรียบเปรยว่ารักแรกพบนั้นรุนแรงราวกับโดนสิ่งนั้นปักอกเหมือนคนเมื่อกี้ไงล่ะ...ถึงมันจะดูสมจริงมากไปหน่อยก็เถอะ” เรนัสลดเสียงลงในประโยคสุดท้ายจนกริชญะมองอย่างสงสัย

“เมื่อกี้นายว่าไงนะ?”

“มะ ไม่มีอะไร ฉันแค่จะบอกว่าถ้าเดาไม่ผิดเมื่อกี้นายคงรู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ข้างชายคนนั้นเลยสินะ” เมื่อเรนัสเห็นกริชญะพยักหน้าก็พูดต่อพลางแอบโล่งอกในใจที่พูดกลบเกลื่อนเอาตัวรอดมาได้

“นั้นเพราะนายได้รับอิทธิพลจากมโนภาพรักแรกด้วยทำให้รับรู้จินตนาการนั้นได้อย่างชัดเจน” กริชญะส่งเสียงในลำคอพลางพยักหน้าเข้าใจ เรนัสจึงพูดต่ออย่างพอใจทันที

“และนี่ก็คือการแผลงศรแห่งศตวรรษที่ 21 ยังไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” ก่อนที่เรนัสจะแหกปากหัวเราะอย่างผู้ชนะเพราะในที่สุดอีกฝ่ายก็ยอมเชื่อสักทีว่าตนเองเป็นกามเทพ

“ทีนี้นายคงยอมเชื่อแล้วสินะว่าฉันคือกามเทพจริงๆ” คราวนี้เป็นทีของเรนัสบ้างที่ได้ยิ้มเยาะอีกฝ่ายกลับไป

ด้านกริชญะที่เจอย้อนถามเข้าถึงกับชะงัก เพราะอีกฝ่ายก็ทั้งอธิบายและแสดงสิ่งต่างๆ ออกมาให้เห็นขนาดนี้แล้ว ไอ้ครั้นจะยืนกรานไม่เชื่อต่อไปก็คงไม่ได้ถึงแม้เจ้าตัวจะเจ็บใจแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็คงมีต้องยอมรับเท่านั้นว่าเจ้าคนที่โคตรเกรียนแถมยังอินดี้สุดติ่งนี้เป็นกามเทพจริงๆ

“อืม เชื่อก็ได้”

“ดีมาก งั้นตาฉันถามนายมั่งล่ะ”

“ถามฉัน?”

“ใช่ นายเป็นใครแล้วทำไมถึงมองเห็นฉัน?”

“งั้นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ฉันชื่อ กริชญะ ก็แค่ไอ้หนุ่มอาภัพรักที่เพิ่งโดนสาวบอกเลิกมาเท่านั้นล่ะ” เมื่อพูดจบเขาก็นึกได้ถึงสาเหตุที่ตัวเองขึ้นมาบนดาดฟ้านี้คืออะไร

และในระหว่างที่กำลังคิดว่าจะถือโอกาสโวยกามเทพเรื่องดวงความรักของตัวเองซะเลยดีไหม เรนัสก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน

“กริชญะงั้นเหรอ เรียกยากจริงแฮะมีชื่อที่ง่ายกว่านี้ไหมเนี่ย?”

“งั้นเรียก ยะก็ได้” กริชญะมองเรนัสอย่างเอือมระอาพลางคิดว่าชื่อตัวเองมันเรียกยากตรงไหนกัน

“ต้องอย่างนี้สิค่อยเรียกง่ายหน่อย แล้วว่าแต่นายขึ้นมาทำอะไรบนนี้ล่ะ” แต่ยังไม่ทันที่กริชญะจะได้เอ่ยปากตอบเรนัสก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ถ้าให้เดานายคงขึ้นมาเพื่อฆ่าตัวตายสินะ” เรนัสดีดนิ้วอย่างมั่นใจว่าตัวเองเดาถูกแน่ๆ ทำเอายะต้องรีบสวนกลับเสียงดังทันที

“ไม่ใช่เฟ้ย! คนอย่างไอ้ยะไม่มีทางคิดสั้นด้วยเรื่องแค่นี้หรอก แถมที่ฉันขึ้นมาบนนี้ก็แค่เพื่อจะได้ด่า...อุ๊บ” จู่ๆ กริชญะก็ยกมือขึ้นมาตะครุบปากตัวเองอย่างแรง จนเรนัสหรี่ตามองอย่างจับผิด

“นายว่าไง?”

“อ้อ ฉันแค่จะบอกว่าฉันขึ้นมารับลมเพื่อให้ลืมเรื่องเก่าๆ เท่านั้นแหละ” กริชญะรีบตอบกลบเกลื่อนพลางหัวเราะแห้งๆ เพราะจะให้อีกฝ่ายรู้ได้ยังไงล่ะว่าที่เขาขึ้นมาบนนี้ก็เพื่อจะได้ด่าพวกเทพบนสวรรค์ได้ถนัดปาก

แต่ท่าทางเรนัสเองก็ไม่เชื่อคำพูดของกริชญะสักเท่าไหร่เหมือนกัน ก่อนเจ้าตัวจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างรู้ทัน

ไอ้พวกที่เพิ่งโดนสาวหักอกมาเนี่ย ถ้ามันไม่ขึ้นมาฆ่าตัวตายร้อยทั้งร้อยไม่มีทางที่จะขึ้นมารับลมเฉยๆ หรอก ดูทรงแล้วคงจะขึ้นมาตะโกนด่าเทพเจ้าอย่างพวกฉันด้วยความคิดที่ว่า ยิ่งสูงยิ่งใกล้สวรรค์แล้วพวกเทพจะยิ่งได้ยินชัดสินะ

“เฮ้อ ไม่เข้าใจตรรกะของไอ้พวกคนอกหักเลยจริงๆ” เรนัสบ่นอย่างเหนื่อยใจ

“หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้หมอนี่มันเห็นเรากันนะ พระเจ้านะพระเจ้าท่านคิดจะเล่นสนุกอะไรอีกล่ะ ปล่อยให้มันฆ่าตัวตายไปซะก็จบเรื่องแล้วแท้ๆ” เรนัสพูดเรื่องโหดร้ายออกมาหน้าตาเฉยพลางเงยหน้ามองท้องฟ้าราวต้องการให้คนที่พูดถึงได้ยินอย่างไรอย่างนั้น

“แล้วทำไมถึงต้องเป็นเราด้วยนะกามเทพตนอื่นก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องเป็นเราล่ะเนี่ยหรือว่าจะเป็นโชคชะตางั้นเหรอ” เรนัสนิ่งเงียบไปสักครู่ก่อนจะสะบัดหน้าแรงๆ แล้วรีบพูดสิ่งที่คิดได้ออกมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่น่าจะใช่เรื่องโชคชะตาซะแล้วแฮะ ถ้าดูจากนิสัยของพระเจ้าแล้วน่าจะเป็นเพราะเราดวงซวยบินผ่านมาแถวนี้พอดีท่านก็เลยจับเราหล่นตุบลงมาเจอหมอนี่มากกว่า” เมื่อสรุปเรื่องราวได้เขาก็ทำได้เพียงกุมขมับอย่างหมดแรงเท่านั้น

แล้วตอนนั้นเองก็มีเสียงเตือนดังขึ้นอีกครั้ง เรนัสรีบคว้าเครื่องวัดอนุภาครักแรกขึ้นมาดูทันที ก่อนจะร้องออกมาอย่างตื่นตกใจ

“เวรแล้ว แจ็กพอตแตก!

กริชญะหันมองเรนัสที่กำลังร้องโวยวายพลางหันมามองเขาสลับกับอุปกรณ์ในมืออย่างงุนงง

“เอาไงดีล่ะทีนี้ เรื่องนี้ก็เร่งด่วนเรื่องไอ้หมอนี่ก็สำคัญ แล้วทำไงดีล่ะเนี่ย” เรนัสมองสลับไปมาระหว่างกริชญะกับเครื่องวัดในมือตัวเองอย่างร้อนรนอยู่นานจนสุดท้ายก็ทนไม่ไหวร้องตะโกนออกมาเสียงดัง

“โธ่เว้ย! เอางี้ล่ะกันเรื่องนายไว้คุยกันทีหลังตอนนี้มากับฉันก่อน” แล้วเจ้าตัวก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ เดินตรงเข้ามาจับคอเสื้อแล้วลากกริชญะให้เดินตามตนเองมาที่ขอบดาดฟ้า

“กะ เกิดอะไรขึ้นแล้วนายจะลากฉันไปไหน?”

“งานนัดบอด” เรนัสตอบสั้นๆ ก่อนจะก้าวขึ้นไปยืนบนขอบดาดฟ้า

“เอ๋? แล้วนี่นายคิดจะทำอะไร?” กริชญะถามขึ้นเมื่อพบว่าตอนนี้ตัวเองมาอยู่ตรงจุดไหนของดาดฟ้า แถมเจ้ากามเทพตัวดีก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจที่โคตรเป็นมิตรสุดๆ มา ทำให้กริชญะสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาทันที

“หรือว่า...?” เร็วเท่าความคิดเมื่อเรนัสถีบตัวกระโดดตัวลอยพร้อมกับลากคอกริชญะออกไปในอากาศอันว่างเปล่าท่ามกลางเสียงกรีดร้องโหยหวนของชายหนุ่ม

“ล้อกันเล่นใช่ไหมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!

<><><> 

 



ภารกิจแจกรักของกามเทพพันธุ์พิลึก

ผู้แต่ง : เทียนหลง


Comment จากกรรมการ

#1 Enter Books Editor Team

บทนี้อธิบายเกี่ยวกับระบบของนิยายเรื่องนี้ โผล่มาในจังหวะที่เหมาะสมแล้วคับ
คอมเมนท์ครั้งสุดท้ายนี้ อยากจะฝากในจุดที่ละเอียดอ่อนที่สุด
นั่นคือสำนวนการเขียนคับ
(ปล. พยายามโพสต์คอมเมนท์เกือบชั่วโมงแล้ว แต่ไม่ผ่าน คงเพราะยาวไป T T
พยายามตัดแล้วตัดอีกก็ยังไม่ผ่านครับ เพราะงั้นคงต้องตัดทิ้งไปเยอะ
อย่างไร ถ้ามีโอกาสจะส่งเวอร์ชั่นเต็มให้ทางหลังไมค์นะครับ)

ข้อดีของสำนวนการเขียนเรื่องนี้คืออารมณ์ขันนะคับ
แต่จุดบกพร่องคืออ่านแล้วให้ความรู้สึกเยิ่นเย้อ

แต่จะว่าไป ถ้าบก.แก้สำนวนนักเขียนคนไหนด้วย 'ความรู้สึก'
สุดท้ายงานทุกงานก็จะกลายเป็นสำนวนบก.คนนั้นไปหมดจริงมั้ยครับ

ดังนั้นจะยกหลักการมาให้ดูประกอบนะครับ ว่าเรื่องนี้สำนวนบกพร่องตรงไหนบ้าง:

[ใช้คำซ้ำ/ ใช้ประโยคซ้อนประโยคโดยไม่จำเป็น]
- กริชญะที่ฟังเหตุผลที่ดูไร้สาระแต่กลับฟังขึ้นชอบกลจนได้หัวเราะแห้งๆกลับไป
- ลองตัดคำซ้ำ(ที่)ออกไปนะครับ และพอลองแตกประโยคให้เป็นประโยคเดี่ยว จะเห็นว่าอ่านง่ายขึ้น
- แก้เป็น: เหตุผลนี้ดูไร้สาระ แต่กลับฟังขึ้นชอบกล กริชญะได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไป

[ใช้คำซ้ำ(คำว่า 'ทำไม')]
- ถ้านายหวงรถขนาดนี้แล้วทำไมตอนเจอกันทำไมนายถึงตกมาจากฟ้า

[จัดย่อหน้าไม่ถูกต้อง ทำให้สับสนว่าใครเป็นผู้พูด]
- "ก็ตอนนั้นฉันเพิ่งบินข้ามอ่าวไทยมา นายจะให้ฉันขี่ลูกรักฝ่าน้ำทะเลมาหรือไง นายโง่หรือบ้ากันเนี่ย?" กริชญะได้แต่หลับตาอย่างอดกลั้นที่โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเรนัสทำให้เถียงอะไรไม่ได้ --->ตรงนี้คำพูดเรนัส แต่พอพูดจบดันเอากริชญะตามหลัง ทำให้เข้าใจว่ากริชญะเป็นคนพูด

"แต่อย่างนี้ก็สบายเลยล่ะสิ อยากได้อะไรก็เสกออกมาได้ถึงจะไม่ใช่ผู้วิเศษแต่แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว" แต่เรนัสที่ได้ยินกลับส่ายหน้าช้าๆ... ---> เช่นเดียวกัน ตรงนี้กริชญะพูด แต่กลับเอาเรนัสตามหลัง ทำให้เข้าใจว่าเรนัสเป็นคนพูด

- แก้โดยการจัดย่อหน้าใหม่:
"ก็ตอนนั้นฉันเพิ่งบินข้ามอ่าวไทยมา นายจะให้ฉันขี่ลูกรักฝ่าน้ำทะเลมาหรือไง นายโง่หรือบ้านกันเนี่ย?"

กริชญะได้แต่หลับตาอย่างอดกลั้นที่โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเรนัสทำให้เถียงอะไรไม่ได้ "แต่อย่างนี้ก็สบายเลยล่ะสิ อยากได้อะไรก็เสกออกมาได้ถึงจะไม่ใช่ผู้วิเศษแต่แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว" กริชญะพูดต่อ

แต่เรนัสที่ได้ยินกลับส่ายหน้าช้าๆ...

[ใช้คำผิดความหมาย]
- คลางในลำคอ ---> แบบนี้คือ 'คลางแคลงใจ'
- แก้เป็น: ครางในลำคอ

ปล.ต้องขออภัยนะครับ หากคอมเมนท์ละเอียดไป แต่หวังจากใจเลยว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักเขียนเองไม่มากก็น้อย > <

ดาวิษ ชาญชัยวานิช

Comment จากกรรมการ

#2 กองบรรณาธิการสนพ. Enter Books

สวัสดีคร้าบ~

ยิ่งกว่าสงครามนางฟ้าก็สงครามกามเทพนี่แหละ เป็นกามเทพที่ฮาร์ดคอร์มาก ส่วนศรแห่งรักก็ช่าง...เอาเป็นว่าเรื่องนี้ถูกใจเฮียมว๊ากกกกก! ยิ่งบทล่าสุดนี่ยิ่งมันส์ปนฮา ทั้งปืนทั้งดาบซามูไร สารพัดอาวุธ งัดมาทั้งคลังแสง สนุกถึงใจมากครับ ไอเดียดีละเกิน ขอให้เข้ารอบนะครับ เฮียรออ่านอยู่!

นี่เฮียเอง

ความคิดเห็นล่าสุด

Page 1 of 2 1 2
  • ความคิดเห็นที่ 24

    Amélie
    • Name : Amélie < My.iD > [IP] 58.8.208.133
    • 31 มีนาคม 2559 / 12:28
    มาอ่านแล้วนะเรนัส คนที่บอกมาสคอตไม่ให้ปลดระเบิดนิวเคลียร์ 55
    อยากรู้จังเลยว่าหนุ่มอ้วนจะสมหวังกับสาวสวยยังไง
    แต่ชอบฉากที่กริชญะหันมาคุยกับคนอ่านนะคะ 
    คำผิดยังมีอยู่บ้างเน้อ แต่เราอาจจะเห็นไม่ชัด
    รู้สึกได้เลยว่าพี่เทียนชอบพวกอาวุธกับพวกมอเตอร์ไซค์ 555 

    ปล. มาสคอตฝากไปบอกเรนัสด้วยนะ ระเบิดนิวเคลียร์ ร้อนมาก
  • ความคิดเห็นที่ 23

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 202.28.118.120
    • 31 มีนาคม 2559 / 08:18
    ขอบคุณพี่ดาวิษมากๆๆ เลยครับ

    ละเอียดๆ อย่างนี้ล่ะครับที่ชอบ

    กำลังกังวลกับสำนวนตัวเองอยู่พอดีว่ามันเป็นยังไงบ้าง

    ถ้าสะดวกคงต้องขอรบกวนส่งหลังไมด์แบบจัดเต็มมาให้เลยล่ะครับงานนี้

    ขอบคุณครับ
  • ความคิดเห็นที่ 22

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.241.235
    • 31 มีนาคม 2559 / 05:09
    บทนี้อธิบายเกี่ยวกับระบบของนิยายเรื่องนี้ โผล่มาในจังหวะที่เหมาะสมแล้วคับ
    คอมเมนท์ครั้งสุดท้ายนี้ อยากจะฝากในจุดที่ละเอียดอ่อนที่สุด
    นั่นคือสำนวนการเขียนคับ
    (ปล. พยายามโพสต์คอมเมนท์เกือบชั่วโมงแล้ว แต่ไม่ผ่าน คงเพราะยาวไป T T
    พยายามตัดแล้วตัดอีกก็ยังไม่ผ่านครับ เพราะงั้นคงต้องตัดทิ้งไปเยอะ
    อย่างไร ถ้ามีโอกาสจะส่งเวอร์ชั่นเต็มให้ทางหลังไมค์นะครับ)

    ข้อดีของสำนวนการเขียนเรื่องนี้คืออารมณ์ขันนะคับ
    แต่จุดบกพร่องคืออ่านแล้วให้ความรู้สึกเยิ่นเย้อ

    แต่จะว่าไป ถ้าบก.แก้สำนวนนักเขียนคนไหนด้วย 'ความรู้สึก'
    สุดท้ายงานทุกงานก็จะกลายเป็นสำนวนบก.คนนั้นไปหมดจริงมั้ยครับ

    ดังนั้นจะยกหลักการมาให้ดูประกอบนะครับ ว่าเรื่องนี้สำนวนบกพร่องตรงไหนบ้าง:

    [ใช้คำซ้ำ/ ใช้ประโยคซ้อนประโยคโดยไม่จำเป็น]
    - กริชญะที่ฟังเหตุผลที่ดูไร้สาระแต่กลับฟังขึ้นชอบกลจนได้หัวเราะแห้งๆกลับไป
    - ลองตัดคำซ้ำ(ที่)ออกไปนะครับ และพอลองแตกประโยคให้เป็นประโยคเดี่ยว จะเห็นว่าอ่านง่ายขึ้น
    - แก้เป็น: เหตุผลนี้ดูไร้สาระ แต่กลับฟังขึ้นชอบกล กริชญะได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไป

    [ใช้คำซ้ำ(คำว่า 'ทำไม')]
    - ถ้านายหวงรถขนาดนี้แล้วทำไมตอนเจอกันทำไมนายถึงตกมาจากฟ้า

    [จัดย่อหน้าไม่ถูกต้อง ทำให้สับสนว่าใครเป็นผู้พูด]
    - "ก็ตอนนั้นฉันเพิ่งบินข้ามอ่าวไทยมา นายจะให้ฉันขี่ลูกรักฝ่าน้ำทะเลมาหรือไง นายโง่หรือบ้ากันเนี่ย?" กริชญะได้แต่หลับตาอย่างอดกลั้นที่โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเรนัสทำให้เถียงอะไรไม่ได้ --->ตรงนี้คำพูดเรนัส แต่พอพูดจบดันเอากริชญะตามหลัง ทำให้เข้าใจว่ากริชญะเป็นคนพูด

    "แต่อย่างนี้ก็สบายเลยล่ะสิ อยากได้อะไรก็เสกออกมาได้ถึงจะไม่ใช่ผู้วิเศษแต่แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว" แต่เรนัสที่ได้ยินกลับส่ายหน้าช้าๆ... ---> เช่นเดียวกัน ตรงนี้กริชญะพูด แต่กลับเอาเรนัสตามหลัง ทำให้เข้าใจว่าเรนัสเป็นคนพูด

    - แก้โดยการจัดย่อหน้าใหม่:
    "ก็ตอนนั้นฉันเพิ่งบินข้ามอ่าวไทยมา นายจะให้ฉันขี่ลูกรักฝ่าน้ำทะเลมาหรือไง นายโง่หรือบ้านกันเนี่ย?"

    กริชญะได้แต่หลับตาอย่างอดกลั้นที่โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเรนัสทำให้เถียงอะไรไม่ได้ "แต่อย่างนี้ก็สบายเลยล่ะสิ อยากได้อะไรก็เสกออกมาได้ถึงจะไม่ใช่ผู้วิเศษแต่แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว" กริชญะพูดต่อ

    แต่เรนัสที่ได้ยินกลับส่ายหน้าช้าๆ...

    [ใช้คำผิดความหมาย]
    - คลางในลำคอ ---> แบบนี้คือ 'คลางแคลงใจ'
    - แก้เป็น: ครางในลำคอ

    ปล.ต้องขออภัยนะครับ หากคอมเมนท์ละเอียดไป แต่หวังจากใจเลยว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักเขียนเองไม่มากก็น้อย > <

    ดาวิษ ชาญชัยวานิช
  • ความคิดเห็นที่ 21

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 115.87.130.38
    • 30 มีนาคม 2559 / 22:26
    ขอบคุณลูกฟูกกับพี่ปัฐมากๆ ครับ

    เรื่องรายละเอียดปืนจะนำไปปรับปรุงครับ

    และขอบคูณสำหรับคำชมครับ เอาซะเขินเลย อิอิ

    ขอบคุณลูกฟูก ที่ตรวจคำผิดกับซีรี่คำซ้ำให้มากมาย 

    ซึ่งมันก็เยอะจริงๆ ปล่อยไปก่อนเถอะ ตอนหน้านู้นล่ะ ชื่อมันถึงโผล่มาอ่ะ ชายร่างท้วมน่ะ

    ส่วนเรื่องคำผิด...อ่า ปล่อยไปก่อน ไม่มีข้อแก้ตัว

    แต่ไอ้ "สี่แหล่ม" พิมพ์ไปได้่ยังไงเนี่ย จำได้ว่าอ่านตรงนี้ 2 รอบเห็นเป็น เหลี่ยม น่า

    ทำไมออกมาเป้น สี่แหล่มผืนผ้า...เล่นเอาเงิบเลย 555+

    ขอบคุณทั้งสองคนมากครับบบบ 
  • ความคิดเห็นที่ 20

    Briss
    • Name : Briss < My.iD > [IP] 182.148.26.38
    • 30 มีนาคม 2559 / 22:01
    ภารกิจยิ่งใหญ่มาพร้อมคำผิดที่ยิ่งใหญ่..

    ยอดแลปงศร

    ทรงสี่แหล่มผืนผ้า


    มีความปลื้มปริ่มกับสี่แหล่มผืนผ้ามากอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ 555
    ที่จริงมียิบย่อยที่พิมพ์ตกพิมพ์ผิดเบาๆอยู่ แต่ขี้เกียจแจงแล้วอะ

    ฉากที่ยะหันมาเล่นกับคนอ่านนี่ชอบมาก :) อิอิ
    จริงๆหงุดหงิดตรงชายร่างท้วมร่างยักษ์บ๊อยบ่อย แต่เออ จะแทน เขา ก็มีแต่เด็กหนุ่มเนอะ
    มีชื่อนี่ก็คือดีงามแล้ว
    จบได้แบบค้างคาสุด จะไปตามต่อให้อัพเรื่องนี้จนจบให้ได้!!!

  • ความคิดเห็นที่ 19

    dinn
    • Name : dinn < My.iD > [IP] 171.96.184.106
    • 30 มีนาคม 2559 / 16:39
    พี่ปัฐเองนะครับ ^ ^

    คุณสมบัติที่ดีข้อหนึ่งของการเป็นนักเขียนสามารถแสดงได้ด้วยประโยคที่ว่า "ห้ามเดินผ่านนักเขียนกำลังเขียนนิยาย" หรือพูดก็คือการนำเอาเรื่องต่างๆ ที่พบที่เจอมาเป็นวัตถุดิบในการเขียนนิยายได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติในข้อนี้ไรท์เตอร์ผ่านโลด! เจ๋งมากๆ ที่สามรถนำเอาทุกเรื่อง ที่แม้แต่ประโยคเล็กๆ น้อยๆ บางประโยค ไปจนถึงลักษณะพิเศษต่างๆ  ที่เป็นที่เข้าใจและจดจำได้ง่ายจากเรื่องต่างๆ มาแปลงเป็นนิยายของตัวเองได้ อันนี้เป็นคุณลักษณะที่ดีของนักเขียนที่ควรมีเลยล่ะครับสุดยอดมากๆ (เราอยากแซวเรื่องคำฝากก่อนจากของวายร้ายเกรดบีมักๆ 555)
    เรื่องอาวุธไม่ควรบอกแค่รุ่นสียี่ห้อควรจะบอกลักษณะของมันด้วยอย่างเดียวกับที่ไรท์เตอร์เขียนให้กับรถฮาร์เล่นะครับ ถ้ามันเยอะบอกแค่บางส่วนก็ได้ แต่บอกแค่รุ่นกับยี่ห้อแบบนี้บางคนเขาก็ไม่รู้จักนะครับ ^ ^!! ส่วนที่เหลือนอกจากคำผิดเยอะกว่าเรื่องอื่นๆ เขานา แล้วก็ต้องบอกว่าสนุกมากเลยครับ อ่านรวดเดียวจบอย่างไม่รู้ตัวเลย //โบกป้ายเชียร์ให้เข้ารอบต่อไปจ้า ^ ^v 
  • ความคิดเห็นที่ 18

    LookFook
    • Name : LookFook < My.iD > [IP] 182.149.195.3
    • 24 มีนาคม 2559 / 12:48
    สารภาพซะดีๆว่ารีไรท์ดีแล้ว...

    อ้าปากเหวอ >> เหวอไม่มีอะนะ
    หวอ [หฺวอ] ว. เปิดเป็นช่องเป็นโพรง เช่น นั่งอ้าปากหวอ; ให้สัญญาณเสียงดัง
    เช่นนั้น.

    "ฉันช่วยหมอนั้นต่างหากล่ะ"
    "แถมท่าทางจะไม่เหม็นขี้หน้ากันสุดๆซะด้วยแฮะ" >>ตกลงจะเหม็นขี้หน้ากันมั้ย? 
    "บนทรวงสวรรค์" >> สรวงสวรรค์
    ถอนหายใจย่างปลงตกเท่านั้น
    "นั้นฉันโหลดมาให้นาย..." >> นั่น?
    ตระลอน >> พจนานุกรมไม่มีเป็น "ตะลอน" ไม่มี ร. ครัช
    เรนัสถามออกไปอบ่างยิงตรง..
    "เหตุผลบ้าอะไรฟ่ะนั้น! เดี่ยวนะ..."
    จนเจ้าตัวได้แต่กัดกรอด >> กัดอะไรกรอด?
    ซึ่งจริงๆแล้วนั้นก็แค่หนึ่งในข้ออ้างของ...เท่านั้น
    ไอ้หมอนั้น ไอ้บ้านั้น
    แต่ก็โดนห้ามปราบ >> ห้ามปราม?
    จนคิวปิดที่บืนอยู่ >> ยืน
    รีบแสกดาบ... >> เสก...

    อันที่ไม่ได้เขียนคือซีรีย์ "นั้น" ทีนี้ไม่รู้อะไรยังไง ทำไมเห็นแต่นั้น แต่บางอันควรใช้ "นั่น" มั้ยอะ ในหลายๆประโยค ตรงนี้พี่ต้องระวังอยู่นะ อ่านไปแล้วมันสะดุดแปลกๆ ไอ้หมอนี่ ไอ้หมอนั่น ไอ้หมอนั้น ไอ้หมอโน้นนน ว่ากันไปครัช

    อ่านไปอ่านมาสรุปใจความได้ว่าผู้หญิงเป็นแค่ตัวประกอบ
    เรื่องนี้นี่สงครามเด็กหนุ่มชัดๆ
  • ความคิดเห็นที่ 17

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 202.28.118.120
    • 24 มีนาคม 2559 / 08:43
    ขอบคุณพี่ดาวิษครับ

    เดี่ยวจะนำคำแนะนำไปเป็นการบ้านครับ
  • ความคิดเห็นที่ 16

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.246.110
    • 24 มีนาคม 2559 / 01:03
    บทนี้ชอบตรงมีฟิวเสียดสีสังคมหน่อยๆนะคับ
    อย่างเช่นเป็นกามเทพอยู่ยากขึ้นทุกวัน เพราะต้องทำยอด
    ไม่ต่างอะไรจากสาวแบงก์หลังเคาท์เตอร์
    ที่ต้องพยายามทำยอดขายประกันหรือเงินฝาก

    เรื่องนี้มี action ที่ให้อารมณ์แปลกดี และกวนๆนิดนึง
    แต่จุดสำคัญของเรื่องราวต่อสู้ทุกเรื่องนะครับ อยู่ตรงที่
    การแพ้ชนะต้องมีหลักการและเหตุผลรองรับ
    อย่างเช่นกามเทพสองตน ตนไหนจะใช้อาวุธได้หลากหลายแค่ไหน
    มีพลานุภาพแค่ไหน ต้องมีหลักการรองรับด้วย
    จะทำให้การต่อสู้สนุกยิ่งขึ้น

    นึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างนะคับ
    ยุคหลังๆมานี้ การ์ตูนญี่ปุ่นสู้กันแบบไม่มีหลักการรองรับซักเท่าไหร่
    เหมือนกับว่าพอโกรธก้อเบ่งพลัง พอแค้นมากๆก้อพลังแฝงตื่น
    กลายเป็นว่าตัวละครที่เก่งที่สุด คือตัวละครที่ขี้โมโหที่สุด
    การ์ตูนต่อสู้ยุคปัจจุบันถึงสู้การ์ตูนต่อสู้ยุคก่อนๆไม่ได้ ซึ่งเค้ารีเสิร์ชและคิดกันมาหนักมาก ว่าจะให้ต่อสู้กันยังไง

    หวังว่าจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ในบทต่อๆไปนะครับ > <

    ดาวิษ ชาญชัยวานิช
  • ความคิดเห็นที่ 14

    LookFook
    • Name : LookFook < My.iD > [IP] 182.149.207.19
    • 19 มีนาคม 2559 / 16:00
    คำผิดคำตกอะไรก็ยังมาเรื่อยๆ ฮาา
    คือตอนนี้เหมือนโชว์อาวุธมาก แต่มาแต่ชื่อกับลักษณะนะ :P
    อืมมม จริงๆแอบรู้สึกว่างานนัดบอดเนี่ยตัวตั้งตัวดีคือกามเทพมั้ย ทำไมมันเอื้อให้ทำงานเยอะแยะขนาดนี้

    เออ แล้วกริชญะไม่ปิ๊งใครบ้างเหรออออ
  • ความคิดเห็นที่ 13

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 115.87.130.38
    • 18 มีนาคม 2559 / 11:01
    ขอบคุณพี่ดาวิษครับ

    ถ้าพี่และคนอ่านสนุกและขำไปเรนัสได้ ผมก็ปลื้มใจล่ะ 555+

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

    เดี่ยวจะลองสอดแทรกดูครับ 

    @ฟูจิ พี่ไม่ได้ช่ำชองเรื่องนัดบอดอะไรเลยน่าาาาา จริงจริ้งงงงง

    เดี่ยวจะหาทางให้เรนัสทำลายอีกหลายๆ รอบ กำแพงที่ 4 เนี่ย อิอิ
  • ความคิดเห็นที่ 12

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.245.138
    • 17 มีนาคม 2559 / 21:49
    55 สนุกดีครับ
    นั่งอ่านละก็ขำอยู่หน้าคอมฯ
    เพียงแต่ขอเสริมนิดนึงครับ
    ณ จุดนี้ยังดูเหมือนอาวุธทุกชนิด ให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน
    ความจริงแล้ว... เรายังแทบไม่เห็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการแผลงศรด้วยอาวุธแต่ละแบบเลยมากกว่า
    เห็นแต่ภาพกามเทพสองตนออกมาระดมยิงอย่างเดียว
    ไม่เห็นว่าคนที่โดนยิงไปละเป็นยังไงบ้าง

    ตอนอ่านแล้วอยากเห็นครับว่าอาวุธชนิดไหนส่งผลต่อผู้โดนยิงยังไง
    มันน่าจะสนุกดี
    เผลอๆคนเขียนอาจคิดเอาไว้แล้วก็ได้
    จะรออ่านตอนต่อๆไปนะครับ XD
  • ความคิดเห็นที่ 11

    Amélie
    • Name : Amélie < My.iD > [IP] 58.11.79.164
    • 17 มีนาคม 2559 / 01:30
    คอระเบิดและขีปนาวุธมาตามอ่านแล้วนะคะ
    พี่เทียนหลงนี่ดูช่ำชองการนัดบอดนะคะ 555

    มีการทำลายกำแพงที่สี่ในเรื่องด้วย (ตอนลิขสิทธิ์การ์ตูนญี่ปุ่น)
  • ความคิดเห็นที่ 10

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.247.251
    • 10 มีนาคม 2559 / 00:21
    เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกสนุกได้ง่ายดีคับ > <

    ดาวิษ ชาญชัยวานิช
  • ความคิดเห็นที่ 9

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 27.145.171.100
    • 9 มีนาคม 2559 / 21:40
    คำผิดเยอะจริงๆ ด้วยยยยยยยยย

    ตอนตรวจอ่ะหาไม่เจอ

    พออัพเท่านั้นล่ะ เพียบบบบบบบ
  • ความคิดเห็นที่ 8

    LookFook
    • Name : LookFook < My.iD > [IP] 182.149.206.225
    • 9 มีนาคม 2559 / 21:00
    ยอมในความฮาละมุขต่างๆที่พยายามาเหลือเกิน วัยสะรุ่นสุด
    แต่ความอินนั้นก็เพราะมันร่วมสมัยเลยเข้าใจง่ายนี่แหละ
    แต่ว่า...

    แต่นแต๊นนนน

    ร้านสะดวดซื้อ >> ขำแรงมากกกก
    ชายร่างท้วมกับซีรีย์อกด้านซ้าย >> ชื่อตอนใหม่ยกให้ ไม่มีคำอื่นแทนชายร่างท้วมจริงๆเหรอพี่ แล้วก็อกด้านซ้าย อกข้างซ้ายติดกันสามสี่อันเลยอะ อกเฉยๆก็ได้ นัดแรกก็รู้แล้วว่าด้านซ้ายยยยยย
    ใช้มือลูบคล้ำร่างกาย >> คือพี่ไม่ฮาแค่เรื่องใช่มะ คำผิดพี่ก็ฮาาาา
    อยู่สูงไปหลายพันเมตรได้ล่ะมั่ง >> ล่ะมั้ง? อ่านปุ๊บนึกถึงละมั่ง เลียงผา...
    หลายๆอย่างที่เริ่มมาปะติปะต่อ >> ปะติดปะต่อ?
    ฉันล่ะน่าเบื่อจริงๆ พวกทิฐิสูงเนี่ย >> ฉันล่ะเบื่อจริงๆ?
    เอาเถอะเห็นมนุษย์ตาดำๆ >> เห็นแก่?
    เอางี้ล่ะกัน >> เอางี้ละกัน?

    ยอมกับนัดบอดจริงๆ....
  • ความคิดเห็นที่ 7

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 27.145.172.111
    • 6 มีนาคม 2559 / 13:28
    ขอบคุณเฮียออกับพี่ปัฐมากครับบบบบ
  • ความคิดเห็นที่ 6

    bodin Intrararujikul
    • Name : bodin Intrararujikul [IP] 171.96.182.132
    • 5 มีนาคม 2559 / 10:18
    พี่ปัฐเองนะครับ ^ ^ เราเลิกกันเถอะ ...เปิดเรื่องมาก็กรีดเชือดหัวใจคนโสดอย่างเราเลยนะครับ แหม!! 5555 แหม เรื่องนี้ ฮาไม่บันยะบันยังจริงๆ แฮะ ตอนแรกแอบงงเล็กน้อย แต่พออ่านทั้งหมดก็เข้าใจได้ครับ ^ ^ ว่าแต่ ตัดจบได้ดีมากเลยนะครับเนี่ย เล่นเอาอยากอ่านต่อตอนต่อไปเร็วๆ เลย อยากรู้ชะมัดว่ายิงใครกันนะ ^ ^!!
  • ความคิดเห็นที่ 5

    ^AutumN^ท่านชายในฤดูใบไม้ร่วง^
    • Name : ^AutumN^ท่านชายในฤดูใบไม้ร่วง^ < My.iD > [IP] 27.55.72.131
    • 2 มีนาคม 2559 / 19:43
    แวะมาเยี่ยม นิยายออกเนื้อหาน่าติดตามดี ดำเนินเรื่องได้โอเค แม้บางตอนจะมึนๆสักนิด 
    สู้ต่อไป เทียนหลงชิ 
Page 1 of 2 1 2

เข้าสู่ระบบด้วย Dek-D ID

เข้าสู่ระบบด้วย Social Network

คลิกที่นี่
แสดงความคิดเห็น
ชื่อ Email รูปตัวแทน

โปรดใส่รหัสตามรูป