EN17 ภารกิจแจกรักของกามเทพพันธุ์พิลึก

คุณเชื่อเรื่องกามเทพไหม? แล้วถ้ากามเทพนั้นเป็นหนุ่มมาดร็อคสุดอินดี้แบกอาวุธสงคราม คุณยังจะเชื่อไหม? จงลืมทุกกามเทพที่คุณเคยรู้จัก เพราะนี่คือกามเทพพันธุ์พิลึกที่จะมาแจกรักให้กับพวกคุณ!

ผู้แต่ง

เทียนหลง

0%

ตอนที่ 3/5 : นี่เหรอการแผลงศรแห่งศตวรรษที่ 21

ตอน 3

นี่เหรอการแผลงศรแห่งศตวรรษที่ 21

            “ฟู่ ทันเวลาพอดี” เรนัสเป่าปากอย่างโล่งอกขณะค่อยๆ ร่อนลงอย่างนิ่มนวลบนสนามหญ้าในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง

            ในขณะที่กริชญะทันทีที่เท้าแตะพื้นเขาก็ทรุดตัวคุกเข่าเอามือยันพื้นไว้ด้วยใบหน้าที่ซีดจนเขียวราวกับเพิ่งผ่านประสบการณ์สุดสยองมา

            “ไอ้บ้านี่มันกะแกล้งกันชัดๆ” กริชญะที่แม้สภาพจะย่ำแย่ขนาดนี้ก็ยังพยายามหันไปมองอีกฝ่ายที่กำลังยืนดูข้อมูลในเครื่องวัดอนุภาคอย่างเคียดแค้น พลางนึกถึงการเดินทางเมื่อครู่ที่มีไอ้บ้าบางตัวที่ปากบอกว่ารีบๆ แต่มันดันพาเขาทิ้งดิ่งลงมาจากยอดตึกก่อนจะเบรกกึกกลางอากาศจนตัวโก่งแล้วพุ่งทะยานซิกแซกไปตามซอกตึกด้วยความเร็วเฉียดนรกยิ่งกว่ารถไฟฟ้าเหาะเบรกแตกแถมยังหมุนควงสว่านอีกสิบรอบก่อนจะตบท้ายด้วยลังกาหน้าอีกสิบตลบแล้วลงจอดที่สวนแห่งนี้

            นี่ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้แค่ยืนยังยากล่ะก็ กริชญะคงอยากจะฆ่าไอ้บ้าที่กำลังยืนเกาหัวอย่างหงุดหงิดอยู่ตรงหน้าเขาสักรอบ

            “ข้อมูลจะเยอะไปไหนเนี่ย” เรนัสบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะแตะนิ้วไปที่หน้าจอสองสามทีแล้วสะบัดมือขึ้นไปในอากาศก็ปรากฏจอโปร่งใสลอยอยู่ตรงหน้าพร้อมกับภาพและข้อมูลต่างๆ ทั้งชายและหญิงระรานตาไปหมด

            “อย่างนี้สิ ค่อยดูง่ายขึ้นหน่อย” และระหว่างที่เรนัสมัวแต่ดูข้อมูลของคนที่ต้องแผลงศรใส่จนไม่ได้สังเกตรอบข้าง กริชญะจึงได้โอกาสพักหายใจพลางสำรวจรอบๆ ไปด้วย

            ตอนนี้ทั้งสองได้มาอยู่บนสนามหญ้าที่กว้างพอๆ กับสนามฟุตบอล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะกลางเมืองแห่งนี้ โดยรอบด้านจะมีทางเดินไว้สำหรับออกกำลังกายและปลูกต้นไม้น้อยใหญ่เพื่อให้ความร่มรื่น จนแค่เห็นก็รู้สึกเย็นสบายไปด้วยแล้ว

            แต่ในสนามหญ้าที่ปกติน่าจะเป็นลานโล่งๆ นั้น ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คนมากมายชุมนุมกันอยู่ไม่ห่างจากจุดที่พวกเขาอยู่นัก ขณะที่อีกมุมหนึ่งก็มีเวทีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่พร้อมกับพิธีกรที่กำลังเตรียมการต่างๆ อยู่ข้างเวที ส่วนฉากหลังของเวทีก็มีป้ายอันเบ้อเร่อติดเอาไว้ว่า อภิมหึมามหาซูเปอร์มหกรรมงานนัดบอด 1000 คน

            กริชญะแค่เห็นชื่องานก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมที่ด้านล่างเวทีถึงได้เก้าอี้ตั้งเรียงรายเต็มไปหมด ทั้งยังถูกจับจองโดยเหล่าหญิงสาวหลากหลายวัยที่ชุมนุมกันอยู่นั้นเอง จนอดคิดไม่ได้ว่าใครกันมันช่างคิดงานนี้ขึ้นมาแถมเขายังรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ถึงเรื่องราวหลังจากนี้ชอบกล

            ก่อนจะนึกถึงเรื่องที่เรนัสพูดให้ฟังระหว่างทางมาที่นี้แม้เขาจะฟังแทบไม่รู้เรื่องก็ตาม ซึ่งจากที่จับใจความได้เห็นบอกว่าการแผลงศรนั้นไม่ใช่นึกอยากจะทำก็ทำได้ แต่มันต้องมีจังหวะและช่วงเวลาที่แต่ละคนเจอรักแรกพบด้วย ส่วนจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ยังไงนั้นเครื่องวัดอนุภาคจะช่วยบอกเอง หรือง่ายๆ ก็คือต้องขึ้นกับโชคชะตาของแต่ละคนด้วย ก่อนกริชญะจะสะกิดใจบางอย่างจึงหันไปถามเรนัสที่ยืนอยู่ด้านข้าง

            “นี่ไอ้เทพหื่นกาม”

            “กามเทพเว้ย! กามเทพเรนัส”

            “เออๆ กามเทพก็กามเทพ” แต่เหมือนกริชญะจะขี้เกียจเถียงด้วยจึงได้ยอมง่ายๆ เพราะตอนนี้เขาสนใจเรื่องที่สงสัยอยู่มากกว่า ทางเรนัสเองเมื่อเห็นแบบนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อเช่นกันเพราะตัวเองก็กำลังวุ่นวายกับข้อมูลตรงหน้าเหมือนกัน

            “มีอะไรก็รีบพูดมาฉันกำลังยุ่ง”

            “ฉันสงสัยว่าคนเยอะๆ แบบนี้นายไม่มียิงพลาด เอ่อ ฉันหมายถึงแผลงศรพลาดมั่งเหรอ?”

            “หึ ระดับท่านเรนัสแล้วไม่มีพลาดอยู่แล้ว” กริชญะที่ได้ยินคำตอบก็ได้หัวเราะแห้งๆ อย่างหน่ายใจกับคนตรงหน้า ก่อนอีกฝ่ายจะอธิบายต่อ

            “ไม่ต้องห่วงนี่ชีวิตจริงนะไม่ใช่ในหนังที่จะมียิงพลาดแล้วเกิดเรื่องวุ่นวายแบบคู่รักสลับกันน่ะ อย่างมากถ้ายิงไม่ทันเวลา คนๆ นั้นก็แค่พลาดโอกาสได้เจอรักแรกเท่านั้นล่ะ”

            “แล้วถ้ายิงผิดคนล่ะ?”

            “ก็ไม่เป็นไร เพราะกระสุนแต่ละนัดถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับคนๆ นั้นโดยเฉพาะ เพราะงั้นต่อให้ยิงพลาดก็ไม่เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น”

            “ง่ายๆ งี้อ่ะเหรอ แบบไม่มีเงื่อนไขอะไรให้ยุ่งยากเลยเหรอ?” กริชญะถามซ้ำซึ่งอีกฝ่ายก็เพียงแค่พยักหน้าแทนคำตอบ ทำให้เจ้าตัวได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

            “เฮ้อ เสียดายนึกว่าจะได้เจอเรื่องตื่นเต้นอะไรซะอีก”

            “จริงๆ มันก็ไม่เชิงว่าไม่มีเรื่องยุ่งยากหรอกนะ...” เรนัสที่เห็นอีกฝ่ายหงอยไปอย่างชัดเจนจึงคิดจะอธิบายบางอย่างต่อ แต่ก็โดนขัดจังหวะด้วยเสียงของใครบางคนเสียก่อน

            “อ้าว นึกว่าใครที่แท้ก็เรนัสนี่เอง” เสียงนุ่มนวลชวนฟังดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของบุรุษหนุ่มรูปงาม ผู้มีผิวพรรณเปล่งปลั่งขาวสะอาดตา เรือนผมสีทองเป็นประกายเจิดจ้าที่ยาวถึงกลางหลัง นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล รูปร่างราวกับนายแบบที่สูงยาวเข่าดีแถมยังอยู่ในชุดสูทสีขาวทั้งตัวที่สวมทับด้วยเสื้อคลุมสีขาวยาวถึงเข่า พร้อมกับปีกนกสีขาวขนาดใหญ่บนหลังกำลังกระพือเพื่อส่งให้ร่างนั้นลงมายืนบนพื้นอย่างช้าๆ ซึ่งกริชญะรู้สึกคุ้นตาชายตรงหน้าชอบกล

            “เซรอสนายมาทำอะไรที่นี้?” เรนัสถามออกไปอย่างไม่พอใจ ทันทีที่รู้ว่าผู้มาใหม่เป็นใคร

            “แหมๆ ถามอะไรแบบนั้นล่ะเรนัสเพื่อนรัก” อีกฝ่ายเรียกเรนัสว่าเพื่อนรักอย่างเต็มปาก แต่ดูเหมือนเรนัสจะไม่ค่อยเห็นด้วยคำนั้นชักเท่าไหร่

            “นายมาทำอะไรที่นี้ฉันก็มาทำอย่างเดียวกันนั้นล่ะ ต่างกันก็แค่...ฉันมาถึงก่อนนาย”

            “มาถึงก่อน? อย่ามามั่วหน่อยเลยเซรอส คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายเพิ่งบินมาถึงน่ะ”

            “งั้นนายจะบอกว่านายจองงานไว้ก่อนแล้วอย่างงั้นสิ?”

            “ก็คงต้องตอบว่า ใช่!” เรนัสตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ ขณะคิดในใจอย่างรู้ทัน

            หึ คิดว่าฉันรู้ไม่ทันล่ะสิ ตอนมาถึงที่นี้ฉันตรวจสอบแล้วว่าไม่มีกามเทพตนไหนอยู่แถวนี้สักตน

            แต่ระหว่างที่เรนัสเอาแต่เขม่นมองอีกฝ่ายราวแค้นกันมาแต่ชาติปานก่อนนั้น กริชญะที่มองทั้งคู่สลับไปมาก็ตัดสินใจถามสิ่งที่ค้างคาใจตัวเองอยู่ตอนนี้

            “หมอนี่ใครเหรอ?”

            “ไอ้หมอนี่คือ เซรอสก็แค่กามเทพกากๆ ที่สะเออะโผล่มาผิดที่ผิดทางเท่านั้นล่ะ” ทันทีที่ได้ยินคำตอบกริชญะก็รู้ได้ทันทีว่าทั้งสองเป็นเพื่อนที่รักกันมากปานจะกลืนกินกันจริงๆ กลืนกินกันให้ตายไปข้างเลย แถมยังทำให้เขารู้ด้วยว่าทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นตาเซรอสนัก เพราะอีกฝ่ายก็เหมือนเรนัสไม่มีผิดไม่ว่าจะสีผมหรือดวงตาอันเป็นเอกลักษณ์นั้น ถึงแม้นอกเหนือจากนั้นทุกอย่างจะต่างกันราวฟ้ากับเหวก็ตาม

            “หมอนี่คือกามเทพ?” กริชญะถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

            “ใช่”

            “แน่นะ?”

            “แหงสิ ไม่เชื่อเหรอ? ก็สมควรอ่ะนะเพราะถ้ามาเทียบกันแล้วฉันน่าเชื่อถือกว่าเยอะ...”

            “โอ้แม่เจ้าเว้ย!” แต่เรนัสพูดยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ กริชญะก็ร้องขัดขึ้นมาเสียงดังลั่นซะก่อนพลางชี้นิ้วไปทางเซรอสอย่างตื่นเต้น

            “นี่ล่ะ! มันต้องแบบนี้! กามเทพมันต้องดูดี หน้าตาดี แลดูมีสง่าราศีอย่างนี้แหละถึงจะสมเป็นกามเทพตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่ของก็อปเกรดบีจากจีนแดงอย่างไอ้เกรียนหัวตั้งนี่!!” กริชญะพ่นคำพูดที่อัดอั้นมานานทั้งน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มเหลือล้นเพราะในที่สุดตนเองก็ได้พบกับกามเทพที่สมเป็นกามเทพจริงๆ สักที

            เพราะตั้งแต่ได้เจอกับเรนัสยังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ ภาพลักษณ์อันดูดีของกามเทพในหัวเขาก็แทบพังทลายไม่เหลือซากแล้ว ขณะที่เซรอสเองก็จ้องมองกริชญะอย่างแปลกใจเช่นกัน

            “ได้ทีล่ะใส่ไม่ยั้งเลยนะเจ้ายะ” เรนัสถึงกับคิ้วและแก้มกระตุกด้วยความโมโหพลางส่งสายตาคาดโทษคนข้างๆ แต่อีกฝ่ายก็เพียงส่งรอยยิ้มเยาะเป็นนัยกลับมาว่าทีใครทีมัน

            “เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมนายถึงมองเห็นพวกฉันล่ะ?” แต่กลับเป็นเซรอสที่ถามขัดขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะตวัดไปมองหน้าเรนัสอย่างต้องการคำตอบ แต่มีหรือเรนัสจะยอมตอบง่ายๆ

            “มันเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะกามเทพระดับท็อปเท่านั้น กามเทพระดับล่างอย่างนายจะไม่รู้ก็ไม่แปลกนี่นะ เพราะมันเกินตัวนายไปอ่ะนะเซรอส” และควรบอกว่าสมเป็นเรนัสที่ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปจริงๆ อีกฝ่ายพลาดปุ๊บเขาก็รีบตอกกลับไปอย่างเจ็บแสบถึงทรวงทันที

            “นายคิดจะหาเรื่องกันสินะ”

            “หรือนายอยากไฝว้ฉันก็ไม่ขัดนะ”

            ทั้งสองจ้องตากันเขม่นปานจะกินเลือกกินเนื้อกันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่จากสายตาของกริชญะกลับมองว่าเหมือนนักเลงข้างถนนสองคนกำลังหาเรื่องฟาดปากกันมากกว่า

            “ตกลงนายจะยอมถอยไหมเซรอส?”

            “ถอยก็บ้าแล้ว ในเมื่อฉันมาถึงก่อนทำไมต้องถอยด้วย”

            “เหอะพูดมาได้ไม่อายปาก งั้นก็ได้แต่ขอแนะนำว่านายควรจะไปซะตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่จะต้องขายขี้หน้าเพราะแพ้ฉัน”

            “นายต่างหากอย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งตอนแพ้ฉันล่ะกัน”

            “เอ่อ ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าพี่ทั้งสองกำลังคุยเรื่องอะไรอยู่เหรอครับมีแพ้? มีชนะ?” กริชญะที่ฟังทั้งสองเถียงไม่รู้เรื่องก็อดที่ถามออกไปไม่ได้

            “ก็เรื่องว่าใครจะเป็นคนแผลงศรในงานนัดบอดนี้น่ะสิ” เป็นเรนัสอีกเช่นเดิมที่ช่วยตอบข้อสงสัยให้ทั้งที่ยังเขม่นกับเซรอสไม่วางตา

            “เรื่องแค่นี้แต่เถียงกันอย่างกับโลกจะแตก แค่ร่วมมือกันซะก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ”

            “ไม่มีทาง!!!” กริชญะถึงกับสะดุ้งโหยง เมื่อเขาถูกท่านกามเทพทั้งสองประสานเสียงตวาดกลับมา จนอดสงสัยไม่ได้ว่าเห็นเถียงกันจะเป็นจะตายแต่ทีอย่างนี้ประสานเสียงกันได้

            “ทะ ทำไมล่ะ?” กริชญะถามออกไปทั้งที่ยังตกใจไม่หาย เพราะตอนนี้นอกจากเสียงตวาดแล้วท่าทางของทั้งคู่ยังดูดุยิ่งกว่าเสือเสียอีก

            “เพราะพวกฉันต้องการ ยอดแผลงศรน่ะสิ”

            “ยอดแผลงศร? มันคืออะไรอีกล่ะทีนี้” แต่กริชญะยังไม่ทันจะได้คำตอบเสียงจากพิธีกรบนเวทีก็ดังขึ้นเสียก่อน

            เอาล่ะครับทุกท่าน ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยกับงานนัดบอดครั้งยิ่งใหญ่ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้คนทุกเพศทุกวัยได้มีโอกาสสานสัมพันธ์ไมตรี ซึ่งครั้งนี้เรามีผู้ร่วมงานกว่าหนึ่งพันคน!’

            “ซวยแล้ว!” กามเทพทั้งสองอุทานขึ้นก่อนจะผละออกจากกัน

            “เดี๋ยวก่อนสิ ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกัน แล้วไอ้ยอดแผลงศรที่ว่ามันคืออะไร?” กริชญะถามอย่างตื่นตกใจไปกับท่าทางของทั้งสอง

            “เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยเล่า ตอนนี้เอาเป็นว่ายิ่งใครแผลงศรได้เยอะก็ยิ่งจะได้รับรางวัลพิเศษไงล่ะ เพราะงั้นตอนนี้นายหลบไปก่อนอย่ามาเกะกะ” กริชญะที่โดนออกปากไล่ขนาดนี้ก็มีเหรอที่เขาจะหน้าด้านอยู่ จึงได้แต่เดินหลบออกไปเพื่อรอดูว่าทั้งสองคิดจะทำอะไรกันแน่

            “งั้นงานนี้มือใครยาวสาวได้สาวเอาล่ะกันนะเซรอส!” เรนัสร้องบอกเสียงดัง ส่วนอีกฝ่ายก็เพียงแสยะยิ้มออกมาเท่านั้น ในขณะที่ตอนนี้ละอองแสงได้ลอยฟุ้งล้อมรอบตัวของทั้งสองเต็มไปหมด

            “เอาล่ะครับผู้มาเข้าร่วมงานนัดบอดทุกท่าน กติกาของงานในครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรมาก โดยเราจะให้สาวๆ ทุกคนนั่งบนเก้าอี้ที่จัดไว้ หลังจากนั้นจะให้หนุ่มๆ ไปยืนเรียงกันข้างหน้าพวกเธอ ซึ่งตอนแรกนั้นเพื่อความเท่าเทียมเราให้ชายหนุ่มหันหลังไว้ก่อนนะครับ หลังจากนั้นพอให้สัญญาณทุกท่านจะมีเวลาเพียงหนึ่งนาทีในการทำความรู้จักคู่ตรงหน้าของท่าน พอหมดเวลาจะต้องทำการขยับไปหาคนถัดไปทันทีและเราจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบทุกคู่ครับ” พิธีกรชายบนเวทีอธิบายกติกาพลางหันไปมองผู้เข้าร่วมงานโดยทั่วกัน

            “งั้นถ้าพร้อมกันแล้ว รอบแรก...เริ่มได้!” ทันทีที่สิ้นเสียงพิธีกรเหล่าชายหนุ่มมากหน้าหลายตาก็พร้อมใจหันกลับมาทำความรู้จักหน้าสาวๆ ตรงหน้าอย่างไม่รอช้าเพราะเวลาทุกวินาทีมีค่า

            และไม่ใช่แค่เหล่าผู้ร่วมงานเท่านั้นที่เวลาทุกวินาทีมีค่า เพราะท่านกามเทพทั้งสองของเราเองก็เช่นกัน ทันทีที่สิ้นเสียงพิธีกรก็มีข้อความเด้งขึ้นมาจากเครื่องวัดอนุภาครักแรกของทั้งสองพร้อมกัน

            มีผู้พบรักแรก 5 ราย

            ปังๆๆๆๆ เสียงลั่นไกดังรัวห้านัดซ้อนจากปากกระบอกปืนพกกึ่งอัตโนมัติเบเร็ตต้า 92 เอฟเอส (Beretta 92FS) ในมือเรนัสพุ่งตรงเข้าใส่กลางอกของชายหญิงห้าคนที่นั่งอยู่มุมหนึ่งอย่างแม่นยำ ซึ่งบังเอิญทั้งหมดวัดระดับอนุภาคได้ปืนพกแบบเดียวกันพอดี ทำให้เรนัสสามารถสาดกระสุนออกไปได้อย่างรวดเร็วก่อนที่เซรอสจะทันได้ขยับตัวด้วยซ้ำ

            พร้อมกับที่ปืนในมือสลายกลายเป็นละอองแสงและชายหญิงทั้งห้าหงายหลังล้มลงไปกับพื้นด้วยแรงปะทะจากการโดนยิง ก่อนจะกลับมาเป็นปกติในชั่วพริบตาที่ปรากฏออกมาพร้อมรอยยิ้มมุมปากของเรนัส

            “หมดเวลา!” สิ้นเสียงพิธีกรเหล่าชายโสดก็ขยับตัวไปสาวคนถัดไปทันที และเช่นเดียวกันเครื่องวัดอนุภาคส่งข้อความขึ้นว่า

            มีผู้พบรักแรก 7 ราย

            ฉึบๆๆๆๆๆๆ แต่คราวนี้เป็นทีของเซรอสบ้าง เมื่อสิ่งที่เครื่องวัดอนุภาควัดได้นั้นคือมีดสั้นแบบโบราณที่ออกแบบอย่างวิจิตรถึงเจ็ดเล่ม ก่อนเซรอสจะปาเข้าปักกลางใจหนุ่มสาวทั้งเจ็ดคนอย่างแม่นยำไม่แพ้กัน และแน่นอนว่าพริบตาต่อไปทั้งหมดก็กลับเป็นปกติอีกครั้ง ส่งผลให้เซรอสหันไปยิ้มเยาะใส่เรนัสบ้าง

            “หึ ยังชอบใช้แต่ของโบราณๆ ไม่เปลี่ยนเลยนะ” แต่เรนัสก็เพียงส่งเสียงในลำคอและพูดออกไปลอยๆ ขณะชำเลืองมองอีกฝ่าย

            “นายเองก็ยังใช้ปืนผาหน้าไม้เหมือนเดิม” เซรอสย้อนกลับบ้าง แต่เรนัสก็ไม่ตอบโต้อะไรกลับไป เพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องสนใจคือเป้าหมายตรงหน้ามากกว่าเรื่องรสนิยมของกามเทพแต่ละตน ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องการเปลี่ยนรูปแบบคันศรแห่งรักเป็นอะไรนั้นก็ขึ้นกับความชอบของแต่ละตนว่าอยากได้แบบไหนนั้นเอง

            และทันทีที่รอบต่อไปเริ่มขึ้นก็เหมือนเป็นสัญญาณเปิดฉากสงครามนองเลือดจากน้ำมือของสองกามเทพ ละอองแสงก็ได้ก่อตัวเป็นปืนหลากหลายประเภทลอยอยู่รอบตัวเรนัส ทางเซรอสเองก็มีทั้งมีด ดาบ หอกและอีกมากมายลอยอยู่รอบตัวเช่นกัน

            ทั้งสองพุ่งทะยานออกไปพร้อมกัน เรนัสคว้าปืนกลเบา วี 61 สกอร์เปี้ยน (V61 Scorpion) ขนาดพอมือแล้วอีกข้างก็คว้าเอาปืนกลเอ็ม 16 (M16) ก่อนจะหมุนตัวควงสว่านกลางอากาศสาดกระสุนออกไปเข้าใส่บรรดาหนุ่มใหญ่ทั้งหลายอย่างแม่นยำ ก่อนจะปล่อนปืนทั้งสองทิ้งไปแล้วคว้าเอาระเบิดมือ เอ็ม 26 (M26) ขนาดเท่ากำมือแล้วจับยัดใส่มือหญิงสาววัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าในจังหวะเดียวกับที่ตัวเองลงมายืนบนพื้นได้อย่างพอดิบพอดี แล้วเจ้าตัวกระโดดตัวลอยออกมาพร้อมกับดึงสลักระเบิดออกมาด้วย ในขณะเดียวกันก็จับเอาปืนลูกโม่ขนาดจุด 357 (.357) สีเงินเงางามแล้วจ่อยิงเข้าใส่ชายหนุ่มที่ยิงใกล้ๆ กันในระยะเผาขน

            ทางเซรอสเองก็ไม่แพ้กันขณะพุ่งตัวไปในอากาศ เขาก็คว้ามีดสั้นขนาดเล็กสองเล่มรวดแล้วปาตรงเข้าปักกลางอกของชายหญิงคู่หนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวคว้าดาบคาตานะที่ลอยยู่ด้านหลังแล้วลงมายืนตรงหน้าหญิงสาววัยกลางคนแล้วแทงคาตานะทะลุหัวใจของเธอจนมิดด้ามอย่างเลือดเย็นคาเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ซ้ำร้ายเจ้าตัวยังบิดดาบทำให้แผลเปิดกว้างขึ้น จากนั้นก็กระโดดจ้ามหัวมาคว้าสามง่ามที่ยาวกว่าสองเมตรซัดเข้าใส่ชายที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้าจนกระเด็นไปตามแรง

            “ไอ้บ้านี่” เมื่อเห็นดังนั้นเรนัสก็กระโดดสูงขึ้นไปบนอากาศแล้วคว้าเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี (RPG) ซึ่งลอยอยู่รอบตัวเขานับสิบกระบอกแล้วเริ่มบรรเลงการสาดจรวดเขจ้าใส่กลุ่มชายหญิงเบื้องล่างไม่ยั้ง แล้วตามติดมาด้วยปืนยิงลูกระเบิดเอ็ม79 (M79) กระบอกโตต่อด้วยปืนลูกซองก่อนจะปิดท้ายปืนกลหนักเอ็ม61 วัลแคน (M61 Vulcan) เรียกได้ว่าเรนัสขนมาทั้งคลังแสงของกองทัพไหนสักกองทัพเลยก็ว่าได้

            จนตอนนี้บริเวณงานราวกับกลายเป็นนรกที่ถูกถล่มด้วยอาวุธสารพัด ทั้งเลือดที่สาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องดังระงมปะปนกับกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่ว ทำให้กริชญะถึงกับคลื่นไส้ขึ้นมาแต่ยังโชคดีที่พริบตาต่อมาทุกอย่างก็กลับเป็นปกติด้วยผลจากมโนภาพรักแรก จนเขาได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าไอ้มโนภาพนี่มันออกจะสมจริงเกินเหตุไปหน่อยแล้วหรือเปล่า

            “เอาล่ะครบสิบนาทีแล้วเราจะมาพักกันสักครู่นะครับ” เสียงพิธีกรชายดังขึ้นอีกครั้ง

            “ร้ายเหมือนกันนี่เรนัส” เซรอสเอ่ยขึ้นขณะกอดอกมองไปยังกลุ่มคนตรงหน้าเพื่อเตรียมตัวสำหรับรอต่อไป แม้จริงๆ แล้วเจ้าตัวจะแอบหอบหายใจเล็กๆ อยู่ก็ตาม

            “นายเองก็ร้ายพอตัวเลยนี่ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันยังไม่ได้เอาจริงเลยสักนิด” แถมทางเรนัสเองถึงปากจะพูดข่มอีกฝ่าย แต่ตัวเองก็ยังแอบหอบใจเช่นกันแถมอาจจะหนักกว่าซะด้วย

            จนกริชญะที่เห็นท่าทางของทั้งคู่ก็ได้แต่คิดในใจว่า ไอ้พวกนี้ก็ขี้เก๊กพอๆ กันเลย

            แล้วจากนั้นพิธีกรก็กระกาศเริ่มรอบถัดไป เซรอสที่รออยู่แล้วคว้าง้าวอันโตแล้วปาออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เรนัสกลับเร็วกว่าจังหวะหนึ่ง เขากระโดดตามง้าวที่ถูกปาออกไปแล้วคว้าปืนพกเบเร็ตต้าขึ้นมาเล็ง แต่สิ่งที่เขาตั้งใจยิงคราวนี้กลับไม่ใช่กลางอกของเป้าหมาย แต่เป็น...

            ปัง!

            กระสุนพุ่งใส่ง้าวนั้นจนเปลี่ยนทิศทาง ก่อนเจ้าตัวจะพลิกตัวแล้วลั่นไกส่งกระสุนอีกนัดพุ่งเข้าใส่กลางหน้าอกของคนที่เป็นเป้าหมายของง้าวนั้นแทน

            “คิดจะเล่นแบบนี้เหรอก็ได้เรนัส” เซรอสพูดพลางกัดฟันกรอด

            หลังจากเรนัสก็ทิ้งปืนในมือแล้วหันไปคว้าปืนกลเบาพร้อมกับสาดกระสุนเข้าใส่เหล่าคนตรงหน้าทันที แต่กลับมาห่ามีดสั้นถูกปาเข้ามาขวางทางกระสุนไว้ได้หมดในขณะที่มีดเหล่านั้นกลับอาศัยการชิ่งจากดระสุนที่ไปขวางไว้พุ่งเข้าปักกลางใจของคนรอบข้างนั้นแทน

            เรนัสกระโดดหลบออกมาพลางหันไปมองคนนที่ปามีดเหล่านั้นอย่างเจ็บใจ ซึ่งขณะนี้เซรอสเองก็กระโดดเข้ามากลางวงเพื่อแทงหอกในมือเข้าใส่หญิงสาวคนหนึ่งอย่างต่อเนื่อง

            ทันทีที่เรนัสลงมาถึงพื้นเขาก็คว้าปืนพกกึ่งอัตโนมัติอีกกระบอกไว้ได้ก่อนจะวิ่งตรงดิ่งเข้าใสเซรอส พร้อมกับปล่อยแขนให้สะบัดไปด้านหลังแล้วเหวี่ยงกลับมาลั่นไกส่งกระสุนพุ่งตรงเข้าใส่เซรอส แต่ในวินาทีที่กระสุนจะปะทะกับหน้าของกามเทพหนุ่มนั้น มันกลับเบนวิถีออกเป็นเส้นโค้งอ้อมออกด้านข้างลอดผ่านช่องว่างระหว่างอาวุธมากมายที่ลอยอยู่แล้วพุ่งตรงเข้าใส่ชายหนุ่มด้านหลังเซรอสแทน ราวกับกระสุนโค้งของภาพยนตร์แอ็ดชั่นเรื่องดังฮอลลีวู้ดอย่างไรอย่างนั้น

            เซรอสที่เหมือนโดนหยาบเข้าเต็มๆ ก็กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจก่อนจะกระโดดลอยสูงขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับเรียกอาวุธทั้งหมดให้มาลอยรวมอยู่ด้านหลังของตนเองก่อนจะตวัดมือชี้ลงมาเบื้องล่างแล้วอาวุธทั้งหมดก็พร้อมใจกันพุ่งตรงดิ่งเข้าฝูงชนด้านล่างอย่างรุนแรงราวกับป้อมปราการที่สาดอาวุธออกมาได้ จนเรนัสเองยังต้องกุมหัววิ่งหลบคมหอกคมดาบอย่างหัวซุกหัวซน

            แต่กริชญะที่มองภาพดังกล่าวอยู่กับรู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก เพราะไอ้การโจมตีเมื่อกี้มันดันไปคล้ายกับท่าโจมตีของตัวละครในการ์ตูนดังเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่นเลย จนเขาอดที่จะร้องตะโกนบอกทั้งสองไม่ได้ว่า

            “พวกเพ่ช่วยระวังเรื่องลิขสิทธิกันหน่อยได้ไหมมมมม!!

            แล้วก็เข้าสู่ช่วงพักเบรกอีกครั้งซึ่งครั้งนี้ก็เป็นเบรกสุดท้ายก่อนจะเริ่มรอบสุดท้ายของงานนัดบอดนี้ และสภาพกามเทพทั้งสองของเราก็ต่างหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน

            “ไอ้เซรอสเล่นแรงงี้ งั้นอย่าหาว่าฉันโหดร้ายไม่ได้นะเว้ย” เรนัสพุดอย่างเหนื่อยหอบ ก่อนจะประเมินสถานการณ์ตอนนี้ที่ออกมาสูสีอย่างไม่น่าเชื่อแล้วถ้ายังขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อได้ผลคงออกมาว่าทั้งคู่เสมอกันแน่ๆ ซึ่งผลแบบนั้นเขาไม่ยอมรับเด็ดขาด

            เรนัสจึงพยายามคิดหาทางพลิกสถานการณ์ตอนนี้ก่อนจะหันไปเห็นกริชญะที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากตนนักก็เกิดไอเดียบางอย่างจนเจ้าตัวดีจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากประจวบเหมาะกับข้อความที่เด้งขึ้นมาจากเครื่องวัดอนุภาคที่ทำให้เรนัสฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม

            “ได้ของดีมาแล้ว เซรอสงานนี้นายได้เจอชุดใหญ่แน่”

            และในที่สุดรอบสุดท้ายก็เริ่มขึ้นพร้อมกับเสียงประกาศของพิธีกรอีกเช่นเดิม เป้นจังหวะเดียวกับที่อาวะมากมายได้ปรากฏขึ้นมารอบตัวของเซรอส ทางเรนัสเองก็เช่นกันแต่สิ่งที่ปรากฏออกมากลับเป็นวิทยุสื่อสารเครื่องหนึ่งกับวัตถุบางอย่างที่คล้ายกับกล้องส่องทางไกล แต่มีขนาดใหญ่กว่า

            แต่สิ่งที่ละอองแสงก่อตัวขึ้นรอบตัวเรนัสนั้นกลับไม่ได้มีแค่นั้น เพราะตอนนี้ในอ่าวไทยละอองแสงกลุ่มใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นเป็นเรือประจัญบานชั้นมิสซูรี่ของสหรัฐอเมริกาที่บรรทุกจรวดโทมาฮอวืคไว้เต็มลำก่อนจะดำเนินการยิงจรวดเหล่านั้นออกมาจนหมด

            ไม่เพียงแค่นั้นบนน่านฟ้าเหนือสวนสาธารณะยังปรากฏเฮลิคอปเตอร์เอเอส-64 อาปาเช่ (AH-64 Apache) และเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-2 สปีริท (Northrop Grumman B-2 Spirit) ที่บรรทุกระเบิดนาปาล์มมาเต็มพิกัด

            เพราะฉะนั้นย่อมแน่นอนแล้วว่าสองสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเรนัสนั้นคืออะไร สิ่งหนึ่งก็คือวิทยุสื่อสารและอีกอย่างก้คือ เครื่องชี้เป้าด้วยเลเซอร์ (Laser Target Designator) ที่ใช้เพื่อนำวิถีให้กับขีปนาวุธต่างๆ

            “รู้อะไรไหมเซรอส บางครั้งคนๆ หนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องโดนกระสุนแห่งรักแค่นัดเดียวหรอกนะ” เซรอสหันมาวองเรนัสอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไรกันแน่ ก่อนเจ้าตัวจะเบิกตาโพลงราวกับนึกอะไรบางอย่างได้

            “เพราะบางคนอาจจะรู้สึกว่ารักแรกนั้นรุนแรงราวกับโดนขีปนาวุธรุมถล่มไม่ยั้งก็ได้!” พูดจบไม่พูดเปล่าเรนัสพุ่งตัวเข้าไปคว้าคอเสื้อขอกริชญะท่ามกลางความงุนงงของทุกฝ่าย

            ก่อนเจ้าตัวแสบจะออกแรงแล้วเขวี้ยงกริชญะเข้าใส่เซรอสอย่างแรง

            ด้านเซรอสที่ไม่ทันตั้งตัวก็เผลอกางแขนรับตัวกริชญะไว้ได้พอดิบพอดี แต่นั้นก็ทำให้จังหวะการปาอาวุธของเขาเสียไปแล้วเช่นกัน และนั้นแหละคือสิ่งที่เรนัสเล็งเอาไว้

            “ถึงทุกหน่วยเป้าหมายคือกลางกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีพรรคเราอยู่ในบริเวณนี้ให้ใส่ทุกอย่างที่มีไม่ต้องยั้ง ถล่มให้แหลกไปเลย!!!!” เรนัสร้องตะโกนคำสั่งไปยังวิทยุในมือ ขณะที่อีกมือก็ถือเครื่องชี้เป้าเด้วยเลเซอร์ส่องไปทางกลางฝูงชนในงานนัดบอดนั้น

            แล้วการโจมตีล้างบางก็เริ่มขึ้นด้วยเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ที่มาสาดจรวดและปืนใหญ่เข้าใส่ไม่ยั้ง ตามาติดๆ ด้วยจรวดโทมาฮอว์คนับสิบๆ ลูกก่อนจะปิดท้ายด้วยระเบิดนาปาล์มที่ถูกทิ้งลงปิดฉากแบบปูพรม จนสวนสาธารณะแห่งนี้กลายเป็นทะลเพลิง

            ส่วนกามเทพที่แสนซื่อตรง ใจดีมีเมตตาอย่างเรนัสก็กำลังยืนกางแขนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพอใจในผลงานของตัวเองอย่างที่สุด ขณะเฝ้ามองภาพแห่งความพินาศตรงหน้าตน

            “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นี่ล่ะเขาถึงจะเรียกว่าการแผลงศรแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง!!!

<><><> 



ภารกิจแจกรักของกามเทพพันธุ์พิลึก

ผู้แต่ง : เทียนหลง


Comment จากกรรมการ

#1 Enter Books Editor Team

บทนี้อธิบายเกี่ยวกับระบบของนิยายเรื่องนี้ โผล่มาในจังหวะที่เหมาะสมแล้วคับ
คอมเมนท์ครั้งสุดท้ายนี้ อยากจะฝากในจุดที่ละเอียดอ่อนที่สุด
นั่นคือสำนวนการเขียนคับ
(ปล. พยายามโพสต์คอมเมนท์เกือบชั่วโมงแล้ว แต่ไม่ผ่าน คงเพราะยาวไป T T
พยายามตัดแล้วตัดอีกก็ยังไม่ผ่านครับ เพราะงั้นคงต้องตัดทิ้งไปเยอะ
อย่างไร ถ้ามีโอกาสจะส่งเวอร์ชั่นเต็มให้ทางหลังไมค์นะครับ)

ข้อดีของสำนวนการเขียนเรื่องนี้คืออารมณ์ขันนะคับ
แต่จุดบกพร่องคืออ่านแล้วให้ความรู้สึกเยิ่นเย้อ

แต่จะว่าไป ถ้าบก.แก้สำนวนนักเขียนคนไหนด้วย 'ความรู้สึก'
สุดท้ายงานทุกงานก็จะกลายเป็นสำนวนบก.คนนั้นไปหมดจริงมั้ยครับ

ดังนั้นจะยกหลักการมาให้ดูประกอบนะครับ ว่าเรื่องนี้สำนวนบกพร่องตรงไหนบ้าง:

[ใช้คำซ้ำ/ ใช้ประโยคซ้อนประโยคโดยไม่จำเป็น]
- กริชญะที่ฟังเหตุผลที่ดูไร้สาระแต่กลับฟังขึ้นชอบกลจนได้หัวเราะแห้งๆกลับไป
- ลองตัดคำซ้ำ(ที่)ออกไปนะครับ และพอลองแตกประโยคให้เป็นประโยคเดี่ยว จะเห็นว่าอ่านง่ายขึ้น
- แก้เป็น: เหตุผลนี้ดูไร้สาระ แต่กลับฟังขึ้นชอบกล กริชญะได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไป

[ใช้คำซ้ำ(คำว่า 'ทำไม')]
- ถ้านายหวงรถขนาดนี้แล้วทำไมตอนเจอกันทำไมนายถึงตกมาจากฟ้า

[จัดย่อหน้าไม่ถูกต้อง ทำให้สับสนว่าใครเป็นผู้พูด]
- "ก็ตอนนั้นฉันเพิ่งบินข้ามอ่าวไทยมา นายจะให้ฉันขี่ลูกรักฝ่าน้ำทะเลมาหรือไง นายโง่หรือบ้ากันเนี่ย?" กริชญะได้แต่หลับตาอย่างอดกลั้นที่โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเรนัสทำให้เถียงอะไรไม่ได้ --->ตรงนี้คำพูดเรนัส แต่พอพูดจบดันเอากริชญะตามหลัง ทำให้เข้าใจว่ากริชญะเป็นคนพูด

"แต่อย่างนี้ก็สบายเลยล่ะสิ อยากได้อะไรก็เสกออกมาได้ถึงจะไม่ใช่ผู้วิเศษแต่แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว" แต่เรนัสที่ได้ยินกลับส่ายหน้าช้าๆ... ---> เช่นเดียวกัน ตรงนี้กริชญะพูด แต่กลับเอาเรนัสตามหลัง ทำให้เข้าใจว่าเรนัสเป็นคนพูด

- แก้โดยการจัดย่อหน้าใหม่:
"ก็ตอนนั้นฉันเพิ่งบินข้ามอ่าวไทยมา นายจะให้ฉันขี่ลูกรักฝ่าน้ำทะเลมาหรือไง นายโง่หรือบ้านกันเนี่ย?"

กริชญะได้แต่หลับตาอย่างอดกลั้นที่โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเรนัสทำให้เถียงอะไรไม่ได้ "แต่อย่างนี้ก็สบายเลยล่ะสิ อยากได้อะไรก็เสกออกมาได้ถึงจะไม่ใช่ผู้วิเศษแต่แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว" กริชญะพูดต่อ

แต่เรนัสที่ได้ยินกลับส่ายหน้าช้าๆ...

[ใช้คำผิดความหมาย]
- คลางในลำคอ ---> แบบนี้คือ 'คลางแคลงใจ'
- แก้เป็น: ครางในลำคอ

ปล.ต้องขออภัยนะครับ หากคอมเมนท์ละเอียดไป แต่หวังจากใจเลยว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักเขียนเองไม่มากก็น้อย > <

ดาวิษ ชาญชัยวานิช

Comment จากกรรมการ

#2 กองบรรณาธิการสนพ. Enter Books

สวัสดีคร้าบ~

ยิ่งกว่าสงครามนางฟ้าก็สงครามกามเทพนี่แหละ เป็นกามเทพที่ฮาร์ดคอร์มาก ส่วนศรแห่งรักก็ช่าง...เอาเป็นว่าเรื่องนี้ถูกใจเฮียมว๊ากกกกก! ยิ่งบทล่าสุดนี่ยิ่งมันส์ปนฮา ทั้งปืนทั้งดาบซามูไร สารพัดอาวุธ งัดมาทั้งคลังแสง สนุกถึงใจมากครับ ไอเดียดีละเกิน ขอให้เข้ารอบนะครับ เฮียรออ่านอยู่!

นี่เฮียเอง

ความคิดเห็นล่าสุด

Page 1 of 2 1 2
  • ความคิดเห็นที่ 24

    Amélie
    • Name : Amélie < My.iD > [IP] 58.8.208.133
    • 31 มีนาคม 2559 / 12:28
    มาอ่านแล้วนะเรนัส คนที่บอกมาสคอตไม่ให้ปลดระเบิดนิวเคลียร์ 55
    อยากรู้จังเลยว่าหนุ่มอ้วนจะสมหวังกับสาวสวยยังไง
    แต่ชอบฉากที่กริชญะหันมาคุยกับคนอ่านนะคะ 
    คำผิดยังมีอยู่บ้างเน้อ แต่เราอาจจะเห็นไม่ชัด
    รู้สึกได้เลยว่าพี่เทียนชอบพวกอาวุธกับพวกมอเตอร์ไซค์ 555 

    ปล. มาสคอตฝากไปบอกเรนัสด้วยนะ ระเบิดนิวเคลียร์ ร้อนมาก
  • ความคิดเห็นที่ 23

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 202.28.118.120
    • 31 มีนาคม 2559 / 08:18
    ขอบคุณพี่ดาวิษมากๆๆ เลยครับ

    ละเอียดๆ อย่างนี้ล่ะครับที่ชอบ

    กำลังกังวลกับสำนวนตัวเองอยู่พอดีว่ามันเป็นยังไงบ้าง

    ถ้าสะดวกคงต้องขอรบกวนส่งหลังไมด์แบบจัดเต็มมาให้เลยล่ะครับงานนี้

    ขอบคุณครับ
  • ความคิดเห็นที่ 22

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.241.235
    • 31 มีนาคม 2559 / 05:09
    บทนี้อธิบายเกี่ยวกับระบบของนิยายเรื่องนี้ โผล่มาในจังหวะที่เหมาะสมแล้วคับ
    คอมเมนท์ครั้งสุดท้ายนี้ อยากจะฝากในจุดที่ละเอียดอ่อนที่สุด
    นั่นคือสำนวนการเขียนคับ
    (ปล. พยายามโพสต์คอมเมนท์เกือบชั่วโมงแล้ว แต่ไม่ผ่าน คงเพราะยาวไป T T
    พยายามตัดแล้วตัดอีกก็ยังไม่ผ่านครับ เพราะงั้นคงต้องตัดทิ้งไปเยอะ
    อย่างไร ถ้ามีโอกาสจะส่งเวอร์ชั่นเต็มให้ทางหลังไมค์นะครับ)

    ข้อดีของสำนวนการเขียนเรื่องนี้คืออารมณ์ขันนะคับ
    แต่จุดบกพร่องคืออ่านแล้วให้ความรู้สึกเยิ่นเย้อ

    แต่จะว่าไป ถ้าบก.แก้สำนวนนักเขียนคนไหนด้วย 'ความรู้สึก'
    สุดท้ายงานทุกงานก็จะกลายเป็นสำนวนบก.คนนั้นไปหมดจริงมั้ยครับ

    ดังนั้นจะยกหลักการมาให้ดูประกอบนะครับ ว่าเรื่องนี้สำนวนบกพร่องตรงไหนบ้าง:

    [ใช้คำซ้ำ/ ใช้ประโยคซ้อนประโยคโดยไม่จำเป็น]
    - กริชญะที่ฟังเหตุผลที่ดูไร้สาระแต่กลับฟังขึ้นชอบกลจนได้หัวเราะแห้งๆกลับไป
    - ลองตัดคำซ้ำ(ที่)ออกไปนะครับ และพอลองแตกประโยคให้เป็นประโยคเดี่ยว จะเห็นว่าอ่านง่ายขึ้น
    - แก้เป็น: เหตุผลนี้ดูไร้สาระ แต่กลับฟังขึ้นชอบกล กริชญะได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไป

    [ใช้คำซ้ำ(คำว่า 'ทำไม')]
    - ถ้านายหวงรถขนาดนี้แล้วทำไมตอนเจอกันทำไมนายถึงตกมาจากฟ้า

    [จัดย่อหน้าไม่ถูกต้อง ทำให้สับสนว่าใครเป็นผู้พูด]
    - "ก็ตอนนั้นฉันเพิ่งบินข้ามอ่าวไทยมา นายจะให้ฉันขี่ลูกรักฝ่าน้ำทะเลมาหรือไง นายโง่หรือบ้ากันเนี่ย?" กริชญะได้แต่หลับตาอย่างอดกลั้นที่โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเรนัสทำให้เถียงอะไรไม่ได้ --->ตรงนี้คำพูดเรนัส แต่พอพูดจบดันเอากริชญะตามหลัง ทำให้เข้าใจว่ากริชญะเป็นคนพูด

    "แต่อย่างนี้ก็สบายเลยล่ะสิ อยากได้อะไรก็เสกออกมาได้ถึงจะไม่ใช่ผู้วิเศษแต่แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว" แต่เรนัสที่ได้ยินกลับส่ายหน้าช้าๆ... ---> เช่นเดียวกัน ตรงนี้กริชญะพูด แต่กลับเอาเรนัสตามหลัง ทำให้เข้าใจว่าเรนัสเป็นคนพูด

    - แก้โดยการจัดย่อหน้าใหม่:
    "ก็ตอนนั้นฉันเพิ่งบินข้ามอ่าวไทยมา นายจะให้ฉันขี่ลูกรักฝ่าน้ำทะเลมาหรือไง นายโง่หรือบ้านกันเนี่ย?"

    กริชญะได้แต่หลับตาอย่างอดกลั้นที่โดนอีกฝ่ายหลอกด่าอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาต้องพึ่งพาเรนัสทำให้เถียงอะไรไม่ได้ "แต่อย่างนี้ก็สบายเลยล่ะสิ อยากได้อะไรก็เสกออกมาได้ถึงจะไม่ใช่ผู้วิเศษแต่แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว" กริชญะพูดต่อ

    แต่เรนัสที่ได้ยินกลับส่ายหน้าช้าๆ...

    [ใช้คำผิดความหมาย]
    - คลางในลำคอ ---> แบบนี้คือ 'คลางแคลงใจ'
    - แก้เป็น: ครางในลำคอ

    ปล.ต้องขออภัยนะครับ หากคอมเมนท์ละเอียดไป แต่หวังจากใจเลยว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักเขียนเองไม่มากก็น้อย > <

    ดาวิษ ชาญชัยวานิช
  • ความคิดเห็นที่ 21

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 115.87.130.38
    • 30 มีนาคม 2559 / 22:26
    ขอบคุณลูกฟูกกับพี่ปัฐมากๆ ครับ

    เรื่องรายละเอียดปืนจะนำไปปรับปรุงครับ

    และขอบคูณสำหรับคำชมครับ เอาซะเขินเลย อิอิ

    ขอบคุณลูกฟูก ที่ตรวจคำผิดกับซีรี่คำซ้ำให้มากมาย 

    ซึ่งมันก็เยอะจริงๆ ปล่อยไปก่อนเถอะ ตอนหน้านู้นล่ะ ชื่อมันถึงโผล่มาอ่ะ ชายร่างท้วมน่ะ

    ส่วนเรื่องคำผิด...อ่า ปล่อยไปก่อน ไม่มีข้อแก้ตัว

    แต่ไอ้ "สี่แหล่ม" พิมพ์ไปได้่ยังไงเนี่ย จำได้ว่าอ่านตรงนี้ 2 รอบเห็นเป็น เหลี่ยม น่า

    ทำไมออกมาเป้น สี่แหล่มผืนผ้า...เล่นเอาเงิบเลย 555+

    ขอบคุณทั้งสองคนมากครับบบบ 
  • ความคิดเห็นที่ 20

    Briss
    • Name : Briss < My.iD > [IP] 182.148.26.38
    • 30 มีนาคม 2559 / 22:01
    ภารกิจยิ่งใหญ่มาพร้อมคำผิดที่ยิ่งใหญ่..

    ยอดแลปงศร

    ทรงสี่แหล่มผืนผ้า


    มีความปลื้มปริ่มกับสี่แหล่มผืนผ้ามากอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ 555
    ที่จริงมียิบย่อยที่พิมพ์ตกพิมพ์ผิดเบาๆอยู่ แต่ขี้เกียจแจงแล้วอะ

    ฉากที่ยะหันมาเล่นกับคนอ่านนี่ชอบมาก :) อิอิ
    จริงๆหงุดหงิดตรงชายร่างท้วมร่างยักษ์บ๊อยบ่อย แต่เออ จะแทน เขา ก็มีแต่เด็กหนุ่มเนอะ
    มีชื่อนี่ก็คือดีงามแล้ว
    จบได้แบบค้างคาสุด จะไปตามต่อให้อัพเรื่องนี้จนจบให้ได้!!!

  • ความคิดเห็นที่ 19

    dinn
    • Name : dinn < My.iD > [IP] 171.96.184.106
    • 30 มีนาคม 2559 / 16:39
    พี่ปัฐเองนะครับ ^ ^

    คุณสมบัติที่ดีข้อหนึ่งของการเป็นนักเขียนสามารถแสดงได้ด้วยประโยคที่ว่า "ห้ามเดินผ่านนักเขียนกำลังเขียนนิยาย" หรือพูดก็คือการนำเอาเรื่องต่างๆ ที่พบที่เจอมาเป็นวัตถุดิบในการเขียนนิยายได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติในข้อนี้ไรท์เตอร์ผ่านโลด! เจ๋งมากๆ ที่สามรถนำเอาทุกเรื่อง ที่แม้แต่ประโยคเล็กๆ น้อยๆ บางประโยค ไปจนถึงลักษณะพิเศษต่างๆ  ที่เป็นที่เข้าใจและจดจำได้ง่ายจากเรื่องต่างๆ มาแปลงเป็นนิยายของตัวเองได้ อันนี้เป็นคุณลักษณะที่ดีของนักเขียนที่ควรมีเลยล่ะครับสุดยอดมากๆ (เราอยากแซวเรื่องคำฝากก่อนจากของวายร้ายเกรดบีมักๆ 555)
    เรื่องอาวุธไม่ควรบอกแค่รุ่นสียี่ห้อควรจะบอกลักษณะของมันด้วยอย่างเดียวกับที่ไรท์เตอร์เขียนให้กับรถฮาร์เล่นะครับ ถ้ามันเยอะบอกแค่บางส่วนก็ได้ แต่บอกแค่รุ่นกับยี่ห้อแบบนี้บางคนเขาก็ไม่รู้จักนะครับ ^ ^!! ส่วนที่เหลือนอกจากคำผิดเยอะกว่าเรื่องอื่นๆ เขานา แล้วก็ต้องบอกว่าสนุกมากเลยครับ อ่านรวดเดียวจบอย่างไม่รู้ตัวเลย //โบกป้ายเชียร์ให้เข้ารอบต่อไปจ้า ^ ^v 
  • ความคิดเห็นที่ 18

    LookFook
    • Name : LookFook < My.iD > [IP] 182.149.195.3
    • 24 มีนาคม 2559 / 12:48
    สารภาพซะดีๆว่ารีไรท์ดีแล้ว...

    อ้าปากเหวอ >> เหวอไม่มีอะนะ
    หวอ [หฺวอ] ว. เปิดเป็นช่องเป็นโพรง เช่น นั่งอ้าปากหวอ; ให้สัญญาณเสียงดัง
    เช่นนั้น.

    "ฉันช่วยหมอนั้นต่างหากล่ะ"
    "แถมท่าทางจะไม่เหม็นขี้หน้ากันสุดๆซะด้วยแฮะ" >>ตกลงจะเหม็นขี้หน้ากันมั้ย? 
    "บนทรวงสวรรค์" >> สรวงสวรรค์
    ถอนหายใจย่างปลงตกเท่านั้น
    "นั้นฉันโหลดมาให้นาย..." >> นั่น?
    ตระลอน >> พจนานุกรมไม่มีเป็น "ตะลอน" ไม่มี ร. ครัช
    เรนัสถามออกไปอบ่างยิงตรง..
    "เหตุผลบ้าอะไรฟ่ะนั้น! เดี่ยวนะ..."
    จนเจ้าตัวได้แต่กัดกรอด >> กัดอะไรกรอด?
    ซึ่งจริงๆแล้วนั้นก็แค่หนึ่งในข้ออ้างของ...เท่านั้น
    ไอ้หมอนั้น ไอ้บ้านั้น
    แต่ก็โดนห้ามปราบ >> ห้ามปราม?
    จนคิวปิดที่บืนอยู่ >> ยืน
    รีบแสกดาบ... >> เสก...

    อันที่ไม่ได้เขียนคือซีรีย์ "นั้น" ทีนี้ไม่รู้อะไรยังไง ทำไมเห็นแต่นั้น แต่บางอันควรใช้ "นั่น" มั้ยอะ ในหลายๆประโยค ตรงนี้พี่ต้องระวังอยู่นะ อ่านไปแล้วมันสะดุดแปลกๆ ไอ้หมอนี่ ไอ้หมอนั่น ไอ้หมอนั้น ไอ้หมอโน้นนน ว่ากันไปครัช

    อ่านไปอ่านมาสรุปใจความได้ว่าผู้หญิงเป็นแค่ตัวประกอบ
    เรื่องนี้นี่สงครามเด็กหนุ่มชัดๆ
  • ความคิดเห็นที่ 17

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 202.28.118.120
    • 24 มีนาคม 2559 / 08:43
    ขอบคุณพี่ดาวิษครับ

    เดี่ยวจะนำคำแนะนำไปเป็นการบ้านครับ
  • ความคิดเห็นที่ 16

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.246.110
    • 24 มีนาคม 2559 / 01:03
    บทนี้ชอบตรงมีฟิวเสียดสีสังคมหน่อยๆนะคับ
    อย่างเช่นเป็นกามเทพอยู่ยากขึ้นทุกวัน เพราะต้องทำยอด
    ไม่ต่างอะไรจากสาวแบงก์หลังเคาท์เตอร์
    ที่ต้องพยายามทำยอดขายประกันหรือเงินฝาก

    เรื่องนี้มี action ที่ให้อารมณ์แปลกดี และกวนๆนิดนึง
    แต่จุดสำคัญของเรื่องราวต่อสู้ทุกเรื่องนะครับ อยู่ตรงที่
    การแพ้ชนะต้องมีหลักการและเหตุผลรองรับ
    อย่างเช่นกามเทพสองตน ตนไหนจะใช้อาวุธได้หลากหลายแค่ไหน
    มีพลานุภาพแค่ไหน ต้องมีหลักการรองรับด้วย
    จะทำให้การต่อสู้สนุกยิ่งขึ้น

    นึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างนะคับ
    ยุคหลังๆมานี้ การ์ตูนญี่ปุ่นสู้กันแบบไม่มีหลักการรองรับซักเท่าไหร่
    เหมือนกับว่าพอโกรธก้อเบ่งพลัง พอแค้นมากๆก้อพลังแฝงตื่น
    กลายเป็นว่าตัวละครที่เก่งที่สุด คือตัวละครที่ขี้โมโหที่สุด
    การ์ตูนต่อสู้ยุคปัจจุบันถึงสู้การ์ตูนต่อสู้ยุคก่อนๆไม่ได้ ซึ่งเค้ารีเสิร์ชและคิดกันมาหนักมาก ว่าจะให้ต่อสู้กันยังไง

    หวังว่าจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ในบทต่อๆไปนะครับ > <

    ดาวิษ ชาญชัยวานิช
  • ความคิดเห็นที่ 14

    LookFook
    • Name : LookFook < My.iD > [IP] 182.149.207.19
    • 19 มีนาคม 2559 / 16:00
    คำผิดคำตกอะไรก็ยังมาเรื่อยๆ ฮาา
    คือตอนนี้เหมือนโชว์อาวุธมาก แต่มาแต่ชื่อกับลักษณะนะ :P
    อืมมม จริงๆแอบรู้สึกว่างานนัดบอดเนี่ยตัวตั้งตัวดีคือกามเทพมั้ย ทำไมมันเอื้อให้ทำงานเยอะแยะขนาดนี้

    เออ แล้วกริชญะไม่ปิ๊งใครบ้างเหรออออ
  • ความคิดเห็นที่ 13

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 115.87.130.38
    • 18 มีนาคม 2559 / 11:01
    ขอบคุณพี่ดาวิษครับ

    ถ้าพี่และคนอ่านสนุกและขำไปเรนัสได้ ผมก็ปลื้มใจล่ะ 555+

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

    เดี่ยวจะลองสอดแทรกดูครับ 

    @ฟูจิ พี่ไม่ได้ช่ำชองเรื่องนัดบอดอะไรเลยน่าาาาา จริงจริ้งงงงง

    เดี่ยวจะหาทางให้เรนัสทำลายอีกหลายๆ รอบ กำแพงที่ 4 เนี่ย อิอิ
  • ความคิดเห็นที่ 12

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.245.138
    • 17 มีนาคม 2559 / 21:49
    55 สนุกดีครับ
    นั่งอ่านละก็ขำอยู่หน้าคอมฯ
    เพียงแต่ขอเสริมนิดนึงครับ
    ณ จุดนี้ยังดูเหมือนอาวุธทุกชนิด ให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน
    ความจริงแล้ว... เรายังแทบไม่เห็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการแผลงศรด้วยอาวุธแต่ละแบบเลยมากกว่า
    เห็นแต่ภาพกามเทพสองตนออกมาระดมยิงอย่างเดียว
    ไม่เห็นว่าคนที่โดนยิงไปละเป็นยังไงบ้าง

    ตอนอ่านแล้วอยากเห็นครับว่าอาวุธชนิดไหนส่งผลต่อผู้โดนยิงยังไง
    มันน่าจะสนุกดี
    เผลอๆคนเขียนอาจคิดเอาไว้แล้วก็ได้
    จะรออ่านตอนต่อๆไปนะครับ XD
  • ความคิดเห็นที่ 11

    Amélie
    • Name : Amélie < My.iD > [IP] 58.11.79.164
    • 17 มีนาคม 2559 / 01:30
    คอระเบิดและขีปนาวุธมาตามอ่านแล้วนะคะ
    พี่เทียนหลงนี่ดูช่ำชองการนัดบอดนะคะ 555

    มีการทำลายกำแพงที่สี่ในเรื่องด้วย (ตอนลิขสิทธิ์การ์ตูนญี่ปุ่น)
  • ความคิดเห็นที่ 10

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.247.251
    • 10 มีนาคม 2559 / 00:21
    เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกสนุกได้ง่ายดีคับ > <

    ดาวิษ ชาญชัยวานิช
  • ความคิดเห็นที่ 9

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 27.145.171.100
    • 9 มีนาคม 2559 / 21:40
    คำผิดเยอะจริงๆ ด้วยยยยยยยยย

    ตอนตรวจอ่ะหาไม่เจอ

    พออัพเท่านั้นล่ะ เพียบบบบบบบ
  • ความคิดเห็นที่ 8

    LookFook
    • Name : LookFook < My.iD > [IP] 182.149.206.225
    • 9 มีนาคม 2559 / 21:00
    ยอมในความฮาละมุขต่างๆที่พยายามาเหลือเกิน วัยสะรุ่นสุด
    แต่ความอินนั้นก็เพราะมันร่วมสมัยเลยเข้าใจง่ายนี่แหละ
    แต่ว่า...

    แต่นแต๊นนนน

    ร้านสะดวดซื้อ >> ขำแรงมากกกก
    ชายร่างท้วมกับซีรีย์อกด้านซ้าย >> ชื่อตอนใหม่ยกให้ ไม่มีคำอื่นแทนชายร่างท้วมจริงๆเหรอพี่ แล้วก็อกด้านซ้าย อกข้างซ้ายติดกันสามสี่อันเลยอะ อกเฉยๆก็ได้ นัดแรกก็รู้แล้วว่าด้านซ้ายยยยยย
    ใช้มือลูบคล้ำร่างกาย >> คือพี่ไม่ฮาแค่เรื่องใช่มะ คำผิดพี่ก็ฮาาาา
    อยู่สูงไปหลายพันเมตรได้ล่ะมั่ง >> ล่ะมั้ง? อ่านปุ๊บนึกถึงละมั่ง เลียงผา...
    หลายๆอย่างที่เริ่มมาปะติปะต่อ >> ปะติดปะต่อ?
    ฉันล่ะน่าเบื่อจริงๆ พวกทิฐิสูงเนี่ย >> ฉันล่ะเบื่อจริงๆ?
    เอาเถอะเห็นมนุษย์ตาดำๆ >> เห็นแก่?
    เอางี้ล่ะกัน >> เอางี้ละกัน?

    ยอมกับนัดบอดจริงๆ....
  • ความคิดเห็นที่ 7

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 27.145.172.111
    • 6 มีนาคม 2559 / 13:28
    ขอบคุณเฮียออกับพี่ปัฐมากครับบบบบ
  • ความคิดเห็นที่ 6

    bodin Intrararujikul
    • Name : bodin Intrararujikul [IP] 171.96.182.132
    • 5 มีนาคม 2559 / 10:18
    พี่ปัฐเองนะครับ ^ ^ เราเลิกกันเถอะ ...เปิดเรื่องมาก็กรีดเชือดหัวใจคนโสดอย่างเราเลยนะครับ แหม!! 5555 แหม เรื่องนี้ ฮาไม่บันยะบันยังจริงๆ แฮะ ตอนแรกแอบงงเล็กน้อย แต่พออ่านทั้งหมดก็เข้าใจได้ครับ ^ ^ ว่าแต่ ตัดจบได้ดีมากเลยนะครับเนี่ย เล่นเอาอยากอ่านต่อตอนต่อไปเร็วๆ เลย อยากรู้ชะมัดว่ายิงใครกันนะ ^ ^!!
  • ความคิดเห็นที่ 5

    ^AutumN^ท่านชายในฤดูใบไม้ร่วง^
    • Name : ^AutumN^ท่านชายในฤดูใบไม้ร่วง^ < My.iD > [IP] 27.55.72.131
    • 2 มีนาคม 2559 / 19:43
    แวะมาเยี่ยม นิยายออกเนื้อหาน่าติดตามดี ดำเนินเรื่องได้โอเค แม้บางตอนจะมึนๆสักนิด 
    สู้ต่อไป เทียนหลงชิ 
Page 1 of 2 1 2

เข้าสู่ระบบด้วย Dek-D ID

เข้าสู่ระบบด้วย Social Network

คลิกที่นี่
แสดงความคิดเห็น
ชื่อ Email รูปตัวแทน

โปรดใส่รหัสตามรูป