EN14 Time Trip : Zodiac Theme

เมื่อสมาชิกผู้เป็นตัวแทนของแต่ละราศี ต้องเข้ามาแข่งขันเกมไหวพริบ โดยมีเป้าหมายคือเดินทางข้ามเวลาไปทำสิ่งที่อยากทำ พวกเขาต้องชิงไหวชิงพริบ และทำทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่การหักหลังเพื่อนร่วมทีม!

ผู้แต่ง

Pacemaker

0%

ตอนที่ 4/5 : ก่อนออกจากการแข่งขัน



ตอนที่ 4

ก่อนออกจากการแข่งขัน


 

หมดเวลาสนุกแล้ว...

ฟอราสหันไปมองไพมอนด้วยความตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถรักษาความสง่างามของราชสีห์ไว้ได้ เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีตัวแถมที่อยู่เหนือการคาดการณ์โผล่มาแบบนี้

แถมโผล่มาทีตั้งสองคนซะด้วย!

ตอนแรกก็กะว่าจะมาลองฝีมือเล่นๆ เฉยๆ แต่ถ้าสถานการณเป็นแบบนี้... ก็คงต้องจบการเล่นให้ไวแล้วหาทางหนีก่อนจะพลาด บอกตรงๆ คำพูดของไอม์ทำให้เขาคิดได้ขึ้นมา

เข้าเกมมาไม่ถึงชั่วโมง ถ้าโดนกำจัดออกก่อนนี่ไม่รู้จะกลับไปหาพ่อแม่พี่น้องยังไงเลยเนี่ย คงจะโดนทั้งวงตระกูลรุมประณามแน่ๆ แค่คิดก็ทนไม่ได้แล้ว!

ฟอราสกระตุกยิ้มกวนๆ แบบที่ชอบทำมาตลอด แสร้งมองทั้งสามคนที่ล้อมรอบตัวเขาอย่างประเมิน แต่ความจริงแล้วก็เพื่อหาที่จะช่องโหว่หลบออกไปต่าหาก! แต่ก็อย่างว่าระดับความเร็วอย่างเขาต่อให้ไม่มีช่องโหว่ ถ้าจะไปก็ไปได้อยู่ดี

“โห กำจัดคนคนเดียว ยกกันมาทั้งทีมเลยแฮะ” ฟอราสลูบท้ายทอยเล็กน้อย เป็นจังหวะเดียวกับที่ลีโอกลับมายืนข้างๆ เขา “มีคำใบ้กำจัดฉันแล้วใช่ไหม?”

“คิดว่าไงล่ะ” ไพมอนเป็นคนตอบก่อนจะยิ้มน้อยๆ

มันเป็นรอยยิ้มที่ต่างจากฟอราส เพราะปกติฟอราสนั้นจะยิ้มด้วยสีหน้ากวนๆ ไม่ค่อยมีอะไรแอบแฝง ในขณะที่ไพมอนจะยิ้มด้วยรอยยิ้มอบอุ่น แต่ถ้ารู้เบื้องลึกเบื้องหลังอย่างที่มาร์บัสเผชิญก็จะรู้ทันทีเลยว่า... รอยยิ้มพวกนี้มันโคตรจะเสแสร้ง!

พูดง่ายๆ ก็คือรอยยิ้มปีศาจชัดๆ!

“ถ้าจากสีหน้าของพวกนายในตอนนี้ก็เดาได้ไม่ยาก...” ตัวแทนราศรีสิงห์หัวเราะ “เอาสิ เข้ามาจัดการฉันเลย ฉันไม่สู้แล้ว ขี้เกียจเดินไปเดินมาในป่านี่แล้วเหมือนกัน”

ฟอราสพาลีโอเดินเข้าไปหาไพมอนราวกับว่าต้องการท้าทายเต็มที่ แต่แทนที่ไพมอนจะจัดการฟอราสอย่างที่ควรจะทำ เขากลับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง พลางมองเจ้าเด็กมาร์บัสเดินไปหยิบธนูที่ตกอยู่ข้างๆ มายื่นให้ซาจิ  

“แค่นายกำจัดลีโอตรงจุดอ่อน ฉันก็ออกจากเกมง่ายๆ”

“...”

“เอ้าเร็วๆ ถ้าไม่กำจัดตอนนี้ แล้วฉันหนีไปได้นี่รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ฟอราสเร่งเมื่อเห็นว่าไพมอนนิ่งเงียบไปนาน...มาก เจ้าเด็กมาร์บัสจึงมองไพมอนอย่างมีคำถามในใจ

เขาไม่รู้ว่าในใจไพมอนกำลังคิดอะไรอยู่ ตั้งแต่ตอนที่เห็นพี่ซีเรถูกทำร้าย ต่อให้ต้องวางแผนแต่ด้วยสัญชาตญาณของทีมเดียวกันก็น่าจะรีบเข้าไปช่วย หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรจะยืนดูด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนแบบนั้น ยิ่งเห็นท่าทางของไพมอนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ยิ่งชัดเจนจนไม่รู้จะชัดเจนยังไง

สถานการณ์ตอนนี้สรุปได้อย่างเดียว ... ไพมอนกำลังวางแผนอะไรซักอย่าง ถ้าให้เดาก็น่าจะเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบในเกมสุดท้ายที่ไม่ได้รวมทีมกันแน่ๆ!

“พี่ไพมอน! พี่คิดอะไรอยู่รีบจัดการซักทีสิ!

เด็กหนุ่มตัวแทนราศีธนูที่ยืนอยู่อีกด้านตะโกนขึ้นเพื่อเตือนสติ แต่เมื่อเห็นไพมอนยังไม่ทำอะไรเจ้านั่นก็เริ่มหงุดหงิดตามประสาคนไม่คิดหน้าคิดหลัง

“ถ้างั้นพี่ก็หลบไป!

มาร์บัสหันไปหาซาจิ

“เราจะชนะถ้าทำให้สิงโตตัวนั้นหมดสภาพที่จะต่อสู้ ซาจิ ยิงธนูออกไปเลย!

ซาจิพยักหน้าก่อนจะง้างธนูขึ้นแล้วยิงออกไปตามที่คู่หูของเขาต้องการ!



 

ทำยังไงดีๆๆ

ไอม์ที่แอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่มองดูลีโอสิงโตของกระโดดหลบลูกธนูนั้นอย่างฉิวเฉียด ทุกอย่างมันผิดแผนไปหมด ฟอราสแค่อยากจะลองความสามารถผู้หญิงคนนั้น แต่ดันมีตัวแถมที่โผล่มาโคตรจะผิดจังหวะ...

หญิงสาวเดินวนไปวนมาอย่างกระสับกระส่าย ตอนแรกก็ว่าจะเข้าไปช่วยตามประสาคนอยากลุยบ้าง แต่จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีอะไรบางอย่างที่เก็บซ่อนไว้อยู่!

ไอม์หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งเป็นคำใบ้จุดอ่อนของทอรัสออกมา เธอบังเอิญไปได้มาก่อนเดินจะมาเจอกับฟอราสไม่นาน นัยน์ตากวาดมองข้อความปริศนาที่ตัวเองยังแก้ไม่ออก...

062606

“คำใบ้บ้าอะไรวะ” ไอม์สบถอย่างอารมณ์เสีย เธอต้องถอดคำใบ้นั้นออกมา แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่าเธอเกลียดการถอดรหัสแบบนี้ที่สุด นิสัยของเธอคือซัดให้แหลก ไม่ใช่สายที่ต้องมาใช้สมองแบบนี้

ทำไม่ได้แล้วก็ไม่ถนัดด้วย!

“เวอร์โก” ในที่สุดก็ทนไม่ไหว สาวเจ้าเรียกตัวเทพประจำราศีกันย์ออกมา ไม่นานร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

“มาแล้วค่ะ นายท่าน”

เทพประจำราศีกันย์คนนี้มีความสามารถคือล่องหนได้ ตอนเดินอยู่กับฟอราส ไอม์จึงสั่งให้เวอร์โกล่องหนไว้ เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่รู้ว่าเธอนั้นมีผู้ช่วย หรือไม่ก็ให้คนอื่นงงเล่นๆ ว่าเธอนั้นเป็นตัวแทนของราศีอะไร อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาได้ระยะนึง

 “เธอถอดรหัสนี่ได้ไหม” ไอม์ยื่นกระดาษแผ่นนั้นไปตรงหน้าเวอร์โก แต่แค่กวาดตาเทพประจำราศีกันย์ก็ส่ายหัวอย่างไม่ทันจะได้คิดเลยด้วยซ้ำ

“เวอร์โกสวยอย่างเดียวค่ะ เรื่องแบบนี้เวอร์โกไม่ถนัด” เวอร์โกพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ แต่ไอม์กลับเบ้ปากส่ายหัวอย่างปลงๆ

เธอชะโงกหน้าไปมองยังลานประลองที่ตอนนี้ลีโอกับฟอราสกระโดดหลบอย่างเมามันส์ เธอพลางคิดด้วยความสงสัย ความสามารถไอ้หมอนี่ถ้าจะหลบก็หลบออกมาได้อย่างง่ายๆ ไม่ใช่หรือไงกัน

แต่ดูมันสิ นอกจากจะไม่หนีแล้วยังไปกระโดดหลบเหยงๆ รากกับว่าสนุกสนานซะเต็มประดา

คือมันน่าช่วยไหมเนี่ย

“เวอร์โก เธอจับพิกัดของอีกสองคนในทีมได้ไหม เรลาเจกับเซพาร์น่ะ”

“รอซักครู่นะเจ้าคะ” เวอร์โกหลับตาเพื่อที่จะจับตำแหน่งของทั้งสองคนที่เหลือ เอาจริงๆ เธอว่าเธอควรจะไปหาใครในสองคนนั้น อย่างน้อยก็ได้วางแผนกันใหม่ เพราะก่อนจะเริ่มเกมพวกเธอไม่ได้คุยอะไรกันเลย พวกนั้นมันเอาแต่นอน นอน แล้วก็นอน

ตอนนี้ก็น่าจะตื่นตัวกันบ้างแล้ว... มั้งนะ

“ท่านเรลาเจอยู่ที่ชายป่าด้านทิศตะวันตกเจ้าค่ะ ห่างจากเราประมาณสิบกิโลเมตรเห็นจะได้ ส่วนท่านเซพาร์อยู่ทางทิศใต้ ระยะห่างไม่ค่อยแน่ใจเจ้าค่ะนายท่าน”

“แล้วใครอยู่ใกล้เราที่สุดตอนนี้”

“ท่านฟอราสเจ้าค่ะ” เวอร์โกตอบด้วยน้ำเสียงใสซื่อ แอบสงสัยเล็กๆ ว่าไอม์จะถามไปทำไม

“ฉันหมายถึงสองคนนั้นสิ ไม่ใช่เจ้าบ้านั่น”

“อ้อ” เวอร์โกพยักหน้ารับรู้ “จริงๆ ท่านเซพาร์อยู่ใกล้กว่าเจ้าค่ะ แต่พิกัดค่อนข้างคลุมเครือน่าจะเป็นเพราะความสามารถพิเศษของอควาเทพประจำราศีกุมภ์เลยจับพิกัดไม่ได้”

ไอ้นู่นก็ไกล ไอ้นี่ก็จับพิกัดไม่ได้ ไอม์เดินวนไปวนมาอย่างครุ่นคิด ใจจริงอยากไปหาเรลาเจแบบที่ฟอราสเคยบอกไว้ตอนแรก แต่สิบกิโลนี่ก็ไกลไป! ฟอราสมันตายก่อนพอดี

เอาไว้รอได้เจ้าสิงโตขี้เก๊กนั่นออกจากเกมก่อนแล้วค่อยพิจารณาทางเลือกนี้อีกที

เวอร์โกเมื่อเห็นไอม์ขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียดก็เลยลองเสนอทางออกให้

“แต่ถ้าอยากเจอท่านเซพาร์ เวอร์โกติดต่อกับอควาให้ได้นะเจ้าคะ...” ถ้าเธอมองไม่ผิด แอบเห็นดวงตาของเวอร์โกเป็นรูปหัวใจตอนที่พูดถึงชื่ออควาอะไรนั่นด้วยแหละ “จริงๆ แล้วอควาเป็นแฟนกับเวอร์โก คนรักกันย่อมจิตใจสื่อถึงกันได้เหมือนกับที่นายหญิงสื่อใจกับท่านฟอราสได้ไงเจ้าคะ”

ตอนแรกก็ว่าจะซึ้งให้อยู่หรอก แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายนี่มันทะแม่งๆ อยู่นะ

“ฉันไปสื่อกับไอ้บ้านั่นได้ตอนไหนกันฮะ!

“ชู่วววว เบาๆ สิคะนายหญิง เดี๋ยวฝั่งนั้นได้ยิน” เวอร์โกทำท่าชู่ปาก ไอม์จึงทำท่าเชือดคอใส่เวอร์โก แล้วกำชับว่าไม่ให้พูดแบบนี้อีก

ฟังครั้งเดียวก็ขนลุกจะแย่

“ถ้างั้นเธอเอาคำใบ้นี้ถามสุดที่รักเธอสิ เผื่อจะแก้ปัญหาได้”

เวอร์โกยกกำไลข้อมือขึ้นให้อยู่ตรงระดับหน้ามันเลยส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งออกมาเบาๆ เทพประจำราศีกันย์ถอดมันออกมา หลับตาแล้วพึมพำอะไรบางอย่าง ไม่นานเสียงซ่าๆ เหมือนคลื่นวิทยุก็ดังออกมาจากกำไลนั่น ตามมาด้วยเสียงไพเราะของผู้ชายคนหนึ่ง

[คิดถึงเธอ...แทบขาดใจ...ใครจะรู้

เธอนั้นอยู่... แห่งหนใด... จะไปหา

ต่อให้ใกล้...หรือแสนไกล...ไกลลับตา

อยากบอกว่า... ลาก่อนนะ... สวัสดี...]

“ยังไม่ทันคุยกันเลย จะรีบลาไปไหนกันฮะ!” ไอม์โวยวายขึ้นทันที เธอไม่รู้หรอกว่าไอ้คนที่พูดกลอนเสล่อๆ นี่เป็นใคร รู้แต่ว่าถ้าอยู่ใกล้ๆ เธอจะยกฉายาเสี่ยวเสล่อให้อย่างไม่ลังเล

[นั่นไม่ใช่... เสียงเวอร์โก... คนน่ารัก

น่าจะเป็น... คนน่าหัก... ใช่ไหมนี่...]

ไอม์กำมือแน่น

“อยู่ใกล้ๆ ... จะกระทืบ... จมธรณี

ไอ้ตัวดี... หยุดร่ายกลอนก่อนจะโดนกระทืบตาย”

“กลอนนั้นไม่ถูกหลักนะนายท่าน” เวอร์โกรีบยกมือค้านอย่างต้องการทวงความถูกต้องเต็มที่ เออ เอาเข้าไป ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าทำไมเวอร์โกถึงไปชอบคนพรรค์นั้นแต่ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว... คนไม่เหมือนกัน มันจะไปชอบกันได้ยังไง!

“ช่างมันเถอะ นายคืออควาเทพประจำราศีกุมภ์ใช่ไหม” ไอม์ตัดบทก่อนที่ความไร้สาระจะดำเนินไปมากกว่านี้ “ฉันไอม์นะ เซพาร์อยู่ข้างๆ นายหรือเปล่า”

[กระผมนั้น... เทพแห่งกุมภ์... คนรูปหล่อ...

เอามานี่ เดี๋ยวฉันคุยเอง นายไปนั่งไกลๆ ตรงนู่นเลย อุดหม้อน้ำของตัวเองไว้ด้วยนะ]

ยังไม่ทันที่กลอนจะร่ายจบ เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่เดาว่าน่าจะเป็นเซพาร์ขัดขึ้น และดูเหมือนว่าจะแย่งอุปกรณ์สื่อสารกับอควาอยู่ซักพัก ไม่นานเสียงเซพาร์ก็ดังออกมา

[พึ่งรู้ว่าสื่อสารกันแบบนี้ได้ด้วย]

“จริงๆ ก็ได้แค่ฉันกับเธอนี่แหละ บังเอิญที่เทพประจำราศีของเราสองคนดันเป็นแฟนกันก็เลยติดต่อกันได้” ไอม์อธิบายสั้นๆ ก่อนจะเขาเรื่อง “ตอนนี้เธออยู่ไหน”

[นอนอยู่ซักที่ในป่านี่แหละ หลงทางมาแล้วขี้เกียจเดินต่อน่ะ มีอะไรหรือเปล่า] เซพาร์พูดด้วยน้ำเสียงติดจะสบายๆ

ไอม์หัวเราะเหมือนกับว่ารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แฝงมาในคำพูดนั้น

ตอนอยู่บนรถไฟเซพาร์มักพูดกับคนอื่นเสมอว่าคำพูดของตัวเองเชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะงั้นให้คิดดีๆ ก่อนจะเชื่ออะไรที่ออกจากปากเธอ แล้วตอนนี้ที่เซพาร์บอกว่านอนอยู่ เธออาจจะไม่ได้กำลังทำอย่างที่บอกก็ได้

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจ เพราะเธอต้องการแก้ปริศนามากกว่ามานั่งระวังเรื่องนู่นนี่นั่น ไอม์ยกกระดาษขึ้นมา “พอดีฉันมีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อยน่ะ”

[อ้อ ว่ามาเลย]

“เธอช่วยถอดรหัสให้ฉันหน่อยได้ไหม เดี๋ยวฉันอ่านให้ฟัง เธอฟังดีๆ นะ”

เมื่ออีกฝั่งนึงเงียบ ไอม์ก็เริ่มอ่านข้อความนั้นทีละตัว

“...0 6 2 6 0 6 มีแค่นี้ พอถอดได้ไหม” ไอม์ถามขึ้น เธอรู้ว่าเซพาร์เป็นคนฉลาด แต่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องแก้ปริศนาจะพึ่งพาได้มากน้อยแค่ไหน

เซพาร์เงียบไปประมาณอึดใจเธอก็พูดขึ้นมาว่า...

[EYE...]

“ฮะ? ว่าไงนะ”

[EYE น่าจะหมายถึงตา...]

“เดี๋ยวนะ เธอแปลยังไงวะ” ไอม์เกาหัวอย่างงงๆ ก่อนจะก้มดูตัวเลขนั้นแต่คิดไม่ออกว่ามันไปแปลเป็นตาได้ยังไง สมควรแล้วไหมที่เธอสอบตกบ่อยๆ เนี่ย

[มันเป็นรหัสพื้นฐานที่ใช้กันบ่อยๆ ตัวเลขที่ให้มาถ้าแยกทีละสองตัวจะเป็น 06 26 แล้วก็ 06 รหัสนี้ถ้าแปลเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษก็จะได้เป็น... FZF ซึ่งมันไม่มีความหมายใช่ไหม...]

“ใช่” ไอม์ตอบ “ฉันลองถอดก็ได้ตัวนี้แหละ เลยงง”

[ที่งงเพราะมันยังมีรหัสซ้อนอยู่อีกชั้นหนึ่งน่ะสิ] ไอม์ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป รอให้เซพาร์พูดต่อ [...วิธีแก้อันนี้ก็คือเลื่อนตัวอักษรไปข้างหน้าหนึ่งตัว อย่างก่อนหน้าตัว F ก็คือ E พอเลื่อนครบสามตัวจะได้เป็น...]

“... EYE แปลว่าตา โอเคเข้าใจแล้ว ขอบใจมากนะเซพาร์” ไอม์รีบรวบรัด

[ว่าแต่รหัสนี้คืออะไรเหรอไอม์]

ทันทีที่เซพาร์ถามไอม์ก็หันไปมองที่ฟอราสในลานประลอง

“มันคือ...เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ ตอนนี้สถานการณ์แย่มากเลย เดี๋ยวติดต่อกลับไปอีกที แค่นี้นะ” ไอม์ยื่นกำไลกลับไปให้เวอร์โกแล้วพูดแบบไม่มีเสียงว่าให้ตัดสัญญาณ เวอร์โกขมวดคิ้วแต่ก็ยอมทำตามคำสั่งดีๆ

เธอไม่รู้ว่าเซพาร์กำลังวางแผนทำอะไรรึเปล่า แต่ที่รู้ก็คือผู้หญิงคนนั้นไม่ควรจะรู้อะไรมากมาย ไอม์จึงแกล้งหาเรื่องตัดสัญญาณก่อนที่จะพูดอะไรออกไป

หญิงสาวหันกลับมามองคำใบ้นั้นที่กำลังเลือนหายไป ไม่นานมันก็หลงเหลือเพียงแค่กระดาษเปล่าเพราะเธอแก้ปริศนาสำเร็จแล้ว

 “เวอร์โก! ฉันว่าฉันคิดแผนดีๆ ออกแล้ว”

“แผนอะไรเจ้าคะนายหญิง” เวอร์โกถาม

“ล่องหนเข้าไปหาฟอราสหน่อยได้ไหม เอาจุดอ่อนที่รู้ไปบอกเจ้านั่น แล้วก็บอกด้วยว่า...”



 

“จะจัดการก็จัดการซักทีดิ อย่าเอาแต่ออมมือ โจมตีเฉียดไปเฉียดมาอยู่นั่นแหละ!” ฟอราสโวยหลังจากกระโดดหลบการโจมตีของทอรัสที่หมายจะวิ่งเข้ามาขวิดไปอย่างฉิวเฉียด

“พี่ก็อย่าหลบดิ!” มาร์บัสโวยวายตามประสาเด็ก โจมตีมาตั้งนานก็ยังไม่เห็นโดนซักที พี่ซีเรก็โจมตีได้แค่เฉียดๆ เพราะเท่าที่ดูเธอมีความแข็งแกร่งมากกว่าความว่องไว แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่เขาช้านะ เป็นเพราะสิงโตตัวนั้นมันไวเกินไปต่างหาก!

แล้วดูพี่ไพมอนดิ รายนั้นยิ่งไปใหญ่ ดูเหมือนจะไม่ได้เอาจริงเลยด้วยซ้ำ ไม่งั้นคงไม่สั่งให้เด็กน้อยสองคนนั่นวิ่งไปวิ่งมาเหมือนกับวิ่งเล่นอย่างนั้นหรอก

ชักเริ่มเกลียดพี่คนนี้มาตงิดๆ แล้วสิ!

 “อ้าว ไม่หลบก็โดนดิ” ฟอราสว่าด้วยน้ำเสียงกวนๆ แล้วจู่ๆ เขาก็หยุดอยู่กับที่ ทำท่าเหมือนกับว่าตั้งใจฟังอะไรซักอย่าง “อ๋อๆ ได้ๆ แผนเธอนี่เข้าท่าดีแฮะ ฝากบอกเธอด้วยว่ารอดูความเจ๋งของราชสีห์คนนี้ได้เลย”

“นั่นพี่พูดกับใครน่ะ” มาร์บัสตะโกนถาม

เกลียดชะมัดเวลาที่ตัวเองเหมือนไม่รู้อะไรเลยเนี่ย ปกติกระแสจิตเขาจับข้อมูลของคนอื่นได้เสมอ แต่พอเข้ามาในเกมที่สะกดกลั้นพลังนั้นไว้ ก็เลยโคตรจะอัดอัด

อึดอัด อึดอัด และอึดอัด

“ฮะ? คุยกับใคร ไม่มี๊” ฟอราสแก้ตัวด้วยน้ำเสียงสูงปรี๊ดเกินกว่าเหตุ

จากนั้นเขาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งให้ลีโอเข้าโจมตีซีเรอย่างรวดเร็ว ทว่าซีเรก็กระโดดหลบได้อย่างฉิวเฉียดเหมือนเคย แต่ความเร็วของลีโอก็เร็วพอที่จะฝากรอยแผลเล็กๆ ไว้ที่แขนของคนโดนโจมตีได้

“ซาจิ ยิงหมอนั่นเลย ยิงมันจนกว่าจะโดนนั่นล่ะ”

เสร็จสิ้นคำสั่งซาจิก็ง้างธนูขึ้น ฟอราสได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มชอบใจเพราะการกระทำของมาร์บัสเข้าทางที่เขาต้องการอย่างจัง

ยิงมาเลย ยิงมานี่ แต่ถ้าพลาดขึ้นมาเมื่อไร...

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ

ฟอราสกับลีโอกระโดดหลบพายุธนูที่ถูกยิงมามากมาย พอไม่โดนมาร์บัสก็สั่งให้ซาจิยิงด้วยความเร็วและจำนวนมากขึ้นไปอีก จนถึงจังหวะที่เหมาะฟอราสก็กระโดดเข้าไปหาซีเร!

“ซาจิยิงไปอีก” มาร์บัสสั่งโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่ามีใครอยู่ในรัศมีของพายุธนูนั้นบ้าง

ฟอราสหยุดนิ่งเพื่อรอให้ธนูดอกที่เล็งไว้พุ่งเข้ามาใกล้ จากนั้นเขาก็กระโดดหลบออกไปอีกทาง ทำให้ลูกธนูนั้นพุ่งเข้าไปหาคนข้างหลังแทน!

“ทอรัสหลบ” ซีเรสั่ง แต่ทว่าไม่ทันแล้ว...

ฟึ่บ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความแม่นยำของนักธนูอย่างซาจิ หรือเป็นเพราะความสามารถในการกะระยะของฟอราส ธนูนั่นจึงพุ่งตรงเข้าไป... และปักไปที่ตาของทอรัสเข้าเต็มๆ!

“เจ๋งมากไอ้น้อง”

ฟอราสปรบมือให้มาร์บัสอย่างชื่นชม ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกวนประสาทหันไปมองซีเรก่อนจะยักคิ้ว แต่เขากลับต้องแปลกใจที่มุมปากที่ไม่เคยยิ้มของซีเรกระตุกขึ้น

“นายพลาดแล้ว...”

“...!?”

และวินาทีต่อมา เสียงของระบบก็ดังขึ้นเพื่อให้ทุกชีวิตที่อยู่ ณ ที่นี่ได้ยินพร้อมกัน

 

~ผู้เข้าแข่งขันฟอราส ตัวแทนราศีสิงห์ ออกจากการแข่งขัน!!~

 

~ผู้เข้าแข่งขันฟอราส ตัวแทนราศีสิงห์ ออกจากการแข่งขัน!!~

...!?

หญิงสาวตัวแทนราศีกันย์ขมวดคิ้วอย่างตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงประกาศจากระบบ

มันเป็นไปได้ยังไง ก็เห็นอยู่กับตาว่าทอรัสถูกโจมตี แต่ทำไมซีเรถึงยิ้ม ทำไมทอรัสไม่เป็นอะไร และที่สำคัญทำไมฟอราสถึงออก?

“มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” ไอม์พึมพำพลางขมวดคิ้ว “เวอร์โก ออกมาสิ”

 ทันทีที่ไอม์เรียกร่างกายโปร่งแสงของเวอร์โกก็ปรากฏขึ้นมาทันที แววตาเวอร์โกเต็มไปด้วยความสำนึกผิด พอปรากฏตัวออกมาก็โค้งร้อยแปดสิบองศา ถ้าลงไปคุกเข่ากับพื้นได้ก็คงจะทำไปแล้ว!

“อย่าลงโทษเวอร์โกเลยนะคะนายท่าน เวอร์โกบอกทุกอย่างตามที่นายท่านสั่งแล้วจริงๆ” เวอร์โกเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเทพประจำราศีกันย์มีน้ำตารื้นอยู่ แล้วมันก็ใกล้จะหยดแหมะๆ ถ้าไอม์ไม่ห้ามไว้

“ฉันไม่ได้โทษเธอ แค่จะถามว่าทำไมฟอราสถึงออก”

“อันนี้เวอร์โกก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ อควาน่าจะตอบได้ ให้เวอร์โกถามอควาให้ไหมเจ้าคะ” เวอร์โกปาดน้ำตาทำท่าจะยกกำไลขึ้นมาสื่อสารกับอควาแต่ทว่าไอม์จับข้อมือไว้

ตอนนี้ยังไม่ควรจะติดต่อกับเธอคนนั้น

“ไม่ต้อง ฉันว่าสองคนนั้นท่าทางแปลกๆ บอกไม่ถูกว่ายังไง แต่ความรู้สึกมันบอกว่าไว้ใจไม่ได้” ไอม์พูด เวอร์โกทำท่าไม่เห็นด้วยเพราะเธอรู้จักอควาดี หมอนั่นมันไม่ค่อยคิดอะไร ทำอะไรก็ไม่ค่อยจะได้นอกจากแบกหมอน้ำรั่วๆ ของตัวเองเดินไปเดินมา

“นายท่านหมายถึงท่านเซพาร์หรือคะ”

“จะหมายถึงใครได้ล่ะ” ไอม์ย้อน

“ถ้างั้นนายท่านจะเอายังไงต่อดีเจ้าคะ ท่านฟอราสก็ถูกกำจัดออกจากเกมไปแล้ว” เวอร์โกถามอย่างสงสัย มองไอม์ที่ครุ่นคิดอย่างหนัก ไม่นานเจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้น

“ถ้าเจ้านั่นมันจะซวยขนาดนั้นก็ปล่อยไป ตอนนี้คงต้องวางแผนใหม่...”

“...”

“จากการวิเคราะห์ตอนนี้ คิดว่าเรลาเจน่าจะไว้ใจได้มากกว่าเซพาร์ เพราะงั้นจับพิกัดเรลาเจ เราจะไปตามหาหมอนั่นกัน ต่อให้เป็นสิบกิโลก็จะไป!


 

 ทันทีที่ร่างของฟอราสและลีโอค่อยๆ หายไป สามสมาชิกทีม C ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มองหน้ากัน แต่จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะตอนนี้ทั้งมาร์บัสและไพมอนก็มองหน้าซีเรอย่างมีคำถามเต็มไปหมด

ทั้งๆ ที่ทอรัสโดนโจมตีอย่างนั้น ทำไมถึงกลายเป็นฟอราสที่ออกไปได้!?

“เกิดอะไรขึ้นอ่ะพี่ซีเร ทำไมไอ้เจ้านั่นถึงออก ทั้งๆ ที่วัวนั่นโดนโจมตีแท้ๆ หรือว่ามันโจมตีผิด ก็ไม่น่าใช่ โจมตีผิดก็แค่ไม่ออกจากเกมก็แค่นั้น”

ซีเรได้แต่ถอนหายใจ มาร์บัสเวอร์ชั่นพูดมากได้กลับมาอีกแล้ว

ซีเร หยิบไพ่ใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า พลางยื่นไปให้มาร์บัส เจ้าเด็กนั่นรับมันไปพลิกๆ ดูก่อนจะสังเกตเห็นชื่อของฟอราสที่ถูกเขียนไว้ข้างหลังไพ่

“ฉันบังเอิญไปเจอไพ่ใบนี้มา...”

“...แล้ว?” ไพมอนเลิกคิ้ว

“คู่มือมันบอกว่าเป็นไพ่ Twin สมบัติพิเศษคือถ้าผู้ครอบครองโดนกำจัดคนที่ถูกเขียนชื่อในนั้นจะเป็นคนออกแทน แล้วก็อย่างที่เห็น...”

“หมายความว่าพี่เขียนชื่อราศีสิงห์ลงไป พอพี่ต้องออก คนที่รับแทนถึงเป็นสิงโตนั่น?” มาร์บัสเดา ซีเรจึงพยักหน้าก่อนจะตอบว่า

“ก็หมายความตามนั้น”

“แล้วมีไพ่แบบนี้อีกไหมอ่ะพี่ ผมขอใบนึงๆ”

“คิดว่าของดีจะมีหลายอันเหรอเด็กน้อย” ไพมอนย้อนถามพลางเอ่ยยิ้ม “เอาล่ะ ไหนๆ ก็กำจัดได้คนนึงแล้ว เราก็แยกย้ายกันดีกว่า ฉันว่าสถานการณ์ตอนนี้มันแปลกๆ ชอบกล”

มาร์บัสผู้ซึ่งไม่เคยรับรู้ถึงความผิดปกติใดๆ ขมวดคิ้ว “แปลกยังไงอ่ะพี่ ก็เย็นสบายดีออก”

“ไอ้เย็นน่ะใช่ แต่ไม่สังเกตเหรอว่าทำไมเราถึงมาเจอกันง๊ายง่าย เดินไปเดินมาก็ดันมาอยู่กันเกือบครบทีมซะอย่างนั้น... แถมนอกจากทีม B สองคนก็ไม่เจอใครอีก...”

“...”

“ทีม A น่ะเป็นฝ่ายล่าทีมต่อไปนะ แต่นี่เหมือนจะหายไปจากเกมเลย หรือนายไม่คิดอย่างนั้น?”

“อา ผมคิดก็ได้พี่” มาร์บัสเกาหัวก่อนจะหันไปหาซีเร “ถ้างั้นผมขอแยกย้ายก่อนละกัน เรื่องธนูผมขอคืนนะพี่ พี่เอาไปก็ใช้ไม่ได้หรอก ไปล่ะครับ บายยยย”

ว่าจบไอ้ตัวแสบก็รีบวิ่งไปกระโดดขึ้นหลังของซาจิแล้วทั้งสองก็วิ่งหายไปในความมืด น่าจะเป็นเพราะกลัวจะโดนทรมานร่างกายจากซีเรไม่ก็ไพมอนอีก

พอมาร์บัสจากไป ชายหนุ่มตัวแทนราศีเมถุนก็หันมาถามซีเรด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“เจ็บไหม?”

ซีเรหัวเราะหึ ไม่รู้ว่าคนตรงหน้ามันถามทำไม ถามเพราะเป็นห่วง หรือถามเพราะแค่อยากรู้ แต่เธอคิดว่ามันเป็นอย่างหลังมากกว่า

“ไม่” ซีเรยักไหล่ “เหมือนตรงที่บาดเจ็บมันจะชาๆ น่าจะเป็นเพราะเกมนี้กำหนดให้เป็นแบบนั้น ถ้าเจ็บจริงคงไม่ต่างจากให้คนมาฆ่ากันเอง ว่าไหม?”

ซีเรพูดพลางมองไปที่แสงขาวๆ ข้างหลังไพมอน เธอขมวดคิ้วจ้องมองมันอยู่นานไพมอนจึงหันกลับไปมองบ้าง พอหันไปก็พบว่าแสงสีขาวนั้นค่อยๆ เข้ามาใกล้ มันขยายตัวใหญ่ขึ้นๆ จนในที่สุด

วาบบบบ

แสงสีขาวที่สว่างจ้าก็กินพื้นที่รอบๆ ป่าไปจนหมดสิ้น มันสว่างจนไพมอนและซีเรจำต้องยกมือขึ้นมาปิดตา ไม่งั้นอาจจะมีการตาบอดก่อนจบเกมก็เป็นได้!

ทั้งสองปิดตาอยู่อย่างนั้น

จนกระทั้งรู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบๆ เปลี่ยนแปลงไป เสียงรอบๆ ที่เคยเงียบสงัดตอนนี้กลับถูกแทนที่ไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กของผู้คน ไพมอนจึงลืมตาขึ้นมาอย่างงงๆ

จ้อกแจ้กๆๆ

เบื้องหน้าของเขาเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่เดินขวักไขว่ เขาใช้สองมือขยี้ตาเพื่อให้ปรับโฟกัสภาพได้ ก่อนจะมองไปรอบๆ อย่างสำรวจอีกครั้ง

เอาแล้วไง ป่าไม้ที่เขาเคยได้นอนดูดาวมาพักใหญ่ ตอนนี้กลับกลายมาเขตชุมชนเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เขาเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้าก็พบว่าตอนนี้ไม่มีดวงจันทร์เหมือนเคยๆ

มีก็แต่ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงตรงหัวเขาพอดีเป๊ะ!


 

~ประกาศ เนื่องจากผู้ล่าได้ทำการกำจัดผู้ถูกล่าออกไปจากการแข่งขัน ระบบจึงขอทำการปรับเปลี่ยนสถานที่สำหรับการแข่งขันค่ะ และสถานที่จะถูกเปลี่ยนทุกครั้งที่มีใครออกจากการแข่งขัน ย้ำ และสถานที่จะถูกเปลี่ยนทุกครั้งที่มีใครออกจากการแข่งขัน~

 

ฮะ? อะไรอีกแล้วเนี่ย!

ไพมอนนึกบ่นเกมนี้ในใจ คือจะเปลี่ยนที่แข่งก็เปลี่ยนไป ไม่มีใครว่า แต่ไม่ควรเปลี่ยนจากเที่ยงคืนมาเป็นเที่ยงวันทันทีแบบนี้ ไม่ควรเลย ตอนนี้เขายังแสบตาไม่หายเลยเนี่ย

คิดแล้วก็ขยี้ตาอีกครั้ง

“แสบตาจังเลยฮะลุงงงงงง” เด็กน้อยเจกระตุกชายเสื้อเขายิกๆ ไพมอนจึงมองไปรอบๆ อีกครั้งเพื่อหาซีเรที่เคยยืนอยู่ด้วยกัน

... แต่ก็ไม่มี

“ท่าทางจะโดนจับแยกกันแฮะ...”

“ลุงงง หนูหิวติมอ่ะ” คราวนี้เป็นมินี่ที่กระตุกชายเสื้ออีกข้างของเขา เด็กน้อยมองรถไอติมที่ถูกคนขายไสผ่าน น้ำลายยืดลงไปที่พื้นอย่างน่าเวทนา

ไพมอนเองก็เวทนาเหมือนกัน เวทนาตัวเองที่ทั้งร้อน ทั้งไม่มีเงินแบบนี้!

แถมสายตาของชาวบ้านชาวเมืองที่มองมินี่น้ำลายยืด ก็ช่างเหมือนจะอยากประณามให้เขารู้สึกผิดที่ปล่อยให้เด็กอดอยากซะจนน้ำลายไหลเป็นทางแบบนั้น

แกล้งตายดีไหมวะ?

“เจ มินี่ มาทางนี้เถอะ” ไพมอนทนสายตาของคนรอบข้างไม่ไหวต้องทำอะไรซักอย่าง

เขาจูงเด็กน้อยทั้งสองคนเดินห่างออกมาจากเขตชุมชน ที่นี่มีตึกรามบ้านช่องมากมาย บอกได้เลยว่าทีมผู้ถูกล่าได้เปรียบสุดๆ เพราะมีทั้งที่ซ่อน แถมยังมีผู้คนมากมายคอยช่วยให้พรางตัวง่ายขึ้นแบบนี้อีก ลำบากอีกแล้วสิเนี่ย งานนี้

“ไปดูดาวเหรอฮะลุงงงง”

แดดเปรี้ยงๆ แบบนี้มันมีดาวที่ไหนให้ดูฮะ ไพมอนส่ายหัว

“เปล่า ไปตามหาทีมถูกล่า”

“จะไปกำจัดเหรอฮะ?” เด็กน้อยถามด้วยความใสซื่ออีกครั้ง แต่ไพมอนกลับลูบหัวเด็กน้อยเจ ถ้าไปกำจัดทีมอื่นออกอีกก็รังแต่จะสร้างศัตรูให้ตัวเองโดนตามแก้แค้นตอนเป็นฝ่ายถูกล่าเปล่าๆ

“ไม่ได้ไปกำจัด... ไปตามหาพันธมิตรต่างหาก”

“อ้าว แบบนั้นทำได้เหรอฮะ”

“บางครั้งเพื่อชัยชนะ คนเราก็ต้องเล่นนอกเกมกันบ้าง ไม่งั้นมันจะไปสนุกอะไร ใช่ไหมล่ะ” ไพมอนว่าก่อนจะออกเดินอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กน้อยที่ดังไปตลอดทาง

ทางที่ไม่รู้จะพาให้เขาไปเจอใคร...

แต่ที่รู้ก็คือ... เขาต้องเดินต่อไป แล้วเมื่อถึงเวลาก็คงจะได้คำตอบเอง...

 

( จบตอน )

 

 

 

@ถ่ายทอดสด

“เอาล่ะครับ ตอนนี้เกมเริ่มพลิกผันไปอย่างไม่น่าเชื่อ ราชสีห์ผู้เก่งกล้าโดนตลบหลังให้ออกซะอย่างนั้น เข้าเกมไปยังไม่ถึงชั่วโมง แถมยังมีดีกรีว่าเก่งที่สุด แต่ดันออกคนแรก ก็ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดีนะครับ เอาเป็นว่าตอนนี้เรามาสัมภาษณ์สดคนที่พึ่งออกจากเกมมาหมาดๆ ดีกว่า สวัสดีครับคุณฟอราส”

พิธีกรหันไปทางฟอราสที่นั่งอยู่บนโซฟาของห้องรับรอง

“อือ สวัสดี” ชายหนุ่มตอบอย่างขอไปที ตอนนี้ยังคงช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย

“ขอถามความรู้สึกตอนนี้หน่อยครับว่ารู้สึกยังไงที่ออกคนแรก”

“รู้สึกดีมั้ง! มันก็ต้องแย่ ไม่สิ โคตรแย่เลย ว่าจะไปสู้กับคนอื่นเท่ๆ ซักหน่อย ดันมาโดนสกัดดาวรุ่งจนออกแบบนี้ คงจะโคตรปลื้มใจน้ำตาไหลพรากล่ะนะ!” ฟอราสตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระแทกแดกดันเต็มที่

ถามมาได้ คำถามโคตรทำร้ายจิตใจ

“ถ้างั้นขอถามอีกคำถามก่อนจะพักนะครับ คุณฟอราสคิดจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตตัวเองดี”  

“คิดอยู่ว่าจะกลับไปยังไงไม่ให้โคตรเหง้ารุมประณาม ตอนนี้คิดไม่ออก ขออยู่ที่นี่ก่อนซักพักแล้วกัน พอ แค่นี้แหละ”

ว่าจบเจ้าตัวก็ลุกขึ้นเดินหนีไปอีกมุมหนึ่งของห้อง กล้องเลยจับภาพที่พิธีกร

“เอาเป็นว่าจบการสัมภาษณ์ไว้เพียงเท่านี้ละกันครับ! ช่วงหน้าเราจะมาตามดูว่าไพมอนนั้นจะไปทำสัญญาพันธมิตรกับใคร ทีมไหน แล้วทีม A ที่ได้สิทธิ์ออกล่าเป็นทีมล่าต่อไปกำลังวางแผนทำอะไร จะเปิดตัวออกมาแบบไหน อดใจรอซักครู่นะครับ สำหรับช่วงนี้ก็เช่นเคย พักชมโฆษณาซักครู่ครับ!

 

แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า

ตอนที่ 5 ก่อนบางคนจะกลับมา

 



Time Trip : Zodiac Theme

ผู้แต่ง : Pacemaker

ตอนที่ ชื่อตอน วันที่ลง
1 ก่อนออกเดินทาง 12 ก.พ. 59
2 ก่อนจะเริ่มล่า 09 มี.ค. 59
3 ก่อนสิงโตจะคำราม 15 มี.ค. 59
4 ก่อนออกจากการแข่งขัน 24 มี.ค. 59
5 ก่อนใครบางคนจะกลับมา 31 มี.ค. 59

Comment จากกรรมการ

#1 Enter Books Editor Team

ข้อเสียเปรียบของเรื่องนี้นะครับ คือเรื่องนี้มีตัวละครเยอะ และเป็นธีมการต่อสู้หักเหลี่ยม
ดังนั้นความจริงแล้วต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างเยอะทีเดียว ในการปูพื้นตัวละครแต่ละตัว หรือการพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกฎ/ระบบในการต่อสู้

ซึ่งพอเป็นการประกวดที่จำกัดมาแค่ 5 ตอน มันทำอย่างที่ว่ามาไม่ได้

จุดที่ต้องชมเชยเลยนะครับ คือบทบรรยายและไดอะล็อกมีความมันส์อะไรบางอย่าง
กระชับและมีพลังดี
การสะกดก็เช็กมาอย่างละเอียด หาคำผิดไม่ค่อยเจอเลย : )

ดาวิษ ชาญชัยวานิช

Comment จากกรรมการ

#2 กองบรรณาธิการสนพ. Enter Books

สวัสดีคร้าบ~

การจับคู่ระหว่างผู้เล่นกับผู้ช่วยที่เป็นคอนเซปป์จักราศีน่าสนใจดีครับ แต่ระวังสมดุลระหว่างบทบรรยายกับบทสนทนาหน่อยก็ดี เท่าที่เห็นคือเล่าเรื่องโดยให้ตัวละครสาดคำพูดใส่กันเป็นหลักน่ะครับ ถ้าเพิ่มพาร์ทบรรยาย การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกเป็นภาษาเขียนได้มากกว่านี้ เรื่องจะหนักแน่นขึ้นครับ รออ่านตอนต่อไป อยากเห็นจักราศีอื่นๆ ด้วยว่าจะดีไซน์ออกมายังไง ^^

นี่เฮียเอง

ความคิดเห็นล่าสุด

Page 1 of 1 1
  • ความคิดเห็นที่ 13

    Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์
    • Name : Tein Lon Story : ภัตตาคารมังกรสวรรค์ < My.iD > [IP] 115.87.130.38
    • 1 เมษายน 2559 / 23:33
    หวัดดีจ้า นี่พี่นุเอง

    พี่เพิง่อ่านเรื่องของเราได้ตอนแรกตอนเดียวนะ

    แต่ขอคอมเม้นก่อนมันจะลืม

    ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกก่อนเลยว่า พี่อ่านเรื่องของเราแล้ว พี่เมหือนเห็นภาพนิยายของตัวเองเมื่อปีก่อนเลย 

    เพราะเจอปัญหาเดียวเป๊ะ!

    ทั้งเรื่องตัวละครเยอะ พวกนี้ ซึ่งพี่ก็พอมีคำแนะนำให้ได้นิดหน่อย(แต่มีประโยชน์ไหมลองดุอีกที)

    แต่ก่อนอื่นมาพูดเรื่องนี้ก่อน(เกริ่นเยอะซะ)

    1. อย่างแรกของนิยายเรื่องนี้คือ นึกภาพตามยากมาก พี่อ่านๆ ไปคือ สถานที่ต่างๆ พี่แทบจะนึกภาพตามไม่ออกเลยว่าอยากจะให้สถานที่ต่างๆ มีรูปร่างแบบไหน สถานนีรถไฟ อยากให้ออกแนวคลาสสิด หรือ หรูหราทันสมัยโลกอนาคต หรือยุคแบบไหน เราแทบไม่ได้อธิบายไว้เลยทำให้นึกภาพตามยาก ซึ่งพี่ว่าน่าจะอธิบายให้มากกว่านี้ เพื่อให้เห็นภาพไปในทิศทางเดียวกันจะช่วยให้คนอ่านอินได้มากขึ้น ซึ่งนี่ก็เหมือนกับพี่ปีก่อน พี่ก็เป็นงี้ ซึ่งปีก่อนพี่ได้รับคำแนะนำจากกรรมการมาอย่างนึง เขาบอก
    "นิยายของเรา เราเห็นและรุ้และนึกภาพต่างๆ ไว้ในหัวแล้วจึงเห็นภาพชัด แต่เวลาถ่ายทอด เราถ่ายทอดให้ชัดและครบ(ถึงบางส่วนจะปล่อยให้คนอ่านจินตนาการเองได้ก้ตาม) เพราะไม่อย่างนั้น คนอ่านจะรุ็ซึ่งว่าเขาอยู๋ในโลกที่มีแต่สีขาว ตัวละครยืนอยู๋ในที่ๆ เป็นสีขาว นึกไม่ออกว่าสถานที่นั้นๆ เป็นรูปร่างยังไง" 

    2. เรื่องตัวละครเยอะ (นี่ก็เป็นปัญหาเดียวกับที่พี่เจอปีก่อน)
    ซึ่งสาเหตุที่ตอนเปิดเรื่องตัวละครไม่ควรเยอะเพราะ 1.คนอ่านจะจำได้ไม่หมด และไม่มีตัวเด่น ทำให้กระจายความโดดเด่นกันมากไปเกินไป เพราะงั้นวิธีแก้ในตอนเปิดตัวอย่างนี้คือ สร้างจุดเด่นให้ตัวละครแต่ละตัวอย่างชัดเจนและจดจำได้ง่าย จะช่วยแก้ปํญหาข้อนี้ได้ เพระาตอนนี้คือแต่ละตัว คือ เท่าเทียมกันหมด ไม่มีใครโดดเด่นขึ้นมาเลย
    และปัญหาอีกอย่างของเรื่องตัวละคร คือ เราอธิบายและบรรยายลักษณะตัวละคร น้อยเกินไป ทำให้พี่นึกภาพของ ซีเร โนแอล ไม่ออกเลย เข้าใจว่า อาจจะไปอธิบายตอน 2 แต่ในตอนแรกที่มีบทขนาดนี้ ใช้ตัวละครในรายละเอียดขนาดนี้ น่าจะอธิบายให้มากกว่านี้
    ยกตัวอย่างง่ายก็ เช่น โนแอล บอกแค่ เด็ก สิบขวบแบกเป้หน้าไร้เดียงสา แค่นั้น ซึง่มันน้อยจนนึกภาพตามไม่ออกน่ะ ซีเรก้เช่นกัน ที่มีเรื่องจู่ๆ ก็บอกว่ากระชับดาบที่เอว ขึ้นมาเสียดื้อๆ ทั้งที่ตอนบอกลักษณะให้คนนึกภาพตาม ยังนึกออกแค่หญิงส่วในชุดคลุมนั่งรอเวลาเฉยๆ ไมไ่ด้นึกว่าสาวเท่ คล่องแคล่วทะมัดทะแมนห้อยดาบที่เอวเลย ทำให้คนอ่านนึกภาพตามได้ยาก

    3.ส่วนของโครงเรื่องบางส่วน คือ เท่าที่อ่านพี่เข้าใจ บริษัทที่ทำเรื่องแบบนี้ได้ เทคโนโลยีต้องดีระดับสูง แต่ทำให้ การลงทะเบียน มันดุไม่อลังการ ไม่ตื่นตาตื่นใจ สมชื่อบริษัทเลย การสแกนลายนิ้วมือ เพียงแค่นิ้วเดียว มันดูไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร สมมุติหน้าสแกนทั้งฝ่ามือ หรืออะไรให้อลังการกว่านี้จะ ยิ่งทพให้เรื่องโดดเด่นขึ้นไปอีกได้ ซึ่งหลายๆ จุด พี่อ่านแล้ว รุ้สึกว่ามันน่าจะอลังการกว่าหน่อยนะอยู่เหมือกัน(แต่โต๊ะลงทะเบียนเป็นอีกจุดที่พี่นึกภาพตามไม่ออกเลยว่าเป้นโต๊ะแบบไหนยังไง แล้วจู่ๆ ก็มีคอมฯ โผล่มาเฉยเลย ทำให้อ่านๆ ไปแล้วสะดุดน่ะ)

    ก้มีแระมาณนี้ครับ ยังไงก็ขอโทษด้วยล่ะกันที่ เอาซะละเอียดเลย ถ้ายังไงก้ขอโทษด้วยไว้ล่วงหน้านะครับ

    แต่เพราะรู้สึกเมหมือนตัวเองปีก่อนเลยอดแนะนำยาวๆ ไม่ได้
  • ความคิดเห็นที่ 12

    ::Shine {L#เที่ยงวัน} ::
    • Name : ::Shine {L#เที่ยงวัน} :: < My.iD > [IP] 49.231.30.12
    • 31 มีนาคม 2559 / 14:02
    #LookFook ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ พึ่งได้เล่นในคอมเลยพึ่งมาตอบค่ะ ;)
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แล้วก็แอบเห็นด้วยนะคะ คือรู้สึกมาตั้งนานแล้วว่า 
    แต่ละตอนมันคล้ายๆ กัน ด้วยความที่ยังวางโครงเรื่องไว้ไม่ดีเอาค่ะ 
    ตรงนี้ขอยอมรับผิด และจะนำไปปรับปรุงต่อไปค่ะ 


    #พี่ดาวิษ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นในทุกอาทิตย์นะคะ จะนำคำคอมเม้นไปปรับปรุงต่อไปค่ะ แอบเห็นด้วยว่าความที่ตัวละครเยอะ เลยเขียนออกมาภายใน 5 ตอนยากจริงๆ ค่ะ แล้วจึงทำให้เรื่องมันทำออกมาได้ไม่ดี ยังไงก็ขอบคุณนะคะ


    #
     peecee ตรงชื่อตอนนี้ต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ ด้วยความผิดพลาดของเราเอง ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ



    #พี่ปัฐ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ไอเดียการเปิดไพ่ทุกใบนี่เป็นไอเดียที่น่าคิดจริงๆ ค่ะ 
    แต่ด้วยความที่จำนวนตอนมันจำกัด เลยไม่สามารถใส่รายละเอียดเยอะๆ เข้าไปได้ค่ะ 
    ไว้รอจบโครงการแล้วจะรื้อโครงใหม่  และนำคำแนะนำของพี่ไปพัฒนานะคะ :)




  • ความคิดเห็นที่ 11

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.249.242
    • 31 มีนาคม 2559 / 07:02
    ข้อเสียเปรียบของเรื่องนี้นะครับ คือเรื่องนี้มีตัวละครเยอะ และเป็นธีมการต่อสู้หักเหลี่ยม
    ดังนั้นความจริงแล้วต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างเยอะทีเดียว ในการปูพื้นตัวละครแต่ละตัว หรือการพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกฎ/ระบบในการต่อสู้

    ซึ่งพอเป็นการประกวดที่จำกัดมาแค่ 5 ตอน มันทำอย่างที่ว่ามาไม่ได้

    จุดที่ต้องชมเชยเลยนะครับ คือบทบรรยายและไดอะล็อกมีความมันส์อะไรบางอย่าง
    กระชับและมีพลังดี
    การสะกดก็เช็กมาอย่างละเอียด หาคำผิดไม่ค่อยเจอเลย : )

    ดาวิษ ชาญชัยวานิช
  • ความคิดเห็นที่ 10

    dinn
    • Name : dinn < My.iD > [IP] 171.96.184.80
    • 30 มีนาคม 2559 / 08:12
    พี่ปัฐเองนะครับ ^ ^

    พอเข้าสู่โหมดแข่งขันแล้วนี่ก็สนุกจริงๆ ตัวละครแต่ละตัวชวนปวดตับดีจัง 5555
    มีมุกกวนๆ ให้ฮาให้อะไรตลอด แต่... มันค่อนข้างจะเป็นแบบนี้ตลอดทั้ง 3 ตอนหลัง ก็อาจจะทำให้คนอ่านรู้สึกชาชินและเบื่อได้นะครับ ลองเปลี่ยนกลวิธีการนำเสนอบ้างก็น่าจะช่วยสะกดความสนใจผู้อ่านให้จดจ่ออยู่กับเรื่องได้ดีมากขึ้น ^ ^
    นี่ถ้าสามารถเปิดไพ่ "ทุกใบ" ให้ผู้อ่านได้เห็นก่อน แล้วจินตนาการก่อนว่า ผู้เล่นเกมส์ควรจะใช้ไพ่แต่ละใบในการต่อสู้ได้ยังไง(กระดาษปริศนา) ก็น่าจะสนุกกว่านี้นะครับ เพราะคนอ่านจะจินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้เล่นเกมส์เสียเองได้ง่ายขึ้น อินขึ้นมีส่วนร่วมมากขึ้นนะครับ ^ ^
    จะรอตอนต่อไปอย่างจดจ่อเลยละครับ อยากรู้มากกว่าเกมส์ต่อไปจะเป็นยังไง หุหุหุ ^ ^v
  • ความคิดเห็นที่ 9

    peecee
    • Name : peecee < My.iD > [IP] 171.5.251.161
    • 26 มีนาคม 2559 / 01:35
    ระวังเรื่องรายละเอียดการนำเสนอนะครับ

    เพิ่งสังเกตเห็น ตอนจบบทสามที่ทิ้งท้ายว่า    พบกันตอนต่อไป ตอนที่สี่  ก่อนผู้ถูกล่าจะรวมทีม

    แต่เอาเข้าจริกลับเป็น   ตอนที่ 4 ก่อนออกจากการแข่งขัน
  • ความคิดเห็นที่ 7

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.245.138
    • 17 มีนาคม 2559 / 19:22
    เริ่มจะเห็นการหักมุมการหักเหลี่ยมชัดเจนขึ้นแล้วนะครับ
    เพียงแต่ก่อนหน้านั้นตัวหนังสือมันเยอะมากกกกในบทเดียว T T
    ชอบตอนบันทึกพิเศษกับตอนถ่ายทอดสดคับ เป็นองค์ประกอบเสริมที่ดี XD
  • ความคิดเห็นที่ 6

    LookFook
    • Name : LookFook < My.iD > [IP] 182.149.207.19
    • 16 มีนาคม 2559 / 17:04
    เรื่องทำได้ดีมากเลยนะ แต่ตลอดมาสามตอนคือดำเนินเรื่องแบบเดียวเลย
    จริงๆมันก็น่าสนใจ แต่นานไปถ้ายังซ้ำๆอยู่มันจะวนจนน่าเบื่อได้
    ตัวละครแต่ละตัวก็เป็นเอกลักษณ์ดี แต่ออกมาเยอะไปหน่อยจริงๆ
    อ่านสักพักถึงจะจำได้ ทีนี้อย่าให้การบรรยายไร้ความหมาย
    อยากรู้นะว่าไพมอนไปดูดาวเล่านิทานทำไม 5555
  • ความคิดเห็นที่ 5

    Enter Books Editor Team
    • Name : Enter Books Editor Team < My.iD > [IP] 49.49.247.251
    • 9 มีนาคม 2559 / 22:47
    ไดอะล็อกสนุกสนานดีนะครับ
    ตัวละครแต่ละตัวดูมีสีสัน
    เพียงแต่โผล่มาเยอะไปหน่อยสำหรับบทแรกๆ
    ทำให้ลำบากนิดนึง กว่าจะจำได้ว่าใครเป็นใคร
    ส่วนบทบรรยาย บรรยายกิริยาท่าทางของตัวละครได้สนุกดี
    เพียงแต่ถ้าลองเปลี่ยนจากบรรยายภาพภายนอกของตัวละคร ไปบรรยายภาพภายในดูบ้าง(อย่างเช่นความคิดอ่าน ความรู้สึก ทัศนคติ) มันจะทำให้ตัวละครแต่ละตัวมีความโดดเด่นมากขึ้น จำง่ายขึ้น XD

    ดาวิษ ชาญชัยวานิช
  • ความคิดเห็นที่ 4

    ::Shine {L#เที่ยงวัน} ::
    • Name : ::Shine {L#เที่ยงวัน} :: < My.iD > [IP] 180.183.179.253
    • 5 มีนาคม 2559 / 21:15
    #1  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านะค้าาา ตอนแรกๆ จะเป็นการปูเรื่องแนะนำตัวละครก่อน เลยดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่ตอนแข่งใกล้เข้ามาแล้วค่ะ ยังไงก็อย่าลืมติดตามนะคะ ^^

    #2 พี่ผักบุ้ง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ จริงๆ เป็นเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเป็นผู้แข่งขันค่ะ แล้วก็สปายอาจจะไม่ได้มีแค่คนเดียวก็ได้นะคะ :) (งานนี้สงสัยกันเองมั่วไปหมดค่ะ) ส่วน Mission ของสปายจะเป็นอะไรนั้น จะเฉลยตอนท้ายค่ะ ดีใจที่เชียร์เรลาเจนะ เพราะเป็นตัวละครโปรดของเราเหมือนกัน ^^

    #3 ขอบคุณพี่ปัฐที่เข้ามาอ่านค่ะ ยอมรับว่าเปิดเรื่องได้เรียบจริงๆ คือตอนแรกๆ จะเป็นการปูเรื่องเพื่อแนะนำตัวละครน่ะค่ะ เลยดูไม่ค่อยมีอะไร พล็อตจะเน้นการแข่งเกมแต่ละด่านคล้ายๆ หา Survivor เลยค่ะ เริ่มเกมเมื่อไรจะเห็นนิสัยตัวละครชัดเจนขึ้น เพราะเกมมันจะพลิกตลอดทั้งเรื่อง แต่ละคนก็ต้องเอาชีวิตรอด เพื่อให้ตัวเองอยู่ได้นานที่สุด 
  • ความคิดเห็นที่ 3

    bodin Intrararujikul
    • Name : bodin Intrararujikul [IP] 171.96.182.132
    • 5 มีนาคม 2559 / 09:39
    สวัสดีครับ ชื่อปัฐนะครับ เรื่องมีเสน่ห์มากเลยนะครับนี่ เรียบๆ แต่แฝงด้วยเล่ห์กล หุหุหุ ว่าแต่... เราจะเชียร์ทีมไหนดีน้อ หุหุหุ ^+++^
  • ความคิดเห็นที่ 2

    Esta Em Maho
    • Name : Esta Em Maho < My.iD > [IP] 103.26.22.217
    • 5 มีนาคม 2559 / 07:44
    ว้าวววววว ชอบที่มีหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ด้วย เราเชียร์นายนะ เรลาเจ ><
  • ความคิดเห็นที่ 1

    Herasia
    • Name : Herasia < My.iD > [IP] 110.168.64.76
    • 4 มีนาคม 2559 / 20:35
    อยากอ่านต่อจังอยากรู้เรื่องตอนแข่ง ถ้าเข้ารอบแล้วจะได้ย้อนเวลาจริงรึเปล่า
Page 1 of 1 1

เข้าสู่ระบบด้วย Dek-D ID

เข้าสู่ระบบด้วย Social Network

คลิกที่นี่
แสดงความคิดเห็น
ชื่อ Email รูปตัวแทน

โปรดใส่รหัสตามรูป