EN14 Time Trip : Zodiac Theme
เมื่อสมาชิกผู้เป็นตัวแทนของแต่ละราศี ต้องเข้ามาแข่งขันเกมไหวพริบ โดยมีเป้าหมายคือเดินทางข้ามเวลาไปทำสิ่งที่อยากทำ พวกเขาต้องชิงไหวชิงพริบ และทำทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่การหักหลังเพื่อนร่วมทีม!
ตอนที่ 5
ก่อนใครบางคนจะกลับมา
หงุดหงิด
โคตรหงุดหงิดเลย!
เรลาเจผู้ที่ถูกส่งเข้ามาเป็นสปายของเกมมองชาวบ้านที่เดินกันอย่างขวักไขว่พลางนึกสบถในใจ คือด้วยความที่ตัวเองได้เป็นตัวแทนของราศีตุลย์ แล้วสัญลักษณ์ของราศีตุลย์มันดันเป็นตาชั่ง พอถูกส่งให้มาเป็นผู้ช่วยแล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากแบกมันเดินต๊อกแต๊กไปเรื่อยๆ
ตาชั่งอันโตๆ กับชายหนุ่มผู้อาภัพ เป็นภาพที่โคตรเหมาะกันจนน้ำตาจะไหล
“นั่นพี่เขาแบกตาชั่งทำไมล่ะฮะ”
“พี่เขาไม่หนักเหรอฮะ”
“นั่นเธอๆ ดูผู้ชายคนนั้นสิ บ้ารึเปล่าน่ะ”
นอกจากจะถูกมองด้วยความเห็นใจหรือด้วยความสมเพชซึ่งเขาเองก็ไม่อาจบอกได้ พอเดินไปซักพักก็มีประชากรบางส่วนที่ชี้นิ้วมายังเขาอย่างไม่เกรงใจ แล้วซุบซิบกันด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะดัง ไม่ค่อยจะดังเล๊ย... แต่ได้ยินเต็มๆ!
เรลาเจเม้มปากอย่างหงุดหงิดพลางเดินไปเรื่อยๆ ที่ไม่คิดจะทิ้งผู้ช่วยของเขาคนนี้ เพราะคิดว่ามันต้องมีประโยชน์อะไรซักอย่างมากกว่าการเป็นตาชั่งธรรมดาๆ มันจะต้องเป็นผู้ช่วยที่เก่งที่สุดในทุกราศี เพียงแค่ตอนนี้เขายังหาความสามารถมันยังไม่เจอเท่านั้นเอง...
มันต้องเจ๋งดิ มันต้องเจ๋ง!
เขาคิดอย่างมีความหวัง แม้จะดูเหมือนเป็นการหลอกตัวเองก็ตามที
“เฮ้อออออออ” เรลาเจถอนหายใจ ก่อนสายตาจะเพ่งมองเข้าไปยังกลุ่มฝูงชน เขาเห็นใครบางคนที่กำลังเดินห่างออกไปไม่ไกล เส้นผมยาวสลวยสีฟ้านั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนของคนคนนั้นได้อย่างดี
เธอคือเซพาร์ หญิงสาวราศีกุมภ์ที่เขาเดินตามหามาตั้งนานแต่ไม่ได้เจอซักที
เนื่องจากทีม B ของเขาดันมีผู้หญิงถึงสองคนคือเซพาร์กับไอม์ เขากับฟอราสจึงได้วางแผนกันไว้ว่าจะตามไปปกป้องผู้หญิงในทีม โดยฟอราสอาสาจะไปหาไอม์ หน้าที่การคุ้มครองเซพาร์จึงตกเป็นของเขา แต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดา หรืออาจจะธรรมดาเกินไป เขาจึงหาเธอไม่เจอจนกระทั่งเมื่อกี้นี้...
“นั่นจะเดินไปไหนของเขานะ” เรลาเจขมวดคิ้วอย่างสงสัย พลางตัดสินใจเดินเข้าไปหา
แต่ว่าเขาถูกส่งมาเป็นสปายนี่หว่า ทำไมต้องมาเล่นตามเกมด้วยล่ะเนี่ย
เรลาเจดีดนิ้วราวกับว่าพึ่งนึกอะไรสนุกๆ ออก
ในเมื่อถูกส่งเข้ามาป่วนเกมแล้ว ก็ขอป่วนให้มันสุดๆ ไปเลยก็แล้วกัน! คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็แบกตาชั่งเดินตามเซพาร์ไป...
เรลาเจเดินตามเซพาร์มาได้ซักพักแล้ว แม้ว่าจะตามอยู่ไกลๆ แต่เขาก็ยังเห็นเธอได้ดี ด้วยความที่เจ้าตัวดันมีผมสีฟ้าสว่างที่โคตรจะไม่กลมกลืนกับฝูงชน รวมกับการที่มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเปลือยท่อนบนแบกหม้อน้ำอยู่ข้างๆ จึงไม่ยากเลยที่จะมองเห็น
ต่อให้เห็นแค่แวบเดียวก็ยังรู้!
“ทำไมเดินไวจังวะ!” ชายหนุ่มผู้แบกตาชั่งบ่นแต่ก็ยังเดินต่อไป
เซพาร์ที่อยู่ข้างหน้านั้นเดินเข้าไปในฝูงชนที่แออัดมากกว่าตอนแรกราวกับว่ารู้ว่ามีคนตามมา เรลาเจจึงรีบวิ่งตามไปก่อนแผ่นหลังเพียวบางของเซพาร์จะหายลับไป
เขาวิ่งไปอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะมีตัวถ่วงเป็นตาชั่งอันโตก็ตาม แต่เพราะฝูงชนที่มากมาย แผ่นหลังของเซพาร์จึงค่อยๆ ห่างออกไป...
จนในที่สุด เธอก็หายไป
“อะไรของเธอเนี่ย” เรลาเจหยุดวิ่งพลางหอบเพราะเหนื่อยจากการแหวกฝูงชนออกมา เขาวางตาชั่งลงข้างตัวก่อนจะยืดตัวเต็มความสูง
หมับ!
เขาหันกลับหลังทันทีที่มีใครบางคนคว้าขมับเข้าที่ข้อมือ และเมื่อหันไปพบกับใครบางคนที่คว้ามือเขาไว้ เขาก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ
“สวัสดี” ไพมอนทักทายเรลาเจด้วยรอยยิ้มอบอุ่นแบบที่ชอบทำเสมอมา
เรลาเจมองเด็กน้อยทั้งสองที่กระจายตัวเกาะขาของเขาไว้ทั้งสองข้างด้วยความรู้สึกสมเพชตัวเอง คือคนอื่นเค้ามีตัวช่วย แต่ดูตาชั่งของเขาสิ โดนจับอย่างนี้มันยังตั้งแอ้งแม้งอยู่ข้างๆ อยู่เลย
น่าสมเพชชะมัด
“นายเป็นทีมผู้ล่า?” เรลาเจถามขึ้นอย่างลองเชิง ท่าทางไม่ได้คิดจะหนี ไพมอนจึงหัวเราะน้อยๆ
“ถูกต้อง แต่คราวนี้ไม่ได้มาล่า” ไพมอนตอบพลางเหล่มองไปยังตาชั่งที่วางอยู่ข้างๆ “นายอยู่ทีม B เป็นตัวแทนราศีตุลย์?”
“ใช่”
“แล้วนั่นคือผู้ช่วยนาย?”
“พูดอีกก็ถูกอีก” เรลาเจยักไหล่อย่างยอมรับในชะตากรรม ไพมอนมองก่อนจะยิ้มขึ้นมาอย่างแสร้งเห็นใจ พลางสั่งให้เด็กน้อยทั้งสองคนปล่อยเรลาเจให้เป็นอิสระ
เรลาเจสะบัดแขนขานิดหน่อย เพื่อคลายปวดเมื่อย
“เอาจริงๆ นั่นไม่น่าเรียกว่าผู้ช่วยได้นะ” ไพมอนยักไหล่ “ด้วยความที่ชีวิตนายมันน่าเห็นใจนะ เอางี้มั้ยล่ะ เรามาเป็นพันธมิตรกัน”
เรลาเจยิ้มอย่างรู้ทัน
“เพราะนายกำลังจะหมดสิทธิ์ล่า?”
“ก็ตามนั้นแหละ แต่ถ้านายรับปาก รับรองว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม...” ไพมอนว่าพลางชูไพ่ใบหนึ่งขึ้นมา เรลาเจมองไพ่นั้นอย่างงงๆ เพราะเขายังไม่รู้ว่ามีไพ่แบบนี้อยู่ในเกม และไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร รู้เพียงแค่ว่าที่นี่มีคำใบ้ในการกำจัด และมีลูกแก้วเพื่อใช้ทำอะไรบางอย่างในเกมที่สอง
เมื่อเห็นว่าเรลาเจเงียบไปนาน ไพมอนจึงเอ่ยขึ้น
“เผื่อนายยังไม่รู้ เรื่องที่ฟอราสออก”
เรลาเจขมวดคิ้ว “นั่นไม่ใช่เพราะพวกนายกำจัด?”
ไพมอนหัวเราะพลางนึกไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น
“นายคิดว่าคนเก่งๆ อย่างฟอราสจะโดนพวกฉันกำจัดง่ายๆ เหรอ โดยเฉพาะได้ผู้ช่วยเป็นสิงโตแบบนั้น เป็นพวกฉันมากกว่ามั้งที่จะโดนกำจัด”
“นายหมายความว่าไง?”
“ตอนนั้นน่ะ ฉันอยู่ในเหตุการณ์ หมอนั่นมันกำจัดคนในทีมของฉันออก แต่เพราะมีไพ่แบบนี้” ไพมอนชูไพ่ขึ้นตรงหน้า แต่หมุนไปหมุนมาเพื่อไม่ให้เรลาเจมองเห็นว่าเป็นไพ่อะไร “ไพ่ใบนั้นเป็นไพ่ Twin คือเมื่อโดนกำจัดออกจากเกม คนที่เลือกไว้จะออกแทน”
“อ้ออ นายหมายความว่าฟราสออกแทนเพื่อนของนายที่ถูกกำจัดว่างั้น?” เรลาเจเลิกคิ้วอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ถูก”
“แล้วไพ่ในมือนายก็มีคุณสมบัติแบบนั้น...”
“ไม่ใช่ ไพ่แต่ละอันมีแค่อย่างละใบ... ไพ่ที่ออกแทนถูกใช้ไปแล้ว ไพ่นี่ก็มีสมบัติอีกอย่าง” ไพมอนเก็บไพ่ใบนั้นเข้ากระเป๋า นัยน์ตาฉายแววเจ้าเล่ห์ “เอาไง ถ้าตกลงเป็นพันธมิตรฉันจะยอมยกให้ก็ได้...”
เรลาเจเงียบไปนาน แต่เอาจริงๆ ถ้าตกลงไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร ถ้ามันไม่ทำตามคำพูดก็แค่ยกเลิกสัญญาแล้วเมื่อถึงเวลาที่ตัวเองเป็นผู้ล่าก็หาทางกำจัดมันซะ!
ตรรกะง่ายๆ
“โอเค งั้นตกลง...”
“ได้ งั้นฉันไปล่ะ” ไพมอนโบกมือลาก่อนจะเดินออกไป เรลาเจจึงร้องเรียกไว้
“เดี๋ยว ไหนล่ะไพ่ที่บอกจะให้”
“เจอกันอีกครั้งค่อยมาทวงนะน้องชาย”
เรลาเจมองไพมอนที่เดินหายไปก่อนจะส่ายหัวอย่างปลงๆ นี่เขาเป็นสปายใช่มั้ย เขาควรจะป่วนเกม ปั่นหัวคนอื่น แต่ทำไมรู้สึกว่ากำลังโดนปั่นหัวซะเองได้วะ!
คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วแบกตาชั่งออกเดินต่อไป
“นี่ซาจิ เราควรจะไปออกล่าอีกครั้งไหมอ่ะ ตอนนี้ผมไม่มีคำใบ้ราศีอื่นแล้ว เราไปหาคำใบ้ หาไพ่ หาลูกแก้วอะไรกันไหม รู้สึกเหมือนว่าเวลาของเรากำลังจะหมดแล้วแฮะ”
มาร์บัสหันไปถามซาจิที่เดินอยู่ข้างๆ
ซาจิได้แต่พยักหน้า
“หรือว่าเราจะไปหาที่ซ่อนเหมาะๆ กันดีนะ ผมว่าจะหลบจนกว่าจะเริ่มเกมสองเลยล่ะ ถ้าถึงตอนนั้นก็ให้คนอื่นกำจัดกันไปส่วนเราก็รอด”
“อือ” ซาจิพยักหน้าอีกครั้ง
“ซาจิ ทำไมปล่อยให้ผมพูดอยู่คนเดียว ทำไมซาจิไม่พูดอะไรซักอย่าง ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกทีแล้วนะ คือคนหันมามองผมเต็มไปหมดเลยอ่ะ มันคืออะไรล่ะเนี่ย ผมงง”
“คือถ้านายหยุดพูดคนอาจจะเลิกมอง...” นั่นเป็นประโยคยาวประโยคแรกๆ ที่ซาจิพูดออกมา แต่คนอย่างมาร์บัสก็ไม่ยอมที่จะหยุดพูดง่ายๆ เขาเดินตามซาจิไปจนกระทั่งเทพประจำราศีธนูหยุดฝีเท้า เล่นเอาเด็กหนุ่มเบรกตามแทบไม่ทัน
“นั่นอควา”
มาร์บัสมองไปยังใครบางคนในฝูงชน ในนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผมสีฟ้าอ่อนยาวสลวย ข้างๆ เธอมีชายหนุ่มคนหนึ่งแบกหม้อน้ำเดินอยู่ข้างๆ
คนคนนั้นคงจะเป็นอควาที่ซาจิพูดถึง
“ผู้หญิงคนนั้นอยู่ทีม B ข้างๆ นั่นเทพประจำราศีกุมภ์ใช่ไหม” มาร์บัสหันไปถามซาจิ พอหันไปมองอีกครั้ง แผ่นหลังของสองคนนั้นก็หายไปแล้ว
“ถูก”
“ผมว่าผู้หญิงคนนั้นแปลกๆ เธอเดินเหมือนกับว่าจะไปไหนซักที เราตามไปดีไหมซาจิ” มาร์บัสหันไปถามความเห็นซาจิที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ถ้าคิดว่าตามทันก็เอา”
มาร์บัสไม่รอให้ซาจิพูดจบ เขาสาวเท้าตามผู้หญิงผมสีฟ้าคนนั้นไป
เรลาเจยังคงงง
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรไปที่ไหน ไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อ รู้เพียงแต่ว่าผลจากการเดินไปเดินมาของเขาทำให้เขาไปเจอลูกแก้วเพิ่มมาอีกสองลูก รวมทั้งไปได้คำใบ้กำจัดราศีอื่นมา
สีเทา
มันคือคำใบ้กำจัดราศีเมถุนนั่นเอง
เดิมทีเขาก็ว่าจะเป็นพันธมิตรด้วยซักหน่อย แต่เมื่อได้คำใบ้มาแบบนี้ เมื่อถึงเวลาก็คงต้องแตกพันธมิตรกัน อีกอย่างเจ้าไพมอนนั่นก็ดูท่าไม่ได้จริงจังกับการมาผูกมิตรกับเขาซักเท่าไร
หรือว่ามันเป็นแผน?
เรลาเจตั้งสมมติฐาน แต่คิดไปก็เท่านั้นในเมื่อเขาเป็นสปาย ตราบใดที่ฐานะของเขายังไม่เปิดเผยก็ไม่มีใครสามารถกำจัดเขาได้
เรลาเจเอาแผนที่เมืองที่ได้มาเพราะเป็นสปายมากางดู เขามีภารกิจที่ต้องทำ ต้องไปที่นั่น...
จึกๆ
เรลาเจรู้สึกถึงแรงที่สะกิดอยู่ด้านหลัง เขาจึงหันไปมองก่อนจะพบว่าคนที่สะกิดเขานั้นเป็นคนเดียวกันกับที่เขาเดินตามมานานแสนนาน
“มายืนทำอะไรตรงนี้” เซพาร์ทักทายขึ้น เรลาเจจึงรีบเก็บแผนที่ลงกระเป๋าแล้วหันกลับมาแสร้งตกใจ
“เธอมาตั้งแต่เมื่อไร ก็เมื่อกี้...”
“เมื่อกี้อะไร?” เซพาร์ขมวดคิ้วอย่างมีคำถาม เรลาเจลังเลยู่นิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ถามออกไป
“เมื่อกี้ฉันเดินตามเธอไปแถวๆ ตลาด เดินไปซักพักแล้วจู่ๆ เธอก็หายไป”
“ฉันหลงทาง” เซพาร์พูดขำๆ แต่เรลาเจไม่คิดแบบนั้น เห็นท่าทางการเดินก็รู้แล้วว่าเธอมีจุดหมายที่จะไป ไม่ใช่คนที่เดินๆ แบบหลงทางแน่ๆ
ชายหนุ่มราศีตุลย์ไม่คิดจะถามอะไรต่อ เขายักไหล่
“แล้วนี่เธอจะไปไหนต่อ”
“ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าฉันมีอะไรบางอย่างจะบอกนาย...” เซพาร์พูดก่อนจะลากเขาเข้าไปในมุมตึกที่ไม่มีใครอยู่ จากนั้นก็หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า
“ไพ่ again ?” เรลาเจขมวดคิ้ว
“ใช่ ไพ่นี้มีคุณสมบัติคือการเรียกตัวคนที่ออกจากเกมไปแล้วให้กลับเข้ามาเล่นเกมต่อได้ ตอนแรกฉันก่วาจะเก็บไว้ใช้ตอนหลังๆ แต่เสียดายฟอราสที่ออกเร็วไป หมอนั่นน่าจะมีเวลาได้เล่นเกมนานกว่านี้”
ชายหนุ่มมองเธออย่างแปลกใจ ท่าทางเซพาร์ไม่ใช่คนที่จะใจดีขนาดนั้น แต่ถึงขนาดยอมใช้ไพ่ที่หาเจอเพื่อแลกให้ฟอราสกลับมา
มันเป็นแผนแน่ๆ
แต่ถ้าเรียกกลับมามันก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา
“งั้นก็เรียกลับมาเลย อยากถามเหมือนกันว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น...” เรลาเจสนับสนุน เซพาร์จึงหยิบปากกาออกมาแล้วเขียนชื่อของฟอราสลงไปนั้น
ไม่นานเสียงประกาศจากระบบก็ดังขึ้นมา
~ประกาศ ผู้เล่นฟอราสกลับเข้าสู่การแข่งขัน ~
~ประกาศ ผู้เล่นฟอราสกลับเข้าสู่การแข่งขัน ~
หลังจากจบเสียงประกาศ เซพาร์ก็ขยับยิ้ม
“ใช้ได้จริงๆ ด้วยแฮะ งานนี้สนุกแน่ๆ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะออกมา ฉับพลันร่างของฟอราสก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เซพาร์จึงยิ้มให้แล้วยื่นมือออกไป”
“ยินดีต้อนรับกลับสู่ทีม”
@ถ่ายทอดสด
เอาละคร้าบบบบบ ตอนนี้เซพาร์ได้เปิดไพ่ใบพิเศษเรียกฟอราสกลับเข้าไปในเกมแล้ว หลังจากการโดนเชือดครั้งนั้นที่สร้างความอับอายให้เขาอย่างไม่น่าให้อภัย ไม่รู้ว่าการกลับเข้าสู่เกมครั้งนี้ราชสีห์ผู้เก่งกล้าของเราจะตามไปล้างแค้นใครบ้างนะครับ
สำหรับใครที่เชียร์ทีมผู้ล่าก็เตรียมใจหน่อยนะครับ เพราะตอนนี้สถานการณ์ล่าใกล้จะสิ้นสุดลงทุกที่แล้ว ไม่รู้ว่าทีม A ที่ไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย จะมีแผนการล่ายังไงนะครับ เอาเป็นว่าช่วงหน้าเรามาติดตามชมไปพร้อมๆ กัน สำหรับตอนนี้... พักซักครู่ครับบบบบบบ”
Time Trip : Zodiac Theme
ผู้แต่ง : Pacemaker
| ตอนที่ | ชื่อตอน | วันที่ลง |
| 1 | ก่อนออกเดินทาง | 12 ก.พ. 59 |
| 2 | ก่อนจะเริ่มล่า | 09 มี.ค. 59 |
| 3 | ก่อนสิงโตจะคำราม | 15 มี.ค. 59 |
| 4 | ก่อนออกจากการแข่งขัน | 24 มี.ค. 59 |
| 5 | ก่อนใครบางคนจะกลับมา | 31 มี.ค. 59 |




ข้อเสียเปรียบของเรื่องนี้นะครับ คือเรื่องนี้มีตัวละครเยอะ และเป็นธีมการต่อสู้หักเหลี่ยม
ดังนั้นความจริงแล้วต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างเยอะทีเดียว ในการปูพื้นตัวละครแต่ละตัว หรือการพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกฎ/ระบบในการต่อสู้
ซึ่งพอเป็นการประกวดที่จำกัดมาแค่ 5 ตอน มันทำอย่างที่ว่ามาไม่ได้
จุดที่ต้องชมเชยเลยนะครับ คือบทบรรยายและไดอะล็อกมีความมันส์อะไรบางอย่าง
กระชับและมีพลังดี
การสะกดก็เช็กมาอย่างละเอียด หาคำผิดไม่ค่อยเจอเลย : )
ดาวิษ ชาญชัยวานิช