ภารกิจของฉันคือตามหาคนที่ขโมยเอกสารลับ เขา...บุคคลปริศนาเป็นคนที่ขโมยเอกสารลับไปและเขาก็เป็นผู้กุมความลับของฉันด้วย นั่นทำให้ฉันยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง เพราะเราทำสัญญาด้วยกัน...ความลับแลกความลับ
CHAPTER 6
“อยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ”
ฉันยืนอยู่ที่หน้าตึกเรียนของตัวเองและเตรียมตัวที่จะวิ่งมาราธอนขึ้นไปบนชั้นสี่ภายในห้านาที -_- บอกเลยว่าตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แล้วก็ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะต้องทำด้วย
[ขึ้นบันไดฝั่งซ้ายนะ เพราะบันไดฝั่งขวากล้องจะจับไว้ได้] เสียงใบชาดังออกมาจากบลูทูธที่ฉันใส่ไว้ที่หูซ้าย เพราะใบชาจะคอยดูต้นทางให้ฉันและจะคอยแนะนำว่าฉันควรทำอะไรบ้าง เราเลยต้องถือสายไว้ตลอด
“ขอบใจมาก มีอะไรก็บอกด้วย”
[ขึ้นไปให้ถึงชั้นสี่ภายในห้านาทีและรอจนกว่ากล้องจะหันนะ]
ฉันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูพบว่าเป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว ซึ่งกล้องวงจรปิดจะหันไปตามทางเดินยาวไปจนถึงบันไดฝั่งขวา ฉันต้องรีบขึ้นไปให้ถึงชั้นสี่ภายในห้านาทีและบันไดที่นี่มันก็ชันมาก -_- แค่เดินขึ้นห้องเรียนที่อยู่ชั้นสองฉันยังบ่นแล้วบ่นอีกเลย
ฉันวิ่งขึ้นไปทางบันไดฝั่งซ้ายของตึก ซึ่งกล้องวงจรปิดในแต่ละชั้นจะหันไปตรงทางเดินหมด ฉันจึงต้องรีบวิ่งขึ้นมาให้เร็วที่สุด จนกระทั่งวิ่งขึ้นมาถึงชั้นสี่ หลังจากนั้นฉันก็ยืนพิงเสาแล้วค่อยๆ ขยับไปยืนอยู่ใต้กล้องวงจรปิด
ตอนนี้รอแค่ให้มันหมุนไปทางบันไดฝั่งซ้ายเท่านั้น
ครืดดด~
ฉันเงยหน้ามองกล้องวงจดปิดที่กำลังหมุนเปลี่ยนทิศทาง หลังจากนั้นฉันก็วิ่งตรงไปที่ห้องเพชรทันที ฉันเอาตาแนบกับประตูเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ พอลองเขย่าประตูดูก็ทำให้รู้ว่ามันล็อก…แต่ฉันวางแผนมาแล้ว
ฉันเดินไปยังห้องประชุมข้างๆ ที่ติดกับห้องเพชร ห้องประชุมนี้ไม่เคยล็อก (ใบชาบอก) พอฉันเดินเข้ามาในห้องประชุมแล้ว ฉันก็ตรงไปที่หน้าต่างทันทีก่อนจะเปิดหน้าต่างออกอย่างเบามือและค่อยๆ ปีนออกมาด้านนอก มันจะมีระเบียงที่ยาวประมาณสามเมตรอยู่แต่มันไม่มีที่กั้น เลยทำให้หวาดเสียวนิดหน่อย -_-
ทันทีที่เท้าของฉันสัมผัสกับระเบียง ขนก็ลุกชันไปทั่วทั้งตัว ฉันพยายามที่จะไม่มองไปข้างล่างและก้าวไปที่หน้าต่างห้องของเพชรด้วยขาที่สั่นระรัว
เสร็จงานนี้ฉันคงได้กลัวที่สูงเพิ่มแน่ๆ -_-
ฉันกลัวจนไม่สามารถควบคุมมือและขาของตัวเองได้ ฉันเพ่งสายตาไปที่หน้าต่างของห้องเพชร เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอมองลงไปข้างล่าง แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นชั้นสี่ของตึกตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ไม่อยากจะคิดเลยว่าตอนนี้ฉันยืนอยู่สูงขนาดไหน จริงๆ ฉันจะกลับบ้านนอนก็ได้นะ...แต่นั่นไม่ใช่นิสัยของฉันน่ะ
โอเค...ฉันทำได้ ฉันทำได้...U_U
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะใช้มือข้างซ้ายจับที่หน้าต่างห้องประชุม แล้วค่อยๆ ขยับไปทีละก้าวเพื่อใช้มือขวาจับหน้าต่างห้องเพชรไว้ จนในที่สุดฉันก็ลากสังขารที่สั่นระริกมายืนอยู่ที่หน้าต่างห้องเพชรได้สำเร็จ
โชคดีที่หน้าต่างบานแรกของห้องเพชรไม่ได้ล็อก นั่นทำให้สามารถปีนเข้ามาได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเดินไปเปิดหน้าต่างบานอื่น หลังจากที่ปีนเข้ามาในห้องของเพชรแล้ว ฉันก็รีบบอกใบชาทันที
“ฉันเข้ามาได้แล้ว” ฉันจับบลูทูธที่ใส่อยู่ที่หูแล้วพูดบอกใบชา
[โอเค เอ้อ!...อย่าลืมนะ ห้ามเปิดไฟในห้องเด็ดขาด]
“ได้”
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไฟฉายแล้วเดินไปยังโต๊ะของเพชร โต๊ะของเขายังคงสะอาดเรียบร้อยเหมือนเดิม ฉันหยิบใบแสดงความคิดเห็นออกมาแล้วยัดใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ หลังจากนั้นฉันก็หันกลับมาหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลขึ้นมาดูก่อนจะหยิบกระดาษด้านในออกมาถ่ายรูปเอาไว้ พอถ่ายเสร็จก็เอาขึ้นมาเปิดอ่าน มันเป็นเอกสารราชการที่ถูกส่งมาจากห้องปกครองของโรงเรียน โดยมีหัวข้อว่า...
‘สั่งงดการแข่งขันของชมรมว่ายน้ำตลอดทั้งปี’
ชมรมว่ายน้ำอีกแล้ว!
เนื้อหาไม่บอกเหตุผลว่าทำไมถึงสั่งงดไม่ให้ชมรมว่ายน้ำแข่งขัน แต่มีจุดให้เซ็นรับทราบโดยลงชื่อว่าเป็นที่ให้เพชรเซ็น แต่ยังไม่มีร่องรอยว่าเพชรจะทำอะไรกับมัน พอฉันย้อนขึ้นไปอ่านบนหัวกระดาษก็ทำให้เห็นวันที่ที่ออกเอกสารฉบับนี้ ซึ่งนั่นมันก็ตั้งแต่เทอมที่แล้ว!
ต้องมีอะไรแน่นอน!
ฉันบอกแล้วว่าเอกสารฉบับนี้มันน่าสงสัย มันถึงได้มาวางอยู่ใต้จดหมายกับใบแสดงความคิดเห็น ฉันว่าเขาคงจะเอาไปทิ้งหรือไม่ก็เอาไปซ่อนไว้สักที่แน่ๆ
ฉันเก็บเอกสารฉบับนี้ไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปค้นหาอะไรอีกสองสามอย่าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอะไรอีกแล้ว ฉันจึงเดินกลับมาที่หน้าต่าง
ฉันเปิดหน้าต่างห้องเพชรและค่อยๆ เดินกลับมาที่ห้องประชุม โดยไม่ลืมหันกลับไปปิดหน้าต่างไว้เหมือนเดิม พอปีนกลับมายังห้องประชุมได้แล้ว ฉันก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มยี่สิบสองนาที ฉันมีเวลาสามนาทีในการวิ่งไปให้ถึงเสาต้นเดิม ไม่งั้นฉันต้องรออยู่ในนี้อีกห้านาที!
พอคิดได้ดังนั้นฉันก็รีบออกจากห้องแล้ววิ่งด้วยความเร็วแสงไปยังเสาที่อยู่ตรงบันไดด้านซ้าย ในขณะที่ฉันกำลังวิ่งจนใกล้จะถึงเสาแล้ว กล้องวงจรปิดก็กำลังหมุนมาพอดี ฉันจึงเร่งฝีเท้าจนมายืนใต้กล้องได้สำเร็จ
ฮู่วว...โตขึ้นฉันไม่ทำงานที่นาซ่าแล้ว ฉันจะทำที่ CIA ดูเหมาะกับฉันดี -_-
หลังจากที่กล้องวงจรปิดหมุนกลับมาตรงทางเดินแล้ว ฉันก็รีบวิ่งลงบันไดมาทันที จนกระทั่งวิ่งลงมาถึงชั้นสอง ฉันได้ยินเสียงเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งดังมาจากบันไดฝั่งขวา เหมือนว่ากำลังมีคนเดินขึ้นมา
ก็จริงอยู่ที่ว่าตอนนี้มีหลายห้องยังทำงานอยู่ในโรงเรียน แต่ส่วนใหญ่ก็ทำกันอยู่ที่โรงอาหารนี่หน่า ไม่น่ามีคนเดินขึ้นมาบนตึกตอนนี้นะ ยกเว้นจะขึ้นมาขโมยของแบบฉันน่ะ =_=
ฉันขยับตัวไปหลบอยู่หลังเสาและแอบมองคนที่กำลังเดินขึ้นมา ฉันรู้แค่ว่าเขาเป็นผู้ชายเท่านั้น แต่ไม่สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาได้เพราะว่าตอนนี้มันมืดมาก หลังจากนั้นเขาก็เดินหายไปในห้องเรียนห้องสุดท้าย
ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใครถึงได้ขึ้นมาบนนี้ตอนกลางคืน แต่ฉันคิดว่าตัวเองควรรีบลงจากตึกนี้โดยเร็ว ไม่งั้นกล้องจะหันมาทางบันไดแล้วฉันต้องยืนตายอยู่บนนี้ไปอีกห้านาที -_-
ฉันรีบวิ่งลงบันไดโดยไม่ทันได้ระวังจนตัวเองก้าวขาขวาเลยบันไดแรกขั้นแรกและนั่นทำให้ตอนนี้ฉันไม่สามารถทรงตัวได้ ฉันพยายามจะคว้าราวบันไดเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไป แต่ขาขวาดันพลิกอีกรอบจนฉันหงายหลังและก็ตกลงมาในที่สุด
ตุ้บ!
“กรี๊ดดด!!! เจ็บโว้ยยย T^T!!!” ฉันร้องลั่นเมื่อตกลงมาจนเกือบถึงบันไดขั้นสุดท้าย ตอนนี้ฉันเจ็บก้นมาก แถมยังมีแผลยาวเป็นเส้นที่เข่าอีกต่างหาก
[เฮ้ย! ออทั่ม เป็นอะไร] เสียงใบชาดังขึ้น
“แก...ฉันตกบันได T_T!!”
[เออๆ รออยู่นั่นแหละ -_-]
ฉันนั่งชันเข่าขึ้นแล้วก้มลงมองเข่าตัวเองที่มีเลือดไหลออกมาเป็นทาง เพราะบันไดเป็นบันไดปูนที่มีขอบแหลมๆ ทำให้ฉันมีแผลเป็นทางยาว น่าจะไปกระแทกกับสันบันไดตอนกลิ้งลงมานะ -_-
ตึกๆๆๆ
เสียงฝีเท้าจากบนชั้นสองดังขึ้นพร้อมกับผู้ชายแปลหน้าวิ่งหน้าตื่นมาดูฉัน เขาเปิดแฟลชส่องหน้าของฉันและมันก็ทำให้ฉันต้องเบือนหน้าหนีอย่างเลี่ยงไม่ได้ มันแสบตาโว้ย -_-
“เฮ้ย! เป็นอะไรมากมั้ยอ่ะ” เขาพูดขึ้นก่อนจะวิ่งลงมาดูฉันที่นั่งพิงผนังอยู่อย่างตายซาก
“มะ...ไม่เป็นอะไรมากหรอก” ฉันยกมือขึ้นบังแสงแฟลชจากโทรศัพท์ของเขาแล้วตอบกลับไป
“ตกมาได้ไงเนี่ย มาๆ ลุกขึ้นก่อน” เขาพูดพร้อมกับดึงแขนให้ลุกขึ้นตาม แต่ฉันปวดข้อเท้าข้างขวามากจนทำให้ฉันขยับขาข้างนั้นไม่ได้เลย ยิ่งขยับก็ยิ่งปวด
“เอ่อ...ฉันปวดข้อเท้าน่ะ” ฉันบอกเขา
“อ้าว ทำไงดีล่ะ -_-”
ตึกๆๆๆ
หลังจากที่เราเงียบไปนานก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น คราวนี้เป็นไต้ฝุ่นที่วิ่งขึ้นมาจากด้านล่างพร้อมกับใบชา ถึงแม้ว่าจะแปลกใจนิดหน่อยที่ใบชาวิ่งมาพร้อมกับไต้ฝุ่น แต่มันยังก็ดีกว่ายัยนั่นวิ่งมาคนเดียวแหละนะ เพราะฉันคิดว่าตัวเองคงเดินไม่ไหวแน่ๆ อย่างน้อยก็มีคนช่วยแบกลงไป
“อ้าว มาได้ไง แกผลักเพื่อนฉันตกบันได้เหรอ -_-” ใบชาหันไปพูดกับผู้ชายแปลกหน้าที่ยืนอยู่ข้างฉัน เหมือนว่าสองคนนี้จะรู้จักกันนะ แต่ฉันไม่ได้สนใจหรอกว่าสองคนนั้นคุยอะไรกัน ฉันต้องการแค่ให้ผู้ชายคนนั้นเลิกส่องไฟใส่หน้าฉันสักที
มันแสบตาเฟ้ย ตาจะบอดอยู่แล้วเนี่ย -_-!
“ฉันว่ารีบพาออทั่มลงไปข้างล่างก่อนดีกว่านะ” หลังจากที่สองคนนั้นคุยกันเสียงดังแบบไม่สนใจฉันที่กำลังเดี้ยงอยู่ตรงนี้ จนไต้ฝุ่นต้องพูดแทรกขึ้น
“เธอลุกไม่ไหวน่ะ เหมือนข้อเท้าจะพลิก” ผู้ชายแปลกหน้าหันไปบอกไต้ฝุ่น
“แล้วจะลงไปยังไง” ใบชาพูด
“งั้นขี่หลังฉันไปแล้วกัน” ไต้ฝุ่นหันมาพูดกับฉัน
“เอ่อ...มันจะดีเหรอ แบบว่า...ฉันตัวหนักนะ” คราวนี้ฉันพูดขึ้นบ้าง มันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่จะให้ฉันขี่หลังไต้ฝุ่นไป ถ้าเกิดเขาปวดหลังเพราะฉันขึ้นมาจะทำยังไง ._.
“ไม่เป็นไรหรอกน่า มาเถอะ”
“จะดีเหรอ...”
“มาเถอะ ฉันไหว” ไม่พูดเปล่า เขาหันหลังแล้วนั่งยองๆ ลงตรงหน้าฉัน ก่อนจะยื่นมืออ้อมมาดึงแขนฉันให้รีบขึ้นหลังเขาสักที
ฉันยื่นมือมาจับไหล่ทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปหาเขา หลังจากนั้นเขาก็ช้อนขาข้างขวาของฉันขึ้นก่อน แล้วใช้มืออีกข้างมาดึงขาซ้ายของฉันขึ้นไปตามๆ กัน
ตอนนี้ฉันมาอยู่บนหลังของไต้ฝุ่นแล้ว และเป็นครั้งแรกที่เราได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ กลิ่นคลอรีนอ่อนๆ ที่ติดตัวเขาลอยออกมาแตกจมูกฉัน วันนี้เขาไปซ้อมว่ายน้ำมาสินะ...
“งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อยากับพลาสเตอร์ยามาให้” ใบชาพูดจบก็เดินลงบันไดไปพร้อมกับผู้ชายคนนั้นทันที
ไต้ฝุ่นค่อยๆ เดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง เราสองคนต่างเงียบใส่กันจนบรรยากาศตอนนี้น่าอึดอัดมากๆ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดหรือชวนเขาคุยเรื่องอะไรดี
เอาวะ...ดีกว่าอยู่เงียบๆ แบบนี้แหละนะ
“ตัวฉันหนักหน่อยนะ ไม่ไหวก็บอกได้” ฉันเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“เบากว่าที่คิดเยอะเลย” เขาตอบกลับมานิ่งๆ ก่อนจะพูดต่อ “แล้วนี่เธอมาทำอะไรตอนนี้อ่ะ”
“อ้อ! ฉันมาเอาสมุดการบ้านน่ะ ลืมไว้ใต้โต๊ะ”
“มาวันหลังก็ได้ ดึกแล้วมันอันตรายนะ”
“ถ้าไม่มีส่งก็โดนหักคะแนนน่ะสิ”
“ห้องเด็กเก่งเขาโหดกันขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ต้องโหดแบบนี้แหละ นายเองก็อยู่ห้องคัดไม่ใช่เหรอ...อยู่ห้องเดียวกับใบชาแล้วก็เพชรน่ะ”
“…” ไต้ฝุ่นไม่ได้ตอบอะไรกลับมา พอพูดถึงเพชรแล้วเขาก็เงียบไปเลย
แสดงว่าเขากับเพชรเกาเหลากันแบบที่ใบชาเล่าจริงๆ สินะ ด้วยความสงสัยที่ค้างคาและอัดอั้นมาตั้งแต่ตอนเที่ยงทำให้ฉันพลั้งปากถามเขาออกไป
“ผู้หญิงที่เดินมากับนายวันนี้อ่ะ...นายชอบเธอเหรอ”
“ฮะ? บ้า! ไม่ใช่...พลอยอยู่ชมรมเดียวกับฉัน เราเลยสนิทกัน”
อ๋อ...แฟนเพชรชื่อพลอย
เดี๋ยวนะ...ถ้าพลอยอยู่ชมรมว่ายน้ำ มันก็เป็นไปได้ที่ว่าพลอยจะเป็นคนโกงประวัติ!
ถ้าลองคิดดูดีๆ เพชรเฉยชากับเรื่องชมรมว่ายน้ำมาก ขนาดโรงเรียนเป็นคนส่งเรื่องมาเองเขาก็ยังเมินเฉยต่อเอกสารเลย! ส่วนเหตุผลที่เพชรจะช่วยชมรมว่ายน้ำขนาดนี้ก็มีอยู่แค่อย่างเดียว...คือมีคนสำคัญสำหรับเขาอยู่ชมรมว่ายน้ำ จริงๆ มันก็เป็นไปได้ที่ไต้ฝุ่นจะโกงประวัติ แต่น้ำหนักมันเทมาที่พลอยมากกว่า
ฉันคิดว่าเพชรคงไม่ได้รักไต้ฝุ่นขนาดนั้นนะ -_-
ยังไงฉันก็ต้องรู้ให้ได้!
“งั้น...ทำไมนายกับเพชรถึงไม่คุยกันล่ะ” หลังจากที่เงียบไปนาน ฉันจึงถามขึ้นอีกครั้ง
“มันเป็นคนไม่คุยกับฉันก่อน”
“นายก็ไปง้อสิ”
“จะบ้าเหรอ” ไต้ฝุ่นตอบหยุดเดินพร้อมกับหันหน้ามามองฉัน นั่นทำให้หน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันมาก ฉันมองหน้าเขาค้างไว้อย่างนั้นจนกระทั่งเขาพูดต่อ “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะ ทำไมต้องไปง้อมันด้วย”
“ทะเลาะกันเป็นผู้หญิงไปได้” ฉันหันหน้าหนีพร้อมกับบ่นอุบอิบ
ไต้ฝุ่นไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีก เหมือนว่าเขาก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่ ฉันจึงเงียบปากทันทีไม่กล้าถามอะไรต่ออีก เขากับเพชรคงทะเลาะกันรุนแรงจริงๆ นั่นแหละ ฉันเองก็ไม่อยากจะเซ้าซี้เขามาก
ไต้ฝุ่นยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ เราสองคนเงียบใส่กันจนบรรยากาศกลับมาอึดอัดเหมือนเดิม แต่ฉันจะไม่พยายามชวนเขาคุยอะไรอีกแล้ว เดี๋ยวชวนคุยเรื่องที่ไม่เข้าหูเขาอีก -_-
เขาเดินแบกฉันมาเงียบๆ จนกระทั่งเห็นแสงสว่างและเสียงคนคุยกันดังมาจากโรงอาหาร พอเดินเข้าไปด้านในก็พบว่ามีคนอยู่ในโรงอาหารมากมาย ทั้งรุ่นน้อง รุ่นเพื่อน รุ่นพี่ ทุกคนทำงานกันอย่างขะมักเขม้น
เอ๊ะ...พรุ่งนี้มันจะมีงานอะไรเหรอ -_-?
ไต้ฝุ่นวางฉันลงที่โต๊ะตัวแรกติดกับประตูทางเข้า เป็นจังหวะเดียวกับที่ใบชากำลังวิ่งเข้ามาพอดี ใบชาวิ่งมาพร้อมกับผู้ชายคนเดิมและมีถุงพลาสติกอยู่ในมือ
“มาแล้ว!” ใบชาเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นถุงพลาสติกนั้นให้ไต้ฝุ่น ก่อนจะพูดต่อ “เอ่อ...ทำแผลให้มันด้วย คือฉันไม่ชอบเลือดอ่ะแก” ใบชาพูดจบก็ลากผู้ชายคนเดิม (ที่ฉันยังไม่รู้ชื่อ) ออกไปทันที
“เอาขามา เดี๋ยวทำแผลให้” ไต้ฝุ่นนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงตรงหน้าฉัน ก่อนจะพูดขึ้นโดยไม่ได้หันมามองหน้าฉัน เขาวางถุงพลาสติกลงกับพื้นแล้วหยิบของด้านในออกมาวางไว้
“จริงๆ ฉันทำเองก็ได้นะ” ฉันพูดขัดขึ้นเพราะรู้สึกเกรงใจเขา
“ยื่นขามา ฉันจะทำแผลให้” ไต้ฝุ่นยังคงยืนยันคำเดิม
ฉันยอมยื่นขาไปให้เขาแต่โดยดี ไต้ฝุ่นหยิบสำลีออกมาพร้อมกับเปิดฝาขวาดแอลกอฮอล์ เขาเอาสำลีชุบกับแอลกอฮอล์และกำลังจะยื่นมันมาเช็ดแผลฉัน นั่นทำให้ฉันยกมือขึ้นมาบังแผลตัวเองไว้ทันที
Wait…นั่นแอลกอฮอล์นะ TT_TT!
“มีน้ำเกลือมั้ย...” ฉันถามเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงและพยายามทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุด
“ใบชาซื้อแต่แอลกอฮอล์มา”
“งั้นขอน้ำเปล่า T^T”
“เอาน่า...แสบนิดเดียว อดทนนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่มันไม่ได้ช่วยให้ฉันใจอ่อนยอมให้เขาเอาแอลกอฮอล์มาจิ้มแผลฉันหรอกนะ
“ไม่เอาได้มั้ย มันแสบอ่ะ” ฉันพยายามส่งสายตาอ้อนวอนให้เขาวางสำลีอันนั้นลง
“เห็นเธอทำหน้าแบบนี้แล้วฉันทำไม่ลงเลย” ไต้ฝุ่นพูดพร้อมกับถอนหายใจ หลังจากนั้นเขาก็จับมือของฉันไปวางไว้บนไหล่ของเขา ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าเธอแสบมากก็บีบไหล่ฉันแรงๆ เลย ถือว่าได้ระบาย”
ฉันจ้องหน้าไต้ฝุ่นหลังจากที่เขาพูดจบ แต่ยังไม่ทันจะได้แย้งอะไรไป เขาก็เอาสำลีชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดที่แผลของฉัน จนฉันเผลอกัดฟันและบีบไหล่เขาแบบที่เขาบอก ฉันรู้สึกเย็นวาบที่แผลพร้อมกับความรู้สึกแสบๆ คันๆ ที่แผล เขาใช้เวลาเช็ดไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ แต่ฉันยังนั่งแสบไม่หายเลย
“เดี๋ยว ขอฉันพักก่อน -_-” ฉันยกมือขึ้นห้ามเขาทันทีที่เห็นว่าเขากำลังเอาสำลีชุบเบตาดีน
“เจ็บหน่อยนะ” แต่เขาไม่ฟังที่ฉันพูดเลย
“O_O!”
ไต้ฝุ่นใช้สำลีชุบเบตาดีนทาแผลฉันวนไปวนมาหลายรอบ ฉันเผลอเอื้อมมือไปจับไหล่ของเขาจนเขาเงยหน้าขึ้นมอง แต่เขาก็ยังคงทาแผลฉันไม่เลิกสักที ก็รู้ว่ามันแสบมากขนาดไหน ยังจะลีลาอยู่ได้ -_-
“เสร็จแล้ว” เขาพูดพร้อมกับโยนสำลีลงในถุงพลาสติก แล้วหยิบผ้าก๊อซออกมา
“ฮู่ววว...เหมือนเพิ่งกลับมาจากสงครามเวียดนามเลย -_-” ฉันพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ
“แผลแค่นี้เอง...” ไต้ฝุ่นพูดขึ้น ก่อนจะก้มหน้าก้มตาลงไปพับผ้าก๊อซให้มันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วเอามาพันรอบแผลของฉัน “จริงๆ แล้วฉันกับเพชรไม่ได้ทะเลาะกันเหมือนผู้หญิงหรอกนะ”
“หืม?” ฉันเอียงคอลงไปมองหน้าเขาว่าเขากำลังจะพูดอะไร
“ฉันกับมันทะเลาะกันเรื่องใหญ่เลยแหละ แต่ฉันไม่ได้อยู่ในจุดที่จะพูดอะไรได้มาก ฉันบอกใครไม่ได้” ไต้ฝุ่นพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉันแล้วค้างไว้อย่างนั้นจนฉันต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“…”
“หลายคนมองว่าฉันกับมันทะเลาะกันด้วยเรื่องผู้หญิง ฉันก็อยากจะพูดไปเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร แต่ฉันอยากบอกคนที่เข้าใจฉันมากกว่า”
ฉันเผลอหันไปสบตากับไต้ฝุ่น เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาพูดประโยคที่ฉันเคยพูดวันที่เราไปกินไอศกรีมด้วยกัน จริงๆ แล้วฉันกับเขาเหมือนกันนะ เรามีเรื่องที่ไม่อยากพูด แต่ในทางกลับกัน...เราอยากจะพูดมันออกไปจะตาย แต่ยังไม่เจอใครที่จะเข้าใจเราจริงๆ
เพราะเราเหมือนกัน...เขาถึงได้เข้าใจฉัน
“ฉันเข้าใจนายนะ...”
ไต้ฝุ่นเงยหน้าขึ้นมองฉัน ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ มันเหมือนมีแรงดึงดูดอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันไม่สามารถละสายตาจากรอยยิ้มของเขาได้
“อะแฮ่ม...เพื่อนอยู่ตรงนี้ เกรงใจกันหน่อย -_-” เสียงของใบชาดังมาจากด้านหลังของไต้ฝุ่น เธอยืนกอดอกพร้อมกับมองมาที่เราสองคน “ขอคุยกับออทั่มหน่อยได้มั้ย?”
“เอาสิๆ” ไต้ฝุ่นพูดพร้อมกับเก็บของทั้งลงในถุงพลาสติก ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี้ หลังจากนั้นใบชาก็เดินมานั่งลงข้างๆ ฉัน
“นี่...เป็นไงบ้าง?” ใบชาหันมาถาม
“ยังเจ็บอยู่เลย”
“ไม่ใช่ดิ -_- หมายถึงใบแสดงความคิดเห็น”
อ้าว...ก็นึกว่าจะห่วงฉัน -_-
“อ้อ! อยู่ในกระเป๋านี่” ฉันถอดกระเป๋าเป้ออกมา ก่อนจะเปิดซิปและหยิบใบแสดงความคิดเห็นออกมา หลังจากนั้นใบชาก็ยื่นหน้ามาอ่านด้วยกัน
‘ตั้งแต่เป็นประธานนี่มันทำอะไรบ้างหรือยัง?’
‘เลือกตั้งใหม่ I don’t need a เพชร!’
‘เลือกตั้งประธานนะ ไม่ใช่ Cute Boy เลือกมันมาทำไม -_-‘
‘จะปิดเทอมอยู่แล้ว ยังไม่เห็นอะไรพัฒนาเลยโว้ย!’
‘ห่วย’
หลังจากที่อ่านครบทั้งหมดแล้ว ฉันกับใบชาก็หันมาสบตากันด้วยสีหน้าเดียวกันและอารมณ์เดียวกัน ตอนนี้ฉันหงุดหงิดมากๆ และใบชาก็คงหงุดหงิดไม่แพ้กัน หมอนั่นเป็นบ้าอะไร!
เก็บมาทำไม!!!!
เขาเก็บใบแสดงความคิดเห็นที่คนอื่นเขียนด่าตัวเองมาเนี่ยนะ? อยากจะถามมากเลยว่า เพื่อ -_-! ถ้าบริหารงานแย่จริงๆ ก็แค่ยอมรับไปเซ่ นี่ฉันเสี่ยงตายทั้งหลบกล้อง ทั้งปีนระเบียง แถมยังตกบันไดจนได้แผล แต่ดูสิ่งที่เขาเก็บมันมาล่อตาฉันสิ อยากจะเตะหมอนั่นจริงๆ -_-^
“ฉันบอกแกแล้วว่ามันก็แค่ใบแสดงความคิดเห็น -_-” ใบชาพูดขึ้นมานิ่งๆ แต่แฝงไปด้วยความเหนื่อยใจในน้ำเสียง
“แต่ฉันเจอเอกสารฉบับนึงนะ” ฉันพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะกดเปิดรูปที่ถ่ายมาแล้วส่งให้ใบชาดู “แกลองอ่านดูสิ ฉันว่ามันแปลกๆ นะ”
ใบชารับโทรศัพท์ไปจากมือฉัน แล้วไล่สายตาอ่านทุกบรรทัดอย่างละเอียด “เรื่องชมรมว่ายน้ำเหรอ?”
“ใช่ ดูวันที่ดิ...ตั้งแต่เทอมที่แล้วอ่ะ”
“ฉันเคยได้ยินเรื่องชมรมว่ายน้ำมาบ้าง เฮ้อ...จริงๆ ฉันไม่ควรพูดเรื่องนี้นะ เพราะคนที่เอามาเล่าให้ฉันฟังเขาบอกว่าห้ามไปบอกใคร แต่ฉันสงสารแก...ฉันจะบอกให้แล้วกัน” ใบชาถอนหายใจออกมา ก่อนจะกวักมือเรียกให้ฉันเลื่อนตัวเข้าไปใกล้ๆ แล้วเธอก็ขยับเข้ามากระซิบที่ข้างหูของฉัน
“จริงป่ะเนี่ยแก?” หลังจากที่ยัยนั่นพูดจบ ฉันก็หันไปถามใบชาด้วยสีหน้างุนงง
“ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจริงแค่ไหน แต่คนนั้นเขาเล่ามาอย่างงี้อ่ะ -_-”
ตอนนี้เรื่องในหัวของฉันตีกันไปหมด จากที่เคยมั่นใจมากๆ ว่าคนที่โกงประวัติต้องเป็นพลอยแน่ๆ แต่พอใบชาบอกมาแบบนี้แล้ว...มันก็มีความเป็นไปได้ที่ไต้ฝุ่นจะเป็นคนโกงประวัติเหมือนกัน
อยู่ดีๆ ฉันก็รู้สึกหน่วงๆ ขึ้นมา ไต้ฝุ่นเป็นคนบอกฉันเองเรื่องมีคนโกงประวัติ แต่ถ้าเขาเป็นคนทำจริงๆ ฉันคงตอบไม่ได้ว่าตัวเองผิดหวังแค่ไหน มันคงยากที่จะบอก...ฉันควรสะบัดเรื่องนี้ออกจากหัวนะ เพราะจุดประสงค์จริงๆ ของฉันไม่ใช่ชมรมว่ายน้ำ แต่เป็นผู้หวังดีต่างหาก!
“ถ้าเรื่องที่แกเล่ามาเป็นเรื่องจริง งั้นก็แปลว่าผู้หวังดีเป็นคนในชมรมว่ายน้ำน่ะสิ O_O” ฉันหันไปพูดกับใบชาด้วยสีหน้าตกใจ เพราะที่ฉันคิดมาตลอดมันผิดหมด!
“อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจนะ”
“ฉันว่าเราคงต้องสืบกันอีกรอบแล้วล่ะ”
“นี่เราจะหาเรื่องตายกันอีกแล้วเหรอเนี่ย -_-” ใบชาถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เอือมระอากับแผนการของฉันเต็มที
“เอาเถอะน่า...รับรองว่าครั้งนี้ไม่มีพลาด” ฉันพูดพลางเอื้อมมือไปตบไหล่ใบชาเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ “ไม่เคยได้ยินหรือไง อยากได้ลูกเสือ...ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ J”
รักน้องทรายอีกแล้ววค่าา
เป็นเรื่องที่เดาอะไรไม่ได้เลย รอเฉลยรัวๆ
รู้สึกว่าตอนนี้มันสั้นจัง...อ้อ เพราะอ่านเพลินนี่เองค่ะ!
สู้นะคะ...ไต้ฝุ่นของเจ้ //ผิด
อ้าวว คดีพลิกมาสงสัยไต้ฝุ่นแล้ว นี่อยากรู้จริงว่าใบชากระซิบอะไร55555
รออ่านตอนต่อไปก็ได้~~
สู้เค้าออทั่ม ทำเอาตื่นเต้นได้ทุกตอนจริงๆ
ลึกลับซับซ้อนเหมือนซีรียส์เชอร์ล็อก โฮมส์ #ผิดเรื่อง
ชอบที่สามารถผลิกสถานการณ์ไปมาได้ดีอ่ะ เปลี่ยนผู้ต้องสงสัยให้ลุ้นเรื่อยๆ จนคนอ่านเดาไม่ถูก
ออทั่มเป็นนางเอกที่ไม่อ่อนแอ นับถือออ ช่างใจเด็ดจริง
อาทิตย์หน้าก็บทที่เจ็ดแล้ว จะติดตามแกไปจนจบเลยนะ T_T จบโครงการก็อย่าลืมกันล่ะ แงงง
แอบขำข้อความในใบแสดงความคิดเห็น ฮี่ฮี่
พลอตของเราดีนะ แต่พี่ว่าเรายังนำเสนอมันออกมาได้ไม่สุด มันมีรายละเอียดที่น่าตื่นเต้นมากกว่านี้และสามารถใส่ลงไปได้ จุดนี้อาจจะต้องลองไปคิดเป็นการบ้านดู