สวัสดีค่ะน้อง ๆ dek-d.com ... นี่ก็เข้าสู่ช่วงของฤดูหนาวแล้ว แน่นอนล่ะค่ะโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ก็เริ่มถามหาเพราะว่าอากาศเปลี่ยนแปลง "อัพเดทข่าวไลฟ์สไตล์" วันนี้พี่เหมี่ยวก็เลยมีเรื่องราวของโรค "เลือดหนืด" มาให้น้อง ๆ ได้รู้จักและระวังตัวกันค่ะ
อย่างที่เรารู้กันนะคะว่าในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ทำให้เจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ หอบหืด หรือหลอดลมอักเสบ รวมถึงปอดบวมด้วย
โดยอาการเบื้องต้นของโรคเหล่านี้ จะมีอาการคอจะแห้ง เจ็บคอ เพราะฤดูหนาวอากาศแห้ง ฝุ่นละอองมาก โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องสวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ทาง นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาแจ้งเตือนถึงอาการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวว่า "สภาพอากาศที่มีความหนาวเย็น หากใส่เสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายไม่เพียงพอ จะมีผลทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี อาจทำให้ช็อคเสียชีวิตได้ เนื่องจากความเย็นจะทำให้เลือดมีความหนืด หัวใจต้องทำงานสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายหนักขึ้น ที่น่าห่วงก็คือเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ที่อยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอากาศหนาวเย็นกว่าภาคอื่นๆ เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตสูงที่สุด เนื่องจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายของเด็กยังทำงานไม่เต็มที่ อุณหภูมิร่างกายเด็กจึงเปลี่ยนแปลงได้ง่ายตามสภาพอากาศ ในปีที่ผ่านมีรายงานเสียชีวิตแล้ว 1 ราย"
นอกจากนี้ทางสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย ยังให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาวอีกเรื่องหนึ่งคือ ความเปียกชื้น โดยการอาบน้ำหรือชำระล้างตัวเด็ก ควรใช้น้ำอุ่นๆ และอาบน้ำในบริเวณที่ไม่มีลมโกรก เลือกเวลาที่อากาศไม่เย็นมาก เช่น ตอนบ่าย ส่วนในเด็กเล็กให้หมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อม เมื่อเด็กปัสสาวะหรืออุจจาระเปียกแฉะ นอกจากนี้ ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ประเภทแป้งและไขมัน เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เนื้อสัตว์ติดมัน ซึ่งจะช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย เด็กทารกควรให้กินนมแม่เพราะนอกจากเด็กจะได้รับภูมิต้านทานโรคจากนมแม่แล้ว การที่แม่โอบลูกขณะกินนมยังสร้างความอบอุ่นให้กับเด็กด้วย ส่วนเด็กโตนอกจากรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากและผิวหนังไม่แห้งแตก
เอาล่ะค่ะ เมื่อเราได้ทราบถึงโรคภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูหนาวและวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้องแล้ว เราก็ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา ไม่อย่างนั้นหากปล่อยให้เกิดอาการเจ็บป่วยก็อาจจะส่งผลให้เราต้องขาดเรียนก็ได้นะคะ ทางที่ดีดูแลตัวเองเสียตั้งแต่ยังไม่เจ็บป่วยน่าจะดีที่สุดค่ะ
พี่เหมี่ยวขอขอบคุณ : ข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชนค่ะ |
10 ความคิดเห็น
จะตายมั้ยเนี่ยเราT^T???
ต้องรีบไปหาหมอด่วน~!!!
ปล.รักษาสุขภาพด้วยนะคร้าบ บ บ บ บ บทุกๆๆคนในเว็บเด็กดีที่รัก>3<~
ขอบคุณค่ะพี่มะเหมี่ยว
ยังไงเพื่อนๆชาวเด็กดีก็อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
เพื่อนมันเป็นมา 1 เดือนล๊า ยังไม่หายซักที
โอ้ยยยยยยยยย
น่ากลัวจิงๆๆเรยง่า
โรคภัยไข้เจ็บ สมัยนี้
โลกร้อนๆๆๆ ช่วยกันรักษาโลก
โรคภัยไข้เจ็บ จาได้อันตรายน้อยลง
อิอิ
แถมเป็นภูมิแพ้อีก
ไปกันใหญ่เลยพี่น้อง !!
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ
น่ากัวๆ
แงแงแงแง
ขอบคุณ