เตือนภัย : เปิดบลูทูธทิ้งไว้ระวังถูกขโมยข้อมูล

 

     สวัสดีค่ะน้องๆ dek-d.com... พบกับพี่เหมี่ยวที่คอลัมน์ "เตือนภัยเด็กดี" ที่จะมาอัพเดทเรื่องราวข่าวสารเกี่ยวกับภัยร้ายและเล่ห์กลของพวกมิจฉาชีพทั้งหลายให้น้องๆ dek-d.com ได้รู้เท่าทันกันค่ะ

     วันนี้เป็นภัยร้ายใกล้ตัวน้องๆ อีกแล้วล่ะค่ะ เป็นเรื่องราวของเทคโนโลยีที่ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องมีติดกระเป๋าอย่าง "โทรศัพท์มือถือ" นั่นเองค่ะ


     อย่างที่น้องๆ ทราบกันดีนะคะว่า "โทรศัพท์มือถือ" มีบทบาทอย่างมากในชีวิตของเรา และจากความต้องการที่มากขึ้น ผู้ผลิตจึงพยายามสนองความ ต้องการเหล่านั้นผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัยในมือถือ อาจนับได้ว่ามีมือถือก็เหมือนมีคอมพิวเตอร์แบบพกพา เพียงปลายนิ้วก็สามารถโอนเงินผ่านธนาคาร-ถ่ายรูป-ถ่ายคลิป-ฟังเพลง ฯลฯ

     แต่น้องๆ ทราบรึเปล่าคะว่า จากความสะดวกสบายเหล่านี้ก็อาจเป็นช่องทางให้เหล่ามิจฉาชีพขโมยข้อมูลต่างๆ ได้เพียงปลายนิ้วมือ ด้วยการเจาะข้อมูลรหัสผ่านมือถือที่เปิดสัญญาณบลูทูธทิ้งไว้ ซึ่งที่ผ่านมาพี่เหมี่ยวเชื่อว่าหลายคนอาจไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้นัก แต่ใครจะรู้ล่ะคะ น้องๆ อาจตกเป็นเหยื่อไปแล้วก็ได้ ?

     จากการพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้ปัจจุบันหลายคนนิยมเก็บข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ นี่จึงเป็นอีกช่องทางให้เหล่ามิจฉาชีพพยายามเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธกับโทรศัพท์มือถือของเหยื่อเพื่อดึงข้อมูลสำคัญ

     ดร.โกเมน พิบูลย์โรจน์ ผู้อำนวยการโปรแกรมเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคง ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ให้ความรู้เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า โดยทั่วไปคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะมีโปรแกรมค้นหาสัญญาณบลูทูธ เมื่อเปิดขึ้นจะสามารถเห็นว่ามีผู้ใด ใช้บลูทูธอยู่ในรัศมี 10 เมตร คนร้ายจะพยายามใส่รหัสผ่านเพื่อเชื่อมต่อ แต่หากเหยื่อตั้งรหัสผ่านง่ายก็สามารถดึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันถ้าโทรศัพท์ตั้งชื่อให้คล้ายเหล่าคนดังก็ยิ่งกระตุ้นให้คนร้าย อยากเข้าไปดึงข้อมูลมากขึ้น

     “มือถือรุ่นเก่าๆ ที่มีบลูทูธหลายรุ่นไม่มีระบบป้องกันทำให้คนร้ายไม่ต้องสุ่มตัวเลขรหัสผ่าน แต่สามารถดึงข้อมูลได้ทันที ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากหากเปิดบลูทูธเข้าไปในที่ชุมชน เนื่องจากคนร้ายสามารถเลือก เข้ามาดึงข้อมูลได้อย่างสบาย”

     สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ คนร้ายอาจใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ เพื่อเป็นเสาอากาศให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถค้นหามือ ถือที่ใช้บลูทูธได้ในรัศมีไกลถึง 200 เมตร หรือหากมีความรู้อาจ สามารถเพิ่มความแรงของการค้นหาคลื่นได้ โดยอุปกรณ์เหล่านี้หาซื้อได้ในท้องตลาดทั่วไป

     ส่วนใหญ่คนร้ายต้องการข้อมูลบัตรเครดิตที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ สามารถโอนเงินเข้าไปในบัญชีอื่นได้ ตลอดจนภาพหรือคลิปที่เหยื่อถ่ายไว้เพื่อข่มขู่รีด ไถเงิน โดยจะทำทีติดต่อเจ้าของเครื่องต่อรองขอเงินแลกกับภาพหลุดที่โหลดได้ หากไม่ยอมทำตามจะนำภาพและคลิปเหล่านั้นไปประจานตามเว็บไซต์ต่างๆ ขณะเดียวกันบรรดาดาราและบุคคลสาธารณะเป็นอีกเป้าหมายที่กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการลักข้อมูลบนมือถือเพื่อนำไปต่อรองรีดไถเงินหรืออาจนำภาพไปขายให้ กับบรรดาสื่อดาราต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน

     “ที่ผ่านมาหลายคนอาจโดนลักข้อมูลบนมือถือไปหลายคนแล้ว แต่เราไม่รู้ตัวเนื่องจากข้อมูลในโทรศัพท์ก็ยังอยู่ เหมือนปกติทำให้ผู้ใช้ไม่เกิดความสงสัย ขณะเดียวกันการ จับกุมคนเหล่านี้ก็เป็นไปได้ ยากเนื่องจากต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนานพอสมควร”

     ฟังมาถึงตอนนี้ น้องๆ หลายคนเริ่มเกิดความกังวลกันแล้วว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นกับเรารึเปล่า???

     สำหรับวิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเจ้ามิจฉาชีพนั้น น้องๆ ต้องสำรวจข้อความให้ดีก่อนตอบรับข้อความใดๆ เพราะเมื่อคนร้ายกรอกรหัสผ่านถูกต้องจะมีสัญญาณเตือนให้รับการเชื่อมต่อในเครื่องที่มีระบบป้องกัน แต่บางคนที่กำลังทำธุระอยู่อาจเกิดความรำคาญและตอบรับโดยไม่ดูข้อความให้ถี่ถ้วนก็จะตกเป็นเหยื่ออย่างง่ายดายค่ะ

     ดังนั้นพี่เหมี่ยวจึงอยากจะขอเตือนน้องๆ ไว้เลยนะคะว่า อย่าเปิดบลูทูธไว้ตลอดเวลา เพราะจะทำให้ง่ายต่อการดึงข้อมูลหากคนร้ายสะกดรอยตามเพื่อโจรกรรมข้อมูล ทางที่ดีควรใช้เมื่อต้องการใช้จริง ๆ เช่น เมื่อนั่งใทานข้าวแล้วเปิดบลูทูธเชื่อมต่อกับหูฟังเพื่อฟังเพลงไปด้วยอาจทำให้คนร้ายที่นั่งอยู่บริเวณนั้นง่ายต่อการเจาะข้อมูลค่ะ

     และสำหรับโทรศัพท์มือถือที่มีระบบป้องกันต้องพยายามตั้งรหัสผ่านให้ยากต่อการเดาสุ่ม เพราะจะทำให้คนร้ายต้องใช้เวลานานในการเข้าถึงข้อมูล แต่หากตั้งรหัสง่ายก็ย่อมเข้าถึงข้อมูล ได้อย่างรวดเร็ว

     อีกสิ่งหนึ่งที่ควรจำไว้คือ ไม่ควรตั้งชื่อเครื่องให้เหมือนกับคนดังเพราะจะทำให้คนร้ายมีความพยายามดึงข้อมูล ซึ่งหากเป็นบุคคลนั้นจริงและมีคลิป หรือข้อมูลที่ล่อแหลมสามารถนำไปขายให้กับผู้อื่นได้ในราคาสูง

     นอกจากนี้การนั่งอยู่กับที่นานๆ จะทำให้สัญญาณบลูทูธมีความเสถียรง่ายต่อการเข้าถึง ซึ่งจุดเสี่ยงคือ ตามย่านห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่วัยรุ่นนิยมไปนั่งสังสรรค์กันเป็นเวลานาน แม้แต่อยู่ในบ้านก็ตาม หากคนร้ายมีความต้องการข้อมูลเพื่อนำไปขายอาจใช้เครื่องส่งสัญญาณที่ดัดแปลงให้มีระยะไกลกว่าเดิมเพื่อดึงข้อมูลก็ได้

     คิดๆ ไปแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะ เพราะในอนาคตหากระบบโทรศัพท์ 3G แพร่หลายในประเทศไทย ก็จะทำให้มือถือมีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น การโจรกรรมข้อมูลเหล่านี้ยิ่งเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะคนเริ่มหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบมือถือมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายโจรกรรมได้ ...

     ยังมีอีกกรณีนึงที่น่าสนในนะคะ น้องๆ ลองสังเกตตามป้ายรถเมล์ที่มีการโฆษณาสินค้าโดย ให้โหลดตัวอย่างโฆษณาผ่านบลูทูธ อาจเป็นอีกจุดเสี่ยงที่เหล่ามิจฉาชีพลักลอบดึงข้อมูล ซึ่งจากกรณี้น้องๆ จะต้องระมัดระวังให้มากเลยนะคะ

     ...นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่แฝงมากับเทคโนโลยีที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนะคะ น้องๆ dek-d.com ต้องท่องให้ขึ้นใจเลยนะคะว่าเทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราซึ่งเป็นผู้ใช้ต้องพยายามนำข้อดีมาใช้กับตัวเองให้มากที่สุด ส่วนข้อเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามวิวัฒนานั้นเราก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่คอยสอดส่องระแวดระวังไม่ให้คนที่คิดไม่ดีไปทำร้ายผู้อื่นด้วยนะคะ

     และสำหรับน้องๆ คนไหนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องราวแบบนี้ก็สามารถมาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ที่นี่เลยค่ะ ^^


พี่เหมี่ยวขอขอบคุณ : ข้อมูลประกอบจาก ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

และหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ค่ะ

พี่เหมี่ยว
พี่เหมี่ยว - Columnist คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ผู้หญิง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

35 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
โอ้หลั่นล่า~BoWberry= Member 27 ก.พ. 52 18:40 น. 3
คือว่าปิดบลูทูธไม่เป็นอ่ะค่ะ TT_TT รุ่น n5300 เหมือนในรูปแรกข้างขวาเลยอ่ะ ใช้มาเป็นปีและ แต่ยังเปิดปิดไม่เป็น
0
กำลังโหลด
~#KAYAHIRAZAKI#~ Member 27 ก.พ. 52 19:57 น. 4
เราปิดนะ เพราะมันดึงได้

ของเราอ่ะถ้าเดินผ่านใครที่กำลังส่งข้อมูลทางบลูทูธ

เราก้ได้ด้วย55+
0
กำลังโหลด
NBC*TNG Member 27 ก.พ. 52 21:04 น. 5
เราใช้ Windows Mobile
เพราะฉะนั้นเวลาเปิดตลอดมันสามารถเข้า Bluetooth Explorer
แล้ว Copy > Paste ไปอย่างง่ายๆ เลย :p

น่ากลัวมากกกกกกกก ก
เพราะฉะนั้นจะปิดแล้ว กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาแล้วนึกขึ้นได้
เพราะปกติเป็นคนเปิดบลูทูธตลอดเวลาเหมือนกัน =w=

เกิดมันเอาไวรัสมาวางม่องแหงๆ 555 5
0
กำลังโหลด
♥ เหตุใดฉันถึงมีกิ๊ก ♥ Member 28 ก.พ. 52 00:08 น. 6

เคยเเอบขโมย ข้อมูลงาน ในโทรศัพธ์อาจารย์ นึกเเล้วบาปกรรม (อาจารย์มีนัตเดท)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
<--F[R]--> Member 28 ก.พ. 52 12:33 น. 8
เราเคยโดนแล้ว แต่เพื่อนเป็นคนขโมย ถ้าเชื่อม ต่อแล้ว เขาสามารถ ทำทุกอย่าง ในมือถือเราได้หมดเลยๆ คือ เพื่อนเราบอกว่า ถ้าเป็น Sony จะทำได้หมด แต่ Nokia อ่านข้อความไม่ได้ ถ้าเป็นคนอื่นขโมย คงแย่แน่เลย แต่เป็นเพื่อนขโมย ก็เลยไม่เป็นไร
0
กำลังโหลด
เหนก้วย 28 ก.พ. 52 12:39 น. 9
เหมือ นคห. 8 ว่า แหละ


ผม เคยดึงข้อมูล เพื่อน มา


ผมใช้ ไอโม เพื่อนใช้โนเกีย



ไอโม ดึง โนเกียได้


แต่โนเกีย (ซีรีย์ 40) ดึงไม่ได้เลย


ฝากไว้นะคับ


: )
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
mws 1 มี.ค. 52 10:54 น. 11
อันนี้เพื่อนเราเคยลองเหมือนกันอ่ะ

เปิดบลูไว้แล้วเพื่อนมาโขมยงาน มันลองทำให้ดู

บอกว่าให้ระวังไว้เลย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
<<ไอโกะจัง>> Member 5 มี.ค. 52 16:02 น. 17

หวา น่ากลัว

ขอบคุณนะคะที่เตือน

แต่ปกติก็เปิดแค่ตอนส่งเพลงให้เพื่อนอะไรเงี้ย

แล้วก็ปิด

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
fern 6 มี.ค. 52 00:41 น. 20
อยากรวยป่ะ

สนใจเข้าไปดูดิ (รับรองไม่รบกวนเวลาเล่น hi5 ชัวร์)

http://only_fern.storythai.com/200903/entry-42

สนใจอยากรวยแบบไม่ตัวก้กดลิ้งตามไปได้เลย

แต่ถ้าไม่สนใจก้ไม่เป็นไร



ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น !!
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด