เตือนภัย : ระวังโรคระบาดในช่วงน้ำท่วม

     ช่วงนี้หลายพื้นที่ในประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สร้างความเดือดร้อนและสูญเสียมากมายให้กับประชาชนคนไทยในหลายๆ จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ การคมนาคม และความปลอดภัยในด้านต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่อาจะเกิดขึ้นในช่วงที่อยู่ในภาวะน้ำท่วม ...

     และเพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงน้ำท่วม พี่เหมี่ยวก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับโรคที่มากับน้ำท่วมมาฝากกัน เพื่อให้ทุกๆ คนได้ระมัดระวัง และปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วมค่ะ ...


     >> โรคฉี่หนู ... เป็นโรคระบาดในคนที่ติดต่อมาจากสัตว์ มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า เลปโตสไปรา (Leptospira sp.) ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ ตั้งแต่หนู วัว ควาย ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวเลยทีเดียว โดยคนจะสามารถรับเชื้อฉี่หนูนี้เข้าไปทางบาดแผล หรือผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานานๆ รวมถึงเยื่อเมือกอย่างตาและปากอีกด้วย

     สำหรับอาการของโรคฉี่หนู จะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ คือ แบบไม่รุนแรงซึ่งจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา ปวดหัว ตัวร้อน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ถ้าหากพบว่ามีอากการและรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ถ้าหากมีอาการรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อมาแล้วก็จะทำให้มีอาการตาอักเสบแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ และเมื่อเชื้อเข้าไปอยู่ในสมองจะทำให้เกิดอาการเพ้อ ไม่รู้สึกตัว และยิ่งไปกว่านั้นหากติดเชื้อทั่วร่างกายจะทำให้เลือดออกในร่างกายจนเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

     วิธีป้องกันโรคฉี่หนูสามารถทำได้โดย หลีกเลี่ยงการเดินอยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง การเล่นน้ำ โดยเฉพาะในเด็กที่มักจะสนุกสนานไปกับการย่ำน้ำหรือเล่นน้ำในช่วงน้ำท่วม แต่หากจำเป็นต้องเดินผ่านบริเวณน้ำท่วมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ให้รีบเดิน อย่าแช่น้ำจนผิวหนังเปื่อยเพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย หรือถ้าหากรู้ว่าจะต้องลุยน้ำควรใส่รองเท้าบูททุกครั้งเมื่อเดินลุยน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลที่เท้า และป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่บาดแผลที่เท้าหรือน่องและยังช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์ที่หนีน้ำกัดได้ ส่วนถ้าใครสงสัยว่ากำลังป่วยเป็นโรคฉี่หนู โดยเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน ให้รีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน อย่ารอให้อาการหนักเพราะอาจจะรักษาไม่หายและเสียชีวิตได้ค่ะ


     >> อหิวาตกโรค ... เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio Cholerae ที่แพร่กระจายอยู่ในน้ำดื่มและอาหาร โดยมีแมลงวันเป็นพาหะนำโรค และแน่นอนว่าโรคนี้แพร่ระบาดได้โดยการกินและดื่มอาหารที่มีแมลงวันตอมและมีเชื้ออหิวาตกโรคปะปนอยู่ รวมทั้งอาหารสุขๆ ดิบๆ ด้วย

     สำหรับอาการของโรคอหิวาตกโรคนั้น ผู้ป่วยจะถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำวันละหลายครั้ง อาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนได้ อาการดังกล่าวถือว่าเป็นอาการในระยะแรกสามารถรักษาให้หายได้ภายใน 1-5 วัน แต่หากติดเชื้อขั้นรุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเดิน อุจจาระมากและมีลักษณะอุจจาระเป็นน้ำซาวข้าว มีกลิ่นเหม็นคาว และอุจจาระได้โดยไม่ปวดท้องและไม่รู้สึกตัว สามารถหายได้ภายใน 2-6 วันหากได้รับเกลือแร่และน้ำชดเชยน้ำที่เสียไป แต่หากได้รับไม่พอดีกับสิ่งที่ร่างกายได้ขับถ่ายออกไป ผู้ป่วยก็จะมีอาการหมดแรง หน้ามืด อาจช็อคถึงเสียชีวิตได้

     วิธีป้องกันโรคอหิวาตกโรคสามารถทำได้โดย ควรรับประทานอาหารที่สะอาด และผ่านการปรุงสุกด้วยความร้อน และควรดื่มน้ำสะอาด รวมไปถึง รักษาสุขภาพอนามัยด้วยการล้างมือ และภาชนะใส่อาหารให้สะอาดทุกครั้ง แต่ไม่ควรนำน้ำท่วมมาล้างหรือทำความสะอาดภาชนะเด็ดขาด! นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นอหิวาตกโรค หรือหากติดเชื้ออหิวาแล้วก็ควรพบแพทย์และรับประทานยาตามแพทย์สั่ง


     >> ไข้ไทฟอยด์ ... โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Typhi  ที่อยู่ในน้ำและอาหารเช่นเดียวกับอหิวาตกโรค แพร่ระบาดโดยการดื่มน้ำและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค

     สำหรับอาการของโรคไข้ไทฟอยด์ ผู้ที่ได้รับเชื้อนี้จะไม่มีอาการแสดงให้เห็นในตอนแรก แต่จะแสดงอาการหลังจากรับเชื้อประมาณ 1 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัว เบื่ออาหาร มีไข้สูงมาก ท้องร่วง บางรายมีผื่นขึ้นตามตัว แน่นท้อง สามารถหายได้เองภายใน 1 เดือน แต่ผู้ป่วยควรจะพบแพทย์หลังจากมีอาการแล้ว เพราะอาจจะเสียชีวิตจากภาวะปอดบวมซึ่งเป็นสภาวะแทรกซ้อนได้

     วิธีการป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์สามารถทำได้โดย การรับประทานอาการที่สะอาดและผ่านการปรุงสุก ที่บรรจุในภาชนะที่สะอาด รวมถึงล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง และควรจะหลีกเลี่ยงอาหารจากร้านค้าข้างถนนที่อยู่ในบริเวณที่ไม่สะอาด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรืออีกทางหนึ่งคือฉีดวัคซีนป้องกันไข้ไทฟอยด์

     >> โรคตับอักเสบ ... โรคนี้เกิดขึ้นจากภาวะการอักเสบของเซลล์ตับ ทำให้ตับทำงานผิดปกติ เชื้อไวรัสตับอักเสบที่เกิดขึ้นในช่วงน้ำท่วมนั้น เป็นไวรัสตับอักเสบชนิดเอที่มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดและไม่ผ่านการปรุงให้สุก

     สำหรับอาการของโรคตับอักเสบ จะมีอาการมีไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร ปวดท้อง  ปวดตัวแถวชายโครงขวา และมีปัสสาวะเป็นสีชาแก่ เริ่มมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองในสัปดาห์แรก และจะหายเป็นปกติภายใน 2-4 สัปดาห์ ถ้าหากได้รับการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์

     วิธีการป้องกันโรคตับอักเสบนั้นสามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆคือ การรับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงสุก สะอาด และไม่ใช้แก้วน้ำและช้อนร่วมกับผู้อื่น


     >> โรคตาแดง ... โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส Chlamydia trachomatis และ Bacterial Conjunctivitis อาจมาจากภูมิแพ้หรือสัมผัสสารที่เป็นพิษต่อตา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการเอามือที่สกปรกไปขยี้หรือสัมผัสดวงตา รวมถึงใช้ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าเช็ดหน้าไปสัมผัสกับดวงตามากๆ

     สำหรับอาการของโรคตาแดงนั้น อาการเริ่มต้นผู้ป่วยจะมีอาการคันตาจนต้องขยี้บ่อย และมีขี้ตามากกว่าปกติ ขี้ตาจะมีลักษณะเป็นหนองและมีสะเก็ดปิดตาตอนเช้า และมองเห็นได้ไม่ชัดเจน ตามัว หรืออาจปวดตา

     วิธีป้องกันโรคตาแดงสามารถทำได้โดย การล้างมือให้สะอดา ไม่ใช้เครื่องสำอางและผ้าเช็ดตัว - ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับคนอื่น และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา และอย่าใช้ยาหยอดตาร่วมกับคนอื่น ถ้าหากเริ่มมีอาการเคืองหรือคันตาให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที

     >> ไข้เลือดออก ... โรคนี้จะมียุงลายเป็นพาหะในการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ส่วนใหญ่แล้วโรคนี้มักจะพบในเด็ก และมักจะระบาดในฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูที่ยุงลาแพร่พันธุ์ได้ง่าย

     สำหรับอาการของโรคไข้เลือดออกนั้น ผู้มีที่อาการป่วยในช่วงแรกจะมีไข้สูงประมาณ 2-7 วัน เบื่ออาหาร อาเจียนออกมามีสีน้ำตาลปนอยู่ ปวดกล้ามเนื้อ ตัวแดง หรืออาจมีผื่นหรือจุดเลือดตามผิวหนัง และถ้าหากเข้าสู่ภาวะวิกฤตผู้ป่วยจะไข้ลด มือเท้าเย็น ตัวเย็น ชีพจรเต้นเร็ว อาเจียนมาก ปัสสาวะน้อย ทำให้เข้าสู่ภาวะช็อคได้ หากมีอาการควรรีบพบแพทย์อย่างเร่งด่วนเพราะอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

     สำหรับป้องกันโรคไข้เลือดออกนั้นสามารถทำได้โดย พยายามอย่างให้ยุงกัด โดยอาจหาโลชั่นทากันยุงมาทาตามร่างกายและเสื้อผ้าเพื่อไม่ให้ยุงมากัดตามร่างกายเรา และอย่าปล่อยให้ภาชนะต่าง ๆ ภายในบ้านมีน้ำขังนานเพราะจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้วไม่ควรให้ยุงกัดเพราะจะทำให้แพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิดได้โดยมียุงเป็นพาหะ

     และทั้งหมดนี้ก็คือ โรคระบาดที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงน้ำท่วมและฤดูฝน ได้ทราบถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันโรคระบาดต่างๆ แล้ว เราก็ควรจะระวังและป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหล่านี้ จำไว้นะคะว่าการป้องกันเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการรักษาเมื่อเป็นโรคแล้วเสมอ ดังนั้นการใส่ใจกับเรื่องของสุขภาพและสุขอนามัยตั้งแต่แรกจึงเป็นวิธีป้องกันโรคระบาดต่างๆ ที่ดีที่สุดค่ะ

ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบจาก : http://www.moph.go.th/moph2/index4.php