|
สวัสดีค่ะน้องๆเด็กดีทุกคน พี่เหมี่ยวขอต้อนรับเช้าวันนี้กันด้วยเรื่องราวๆดีๆที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ว่าแต่ว่า น้องๆรู้กันรึเปล่าว่าวันพรุ่งนี้น่ะเป็นวันอะไร ติ๊กตอก ติ๊กตอก
เอาล่ะค่ะถ้ายังนึกกันไม่ออกเดี๋ยวพี่เหมี่ยวจะบอกให้ก็ได้นะคะว่าวันพรุ่งนี้เป็น วันงดสูบบุหรี่โลก ค่ะ
ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอนาคตของชาติอย่างน้องๆ วันนี้พี่เหมี่ยวก็เลยจะอัพเดทวิกฤตการณ์ บุหรี่ ในหมู่วัยรุ่นให้น้องได้ทราบกันค่ะ
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ วันงดสูบบุหรี่โลก ก่อนนะคะ ...องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ 31 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยในปีนี้ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์ไว้ว่า Tobacco-Free Youth เยาวชนรุ่นใหม่ ร่วมใจต้านบุหรี่ ค่ะ
และมีประเด็นที่น่าสนใจและถือว่าเป็นข้อมูลที่ฟังแล้วต้องตกใจเลยทีเดียว นั่นก็คือ จากข้อมูลสำรวจทั่วโลกพบว่า เยาวชนที่ติดบุหรี่ ส่วนใหญ่จะเริ่มสูบบุหรี่ก่อนอายุ 18 ปี หนึ่งในสี่ของเด็กเหล่านี้เริ่มทดลองสูบก่อนอายุ 10 ขวบ ยิ่งอายุที่ทดลองสูบบุหรี่ ยิ่งน้อย โอกาสที่จะติดบุหรี่จะยิ่งมากและจะยิ่งเลิกสูบยาก มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า โฆษณาบุหรี่ทั้งทางตรงและทางอ้อม มีผลทำให้เด็กอยากทดลองสูบบุหรี่มากขึ้นอีกด้วยค่ะ
ได้ฟังแล้วน้องๆรู้สึกยังไงค่ะ?... และยิ่งถ้าเราได้แยกย่อยผลสำรวจขององค์กรต่างๆที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เราจะต้องตกตะลึงกับความจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับวัยรุ่นไทย...
จากผลการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของประชากรไทย พ.ศ. 2550 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่เป็นประจำในปี พ.ศ. 2550 เท่ากับ 9.48 ล้านคน ลดลงจากปี พ.ศ. 2549 ประมาณ 5 หมื่นคน
แต่ที่สำคัญ คือ สถิติการสูบบุหรี่ของเยาวชนไทยกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยเยาวชนอายุ 11-14 ปี มีจำนวน 7,335 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ เพิ่มขึ้นจากปี 2549 เท่ากับ ร้อยละ 38.46
สำหรับกลุ่มอายุ 15-18 ปี มีจำนวน 228,219 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ร้อยละ 12.72 ส่วนเยาวชนอายุระหว่าง 19-24 ปี มีจำนวน 1,042,502 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ร้อยละ 10.52
นอกจากนั้นยังพบว่าเยาวชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.25 ซื้อบุหรี่เป็นมวน และร้อยละ 93.60 ของเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถซื้อบุหรี่โดยผู้ขายไม่ได้ขอดูบัตรประชาชน
เยาวชนส่วนใหญ่ร้อยละ 91 ซื้อบุหรี่จากร้านค้าใกล้บ้าน และใช้จ่ายวันละ 12.58 บาทต่อวันในการซื้อบุหรี่
น้องๆรู้รึเปล่าคะว่า ในหนึ่งวันโดยเฉลี่ยแล้วเยาวชนทั้งประเทศเผาผลาญเงินไปกับค่า บุหรี่ต่อวันถึง 20.3 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้นจากการศึกษายังพบว่าเยาวชนเหล่านี้ ร้อยละ 2.19 ที่สูบบุหรี่ที่ไม่มีภาพคำเตือน เป็นผลให้รัฐต้อง สูญเสียรายได้จากภาษีบุหรี่ไปถึงวันละ 6.9 ล้านบาท หรือปีละไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ในส่วนของ ปัจจัยทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นไทย ได้มีผลวิจัยจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ออกมาว่า วัยรุ่นชาย-หญิง อายุระหว่าง 13-17 ปี พบว่า วัยรุ่นไทยทั้งชายและหญิง มีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น โดยมีสาเหตุมาจาก อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมทางสังคม เช่น มีเพื่อนสนิทสูบบุหรี่ มีสมาชิกในครอบครัวสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้เห็นการโฆษณาบุหรี่
เพื่อนสนิทมีอิทธิพล ต่อการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นอย่างมาก การปฏิเสธเมื่อเพื่อนสนิท ยื่นบุหรี่ให้ ทำได้น้อยมาก ดังนั้น การรณรงค์ไม่ให้วัยรุ่น ยื่นบุหรี่ให้แก่กันและการสร้างพลังอำนาจให้วัยรุ่นมีทักษะ ในการปฏิเสธจึงเป็นมาตรการ ที่สำคัญอย่างยิ่ง นี่คือประเด็นสำคัญที่ค้นพบจากการศึกษาในเรื่องนี้
อีกสิ่งหนึ่งที่วัยรุ่นอย่างเราควรรู้เท่าทันคือ ปัจจัยสำคัญของการสูบบุหรี่ ยังมีกลยุทธ์ทางการตลาดในรูปแบบต่างๆ ของบริษัทบุหรี่ อันได้แก่ การโฆษณาแฝงโดยทำให้โลโก้ยี่ห้อบุหรี่ปรากฏในของใช้ต่างๆ ของเด็กนักเรียนนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็น ปากกา
พวงกุญแจ หน้ากากมือถือ
นอกจากนี้ในบางประเทศยังมีกฎหมายเปิดช่องให้มีการผลิตบุหรี่รสขนม เช่น รสแอปเปิ้ล สตรอเบอรี่เพื่อให้เด็กเสพได้ง่าย
วิธีหนึ่งที่บริษัทบุหรี่ ออกมายอมรับได้ว่าประสิทธิ ภาพสูงคือการว่าจ้างจ่ายเงินให้ บริษัททำภาพยนตร์ จัดทำฉากนักแสดงสูบบุหรี่อยู่ในนั้น
นอกจากนี้บริษัทบุหรี่พยายามใช้วิธีการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เริ่มใช้พริตตี้มาขายบุหรี่ในผับบาร์ เริ่มทดลองแจกบุหรี่ฟรีในสถานศึกษา
ขณะที่ในต่างประเทศยกตัวอย่างเช่น ออสเตรเลียไม่มีกฎหมายบังคับ บริษัทผลิตบุหรี่ ผลิตบุหรี่ซองเล็ก 5-10 มวนออกมาจำหน่ายโดยอ้างว่าจำหน่ายให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งผู้มีรายได้น้อยในที่นี้รวมถึงเด็กด้วย
ประเทศต่าง ๆ ห้ามการโฆษณาและส่งเสริมการขายอย่างเข้มงวดมากขึ้น บริษัทบุหรี่ก็หันมาใช้การโฆษณา และส่งเสริมการขาย ณ จุดขายปลีกแทน โดยให้ค่าตอบแทนแก่ผู้ขายปลีกทั้งเป็นเงินและสิ่งตอบแทนอื่น
ถ้าจะมองกันให้ดีๆพี่เหมี่ยวว่าจริงๆแล้ว ที่เด็กๆเข้าไปติดบุหรี่อาจจะเป็นเพราะ สิ่งแวดล้อม เป็นต้นเหตุ สิ่งแวดล้อมที่ว่า นี้คือ สิ่งแวดล้อมด้านสังคม รอบ ๆ ตัวเด็ก ได้แก่ การสูบ บุหรี่ของพ่อแม่หรือคนในบ้าน ในโรงเรียน และผู้คนทั่วไปในที่สาธารณะ
สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ทำให้เด็ก ๆ เห็นว่าการสูบบุหรี่เป็น ที่ยอมรับ เป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำกัน นำไปสู่การทดลองสูบจนเกิดการเสพติดบุหรี่ขึ้น
สารพัดกลยุทธ์ทาง การตลาด บริษัทบุหรี่ใช้เงิน นับพันล้านดอลลาร์ต่อปี ในการโฆษณาบุหรี่และทำการตลาดทุกรูปแบบทั่วโลก ทำให้เยาวชนอยากลองสูบบุหรี่มากขึ้น
และเมื่อเยาวชนลองบุหรี่จนกลายมาเป็นผู้สูบบุหรี่ประจำ จะทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างสูงต่อปัญหาสุขภาพโลก...
ก่อนที่จะเอานิ้วคืบ บุหรี่ เข้าปาก พี่เหมี่ยวว่าลองคิดซักนิดก็น่าจะดีนะคะ เสียสตางค์ แล้วยังเสียสุขภาพ จะคุ้มรึเปล่า?
พี่เหมี่ยวขอขอบคุณ : ข้อมูลและภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ค่ะ |
11 ความคิดเห็น
รู้ไหมคนข้างๆเค้าเหม็นนะ!!