จดหมายจากลูก...ผมลืมมาตลอดว่า 
"แม่รักผมขนาดไหน"


       เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้ว ผู้เขียนได้รับข้อความลับใน My.id ส่งตรงจากน้องผู้น่ารักคนหนึ่งที่เขียนบอกเรื่องราวดีๆ ระหว่างแม่กับตนเอง แล้วก็อยากให้ช่วยนำเสนอให้ และผู้เขียนก็เห็นประจวบเหมาะ เมื่อนึกถึงเรื่องจริงของน้องอีกคนหนึ่งที่มีเรื่องราวดีๆ ระหว่างแม่และตนเช่นกัน แถมเป็นเรื่องแบบเดียวกันด้วย แม้จะคนละสถานการณ์ก็ตาม ผู้เขียนเลยอยากนำมาเล่า แล้วนำจุดร่วมเล็กๆ มาเสนอให้แก่คุณพ่อคุณแม่ทราบ และเพื่อเป็นโอกาสดีๆ ที่น้องๆ ชาว Dek-D ที่อาจเริ่มห่างเหินพ่อแม่ ได้คุยกับพ่อแม่มากขึ้นด้วย 
     ส่วนน้องอีกคนมาเป็นเรื่องเล่า  บอกว่าน้องเคยทำมือถือหาย  ทั้งๆ ที่คุณแม่เพิ่งซื้อให้ใหม่ ราคาแพงเพื่อเป็นของขวัญที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้  แต่น้องก็ทำหายระหว่างทางกลับบ้าน ได้แต่กระวนกระวายพาลจะร้องไห้ เพราะะไม่สนิทกับแม่และแม่ก็ดุมากด้วย พอถึงบ้านเห็นหน้าคุณแม่เขื่อนน้ำตาก็แตก แม่ที่ว่าดุๆ ก็ตกใจ ถามว่า "ลูกเป็นอะไร" ในที่สุดน้องเขาก็ค่อยๆ บอกออกมาทั้งสะอึกสะอื้นว่า ทำมือถือหาย โดนล้วงไป น้องเขาบอกว่าตกใจมากคิดว่าแม่ต้องว่าเขาแน่ๆ ในที่สุดแม่กลับบอกว่า "ไม่เป็นไร ลูกไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ดีแล้วที่โจรไม่ทำอะไรลูก" น้องเองก็ซึ้งใจที่แม่ไม่ว่า และแม่ยังดูเป็นห่วงทั้งๆ ที่ไม่เคยแสดงออกเลย
     
      ผู้เขียนเชื่อว่า มีลูกวัยรุ่นหลายๆ คนที่ไม่อยากปรึกษาพ่อแม่ เพราะ กลัว กลัวว่าจะโดนดุ โดนตำหนิ กลัวพ่อแม่ไม่เชื่อตนเอง รู้สึกว่าพ่อแม่ดุมาก เข้มงวด และจะต้องโกรธกับสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไปแน่นอน หลายคนเลือกที่จะปรึกษาแต่กับพ่อ หรือแม่ คนใดคนหนึ่งที่ตนเองรู้สึกว่าท่านใจดีมากกว่า ซึ่งคนที่ใจดีมากกว่าในความคิดของวัยรุ่นแล้ว ก็คือ คนที่เข้าใจตนเองมากว่านั่นเอง จึงเป็นที่มาที่ว่าบางทีลูกก็แก้ปัญหาเองอย่างผิดวิธี ด้วยไม่กล้าปรึกษาผู้ใหญ่ๆ ทั้งๆ ที่รู้อยู่ในใจเสมอว่า ต้องปรึกษาใครจึงจะดีที่สุด


      ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ คือ กำลังใจ และความห่วงใยของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ยิ่งใหญ่กับลูกๆ มากที่สุด แม้ลูกวัยรุ่นจะมีเรื่องมากมายในใจหรือหันไปสนิทกับเพื่อนมากกว่า แต่กำลังใจจากคนในบ้านนี่แหละสำคัญที่สุด ที่สำคัญกำลังใจของผู้ใหญ่มาพร้อมคำปรึกษา คำแนะนำที่เหมาะสมจากประสบการณ์ที่มากกว่าด้วย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณพ่อคุณแม่พูด คำพูดห่วงใย ให้กำลังใจ ไม่เปรียบเทียบลูกกับใคร ไม่ตำหนิไปก่อน และพูดด้านบวกกับลูกๆ เสมอ ด้วยท่าทีลักษณะของคุณพ่อคุณแม่เอง ไม่จำเป็นต้องฝืนทำ ถ้าไม่ชอบกอด ก็ใช้การตบไหล่เบาๆ ถ้าพูดคำหวานไม่ถนัดเลือกคำพูดธรรมดาอย่าง "เป็นไงบ้างวันนี้" พร้อมรอยยิ้มบางๆ ก็ทำให้ลูกอบอุ่นหัวใจในวันที่เขามีปัญหาแล้วค่ะ บางทีลูกเลือกไม่พูดก็เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นประโยคกับพ่อแม่อย่างไรบ้างก็มี

ลูกบอกว่า...

      เรื่องราวในวันนี้จึงขอนำเสนอมุมเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่จากคนเป็นลูกว่า เพียงคำพูดที่ห่วงใย ก็ทำให้ลูกวัยรุ่นเห็นความรักจากท่าน โดยที่ไม่ต้องพร่ำบอกหรือแทนค่าด้วยสิ่งของเงินทอง ลูกรับรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่ท่านรัก และกล้าที่มาหาท่านมากขึ้นเมื่อมีเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต ทั้งดีและไม่ดี แต่ถ้าเราไม่ต้องรอให้ลูกมีเรื่องมีราว แล้วค่อยพูดหรือแสดงความห่วงใยล่ะ?



ขอขอบคุณ 
น้อง Hell Angle เจ้าของเรื่องค่ะ ^_^

บทความฝากบอกผู้ใหญ่ แต่ก็ชวนวัยรุ่นคิด  "คอลัมน์มุมผู้ใหญ่"
เด็กดีดอทคอม :: โหวตเลย เรื่องเพศพูดได้ไหม!
หากลูกหลาน/ตัวคุณ เกิดหลัง 1995 รู้จักตัวเองไว้
เด็กดีดอทคอม :: โหวตเลย เรื่องเพศพูดได้ไหม!
ลูกข้าดี ลูกข้าเก่ง "หยุดเถอะ" หนูเจ็บนะ
เด็กดีดอทคอม :: โหวตเลย เรื่องเพศพูดได้ไหม!
อยากไป...แต่จะขออย่างไร ควรให้ไปไหม? 
เด็กดีดอทคอม :: โปรดเข้าใจ! ในลีลาของวัยรุ่น เมื่อรุ่นใหญ่ปะปะรุ่นเล็ก!
การจับผิดคนโกหก คือ ต้องโกหกให้เนียนกว่า??
เด็กดีดอทคอม :: โปรดเข้าใจ! ในลีลาของวัยรุ่น เมื่อรุ่นใหญ่ปะปะรุ่นเล็ก!
Twitter @kiatkarine

พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เดอะบู้ Member 8 ก.ค. 54 11:17 น. 3
 มีปัญหากับครอบครัวนิดหน่อยเหมือนกัน เราสนิทกับพ่อและแม่พอๆ กันเลย 
แต่เวลามีปัญหาจะเลือกปรึกษาพ่อก่อน เพราะพ่อจะแนะแนวทางได้ไม่ยุ่งยาก 
แม่เราก็ให้คำปรึกษาได้ แต่เค้าจะใส่ความรู้สึกลงไปด้วย
อย่างเช่น เราเคยบ่นกับพ่อว่า
" พ่อหนูไม่อยากเรียนสายวิทย์แล้ว คนอื่นเรียนได้แต่สำหรับหนูมันกดดันมากเลย " 
พ่อก็จะบอกว่า " อดทนเอาสิลูก คนอื่นทำได้ ทำไมลูกจะทำไม่ได้ล่ะ ลูกพ่อซะอย่าง " 
แต่ถ้าปรึกษาแม่ แม่ก็จะกังวล มานั่งเครียดแทน ว่าเราเรียนไม่ได้ 
เราจะเครียดจนปวดหัวไหม เราเลยไม่ค่อยปรึกษาอะไรกับแม่เท่าไหร่ 
เพราะกลัวว่าจะืทำให้แม่ไม่สบายใจไปด้วย 



แต่ 2-3 วันที่ผ่านมาเราทะเลาะกับพ่อค่อนข้างหนัก 
เพราะว่าผลการเรียนเราได้น้อยกว่าคนอื่น (4 ปี ได้แค่ 2.6 กว่าๆ )
แถมยังมีคนมาเสียดสีด้วยว่า  ไปเรียนโรงเรียนขยายโอกาสดีกว่าไหม เผื่อจะได้เป็นท็อป
เราเสียใจมาก เครียดมาก จากที่กดดันอยู่แล้วเพราะปีนี้เราต้องสอบเข้ามหาฯลัยด้วย
พ่อก็ไม่ใช้เหตุผลคุยกับเราเลยเอาแต่ตะคอก ต่อว่า 
จนเรามีความรู้สึกว่า ไม่อยากจะคุยกับพ่ออีกแล้ว
พอเค้าถาม เราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เค้าก็คงทนไม่ไหว เลยพาลไปต่อว่าแม่
บอกว่าจะไม่สนใจเราอีกแล้ว ต่อไปนี้จะให้อยู่ในความดูแลของแม่
แต่เชื่อไหมว่า จากที่แม่เราไม่เคยยอมพ่อเลย 
แม่กลับรับฟังอย่างเงียบๆ แล้วบอกกับพ่อว่า 

" ไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ต่อให้เธอจะแยกทางไป ชั้นก็ไม่มีทางทิ้งลูก  "
ตอนนั้นเราก็ร้องไห้เลย  แม่ก็เข้ามากอด มาปลอบ 
แล้วบอกเราว่า " ทุกวันนี้แม่อยู่เพื่อหนู ทำเพื่อหนู ต่อให้หนูจะทุกข์จะท้อเท่าไหร่
หนูต้องไม่คิดสั้นนะรู้ไหม หนูมีอนาคตของหนู แม่มีอนาคตของแม่
แต่เราจะเป็นกำลังใจให้กัน "


หลังจากนั้นเราก็ไม่คิดว่าเราเป็นแกะดำอีกเลย เพราะรู้แล้วว่า เราคือที่สุดของแม่ 
อยากบอกเพื่อนๆ ว่า เวลาทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะร้ายแรงแค่ไหน
ก็อย่าโกรธอย่าเกลียดท่านเลยนะ ท่านด่าว่าเราก็เพราะรักทั้งนั้น 
แล้วก็ต้องภูมิใจในตัวเองนะ โชคดีแค่ไหนแล้วที่เราได้เกิดมา : ))))



ส่วนพ่อแม่ก็ต้องคอยให้กำลังใจลูกนะคะ เพราะว่าเวลาท้อมากๆ 
กำลังใจจากพ่อแม่นี่แหละสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดเลย 
อย่าไปพากันไปด่าว่าลูกทั้งคู่ เพราะมันจะทำให้เด็กรู้สึกเหมือนไม่มีหลักยึดนะคะ 




แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 11:23
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 11:25
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 11:41
0
กำลังโหลด
Love Actually Member 8 ก.ค. 54 23:48 น. 9

ไม่ค่อยอยากจะคุยกับพ่อแม่เท่าไหร่ เบื่อ เซ็ง รำคาญ และชอบหาว่าเราเป็นพวกเก่งแต่ในตำรา

มันก็เลยทำให้เราไม่อยากคุยด้วยไปโดยปริยาย ทั้ง ๆ ที่เรื่องที่เราอ่าน ๆ มา มันก็ใช้ได้ในชีวิตจริงทั้งนั้น

อย่างวันก่อน แม่กำลังจะออกจากบ้านไปทำงานอยู่แล้ว แต่ดันท้องเสียขึ้นมาซะงั้น

ก็เลยบอกแม่ไปว่า ก่อนขึ้นรถเมล์อ่ะ ให้แวะเข้าเซเว่นซื้อเอ็มสปอตกินก่อน มันช่วยได้นะ

พ่อก็เอาเลย ใส่เลย ท้องเสียกับเครื่องดื่มเกลือแร่ มันไปด้วยกันได้ที่ไหน หมอบอกมาหรือไง

ไปอ่านอะไรมา อย่าไปเชื่อมันให้มากนัก ที่อ่าน ๆ มาน่ะ เชื่อได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

เรางี้แบบ จี๊ดเลย ก็เลยบอกไปว่า อาจารย์ที่หอพัก และเป็นพยาบาลประจำมหาลัยด้วยบอกมา

พ่อก็แบบ ยืนยัน นั่งยัน นอนยันไม่เชื่อสถานเดียว แล้วแม่เป็นพวกเชื่อพ่อทุกอย่างแบบถวายหัว ก็พลอยไม่เชื่อเราไปด้วย

เราก็เลยแบบ เอาเหอะ อยากขี้ไหลจนหมดตัวตายก็ตามใจ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วยแล้ว

เกลือแร่สีส้มเป็นซอง ๆ กับเอ็มสปอต มันก็เกลือแร่คือกัน ต่างกันตรงไหน แล้วไหนจะสไปร์ใส่เกลืออีก ก็คือกันเหมือนกัน

แล้วไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนะ ทุกเรื่องเลย เราก็เลยแบบ ไม่เชื่อกันก็ไม่เป็นไร ทำไมต้องมาด่ากันด้วยล่ะ

คิดว่าเป็นพ่อคนแม่คน แล้วจำเป็นต้องถูกทุกเรื่องเลยหรือไง ยอมรับผิดบ้างก็ได้ ฟังความคิดเห็นของลูกบ้างก็ได้

มันไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรีเสียหน่อย ที่จะยอมอะไรกันไม่ได้เลย

กับอีแค่เชื่อที่ลูกบอกเนี่ย กลัวจะเสียหน้าขนาดนั้นเลยเหรอ

0
กำลังโหลด
`❤ ยุนแจยูซูมินริค.(๕) Member 18 ก.ค. 54 02:21 น. 21
หว่า.. เหมือนผมตอนเด็กๆเลย

ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆผมรักพ่อมากกว่า อาจเพราะเหตุผลเดียวกันคือพ่อตามใจเรา (แฮะๆ)
แล้วก็ไม่ค่อยชอบแม่ เพราะชอบดุ ว่า ผิดนิดผิดหน่อย เราก็คิดว่าเรายังเด็ก ทำไมต้องว่าเราจัง
เลยพาลไม่ชอบแม่ไปเลย หลายปี

จนวันนึง..
มารู้ความจริงว่า.. พ่อเคยคุยกับแม่ตั้งแต่ตอนเรา(สามพี่น้อง)เกิด
ว่า "ฉันจะเป็นคนตามใจเค้าเอง ส่วนเธอจะต้องสวมบทยักษ์เพื่อที่พวกเค้าจะได้เป็นคนดี
และไม่เกลียดฉัน
" ตอนนั้นโกรธพ่อมาก แต่ก็ไม่พูดอะไร ตอนแม่พูด แม่ร้องไห้เลย..
กี่ปีที่ผ่านมา สวมบทยักษ์มาตลอด เพื่อ ..พวกเรา..

สามคำนี้ที่ผมอยากจะตะโกนออกไปให้แม่ได้ยินเหลือเกินในวันนี้..


ผมรักแม่.
0
กำลังโหลด
chocolatefume Member 12 ก.ค. 54 11:52 น. 16
"หากคุณคิดว่าลูกคุณดื้อ  ไม่ดี  ไม่น่ารัก  แต่ถ้าคุณพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและจริงใจกับเขาซักครั้งอย่างที่ไม่เคยทำ  ยิ่งเป็นเวลาที่ลูกกำลังประสบมรสุมชีวิต  ลูกของคุณจะรักและเชื่อฟังคุณมากขึ้น"

อ่านประโยคนี้แล้วจี๊ดเลยค่ะ T_T  มันโดนมาก  ตรงเผง
แม่เราเป็นคนที่แบบว่า  อะไรก็ขึ้นเสียงตลอดเวลา (ไม่เคยพูดเนิบๆธรรมดาอะ  ตวาดตลอดเว TT)

เราก็เข้าใจนะว่าแม่เป็นห่วง  มีอะไรจะใส่อารมณ์ตลอด  แต่เราเป็นลูกคนเดียว  รับอย่างนี้ตลอดก็ไม่ไหว   เก็บกดนะ

แต่มีอยู่ครั้งนึงที่แม่พูดเสียงธรรมดา (แม้เราจะคิดว่ามันแปลก)  เราก็รู้สึกอยากจะรับฟังความเห็นของแม่  อยากเปิดใจกับแม่  แล้วก็เชื่อฟังแม่มากขึ้น  (มากกว่าน้ำเสียงตวาดที่ไม่น่าฟัง)

แม้ทุกวันนี้แม่ก็ยังจะมีตวาดบ้าง(เป็นส่วนใหญ่)  แต่เราก็เข้าใจแล้วล่ะค่ะ


แต่ถ้าสมมุติว่าแม่ไม่ยอมฟังเลยในเรื่องนั้นๆ  เราก็หันไปปรึกษาพ่ออยู่ดี   อิอิ
0
กำลังโหลด
เจ้าหญิงครึ่งซีก 12 ก.ค. 54 12:22 น. 17
ไม่สบาย "ไปกินยาสิ" (แอบซึ้ง)
ปวดหัว "ไปกินยาสิ" ขี้เกียจ "แล้วมันจะหายมั้ยตายมาใครจะ...." TTOTT
อยากกินอะไรใครคอยหามาให้...ถ้าไม่ใช่....
ไม่สบาย....ใครคอยเป็นห่วง...
เงินที่ใช้อยู่ทุกวันจากใครกันล่ะ...
เหมือนว่าไม่ห่วง..แต่ความจริงอ่ะโคตรห่วง บางวันแค่บอกว่าปวดหัว...คนที่ดูเหมือนมีแต่คำพูดแกนๆมาตลอดกลับแทบไม่ได้ไปทำงานเพราะคอยบังคับ และหายาให้เรากิน อย่างนี้เรียกว่า....รักรึปล่าว
0
กำลังโหลด

36 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
เดอะบู้ Member 8 ก.ค. 54 11:17 น. 3
 มีปัญหากับครอบครัวนิดหน่อยเหมือนกัน เราสนิทกับพ่อและแม่พอๆ กันเลย 
แต่เวลามีปัญหาจะเลือกปรึกษาพ่อก่อน เพราะพ่อจะแนะแนวทางได้ไม่ยุ่งยาก 
แม่เราก็ให้คำปรึกษาได้ แต่เค้าจะใส่ความรู้สึกลงไปด้วย
อย่างเช่น เราเคยบ่นกับพ่อว่า
" พ่อหนูไม่อยากเรียนสายวิทย์แล้ว คนอื่นเรียนได้แต่สำหรับหนูมันกดดันมากเลย " 
พ่อก็จะบอกว่า " อดทนเอาสิลูก คนอื่นทำได้ ทำไมลูกจะทำไม่ได้ล่ะ ลูกพ่อซะอย่าง " 
แต่ถ้าปรึกษาแม่ แม่ก็จะกังวล มานั่งเครียดแทน ว่าเราเรียนไม่ได้ 
เราจะเครียดจนปวดหัวไหม เราเลยไม่ค่อยปรึกษาอะไรกับแม่เท่าไหร่ 
เพราะกลัวว่าจะืทำให้แม่ไม่สบายใจไปด้วย 



แต่ 2-3 วันที่ผ่านมาเราทะเลาะกับพ่อค่อนข้างหนัก 
เพราะว่าผลการเรียนเราได้น้อยกว่าคนอื่น (4 ปี ได้แค่ 2.6 กว่าๆ )
แถมยังมีคนมาเสียดสีด้วยว่า  ไปเรียนโรงเรียนขยายโอกาสดีกว่าไหม เผื่อจะได้เป็นท็อป
เราเสียใจมาก เครียดมาก จากที่กดดันอยู่แล้วเพราะปีนี้เราต้องสอบเข้ามหาฯลัยด้วย
พ่อก็ไม่ใช้เหตุผลคุยกับเราเลยเอาแต่ตะคอก ต่อว่า 
จนเรามีความรู้สึกว่า ไม่อยากจะคุยกับพ่ออีกแล้ว
พอเค้าถาม เราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เค้าก็คงทนไม่ไหว เลยพาลไปต่อว่าแม่
บอกว่าจะไม่สนใจเราอีกแล้ว ต่อไปนี้จะให้อยู่ในความดูแลของแม่
แต่เชื่อไหมว่า จากที่แม่เราไม่เคยยอมพ่อเลย 
แม่กลับรับฟังอย่างเงียบๆ แล้วบอกกับพ่อว่า 

" ไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ต่อให้เธอจะแยกทางไป ชั้นก็ไม่มีทางทิ้งลูก  "
ตอนนั้นเราก็ร้องไห้เลย  แม่ก็เข้ามากอด มาปลอบ 
แล้วบอกเราว่า " ทุกวันนี้แม่อยู่เพื่อหนู ทำเพื่อหนู ต่อให้หนูจะทุกข์จะท้อเท่าไหร่
หนูต้องไม่คิดสั้นนะรู้ไหม หนูมีอนาคตของหนู แม่มีอนาคตของแม่
แต่เราจะเป็นกำลังใจให้กัน "


หลังจากนั้นเราก็ไม่คิดว่าเราเป็นแกะดำอีกเลย เพราะรู้แล้วว่า เราคือที่สุดของแม่ 
อยากบอกเพื่อนๆ ว่า เวลาทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะร้ายแรงแค่ไหน
ก็อย่าโกรธอย่าเกลียดท่านเลยนะ ท่านด่าว่าเราก็เพราะรักทั้งนั้น 
แล้วก็ต้องภูมิใจในตัวเองนะ โชคดีแค่ไหนแล้วที่เราได้เกิดมา : ))))



ส่วนพ่อแม่ก็ต้องคอยให้กำลังใจลูกนะคะ เพราะว่าเวลาท้อมากๆ 
กำลังใจจากพ่อแม่นี่แหละสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดเลย 
อย่าไปพากันไปด่าว่าลูกทั้งคู่ เพราะมันจะทำให้เด็กรู้สึกเหมือนไม่มีหลักยึดนะคะ 




แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 11:23
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 11:25
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 11:41
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Hell Angle Member 8 ก.ค. 54 21:06 น. 7
เย้ ขอบคุณครับ อุตส่าห์ลงให้ ^^

แม่หน้าบานน้ำตาซึมเลย +555

ให้กำลังใจทุกคนที่มีปัญหาแบบเดียวกันนะครับ~!
0
กำลังโหลด
Karine!! et ~KiaT_T~ Community 8 ก.ค. 54 21:44 น. 8
@ น้องHell Angle
พี่ก็ต้องขอบใจน้องด้วยจ้า


ถ้าน้องๆ ชาว Dek-D.com มีเรื่องซาบซึ้ง หรือแม้จะเศร้าใจอย่างไรก็ตามเกี่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองหรือคุณครูก็ตาม หากอยากให้ผู้ใหญ่ทราบ ส่งข้อความลับหรืออีเมลมาหาพี่เกียรติพร้อมรายละเอียดได้นะจ้า พี่ยินดีรับเรื่องของน้องๆ ทุกคน นำมาเป็นทั้งตัวอย่างและบอกเล่าต่อในเรื่องราวดีๆ จ้า



0
กำลังโหลด
Love Actually Member 8 ก.ค. 54 23:48 น. 9

ไม่ค่อยอยากจะคุยกับพ่อแม่เท่าไหร่ เบื่อ เซ็ง รำคาญ และชอบหาว่าเราเป็นพวกเก่งแต่ในตำรา

มันก็เลยทำให้เราไม่อยากคุยด้วยไปโดยปริยาย ทั้ง ๆ ที่เรื่องที่เราอ่าน ๆ มา มันก็ใช้ได้ในชีวิตจริงทั้งนั้น

อย่างวันก่อน แม่กำลังจะออกจากบ้านไปทำงานอยู่แล้ว แต่ดันท้องเสียขึ้นมาซะงั้น

ก็เลยบอกแม่ไปว่า ก่อนขึ้นรถเมล์อ่ะ ให้แวะเข้าเซเว่นซื้อเอ็มสปอตกินก่อน มันช่วยได้นะ

พ่อก็เอาเลย ใส่เลย ท้องเสียกับเครื่องดื่มเกลือแร่ มันไปด้วยกันได้ที่ไหน หมอบอกมาหรือไง

ไปอ่านอะไรมา อย่าไปเชื่อมันให้มากนัก ที่อ่าน ๆ มาน่ะ เชื่อได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

เรางี้แบบ จี๊ดเลย ก็เลยบอกไปว่า อาจารย์ที่หอพัก และเป็นพยาบาลประจำมหาลัยด้วยบอกมา

พ่อก็แบบ ยืนยัน นั่งยัน นอนยันไม่เชื่อสถานเดียว แล้วแม่เป็นพวกเชื่อพ่อทุกอย่างแบบถวายหัว ก็พลอยไม่เชื่อเราไปด้วย

เราก็เลยแบบ เอาเหอะ อยากขี้ไหลจนหมดตัวตายก็ตามใจ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วยแล้ว

เกลือแร่สีส้มเป็นซอง ๆ กับเอ็มสปอต มันก็เกลือแร่คือกัน ต่างกันตรงไหน แล้วไหนจะสไปร์ใส่เกลืออีก ก็คือกันเหมือนกัน

แล้วไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนะ ทุกเรื่องเลย เราก็เลยแบบ ไม่เชื่อกันก็ไม่เป็นไร ทำไมต้องมาด่ากันด้วยล่ะ

คิดว่าเป็นพ่อคนแม่คน แล้วจำเป็นต้องถูกทุกเรื่องเลยหรือไง ยอมรับผิดบ้างก็ได้ ฟังความคิดเห็นของลูกบ้างก็ได้

มันไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรีเสียหน่อย ที่จะยอมอะไรกันไม่ได้เลย

กับอีแค่เชื่อที่ลูกบอกเนี่ย กลัวจะเสียหน้าขนาดนั้นเลยเหรอ

0
กำลังโหลด
Boat Me Member 9 ก.ค. 54 08:07 น. 10
เคยมีครั้งเดียวนะ วันนั้นใส่ชุดผิดไปจารย์ให้กลับมาเปลี่ยนบ้าน ด้วยความที่เราไม่เคยเเหกกฎ ร้องไห้ฟูมฟายเลย เเล้วกลับมาถึงบ้านก็ไม่ยอมกลับโรงเรียน กระเป๋าก็ยุโรงเรียน นอนร้องไห้ยุบนเตียงจนหลับไปตื่นมาอีกทีเพื่อนก็เอากระเป๋ามาให้ที่บ้านเเล้ว ถามว่าเเม่กับพ่อโกรธหนูไหม ? เเม่กับพ่อบอกว่า ถ้าไม่มีเจตนาที่จะทำก็ไม่เป็นอะไร เพราะเเม่รู้ว่าหนูไม่เคยผิดกฎโรงเรียน ส่วนพ่อบอกว่าถ้าเราเป็นเด็กที่เรียนได้เกรดน้อยๆ พ่อจะไม่ใส่ใจเลยอยากทำไรทำไป 5555 เเถมวันนั้นเเม่ยังเลี้ยงเคเอฟซีด้วย เเหล่ะ ดีจังๆงี่เง่าดีเเท้เรา 55555555555555เเค่ใส่ชุดผิดก้อร้องไห้ อ่ะ - -(ว่าตัวเองอีก)

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 กรกฎาคม 2554 / 08:14
0
กำลังโหลด
Rolla Member 9 ก.ค. 54 18:58 น. 11
แม่เราดีที่สุดในโลก :)
ไม่มีแม่คนไหนที่ไม่รักลูกตัวเองหรอกน้ะ

แต่ตอนนี้แม่เราแก่แล้ว เราก็ต้องดูแลแม่สมกับที่แม่ดูแลเราบ้างล่ะ !

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
I ' M So Wo n ♥ SN SD Member 10 ก.ค. 54 19:25 น. 13
เราทีแรกก็น้อยใจว่าแม่ไม่รัก  เพราะแม่แทบจะไม่กอด ไม่หอมอะไรเราเลย
แต่ครั้งนึงทะเลาะกับพ่อ แม่ก็เข้ามาบอกว่า ไม่เป็นไรหรอกๆ ตอนแม่เรียน
แม่ยังได้เกรดน้อยกว่าเราเลย บอกว่าเราน่ะ เก่งมากๆ แถมยังไปคุยกับพ่อ พ่อก็เปลี่ยนความคิด
ไปตั้งเยอะ! หลังจากนั้นแม่ก็กอดเราบ่อยขึ้น เราก็กอดแม่บ่อยขึ้น
เพิ่งจะรู้ว่าแม่น่ะ รักแล้วก็ใจดีกับเรามากที่สุดแล้ววว

0
กำลังโหลด
Sasu_Nara Member 10 ก.ค. 54 20:57 น. 14
เมื่อคืนเราพึ่งนึกได้ว่ามีการบ้านสองอย่างก็คือรายงาน
กับประวัติศาสตร์สรุปประเทศในเอเชีย
ฝนตกหนักมากกกกก ไฟดับ คอมดับตอนเรากำลังทำรายงานแผ่นสุดท้าย 
เราร้องไห้เลยคิดไรไม่ออก แม่ก็ปลอบเราแล้วบอกให้เราทำประวัติศาสตร์ก่อน
เดี๋ยวแม่อยุ่เป็นเพื่อน เราก้เลยมานั่งทำตั้งแต่ ทุ่มครึ่ง แม่อยู่เป็นเพื่อนเรา
จนถึงตีหนึ่งครึ่งตีสอง
จนไปนอน
สรุปเราเสร็จหมดภายในวันนี้ ^^ รักแม่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
chocolatefume Member 12 ก.ค. 54 11:52 น. 16
"หากคุณคิดว่าลูกคุณดื้อ  ไม่ดี  ไม่น่ารัก  แต่ถ้าคุณพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและจริงใจกับเขาซักครั้งอย่างที่ไม่เคยทำ  ยิ่งเป็นเวลาที่ลูกกำลังประสบมรสุมชีวิต  ลูกของคุณจะรักและเชื่อฟังคุณมากขึ้น"

อ่านประโยคนี้แล้วจี๊ดเลยค่ะ T_T  มันโดนมาก  ตรงเผง
แม่เราเป็นคนที่แบบว่า  อะไรก็ขึ้นเสียงตลอดเวลา (ไม่เคยพูดเนิบๆธรรมดาอะ  ตวาดตลอดเว TT)

เราก็เข้าใจนะว่าแม่เป็นห่วง  มีอะไรจะใส่อารมณ์ตลอด  แต่เราเป็นลูกคนเดียว  รับอย่างนี้ตลอดก็ไม่ไหว   เก็บกดนะ

แต่มีอยู่ครั้งนึงที่แม่พูดเสียงธรรมดา (แม้เราจะคิดว่ามันแปลก)  เราก็รู้สึกอยากจะรับฟังความเห็นของแม่  อยากเปิดใจกับแม่  แล้วก็เชื่อฟังแม่มากขึ้น  (มากกว่าน้ำเสียงตวาดที่ไม่น่าฟัง)

แม้ทุกวันนี้แม่ก็ยังจะมีตวาดบ้าง(เป็นส่วนใหญ่)  แต่เราก็เข้าใจแล้วล่ะค่ะ


แต่ถ้าสมมุติว่าแม่ไม่ยอมฟังเลยในเรื่องนั้นๆ  เราก็หันไปปรึกษาพ่ออยู่ดี   อิอิ
0
กำลังโหลด
เจ้าหญิงครึ่งซีก 12 ก.ค. 54 12:22 น. 17
ไม่สบาย "ไปกินยาสิ" (แอบซึ้ง)
ปวดหัว "ไปกินยาสิ" ขี้เกียจ "แล้วมันจะหายมั้ยตายมาใครจะ...." TTOTT
อยากกินอะไรใครคอยหามาให้...ถ้าไม่ใช่....
ไม่สบาย....ใครคอยเป็นห่วง...
เงินที่ใช้อยู่ทุกวันจากใครกันล่ะ...
เหมือนว่าไม่ห่วง..แต่ความจริงอ่ะโคตรห่วง บางวันแค่บอกว่าปวดหัว...คนที่ดูเหมือนมีแต่คำพูดแกนๆมาตลอดกลับแทบไม่ได้ไปทำงานเพราะคอยบังคับ และหายาให้เรากิน อย่างนี้เรียกว่า....รักรึปล่าว
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
น้ำผึ้งสีน้ำตาล Member 16 ก.ค. 54 10:32 น. 20
 ซึ้งค่ะ
ส่วนมากเราจะคิดแต่ว่าพ่อแม่กดดันเราอย่างนั้นดุเราอย่างนี้จนเราลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดว่าทำไมพ่อแม่ถึงต้องดุต้องด่าเราที่พ่อแม่ทำนั้นก็เพราะว่าอยากให้เราได้อยากให้เราเก่งถ้าเรามีปัญหาอะไรยังคนที่ทุกข์ไปกับเราก็คือพ่อแม่ของเรา
เราลืมไปแล้วหรอว่า "พ่อแม่รักเรามากแค่ไหนกัน?"
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด