ทฤษฎีเขาว่าไว้ ถ้าหนูโดนขัดใจ หนูจะไม่โต!!
 
       ประสบการณ์ช่วงวัยรุ่นมีความสำคัญมากๆ เป็นช่วงที่ทุกคนได้บ่มเพาะบุคลิกภาพตัวตน สะสมความสนุกสนานในชีวิต ผู้ใหญ่จะคิดถึงความวัยเยาว์ในชีวิตวัยรุ่น ในขณะที่วัยรุ่นตัวจริงจะเริงร่าสนุกสนาน ใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับความกังวลเล็กๆ ในใจตลอดเวลาว่าโตขึ้นจะเป็นอย่างไร จะเป็นอะไร จะทำอะไรดี ปัญหาของวัยรุ่นเลยยิ่งใหญ่เสมอ แม้จะดูเล็กน้อยมากในสายตาผู้ใหญ่ตัวจริง 
 
      นักจิตวิทยาชื่อดังหลายๆ คนที่ศึกษาเรื่องพัฒนาบุคลิกภาพของคนเรา จะให้ความสำคัญอย่างมากกับการเปลี่ยนในช่วงรอยต่อของวัยรุ่นที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แม้ว่าคนเราจะเติบโตเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่ถูกปลูกฝังตั้งแต่ยังเด็ก  แต่ช่วงที่คนเราจะกำหนดบุคลิกภาพและเป็นตัวของตัวเองอย่างสมบูรณ์ คือช่วงรอยต่อนี้เอง วัยรุ่นแต่ละคนจึงมีการเปลี่ยนแปลงมากมายที่พ่อแม่และผู้ใหญ่รอบข้างควรให้คำแนะนำ และตัววัยรุ่นเอง ควรมีช่วงปลีกเวลา อยู่กับตัวเองสักครู่เพื่อค้นหาว่าแต่ละวันเราได้เรียนรู้อะไร แล้วจะทำอย่างไรให้ดีขึ้น
       อีริคสัน (Erikson H. Erikson) นักจิตวิทยาเจ้าของทฤษฏีพัฒนาการบุคลิกภาพ บอกว่าพัฒนาการทางบุคลิกภาพเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในทุกช่วงของชีวิต ตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่  ควบคู่ไปทั้งพัฒนาการด้านร่างกาย การอบรมเลี้ยงดู ความสัมพันธ์กับพ่อแม่ สังคมและวัฒนธรรม ที่จะแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อตนเอง (Self – Concept) และความรู้สึกนี้เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทางบุคลิกภาพ อีริคสันแบ่งพัฒนาการทางบุคลิกภาพออกเป็น 8 ขั้น และมีส่วนที่ระบุช่วงสำคัญในของเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่น และช่วงรอยต่อของการก้าวเป็นผู้ใหญ่ ผู้เขียนจึงได้นำมาบอกเล่ากันค่ะ



 ■ การรู้จักตนเองหรือการไม่รู้จักตนเอง 
 
       ช่วงนี้เป็นช่วงที่วัยรุ่นเกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายจนบางทีตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก เด็กผู้หญิงมีประจำเดือนครั้งแรก และตกใจจนมาตั้งกระทู้ถามในเว็บบอร์ด Dek-D.com ของเรา เด็กผู้ชายตื่นเต้นที่ฝันเปียกและกังวลว่าจะกลายเป็นผู้ชายลามกจนผู้หญิงไม่ชอบ ช่วงนี้พ่อแม่จะเริ่มแอบน้อยใจลูกๆ ได้ ส่วนลูกๆ ก็จะไม่แน่ใจว่าตัวเองจะต้องทำอะไรบ้าง ตั้งใจเรียน ทำกิจกรรม ทำโน่นนี่ วัยรุ่นช่วงนี้จึงพยายามทำหลายๆ เรื่องเพื่อทดลองว่าชอบอะไร และได้เรียนรู้จากสิ่งที่ลองทำนั้นๆ 
    ถ้าช่วงนี้ลูกวัยรุ่นได้รับการสนับสนุนให้ทำสิ่งต่างๆ แม้ว่ามันจะดูไร้สาระเกินไปสำหรับผู้ใหญ่ อาทิ ตามเชียร์นักร้องที่ชอบ แต่งคอสเพลย์ ไปค่ายกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนนอกบ้าน วัยรุ่นก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดีเช่นเดียวกัน แต่ถ้านั้นก็ทำไม่ได้ นี่ก็ทำไม่ดี
 
"ไปไม่ได้ ไกลบ้าน ใครจะดูแล" 
 "ไม่ได้...เปลือง ไร้สาระ"   
"รอให้โตกว่านี้ ค่อยไป"  
ฯลฯ  
      กว่าลูกจะโตพอที่คุณพ่อคุณแม่จะปล่อย ถึงตอนนั้นก็ทำอะไรไม่เป็นเสียแล้ว กลัวที่จะออกสู่โลกกว้าง เพราะไม่มีประสบการณ์ใดๆ และยังมีแนวโน้มว่าจะทำอะไรล้มเหลวด้วยค่ะ เพราะเขาเคยได้แต่ถูกป้องกันให้อยู่กับบ้าน แล้วอารมณ์ไม่มั่นคง เพราะเคยแต่ถูกห้าม มีแต่ความขัดอกขัดใจ โตไปอาจจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นแต่พูด (ภาษาไม่เป็นทางการว่า "ดีแต่ปาก") ทำอะไรไม่เป็น นั่นเพราะเขาไม่เคยรับรู้ว่า ตนเองทำอะไรได้ดี ไม่มีโอกาสได้รู้จักตนเอง ซึ่งต่างกับการที่คุณพ่อคุณแม่หาอะไรอย่างอื่นให้ลูกทำนะคะ อย่าง เรียนดนตรี เรียนภาษา แบบนั้นคือสิ่งที่ผู้ใหญ่ให้ สำหรีบเด็กคือการถูกบังคับ 
   ดังนั้นถ้าลูกอยากทำ คุณพ่อคุณแม่ลองให้ลูกบอกเล่าเหตุผลดีไหมคะ ฟังข้อดีของสิ่งที่ลูกอยากทำ ถ้ายังห่วงมาก ตอนแรกๆ ก็บอกลูกว่าขอไปด้วยก่อนได้ จริงๆ ลูกมีเหตุผลนะคะ เพียงแต่เขาอาจพูดไม่ค่อยเก่ง หรือคิดว่าพูดไปพ่อแม่ก็ไม่ฟังก็ได้ (เหมือนที่พ่อแม่ก็คิดว่าพูดไป ลูกก็ฟังไม่เข้าใจเสียที) แต่จริงๆ วัยรุ่นมีเหตุผลที่ดีนะคะ ถ้าได้ลองเปิดใจฟัง
 
      แต่แน่นอนว่า บางเรื่องก็ไม่ควรทำจริงๆ แต่วัยรุ่นอาจจะยังมองไม่รอบด้าน ผู้ใหญ่จะห้ามลอยๆ ไม่ได้ ต้องพูดกับลูกให้ชัดเจน ว่าทำไมไม่อยากให้ทำ เหตุผลแค่ เปลือง เสียเวลา ไร้สาระ ไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอที่ลูกจะยอมรับง่ายๆ ค่ะ ผู้ใหญ่ชอบรำคาญเด็กว่าพูดไม่รู้ฟัง แต่จริงๆ เพราะเหตุผลของผู้ใหญ่มักขัดกับเหตุผลวัยรุ่นอยู่แล้ว แม้ว่าลูกต้องการให้พูดแบบผู้ใหญ่ แต่จริงๆ ก็รับเหตุผลแบบผู้ใหญ่ไม่ได้ทั้งหมดค่ะ^_^
(แล้วถ้าพ่อแม่พูดยาวๆ ด้วยเหตุผลที่แท้จริงแล้ว ลูกก็อย่าเพิ่งเดินหนี หูทวนลมใส่นะ ไม่งั้นต่างฝ่ายก็ไม่เข้าใจกันเสียที โกรธได้ แต่ต้องรับฟังแล้วคิดตามด้วย!!) 



■ ความรู้สึกว่าตนมีเพื่อนหรือความรู้สึกอ้างว้าง 
 
       หลังจากผ่านวัยรุ่นมาได้ จะเข้าสู่ช่วงรอยต่อของการเป็นผู้ใหญ่ พัฒนาการช่วงนี้จะเห็นผลได้จากการเรียนรู้จากช่วงที่ผ่านมา ช่วงนี้วัยรุ่นต้องเกิดความมั่นใจที่จะมุ่งสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคตแล้ว เริ่มวางแผนมีคู่ชีวิต มองไปว่าครอบครัวของตนเองจะเป็นอย่างไร (แม้จะยังไม่มีแฟนก็เถอะ) ถ้าที่ผ่านมาได้รับรู้ว่าตนเองในทางที่ดี ช่วงนี้ก็จะไม่สับสนยุ่งยาก จะต้องมีความมั่นใจในตนเอง สามารถเข้าใจและปรับตัวเข้าหาผู้อื่นได้ และไม่มีปัญหาถ้าจะต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น กล้าที่จะทำความรู้จักเพื่อนต่างเพศ และปฏิบัติตนได้เหมาะสม  แต่ถ้าวัยรุ่นกลายเป็นคนมีปัญหาทางอารมณ์มาแต่แรก เมื่อโตขึ้นเขาจะไม่วางใจคนรอบข้าง และไม่มีความสุขที่จะต้องเข้าไปเผชิญชีวิตเมื่อจะเข้าสู่การทำงานจริง มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีพื้นนิสัยรักสันโดษอย่างไรก็ตาม ก็ต้องมีเพื่อนที่ไว้ใจได้อยู่ดี 


 
       แม้กระทู้นำเรื่องของเราจะมาจากวัยรุ่นที่ต้องการให้พ่อแม่เข้าใจ   แต่การที่ออกมาเขียนกระทู้บอกเพื่อนๆ ให้พยายามทำความเข้าใจกับคุณพ่อคุณแม่นี้แหละค่ะ แสดงให้เห็นว่าเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งมีความเชื่อมั่นและรู้จักตนเองในระดับหนึ่งแล้ว เป็นตัวอย่างสำคัญของวัยรุ่นที่กำลังพัฒนาตนเองตามพัฒนาการอย่างเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องอ้างอิงกับความรู้ของนักจิตวิทยาท่านใด ก็เชื่อได้ว่าเจ้าของกระทู้นำเรื่องนี้ ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีอีกคนหนึ่งแน่นอน
ไม่ใช่ว่าเด็กจะไม่โต แต่จะโตและได้ดี 
ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจ และกล้าปล่อยให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่เขาชอบบ้างค่ะ
 
กระทู้นำเรื่อง:
แหล่งอ้างอิง: 
พรรณทิพย์ ศิริวรรณบุศย์, จิตวิทยาครอบครัว. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550.
พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

37 ความคิดเห็น

Millez Member 5 ส.ค. 54 19:02 น. 1
ใช่เลย เรื่องคอสเพลย์เนี่ย !! >O< 
เราก็อยากคอสเหมือนกัน ชอบมาก ๆ
เปิดดูพวกเว็บพรีสินค้า รูปอีเว้นท์ต่าง ๆ แทบจะทุกวันเลย 
แต่ครอบครัวไม่ให้ Orz... 
โอเค....ไม่เป็นไร ดูรูปอย่างเดียวก็ได้ =^= !! 
อีกอย่างก็ AFS เราอยากไปญี่ปุ่น แต่ไม่ได้อีกTT  
แม่บอกว่า รอให้โตกว่านี้ก่อน รอให้ถึงซักมหา'ลัย ค่อยไปเรียนที่นั่นก็ได้ 
ไปตอนนี้แม่เป็นห่วงกลัว ภาษาพูดกับเขาไม่ได้
กลัวไปแล้วหลงทาง หรือดูแลตัวเองไม่ได้ กลัวเกิดอุบัติเหตุ บลา ๆๆ 
แต่เรื่องนี้เราเข้าใจ ว่าพ่อแม่เราเป็นห่วงเรามาก เป็นลูกคนโต เรื่องไปเรียนต่างประเทศเป็นปี ๆ นี่ยังไม่มีใครในบ้านไปมาก่อน ก็ห่วงเป็นธรรมดา เราก็รอได้  =) 

มีแค่สองเรื่องนี้ที่โดนห้าม นอกจากนั้นอยากเรียนดนตรีหรืออะไร พอ่แม่เราจะให้เราเรียนเสมอ แต่เราต้องแสดงให้เห็นว่าจริงจังกับเรื่องนั้นแล้วก็ชอบมากจริง ๆ ไม่งั้นเสียดายเงินแย่เลย :( 


0
กำลังโหลด
Silent Life Member 5 ส.ค. 54 19:52 น. 2
 พ่อเรากลัวไม่ให้ขี่มอ.ไซค์อ่ะ ไม่ได้อยากได้อ่ะ แต่ใครเค้าก็มีทั้งนั้น เพราะขนส่งมวลชนของหาดใหญ่ไม่ค่อยจะดี Taxiก็ไม่มี รถเมล์ก็ไม่มี รถสองแถวก็มีแค่บางช่วง พอกลับดึกหน่อยหรือช่วงเที่ยงก็ไม่ค่อยจะมี มีอยูวันหนึ่ง วันที่เรียนนศท ครูก็ปล่อยเลท แล้วก็ไปนั่งรถสองแถวอ่ะ แล้วรถสองแถวก็รอคนขึ้น คนก็ไม่ค่อยจะขึ้นเพราะมีมอไซค์ไง วันนั้นมาเกือบสายไม่ได้กินข้าวเลย ตั่แต่นั้นมาก็นั่งรถมอ.ไซค์เพื่อนไม่สนแระ  และก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนกะเพื่อนเค้า ก็เลยคิดว่าอยากจะไปอยู่ที่อื่นให้มันพ้นๆเลย กรุงเทพก็ได้ ขอนแก่นก็ได้
0
กำลังโหลด
TimeStop Member 6 ส.ค. 54 06:45 น. 3
 ผมเหมือน คห.2 เลย
แต่เขาบอกให้ขับรถได้ (แต่พอดีผมไม่เอาทั้ง 2 อย่างเลยไม่รู้จะไปไหน)

แต่บางทีที่ๆเราอยู่อาจจะดีอยู่แล้วก็ได้นะงับ
เพราะคนเรามักไม่ค่อยสนใจสิ่งที่ตัวเรามีอยู่
เราอาจอยู่ถูกที่ผิดเวลา
0
กำลังโหลด
Mega-cool Member 6 ส.ค. 54 09:13 น. 4
เราก็ต้องเข้าใจพ่อแม่ด้วยที่ห้ามก็เพราะกลัวจะทำอะไรที่ผิดๆไป สมัยก่อนการคอสเพลย์ยังไม่มี พ่อแม่เห็นลูกลุกขึ้นมาแต่งตัวตามการ์ตูนคงตกใจไม่น้อย(เราไม่แต่งแต่ชอบไปดูคนอื่น อิอิ) สิ่งใดที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็นคงยากที่จะเชื่อใจ ถ้าอยากจะแต่งก็ควรทำให้รู้ว่าที่ทำไปไม่ใช่เรื่องไม่ดี อย่างที่เจ้าของกระทู้นั้นทำก็ถูก เราควรเข้าใจพ่อแม่บ้าง เพราะถ้าในอนาคตถ้าลูกของเราเกิดแต่งตัวตามแฟชั่นต่างดาว(อนาคตเกิน!?)เราคงต้องใช้เวลาทำใจบ้างไม่น้อย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Hell Angle Member 6 ส.ค. 54 22:37 น. 8
ช่ายยยยยยยยยยยยยยย

แต่ว่านะคร้าบ ของผมไม่กีดกันเลยฮะ อย่างคอสเพลย์

ผม : พ่อจ๋า เค้าอยากคอส
พ่อ : มันคืออะไรรึ = =
ผม : คือการแต่งตัวเลียนแบบคาแร็กเตอร์ในเกมส์หรือการ์ตูนอ่ะจ้ะ ไปเป็นงานๆ
พ่อ : ทำอะไรก็ทำไปเหอะ อย่าไปทำเรื่องไม่ดีก็แล้วกัน เห้ย แต่ถ้าไปงานแล้วมีหนุ่มมาจีบ
        ลูกสาวพ่อจะทำไง???
ผม : ไม่มีหรอกค่ะพ่อ ส่วนใหญ่ในงานมีแต่ผู้หญิง   แล้วหน้าอย่างเค้า...คานทองค่ะ คานทอง
พ่อ : เดี๋ยวพ่อคอสด้วยไปคุมดีไหม มีหนุ่มหน้าไหนมาคุยกับลูกพ่อ พ่อจะต่อยให้หน้าหงายเลย
ผม : (คิด* เว-รล่ะ ถ้าตากล้องมาขอถ่ายรูปพ่อกุมิเตะก้านคอเหรอะว-ะ)


คือพ่อแม่ผมก็อยากให้ทำอะไรสร้างสรรค์ดีกว่านั่งอยู่หน้าคอมไปวันๆอ่ะนะครับ
แล้วผมก็ชอบเก็บตัว มนุษย์สัมพันธ์ต่ำมากกกกกกกกกกกก      ถ้าออกไปงานคอส
จะได้เจอคนเยอะๆ มีมนุษย์สัมพันธ์มากขึ้น      นึกดีใจที่พ่อแม่ใจดี T^T๐
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Silent Life Member 7 ส.ค. 54 18:40 น. 10
 ค.ห.ขอบคุณนะครับที่ให้กำลังใจ

ที่จริงหาดใหญ่ก็น่าอยู่นะ แต่เดินทางไม่สะดวกถ้าไม่มีมอไซค์หรือรถส่วนตัวอ่ะ อยากให้หาดใหญ่มีแท็กซี่เหมือนขอนแก่นมากกกกก แต่คงยากขนาดภูเก็ตทำยังล่มเลย
ปกติถ้าไปไหนพ่อจะไปส่ง แต่พ่อกะลังจะย้ายเข้ากรุงเทพแล้ว ถ้า่ติดม.อ.หาดใหญ่ จะแอบทำงานผ่อนรถยนต์ขับเอง ถ้ารถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เข้าไทยก็เอารถยนต์น้ำมันนี่แหละ ไม่รอแระ


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 สิงหาคม 2554 / 16:15
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
story my life 8 ส.ค. 54 13:49 น. 12
ขอระบายหน่อยนะ พอดีว่าเพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆ แบบว่าบ้านเรามีสมาชิกอยุ5 คน ซึ่งประกอบไปด้วย พ่อ แม่ พี่สาว เรา และน้องชาย เราเปนคนที่เซนซิทีฟได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม แม้จะเปนคำพูดลอยๆที่คนบางคนไม่คิดอะไร แค่พูดออกมาก็เท่านั้น แต่สำหรับเรามันไม่ใช่ เราจะเกบมาคิดกับคำพูดนั่น จนปัจจุบันเรากลายเปนโรคเครียด ต้องกินยาและไปหาหมออยุเสมอ เรามักมีปัญหากับคนรอบข้างเสมอ ไม่ว่าจะในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนก็ตาม เราคิดว่ามันเปนปัญหามาตั้งแต่ตอนเด็กหรือเปล่า ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเรา หลายครั้งเราคิดอยากฆ่าตัวตาย คือตั้งแต่เราเกิดมาอีกละ มีแต่โรครุมล้อมตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นก็คิดว่าไม่รอดแต่ก็รอดไม่ได้ แต่ก็ยังไม่แข็งแรงเท่าคนอื่นอยุดี จนเราเองก้รำคาญตัวเองที่เปนแบบนี้เต็มทน อยากจะตายๆๆๆไปซะเหมือนกัน ยอมรับว่าท้อกับปัญหาหลายเรื่องมากแล้วก็ไม่รุจะปรึกษาใคร ไม่ใช่ไม่มีเพื่อนที่ไว้ใจนะ มีแต่เราคิดว่าบางทีเพื่อนก็มีปัญหาของตัวเอง เราก็ไม่อยากจะรบกวน เรารุเราเปนคนเอาแต่ใจมากกก จนตอนนี้เราก็ไม่รุจะหันหน้าไปหาใมคร ไปปรึกษาใคร จึได้เขียนระบายออกมาเปนตัวหนังสือ เราเหนด้วยกับข้อความที่ว่า ผู้ใหญ่ไม่เคยเข้าใจวัยรุ่นอย่างเราๆๆเลย แม้พี่สาวที่อายุห่างกันไม่กี่ปี ยังไม่เข้าใจเราเลย แถมมีแต่พูดแบบไม่คิด พี่ไม่รุหรอกว่าเราเปนแบบนี้เพราะพี่ และแม่เองก็บอกให้เราอย่าใส่ใจกับคำพูดของพี่แต่แม่เองก็พูดให้เราคิดมากอยุดีนั่นละ ส่วนพ่อกับน้องไม่ต้องพูดถึงเลย เราไม่ค่อยได้คุยกันอยุแล้ว เราอะเปนคนรักเพื่อนมากกกกกกก แต่เราไม่รุว่าเพื่อนอะทุ่มเทให้กับเราเหมือนกันที่เราทุ่มเทบ้างไหม ไม่รุว่าที่คบๆกันอยุเพราะเปนครอบครัวเรามีฐานะ หรือเปล่า เราละท้อกับปัญหาแบบนี้จริงๆ จนเราคิดว่าพอเราโตขึ้นเปนผุใหญ่เราอาจจะเปนคนที่เครียดมากกว่านี้ก้ได้ เพราะแค่ตอนนี้ก้เปนไมเกรนซะแล้ว แล้วในอนาคตไม่หนักกว่านี้หรอ
0
กำลังโหลด
Cho 8 ส.ค. 54 14:46 น. 13
คิดแล้วเครียดก็ไม่ต้องคิดทำใจให้ร่าเริงเข้าไว้พยายามมองโลกในแง่ดีอย่าคิดมากเดี๋ยวทุกข์พ่อแม่รักลูกทุกคนแหละ แต่เข้ามองแบบมุมมองของเขา
0
กำลังโหลด
Kanthicha Member 8 ส.ค. 54 18:06 น. 14

เป็นห่วงความเห็นที่ 12 จังเลย หนูมีอะไรก็พูดกับคุณแม่ตรงๆ ได้นะคะ พ่อแม่ทุกคนรักลูกค่ะ แต่อาจมีวิธีการแสดงออกไม่เหมือนกัน อย่าเก็บไว้ค่ะ เพราะถ้าหนูเก็บไว้คุณแม่ก็จะไม่เข้าใจนะคะ
เพราะคุณพ่อคุณแม่ ย่อมพยายามเลือกสิ่งที่พ่อแม่คิดว่าดีที่สุดสำหรับลูกให้ลูกเสมอ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เราจะไม่รูหรอกว่าสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีในมุมมองของลูก

ยกตัวอย่างของตัวเองนะคะ นั่งทานมันฝรั่งถุงๆ กับลูกวัย 3 ขวบ เราก็จะเลือกแผ่นสวยๆ เต็มๆ แผ่นให้กับลูก เพราะความรักลูกอยากให้ลูกได้ทานของดีๆ ตัวเองก็เลือกทานแต่ชิ้นที่หักๆ สักพักลูกก็พูดขึ้นมาว่า คุณแม่ขาปากหนูก็เล็กนิดเดียวทำไมคุณแม่ป้อนหนูแต่ชิ้นใหญ่ๆ แล้วทีคุณแม่ก็เลือกแต่ชิ้นพอดีๆ ไปทาน ทำให้เราเข้าใจเอ่อ..จริงด้วยสิ สิ่งที่เราคิดว่าดีของเรา ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับลูกเลย ดังนั้น...คุณลูกๆ ทั้งหลายคะ ขอให้เปิดใจคุญกับคุณพ่อคุณแม่ ในสิ่งที่หนูคิด พร้อมเหตุผลค่ะ เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่ จะถึง...เอ้อ..จริงด้วยสิ..บ้างนะคะ..ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ

0
กำลังโหลด
darkdevil Member 8 ส.ค. 54 18:45 น. 15
ขอบคุณนะค่ะที่ให้คำแนะนำ ^^ แต่คือ เฮ้อ พ่อแม่หนูไม่ใช่แบบนั้หรอกค่ะ หมอจิตแพทย์บอกว่าหนูดีขึ้นแล้วนะ แต่ช่วงนี้ก็กลับมาดาวน์ลงงอีกละ เฮ้อ ยิ่งช่วงนี้ใกล้สอบตรงทวีคูณความเครียดเข้าไปอีก แล้วยังต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ มันยิ่งทำให้ท้อจริง

ปล นี้เปนเมมเบอร์ของหนุเองค่ะ เปนคนเดียวกับคห 12
0
กำลังโหลด
Kanthicha Member 8 ส.ค. 54 23:43 น. 16
@Darkdevil หนูเป็นเด็กดีนะคะ ถ้ามีปัญหาอะไรปรึกษาคุณอาก็ได้ค่ะ ยินดีรับฟังค่ะ เคยได้ยินมั๊ยคะ ที่ว่าแค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตเราก็จะเปลี่ยนค่ะ สู้ๆ นะคะ :)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
.'.'.'. ฝนดาว .'.'.'. Member 11 ส.ค. 54 21:00 น. 19
อยากให้แม่ได้มาอ่านตรงนี้จัง เพราะแม่เคยทำให้พื้นฐานอารมณ์และสภาพจิตใจของหนูย่ำแย่ไป ถ้าต้องโตมาแล้วเป็นอย่างนั้น หนูคงกลัวมากๆ
0
กำลังโหลด
Zombielife Member 13 ส.ค. 54 02:23 น. 20

แต่บางเรื่องที่ผู้ใหญ่ไม่ให้ และเราก้คิดว่ามันก้ต้องเป็นอย่างนั้นอ่ะนะ
เพราะว่าเราโตแล้วต้องรู้จักคิด รู้จักทำ
อันไหนเป็น สิ่งดี สิ่งไม่ดี เราทุกคนรู้หมดแหละ
เพียงแต่ว่าจะทำมั้ยเท่านั้นเอง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด