หูยยยย เพิ่งมีดราม่าแรงๆ จากกรณีเด็กฝึกงานไปหมาดๆ ทีนี้ก็กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ จนรุ่นพี่จากหลายๆ บริษัท ก็ออกมาแฉประสบการณ์ที่เคยเจอกันเป็นแถว แล้วเราควรจะทำตัวยังไงดี นอกจากระวังเรื่องเปิดเผยความลับบริษัทแล้ว เด็กฝึกงานต้องระวังอะไรอีกบ้าง แบบไหนที่ไม่ควรทำ มีตัวอย่างให้ดูเห็นๆ
Don’t มือหนัก ไม่ทักทาย #แบบนี้ก็ได้เหรอ
หน้าบึ้งตึง ไม่สนใจใคร เจอรุ่นพี่ก็มองผ่านไปแบบไม่แคร์ ก็ใครจะทำไม มาฝึกงานไม่ได้มาไหว้ใคร ถึงไหว้ก็ทำแบบขอไปที ใครที่คิดแบบนี้อยู่ เลิกซะเถอะค่ะ จะไปไหนมาไหนก็บอกกล่าว ไปลา มาไหว้ พูดจามีหางเสียง ไม่ห้วนๆ สั้นๆ จนเหมือนกระโชกโฮกฮาก ลองดูตัวอย่างนะคะ ระหว่างที่จะกลับบ้าน น้องพูดว่า “เฮ้ยพี่! ไปละนะ” กับ “ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ” ความหมายเดียวกัน แต่การพูดต่างกันเยอะนะคะ เชื่อพี่แก้วเถอะค่ะ มีสัมมาคารวะเข้าไว้ ผู้ใหญ่จะได้เอ็นดูเรา
ไหว้แบบขอไปทีแบบนี้ก็ไม่เอานะ
Don’t แต่งชุดอยู่บ้านมาทำงาน #แบบนี้ก็ได้เหรอ
คีบแตะ กางเกงขาสั้น เสื้อยืด มานั่งทำงานชิลๆ สบายๆ ก็แหม...ตำแหน่งเราไม่ได้มีหน้าที่ติดต่อใคร ไม่มีใครเห็นหรอก แต่รุ่นพี่เห็นค่ะคุณน้อง #เจ้านายก็เช่นกัน การแต่งตัวให้ดูดี สุภาพเรียบร้อย (อาจจะไม่ต้องถึงกับใส่สูทผูกไทด์) ถือเป็นการให้เกียรติสถานที่ทำงาน ให้เกียรติผู้ร่วมงาน ใครจะรู้ว่าวันดีคืนดีอาจมีลูกค้าโผล่มาเยี่ยมก็ได้ แบบนั้นไม่ดีแน่ๆ แต่ถ้าใครนึกไม่ออกจะแต่งยังไง ใส่ชุดนักศึกษาแบบเต็มยศเลยค่ะ ยังไงก็รอด!
Don’t’ วันๆ เอาแต่เล่นโทรศัพท์ #แบบนี้ก็ได้เหรอ
แหม...ก็คนมันมีแฟน มีเพื่อน มีสังคม โทรคุยกันสักชั่วโมงสองชั่วโมง คุยไปทำงานไปก็ไม่เป็นไรนี่นา แล้วเนี่ยเวลาเล่นเน็ตก็ใช้เน็ตมือถือตัวเองแท้ๆ เปิดนั่นดูนี่ ไม่เห็นจะเป็นไร #แบบนี้ก็ได้เหรอ มาทำงานก็ตั้งใจทำงาน แล้วอย่าลืมปิดเสียงโทรศัพท์ในออฟฟิศด้วย เดี๋ยวจะรบกวนคนอื่น ไม่ใช่เฉพาะตอนฝึกงานนะ ตอนเรียนในห้อง หรือจบไปทำงานแล้วก็ไม่ควรเล่นโทรศัพท์เรื่อยเปื่อยอยู่ดี
นี่จับโปเกม่อนในออฟฟิศเลยนะเนี่ย
Don’t ใช้เน็ตออฟฟิศดูซีรีส์ #แบบนี้ก็ได้เหรอ
มาถึงออฟฟิศเร็วก็เปิดเน็ต เช็กเฟซซะหน่อย ทำงานไป โอยยย เบื่อๆ เปิดทวิตเตอร์ตามข่าวนะ อะ ทำงานเสร็จพอดียังมีเวลาก่อนเลิกงานก็เปิดคลิป เปิดซีรีส์ดู ก่อนกลับก็ตั้งสเตตัสซักหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวๆ นี่เน็ตออฟฟิศ คิดยังไงก็ไม่สมควรค่ะ น้องจะกลายเป็นคนที่ดูไม่เอาใจใส่ ไม่กระตือรือร้นจะทำงาน แบบนี้มาฝึกงานทำไมเนี่ย?
Don’t มาสาย ก็บ้านหนูไกลนี่นา #แบบนี้ก็ได้เหรอ
เข้างาน 9 โมงเช้า มาซะ 10 โมง โห...พี่รถติดมาก บ้านหนูอยู่ไกลนะ กว่าจะมาถึง รถไฟฟ้าก็คนแน่น เห็นใจกันหน่อยสิ เดี๋ยวๆ นะ กฎบริษัทก็บอกอยู่แล้วเข้างานกี่โมง ออกกี่โมง ความตรงเวลาคือสิ่งสำคัญ อย่าอ้างนู่นอ้างนี่ ถ้ามันฉุกเฉินจริงๆ ทุกคนคงเข้าใจค่ะ แต่มาสายบ่อยๆ มันก็แสดงถึงการไร้ความรับผิดชอบ และบริหารเวลาไม่เป็น เพราะฉะนั้น กะเวลาให้ถูก เผื่อเวลาไว้บ้าง จะได้ไม่ต้องรีบร้อน
Don’t ลาบ่อยไป ใครๆ ก็เขม่น #แบบนี้ก็ได้เหรอ
เด็กฝึกงานมีวันลาค่ะ ใครมีเหตุจำเป็นต้องไปทำธุระจริงๆ เช่น ต้องยื่นเอกสารที่คณะวันนี้เท่านั้น หรือมีเหตุเจ็บป่วย จะลาก็ได้ ไม่มีใครว่า แต่หลายๆ บริษัทที่เจอมา นี่เล่นลาทุกอาทิตย์ ลาบ่อยมาก หรือลาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง บริษัทอาจจะไม่ว่า ไม่ลงโทษ ปล่อยหยวนๆ ได้ แต่เค้าจะมองเราและมหาวิทยาลัยที่ส่งเรามาไม่ดีนี่สิคะ เอาเป็นว่า มีวันลาให้ใช้ แต่ใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้นเนอะ
Don’t แอบปริ้นท์งานนิดหน่อย ไม่บ่อยหรอกนะ #แบบนี้ก็ได้เหรอ
ข้อนี้เห็นมาเยอะ เวลาไปฝึกงานในออฟฟิศ น้องๆ ฝึกงานหลายคนมักจะแอบใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในงานของตัวเอง เช่น ปริ้นท์รายงานสักสี่สิบหน้า ซีร็อกซ์ชีทข้อสอบไม่กี่สิบแผ่น แหม...ก็แค่นิดๆ หน่อยๆ จะเป็นไรไป ออฟฟิศไม่สึกหรอ ไม่ทันรู้ด้วยซ้ำ แต่ลองนึกภาพถ้ามีน้องฝึกงานสักสิบคน ปริ้นท์คนละ 40 แผ่น ก็ 400 แผ่นแล้วนะ ต่อให้นิดหน่อย มันก็คือผิดกฎ ไม่ควรมาขอให้หยวนๆ ด้วยซ้ำ
Don’t ก็งานมันยาก ไม่ทำได้มั้ย #แบบนี้ก็ได้เหรอ
บีบเข้าไป บีบน้ำตาแล้วบีบมือฉันขอร้องให้เห็นใจ...ก็แหม งานนี้มันยาก หนูทำไม่ได้ หนูไม่ทำได้มั้ย เจอแบบนี้ไปที รุ่นพี่ที่ออฟฟิศแทบจะร้อง อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา ตอนเข้ามาก็บอกซะดิบดีว่าพร้อมจะเรียนรู้เต็มที่ พอให้งานไปทำทีก็มาเกี่ยงงาน อ้างมันยากไป อยากทำแต่ที่ตัวเองสนใจ หรือน้องฝึกงานบางคนเจอให้ไปช่วยงานหลายๆ แผนก ฝึกงานโรงแรมอาจจะได้ไปช่วยเสิร์ฟ ช่วยล้างจาน หรือตามไปพับผ้า ก็อย่าเพิ่งโวยวายว่าทำทำไมเนี่ย จริงๆ การฝึกงานไม่ใช่ว่าจะต้องเรียนรู้แค่แผนกเดียวนะคะ ถ้าเราได้เรียนรู้ทุกๆ แผนก ทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็เถอะ มันถือเป็นกำไรของเราเองนะ
ยังไม่ทันลองทำ ก็ถอดใจซะแล้ว อึดเข้าไว้สิลูก
Don’t สนิทกันแล้ว ก็แซวเล่นได้ #แบบนี้ก็ได้เหรอ
ไม่ว่าน้องๆ จะสนิทสนมกับรุ่นพี่ที่ทำงานแค่ไหน ถึงขั้นกลายเป็นกลุ่มแก๊งแฮงค์เอาท์ไปเที่ยวด้วยกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาด! คือพูดจาไม่คิดหน้าคิดหลัง แซวแรงๆ กับรุ่นพี่ ชนิดที่ว่าอีกนิดคงจะตบหัวเล่นกันได้แล้ว เช่น แซวพี่เค้าว่า "แหม...แก่ป่านนี้แล้วยังหาแฟนไม่ได้ ขึ้นคานตายแน่ๆ เลย" แร้งงงง ก็เข้าใจนะคะว่าแซวขำๆ สนุกๆ แต่บางทีก็ต้องระวังคำพูดด้วย บางทีคนฟังก็ไม่สนุกไปกับเราซะหน่อย จะกลายเป็นว่าดูไร้มารยาท ไม่มีสัมมาคารวะ ระวังให้ดีนะพวกเธอ
Don’t กินขนมที่โต๊ะทำงาน #แบบนี้ก็ได้เหรอ
จริงๆ บางออฟฟิศก็ไม่ได้ซีเรียสนะคะเรื่องกินของจุบจิบเล็กๆ น้อยๆ เช่น ลูกอม เยลลี่ หรือพวกเครื่องดื่มต่างๆ แต่เด็กฝึกงานบางคนนี่มาเป็นมื้อหนักๆ ข้าวเหนียวหมูปิ้งเอย ขนมกรุบกรอบเป็นสิบๆ ห่อเอย วางเกลื่อนบนโต๊ะ กินไปนั่งทำงานไปเอร็ดอร่อย แค่มองภายนอกสภาพก็ดูแย่แล้วนะ แถมเศษขนมต่างๆ จะหกเรี่ยราดตามคีย์บอร์ดบ้าง พื้นบ้าง ล่อแมลงสาบและมดมาเพียบ นี่ถ้าถ้าหิวขนาดนั้นจริงๆ ขอพี่เค้าแวบไปซื้อนมหรือขนมปังสักแผ่นไปกินในครัวที่จัดเตรียมไว้ให้ดีกว่ามั้ยละเนี่ย
ฝากถึงน้องๆ ที่กำลังจะเป็นเด็กฝึกงานทุกคน เราไปในฐานะนักศึกษาคนหนึ่ง แบกเอาชื่อเสียงของคณะและมหาวิทยาลัยไปด้วย อย่าลืมทำตัวดีๆ ให้พี่ๆ เค้าเอ็นดู ไม่ใช่ไปทำปุ๊บ จบที่รุ่นเราปั๊บ คราวหน้าบริษัทไม่รับคนจากคณะนี้ขึ้นมา รุ่นน้องจะซวยเปล่าๆ ดีไม่ดี แทนที่เราจะได้คอนเน็กชั่นในการเข้าทำงาน จะโดนแบล็กลิสต์นะคะ ส่วนน้องๆ คนไหนเคยไปฝึกงานหรือได้ยินเรื่องมาจากรุ่นพี่ฝึกงานแบบไหนที่มองว่าไม่โอเค มาแชร์ประสบการณ์เป็นอุทาหรณ์กันดีกว่าจ้า
6 ความคิดเห็น
จากใจเด็กฝึกงาน ...พักกินข้าว 1 ชั่วโมง 12:00-13:00 ซึ่งช่วงนั่นคนเยอะ
บางวันลงพัก 12:15 / 12:10 / 12:30 / 12:40 แล้วมาขึ้นเลทบ้าง 1-5 นาที เพราะร้านข้าวคนเยอะ กินไม่ทัน มาถึงชี้นาฬิกา สาย!!! แล้วพอจะลงพักตามเวลา แกไม่มีน้ำใจ!!
ค่ะ
หลายๆ ที่จะมีการเลี้ยงส่ง/ต้อนรับ ส่วนตัวมองว่า ที่ทำงานเขาจะไม่เลี้ยงเราก็ได้ แต่ถ้าเลี้ยงก็ถือว่าดี
แต่เคสที่เจอคือ มีทั้งเลี้ยงและให้ออกเอง ซึ่งมองว่ามันเกินไป เพราะเราไปฝึกงานบางทีเราไม่ได้เงินเลย แต่พี่เขามีเงินเดือนแล้ว ถ้าคิดจะเลี้ยง หรือจะกินอะไร ควรออกให้น้องในบางครั้งมากกว่า
หรือเรื่องของการทำงานที่บางคนพูดไม่รู้เรื่อง ถึงเราจะมาใหม่แต่เราเรียนรู้อะไรได้ ก็ควรจะพูดไปตามตรง ไม่ใช่เขาใช้อะไรก็ทำ สงบเสงี่ยมเกินไป อันนี้มันไม่ควรจะเป็นอะ เราไปฝึกงาน เราก็ควรมีความคิดของเราบ้าง
พวกที่มาบ่นๆว่าบริษัทนั้น บริษัทนี้ไม่รับนักศึกษาฝึกงานก็โทรไปด่า ไปโวยวาย ไปจิกหัวบริษัท
ควรจะรู้บ้างนะคะว่าที่บางบริษัทบางแห่งไม่รับนักศึกษาฝึกงาน
ก็เพราะว่ามีนักศึกษาฝึกงานที่มีนิสัยแบบนี้ที่กล่าวมาทั้งหมดไปทำเรื่องเสื่อมเสียก่อน
บริษัทบางแห่งเข็ดและไม่อยากรับนักศึกษาฝึกงาน
สู้เปิดรับเฉพาะคนที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีและคนที่มีวุฒิปริญญาตรีเข้ามาทำงานจะดีกว่า
แต่ก่อนเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับยานยนต์นี่และครับ เราเรียนช่างยนต์ ลูกพี่ใช้อะไรก็ต้องไป บางทีเขาทำรถหรูๆก็ได้แค่ยืนดูครับ -ที่เรียนมามันแทบไม่มีเลยในงานจริง ยอมรับครับ อึดอัดมากยากทำแทบตาย แต่สุดท้ายได้แค่หยิบเครื่องมือ แต่ก็ต้องอดทนครับ แอบมอง แอบดู ครูพักรักจำ พูดจามีครับผมตลอด ทำไงได้ครับ เราอยากได้ความรู้จากเขา ก็ต้องทน จนพวกพี่ๆเขายอมสอนให้ ทั้งวิธีคุยกับลูกค้า และเทคนิคนิดๆหน่อยๆ ฝึกแบบนี้ จนจบ ปวส แล้วออกมาทำงานจริง กลับทำได้ เฉย บางทีก็อาจจะ รับฟังคนอื่นบ้าง เพราะงานช่างจะคิดว่าตัวเองเก่งไม่ได้ ปัจจุบันนี้เปิดร้านของตัวเองแล้วครับ ส่วนพี่ๆที่เคยฝึกให้เรา ตอนนี้ก็ยังให้คำแนะนำกับเราอยู่ เพราะรถทุกวันนี้ระบบมันพัฒนาขึ้นเรื่อยๆครับ ไม่มีหยุด ตัวช่างเองก็ต้องพัฒนาเช่นกัน แล้วถ้าถามว่า ทำไมพวกพี่ๆ ที่เคยฝึกให้เราถึงช่วย คำเดียวเลยครับ เรามีสัมมาคาราวะครับ เราไม่ได้ไปเก่งใส่เขา ผมว่าไม่ว่างานอะไรก็ช่างครับ ตำรามันไม่ได้ช่วยอะไรเรามากมาย เท่ากับประสบการณ์จริงๆ