Spoil
  • การสำรวจพบว่าผู้ชายชอบผู้หญิงที่โทนเสียงสูง
  • แต่ถ้าอยากให้ดูน่าเชื่อถือต้องใช้โทนเสียงทุ้มต่ำ
  • คนรักกันมักจะมีจังหวะการพูดและเสียงที่คล้ายกัน
    ________
     
          ถ้าสาวคนไหนอยากให้ตัวเองดูน่าสนใจ ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าหน้าผมที่ต้องดูแลเท่านั้นนะคะ แต่โทนเสียงที่ใช้ในการพูดก็ช่วยให้เราดูน่าสนใจได้ นักวิทยาศาสตร์บอกว่า เสียงเป็นกลไกที่น่าสนใจและเอามาใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ถ้าใช้ให้เป็น! ถ้างั้น เราไปลองใช้เสียงกันดูค่ะ
 

ภาพจาก pixabay.com

 
ผู้ชายเสียงต่ำ ผู้หญิงเสียงสูง
 
          เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าทำไมผู้ชายถึงเสียงต่ำ และผู้หญิงเสียงสูงกว่า? เรื่องนี้อธิบายได้ นักวิทย์บอกว่าเสียงต่ำเป็นการแสดงถึงอำนาจ ความน่าเกรงขาม และการข่มคู่ต่อสู้ ดังนั้นผู้ชายที่มีเสียงทุ้มต่ำ ก็จะดูมีความเป็นผู้นำ ดูแข็งแกร่งและปกป้องคนอื่น ผู้หญิงจึงมีแนวโน้มที่จะสนใจผู้ชายที่เสียงต่ำมากกว่าผู้ชายที่เสียงสูง แต่ในทางกลับกัน ผู้ชายมักจะสนใจผู้หญิงที่เสียงสูงมากกว่า (สูงในที่นี้คือเสียงเล็กๆ ใสๆ ฟังเพลินๆ ไม่ใช่เสียงแหลมแสบแก้วหู) เพราะเสียงสูงแสดงถึงความน่าเอ็นดู ทะนุถนอม ดูมีความเป็นผู้หญิง แต่ถ้าเป็นสาวๆ เสียงต่ำจะดูเหมือนมาข่มกันได้ 
 
          ความน่าสนใจอีกอย่างของเสียงนั่นก็คือ มันสามารถปรับระดับได้เองอัตโนมัติ ไม่ต้องดัดเสียงให้เสียเวลา เพราะเวลาที่สาวๆ เจอคนที่ชอบ เสียงมักจะปรับเปลี่ยนให้สูงขึ้นเอง  ดังนั้น ถ้าหนุ่มๆ จะจับสังเกตสาวๆ ว่าคนไหนสนใจเราอยู่ ลองฟังจากเสียงดูได้ หรือแม้แต่สาวๆ เอง อยากสร้างความประทับใจ เวลาพูดก็เลือกโทนเสียงสูงหน่อย นักวิทย์บอกก็ใช้ได้ไม่มีห้ามนะ
 

​ภาพจาก pixabay.com

 
ผู้หญิงใช้เสียงต่ำก็มีดีเมือนกันนะ

          โทนเสียงไม่ใช่แค่ไว้ใช้ในการดึงดูดใจคนรักเท่านั้นนะคะ แต่ยังเอามาใช้ในการเรียนและทำงานได้ด้วย อย่างเช่น สาวๆ ที่ต้องรายงานหน้าห้อง สัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย  หรือต้องพูดให้คนฟังเชื่อถือ ก็ให้เลือกใช้โทนเสียงต่ำเข้าไว้ จะได้ดูหนักแน่น 

 
คนรักกัน เสียงเหมือนกัน
 
          อีกเรื่องที่คนอาจไม่ค่อยรู้ คือการหลอมรวมของเสียง (phonetic convergence) วารสารของสังคมและความสัมพันธ์ ตั้งทฤษฎีที่ว่า คนรักกันหรือคนที่ใกล้ชิดกันจะมีวิธีพูดที่คล้ายกันโดยไม่ทันรู้ตัว ทั้งโทนเสียงสูงเสียงต่ำ ไปจนถึงอัตราเร็วในการพูด การเว้นววรค การแบ่งคำ ซึ่งแต่ละคนแต่ละคู่ อาจจะใช้เวลาในการซึบซับและหลอมรวมเสียงที่ต่างกัน บางคู่อาจปรับกันแค่เดือนเดียว หรือบางคู่ก็เป็นปีก็มี
 
          เพื่อยืนยันทฤษฏีนี้ นักจิตวิทยาจึงมีการทดลองเล็กๆ กับรูมเมทมหาวิทยาลัย 5 คู่ ที่อัดเสียงของแต่ละคนช่วงเริ่มเปิดเทอมใหม่เปรียบเทียบกับช่วงก่อนปิดเทอม พบว่าเสียงของรูมเมทในช่วงก่อนปิดเทอมมีความคล้ายกันมากต่างจากเสียงในรอบแรก ซึ่งสัมพันธ์กับความสนิทสนมที่เพิ่มมากขึ้นด้วย หรืออธิบายง่ายๆ ว่าเวลาที่เราชอบใคร เรามักจะติดสำเนียงและการพูดในแบบของเขามาเองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ 
 

ภาพจาก pixabay.com

 
          นอกจากนี้ นักจิตวิทยายังกล่าวอีกว่า "เมื่อสำเนียงภาษาของคนสองคนตรงกัน พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะออกเดทและรักกันด้วย" แล้วคุณล่ะ? เจอกับคนที่มีสำเนียงตรงกันแล้วหรือยัง?

          ครั้งหน้า ลองเลือกใช้โทนเสียงให้ตรงกับจุดประสงค์ที่อยากได้ดูนะคะ ส่วนใครลองแล้วเป็นยังไง ก็มาแชร์ประสบการณ์ได้ที่ใต้คอมเมนต์ได้เลย


 
ข้อมูลจาก
businessinsider.com
popsci.com
huffpost.com


 
พี่แก้ว
พี่แก้ว - Columnist คอลัมนิสต์ชีวิต 150 เซนฯ ถือคติอกหักเรื่องเล็ก แต่มีแฟนไม่ตรงสเป็กสิเรื่องใหญ่

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น