เพศสัมพันธ์ปลอดภัยในรูปแบบ Anal sex

Spoil

  • Anal sex คือการมีเพศสัมพันธ์ผ่านทวารหนัก หรือเรียกกันว่าประตูหลัง เป็นรสนิยมทางเพศแบบหนึ่งที่เกิดได้ทั้งกับคู่รักทุกเพศ
  • มีงานวิจัยเรื่องการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ไวรัสเอชไอวี (HIVs) พบว่า “ฝ่ายรับ” จากการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก มีโอการติดเชื้อสูงถึง 50%
  • ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และลดการปนเปื้อนติดเชื้อ

เป็นชายรักชายครับ อยากรู้เรื่อง Anal sex ครับ?

สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D พบกับพี่หมอโด่งที่คอลัมน์ Sex Education เช่นเคยครับ นี่ก็ปี 2021 แล้วนะครับ นอกจากการเปิดกว้างในการพูดคุยเรื่องเพศสัมพันธ์แล้ว ยังเป็นยุคที่เราควรเปิดใจ ทำความเข้าความหลากหลายทางเพศ และรสนิยมทางเพศอีกด้วย โดยคำถามที่ถามพี่หมอมาวันนี้เป็นเรื่องของ Anal sex หรือการมีเพศสัมพันธ์ผ่านทวารหนัก (Anus) เราจะมีเพศสัมพันธ์ช่องทางนี้ให้ปลอดภัยได้อย่างไร ใครสนใจตามมาเลยครับ

Anal sex คือการมีเพศสัมพันธ์ผ่านทวารหนัก หรือเรียกกันว่าประตูหลัง เป็นรสนิยมทางเพศแบบหนึ่งที่เกิดได้ทั้งกับคู่รักทุกเพศ โดยการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องทางนี้จะต้องมีการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยด้วยครับ 

รู้จัก "ทวารหนัก" อวัยวะสำคัญกันก่อน

จริงๆ แล้วทวารหนักเป็นส่วนประกอบของทางเดินอาหารส่วนปลาย (Digestive system) ซึ่งรูเปิดทวารหนักนั้น (Anus) มีส่วนของหูรูด (Anal sphincter) ต่อมาจากลำไส้ตัวปลาย (Rectum) และโค้งไปมาลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (Descending Colon) อีกทีหนึ่ง

แน่นอนว่าทวารหนักไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้มีเพศสัมพันธ์ แต่มีหน้าที่เพื่อดูดซับน้ำและสารอาหารครั้งสุดท้าย ก่อนจะปล่อยอาหารออกมาเป็นกากใยหรืออุจจาระ (Feces) ต่อไป ซึ่งหากนับเวลาตั้งแต่อาหารเข้าปากเรา กว่าจะเดินทางผ่านมาถึงจุดนี้ ก็อาจจะใช้เวลาถึงเกือบ 24 ชั่วโมง 

จากกายวิภาคศาสตร์สู่การมีเพศสัมพันธ์ผ่านทวารหนัก

กายวิภาคศาสตร์ของทวารหนัก

จริงๆ แล้วทวารหนักก็เสมือนช่องคลอดของเพศหญิงครับ ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ยืดหยุ่นได้ แต่ความแตกต่างทางกายวิภาคของฝ่ายรับคือหูรูด (Anal sphincter) ที่ต่างจากเยื่อบุในช่องคลอดเพศหญิง เพราะหากเกิดการบาดเจ็บแล้ว อาจจะส่งผลต่อการขับถ่าย เช่น อั้นอุจจาระได้ลำบากมากขึ้น หรือถ่ายอุจจาระแล้วมีอาการเจ็บจากภาวะบาดแผลที่ทวารหนัก (Anal fissure) ดังนั้น หากไม่ระมัดระวัง สุดท้ายก็จะเกิดภาวะหลวม (Loose sphincter tone) ได้เหมือนกันครับ

การรับความรู้สึก

เนื่องจากเส้นประสาทสัมผัสบริเวณทวารหนักจะส่งสัญญาณไปยังสมอง เวลามีแรงหน่วง เพื่อทำให้เรารู้สึกปวดอุจจาระ และไปเข้าห้องน้ำขับถ่ายอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะเพศ สิ่งของ หรือแม้แต่นิ้วมือก็ตาม ก็อาจจะทำให้มีความรู้สึกหน่วงแบบนั้นได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ทางเดินอาหารส่วนปลาย (Rectum) นั้น มีลักษณะเป็นท่อโค้งและไม่ยาวมากนัก จริงๆ แล้วพี่มองว่าก็เหมือนกับระยะห่างของปากช่องคลอดไปจนถึงปากมดลูกเลยครับ ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักจะต้องระมัดระวังหลายอย่างพอควร เช่น ท่าทางที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ เป็นต้น

การเตรียมตัวก่อนมีเพศสัมพันธ์

อย่างที่บอกไปครับว่ามันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นช่องทางสำหรับมีเพศสัมพันธ์หรือสืบพันธุ์ตามธรรมชาติครับ ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ทางนี้จึงต้องเตรียมตัวก่อนเล็กน้อย คือ ทำความสะอาด ใช้สารหล่อลื่นลดอาการเจ็บ และใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การทำความสะอาดทวารหนัก (Anal Douching)

แนะนำให้ทำเพียงภายนอกเท่านั้นนะครับ เพราะการสวนล้างภายในไม่ว่าทวารหนักหรือช่องคลอดก็ไม่แนะนำทั้งสิ้น เนื่องจากเนื้อเยื่อภายใน (Rectal mucosa) บอบบาง และอาจจะทำให้เกิดการฉีกขาดได้ หากสายฉีดความแรงมากเกินไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายในนั้นด้วย

การใช้สารหล่อลื่น

ทวารหนักก็เหมือนช่องคลอดครับ คือมีส่วนภายนอกที่น้ำหล่อลื่นออกมาไม่ถึงและเกิดการแห้งบ้างเป็นบางเวลา โดยทางช่องคลอดนั้นเมื่อมีอารมณ์ทางเพศจะมีน้ำหล่อลื่นออกมาตามธรรมชาติ แต่ทางทวารหนักไม่เป็นแบบนั้นครับ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีน้ำหล่อลื่นเหมือนช่องคลอด เยื่อบุผนังทางเดินอาหารส่วนปลายก็ยังคงเป็นบริเวณที่ชุ่มชื้นเพื่อให้เกิดการขับถ่ายที่ปกติ และไม่มีการเสียดสีครับ ดังนั้นการใช้สารหล่อลื่นก็ยังมีความจำเป็นอยู่ครับ โดยเฉพาะในครั้งแรกๆ

การใช้ถุงยางอนามัย

ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ครับ ไม่ใช่แค่ทางทวารหนักเท่านั้นแต่ทางช่องคลอดก็ด้วย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และลดการปนเปื้อนติดเชื้อ หากคู่รักใดที่คิดว่ามีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักดีกว่าจะได้ไม่ท้องละก็ ถึงไม่ท้องก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยครับ จำไว้เลยนะ!

สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักนั้นยิ่งจำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยมากขึ้นอีก เนื่องจากเนื้อเยื่อทางเดินอาหารส่วนปลาย (Anus) เป็นเยื่อบุที่บอบบาง (Mucosal membrane) ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อได้ ที่สำคัญคือ หากย้อนไปดูงานวิจัยเรื่องการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ไวรัสเอชไอวี (HIVs) นั้น พบว่า “ฝ่ายรับ” จากการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก มีโอกาสติดเชื้อสูงถึง 50% เลยทีเดียวครับ

(อ่านเรื่อง รู้หรือไม่? “ฝ่ายรับ” ทางประตูหลัง (ชายรักชาย) เสี่ยง HIV มากที่สุด)

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่ารสนิยมทางเพศเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลครับ เราไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติและไม่ก้าวก่ายวิพากษ์วิจารณ์กัน ซึ่งจากที่ทำคอลัมน์เพศศึกษามานาน พี่หมอดีใจนะครับที่น้องๆ กล้าที่จะถาม เพื่อให้ได้ความรู้ที่ถูกต้องและคลายความสงสัย หวังว่าข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้จะทำให้น้องๆ ที่ได้อ่าน ได้เข้าใจรสนิยมทางเพศอีกแบบหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์ ไม่เป็นอันตรายต่อเราเองและคนรัก เตรียมตัวและป้องกันไว้ดีกว่าแก้ครับ ใครอยากรู้เรื่องไหนอีก ถามมาได้เลยครับ พี่หมอจะตอบให้ในบทความต่อไปครับ

 

นพ.ชนม์พิสิฐ มณฑล
พี่โด่ง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด