คุยแต่ไม่ได้คบ! อาจตกเป็นเหยื่อของความสัมพันธ์แบบเศษขนมปัง Breadcrumbing

ทุกคนรู้จักนิทานเรื่อง "ฮันเซลกับเกรเทล" มั้ยคะ เรื่องราวของ 2 พี่น้องที่ถูกหลอกเอาไปทิ้งในป่า แต่ใช้เศษขนมปังโปรยไว้ตามทางเดินเป็นสัญลักษณ์ทิ้งไว้ จะได้ย้อนกลับมาทางเดิมได้ถูก แต่ด้วยความที่เป็นขนมปังก็เลยถูกสัตว์ต่างๆ กัดกินไป สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย เรื่องราวนี้ถูกเอามาตั้งชื่อเป็นรูปแบบหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เรียกว่า Breadcrumbing หรือ ความสัมพันธ์แบบเศษขนมปัง  

Breadcrumbing หรือ ความสัมพันธ์แบบเศษขนมปัง  

คือความสัมพันธ์ที่มีฝ่ายหนึ่งโปรยเศษขนมปังไว้ให้เรื่อยๆ แล้วอีกฝ่ายเป็นฝ่ายเดินตาม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร ไปไม่ถึงจุดหมาย ไม่มีทางออก ก็เหมือนกับคนที่คุยไปเรื่อยๆ 'ดูเหมือน' ว่ามีใจ คุยมากกว่าเพื่อน แต่ก็ยังไม่เลื่อนสถานะเป็นแฟนสักที ให้ความหวังว่ากำลังจะได้เป็นคนพิเศษ แต่ก็กั๊กๆ เดินหน้า 2 ก้าว ถอยหลัง 3 ก้าว ไปไม่ถึงไหนสักที ใครที่ยังค้างๆ คาๆ อยู่ในสถานะคนคุุยแบบนี้ ไปเช็กกันว่าเรากำลังเป็นเหยื่อที่ติดกับดักเศษขนมปังอยู่หรือเปล่า จะได้ไม่ต้องหวังลมๆ แล้งๆ มูฟออนไปหาความรักครั้งใหม่ดีกว่า

สัญญาณของ Breadcrumbing

1. คำพูดไม่ตรงกับการกระทำ

เคยได้ยินคำนี้มั้ยคะว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูด เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่หลงอยู่กับคำพูดหวานๆ ที่เขาหว่านเอาไว้เพียงอย่างเดียว แต่ให้ดูว่าสิ่งที่เขาทำมันไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ถ้าปากเขาบอกว่าชอบนะ มีความรู้สึกดีให้ แต่การกระทำสวนทางกับคำพูด ไม่แคร์ ไม่ใส่ใจ มันก็เริ่มไม่ใช่ๆ แล้วมั้ย

2. ดึงเกมเก่ง

ฝ่ายที่เป็นคนโปรยขนมปังจะเหมือนเป็นฝ่ายคุยเกม ให้อีกฝ่ายวิ่งตามแต่ตามเท่าไหร่ก็ไม่ทัน แต่เมื่อไหร่ที่ลองหยุดวิ่ง เลิกสนใจ เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะสูญเสียอะไรไป ถึงจะค่อยวนกลับมาป้อนขนมปังใส่ปากใหม่อีกครั้ง แต่ถ้ากลับเข้าสู่เกมเมื่อไหร่ สุดท้ายก็จะวนเข้าลูปเดิม

3. อยากคุยแต่ไม่อยากเจอ

คนคุยก็คือคนคุย คุยไปเรื่อยๆ คุยเรื่องลมฟ้าอากาศ แต่ถ้าเริ่มอยากพัฒนาความสัมพันธ์ อยากสนิทมากขึ้น อยากนัดเจอกัน อยากไปกินข้าว ดูหนัง แต่บ่ายเบี่ยง ไม่มาเจอกัน ไม่จอยกับการมาเจอหน้ากันเท่าไหร่ อาจหมายความว่าเป็นได้แค่คนคุยแก้เหงาเท่านั้นแหละ

4. เปลี่ยนใจเก่ง

ในเมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ได้อยากพัฒนาความสัมพันธ์ เขาก็จะไม่ได้แคร์ความรู้สึกของอีกฝ่ายเท่าไหร่ ถ้าสมมตินัดกันทำอะไรไว้ ก็มักจะเปลี่ยนใจ เปลี่ยนแพลน เทกันไว้กลางทาง ถ้าเริ่มโดนผิดนัดบ่อยๆ ต้องถอยมาสังเกตสถานการณ์แล้วล่ะ

5. มีกำแพงกั้นชีวิตส่วนตัว

ถึงแม้จะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่การมีความรักก็คือการแชร์พื้นที่ส่วนตัวให้กันและกัน เปิดใจให้เข้าใกล้กันมากขึ้น แต่ถ้ารู้สึกว่าเดินฝ่ากำแพงเข้าไปข้างในไม่ได้สักที อาจหมายความว่าพื้นที่นั้นไม่ได้มีสำหรับเราก็ได้

6. ความสนใจของเราไม่เท่ากัน

ถ้ารู้สึกว่าทุ่มเทอยู่ฝ่ายเดียว เป็นคนที่สนใจมากกว่า ใส่ใจมากกว่า แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันไม่เท่าเทียมกันเอาซะเลย เทียบง่ายๆ ถ้า chat หนักขวา หรือพยายามเข้าหามากกว่า นอกจากเหนื่อยอาจจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

7. เริ่มรู้สึกแย่กับตัวเอง

ความสัมพันธ์ที่ดีต้องทำให้เรารู้สึกดี มีความสุข และส่งเสริมให้ชีวิตดีขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกแย่กับตัวเอง รู้สึกผิดหวัง เสียใจ เหนื่อยกับการทุ่มเทแต่สุดท้ายโดนทุ่มทิ้ง ต้องฉุกคิดและพิจารณาได้แล้ว

ใครที่เริ่มรู้สึกว่ากินเศษขนมปังจนเน่นท้องแล้ว เป็นคนคุยมืออาชีพ จนแทบจะเป็นคอลเซ็นเตอร์ ก็ลองถอยออกมา อย่าลืมว่าคนทุกคนคู่ควรกับความรักที่ดีนะ รักตัวเองให้มากๆ แล้วความรักดีๆ จะเข้ามาหาเราเอง