กรมควบคุมโรค อัปเดต! 'โรคฝีดาษวานร (Mpox)' เดือน ส.ค. ติดเชื้อมากสุด พบผู้ป่วยล่าสุดเป็น นร.ชาย อายุ 16 ปี

พบผู้ป่วยล่าสุดเป็น นร.ชาย อายุ 16 ปี ประวัติมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน

สถานการณ์โรคฝีดาษลิงในไทย

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ในประเทศไทยว่า ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2566 มีรายงานผู้ป่วยรวม 316 คน เสียชีวิต 1 คน ซึ่งเป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย 271 คน และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 143 คน มีสัญชาติไทย 277 คน ชาวต่างชาติ 36 คน ไม่ระบุ 3 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 198 คน จังหวัดชลบุรี 22 คน นนทบุรี 17 คน และสมุทรปราการ 12 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ อายุ 30-39 ปี จำนวน 152 คน รองลงมาอายุ 20-29 ปี จำนวน 85 คน กลุ่มเยาวชน อายุ 15-24 ปี จำนวน 28 คน ซึ่งกลุ่มเยาวชนมีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อหลักร้อยจะยังไม่สร้างความตื่นตกใจเท่าไร แต่ผู้ติดเชื้อคนล่าสุดที่พบ กลับเป็นเด็กนักเรียนชายอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ซึ่งมีประวัติมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน มีอาการตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย อวัยวะเพศบวมอักเสบ และตรวจพบเชื้อฝีดาษลิง แต่ยังไม่พบผู้ป่วยในครัวเรือน

อาการของโรคฝีดาษลิง

‘โรคฝีดาษลิง’ เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae ซึ่งพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์มีใช้ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า คนก็สามารถติดโรคได้ โดยการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน เป็นต้น  

อาการเริ่มแรกจะมีไข้สูง 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นขึ้นตามลำตัวเป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง หรือตุ่มตกสะเก็ด  

กลุ่มเสี่ยงคือผู้ที่สัมผัสแนบชิดกับผู้ป่วยที่มีผื่น โดยผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรงคือ ผู้ป่วยมะเร็ง, ผู้ติดเชื้อ HIV, ผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ, เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี และหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

การป้องกันโรคฝีดาษลิง

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อหรือสัตว์ป่า

2. กินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก

3. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์

4. ไม่กินเนื้อสัตว์ป่า และไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยง  

5. หยุดพฤติกรรมเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์กับคนไม่รู้จักหรือการมีคู่นอนหลายคน ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ เนื่องจากสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสแนบชิด

แม้ว่าโรคฝีดาษลิงจะติดต่อกันยาก และการติดเชื้อยังไม่เป็นวงกว้างมากนัก แต่ที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่ติดต่อจากคนสู่คนซึ่งเป็นเพศชาย และถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีวัคซีนไข้ทรพิษที่สามารถป้องกันได้ประมาณ 85% เท่านั้น แต่หากได้รับเชื้อแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคได้เองในเวลา 2-4 สัปดาห์  

สุดท้ายนี้ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า “ขอย้ำเตือนเยาวชนและกลุ่มชายรักชายให้งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไม่สัมผัสใกล้ชิดเนื้อแนบเนื้อ หรือกอดจูบกับผู้ที่ไม่รู้จัก เวลานี้สถานการณ์ผู้ป่วยในไทยเริ่มแพร่ระบาดจากกลุ่มวัยทำงาน วัยรุ่น ไปสู่กลุ่มที่อายุน้อยลง ได้แก่เยาวชนวัยเรียนแล้ว ขอให้ตระหนักว่า เยาวชนต้องป้องกันตัวอย่างมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดโรค”

https://ddc.moph.go.th/monkeypox/index.php, https://www.facebook.com/profile.php?id=100068069971811, https://www.thaipbs.or.th/news/content/331256

 

 

พี่จูน
พี่จูน - Columnist บ.ก.บันเทิง/ไลฟ์สไตล์ ใจดีกว่าหน้าตา รักสัตว์ รักเด็ก อยากเป็นนางเอกและนางงาม

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น