จัดตู้เสื้อผ้ายังไงดี ??

1.แยกประเภทเสื้อผ้าก่อน
ในตู้เสื้อผ้าของพี่เตยจะแยกเสื้อผ้าออกเป็น 3 พวกใหญ่ๆ คือชุดที่ใส่อยู่บ้าน ชุดที่ใส่ไปทำงาน/ไปเที่ยว และเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ค่ะ เพื่อจะได้สะดวกในการหยิบ เลือก และจำได้ง่าย และใน 3 กองใหญ่ๆ พี่เตยก็จะแยกเป็นกองย่อยๆ อีก ดังนี้



เสื้อผ้าอยู่บ้าน :: ในกองเสื้อผ้าอยู่บ้าน พี่เตยจะแยกออกเป็น 3 กอง คือเสื้อ กางเกง ชุดนอน ซึ่งพี่เตยเป็นคนที่มีเสื้อผ้าอยู่บ้านเยอะมากกกกกกกก (ไม่เคยซื้อเลยนะ ส่วนใหญ่ได้มาจากเสื้อของน้องชายที่เขาใส่ไมได้แล้ว 5555555 ประหยัดมาก > <) พอเรามีเสื้อผ้าเยอะๆ ก็จะเกิดปัญหาขึ้นคือใส่ไม่หมด ใส่ไม่ครบ บางทีก็ลืมไปแล้วว่าเราเคยมีเสื้อผ้าแบบนี้ด้วย! เพราะฉะนั้นเวลาพี่เตยซักเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เวลาพับเก็บเข้าตู้ พี่เตยจะเอาเสื้อผ้าที่เพิ่งใส่ไว้ล่างสุด เพื่อจะได้ใส่เสื้อผ้าให้หมุนเวียนกันทั่วถึงนั่นเอง!


เสื้อผ้าไปทำงาน/ไปเที่ยว :: ในกองนี้พี่เตยจะแยกออกเป็น 4 กองใหญ่ๆ คือ เสื้อ กางเกง เดรส และเสื้อผ้าที่ต้องใส่ไม้แขวน เพราะบางชุดถ้าเราพับเก็บไว้ในตู้ มันอาจจะยับง่ายและรีดยาก เลยเอาใส่ไม้แขวนจะดีกว่าค่ะ (ไปๆ มาๆ เสื้อผ้าที่แขวนใส่ไม้แขวนเยอะกว่าเสื้อผ้าที่ต้องพับอีก 5555) ชุดพวกเดรสบางตัวก็จะใส่ไม้แขวนไว้ เพราะเป็นผ้าที่ไม่ต้องรีดก็สามารถใส่ได้เลย ส่วนเดรสบางตัวก็จะพับแยกไว้อีกกองนึงค่ะ


เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ :: ในกองนี้พี่เตยจะคัดเสื้อผ้าที่ใส่ไม่บ่อย หรือนานมากๆ ถึงจะมีโอกาสได้ใส่ซักที เช่น ชุดเดรสไปงานแต่งงาน แจ๊คเก็ตหนัง เสื้อมีฮู้ด เสื้อแขนยาวคอเต่า หรือเสื้อไหมพรมหนาๆ จะพับแยกไว้อีกมุมนึง เพราะเสื้อผ้าพวกนี้แทบจะไม่มีโอกาสได้ใส่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าสาวๆ กลัวว่าฝุ่นจะเกาะเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ พี่เตยแนะนำว่าสาวๆ อาจจะพับเสื้อผ้าใส่ถุงแยกไว้ก็ดีเหมือนกันค่ะ


2.เลือกตำแหน่งสำหรับเสื้อผ้าแต่ละประเภท
พี่เตยแบ่งโซนตู้เสื้อผ้าออกเป็น 3 โซนค่ะ โซนนึงวางเสื้อผ้าอยู่บ้าน อีกโซนวางเสื้อผ้าที่ต้องใส่ไปทำงาน/ไปเที่ยว ส่วนอีกโซนพี่เตยเอาไว้วางเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ (ซึ่งคุณแม่จัดการใส่ถุง มัดปากอย่างดีเพราะกลัวฝุ่นเข้านั่นเอง^^) ส่วนเสื้อผ้าที่ต้องใส่ไม้แขวน พี่เตยจะพยายามแขวนให้กระจายๆ ไม่ให้เบียดกันมากเพราะกลัวเสื้อผ้ายับและหยิบยากค่ะ แต่ตอนนี้ตู้แน่นเอียดเลย - -‘’ 555555




3.จัดระเบียบกับลิ้นชักในตู้เสื้อผ้า
จริงๆ สาวๆ อาจจะใช้ลิ้นชักที่มีมาในตู้เสื้อผ้าไว้ใส่ชุดชั้นในก็ได้ค่ะ แต่เนื่องจากตู้เสื้อผ้าของพี่เตยนั้นมีลิ้นชักแค่ชั้นเดียว T_T จึงทำให้ใส่ของไม่พอ ลิ้นชักในตู้เสื้อผ้านี้พี่เตยเลยเอาไว้ใส่พวกเอกสารสำคัญๆ อย่าง พาสปอร์ต สมุดบัญชี สลากออมสิน บัตรนัดและนามบัตรต่างๆ รูปถ่าย เงินเก็บ ฯลฯ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างจริงๆ ถ้าลิ้นชักนี้โดนขโมยไปล่ะก็ พี่เตยต้องตายแน่ๆ T_T หลายคนอาจจะสงสัยว่า อ้าว แล้วชุดชั้นในล่ะ พี่เตยเอาไว้ตรงไหน?? ตามมาดูข้อต่อไปเลยค่ะ


4. ตู้ลิ้นชักพลาสติก สวรรค์ของสาวสมบัติเยอะ
พี่เตยเป็นคนที่เสื้อผ้าเยอะมากกกก (ก ไก่ล้านตัว 55555) คุณแม่เลยตัดสินใจซื้อตู้ลิ้นชักพลาสติกมาให้ค่ะ ซึ่งตู้ที่ว่าเนี่ยมีทั้งหมด 4 ชั้น คุณแม่เลือกสองชั้นบน ส่วนสองชั้นข้างล่างนั้นเป็นของพี่เตยค่ะ วิธีการเก็บชุดชั้นในของพี่เตย พี่เตยจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ใส่อยู่บ้าน กับส่วนที่ใส่ไปข้างนอกค่ะ โดยชั้นนึงไว้ใส่ชุดชั้นในที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ส่วนอีกชั้นเอาไว้ใส่ชุดชั้นในที่ใส่อยู่บ้าน ซึ่งในชั้นนี้พี่เตยใส่รวมกับเลคกิ้ง ถุงน่อง เสื้อทับ กางเกงซับใน เกาะอกกั้นโป๊ และบิกินี่ด้วย แยกกันไว้แบบนี้ทำให้หาง่ายมากๆ เลยค่ะ (ใครอยากอ่านวิธีการเลือกชุดชั้นใน เข้าไปดูในลิ้งค์นี้เลยจ้า ^^ มาเลือกชุดชั้นในกันเถอะ >> Click!!)



5.ของกระจุกกระจิกอื่นๆ
ในตู้เสื้อผ้าของพี่เตยนอกจากจะมีเสื้อผ้าแล้ว ยังมีพวกเครื่องประดับต่างๆ ด้วยค่ะ ซึ่งพี่เตยจะใส่เครื่องประดับไว้รวมๆ กันในกล่อง (กล่องนี้ได้แต่ใดมา :: ได้มาจากกล่องขนมคุกกี้ตอนช่วงปีใหม่ค่ะ 555555 ) ซึ่งเครื่องประดับแต่ละชิ้นพี่เตยจะใส่ในถุงซิปล็อคใสๆ อีกทีเพื่อกันไม่ให้เครื่องประดับเป็นรอยค่ะ แถมยังทำให้เราหาง่าย สร้อยกับแหวนไม่พันกันอีรุงตุงนัง วิธีนี้เวิคสุดๆ จ้า ;)