สาวๆ เชื่อหรือไม่คะว่าโรคนี้พี่เตยก็เป็นค่ะ!! T______T อาการของโรคนี้คือปวดร้าวบริเวณข้อมือ ฝ่ามือ และนิ้วมือ บางคนอาจมีอาการชา กำมือแน่นๆ ไม่ได้ หยิบจับของแล้วทำร่วงหล่นตลอด สาเหตุของโรคนี้เกิดจากท่าทางการวางมือขณะที่เราจับเมาส์และแป้นคีย์บอร์ดค่ะ ด้วยความเคยชินทำให้สาวๆ หลายคนวางมือในท่า “กระดกข้อมือ” ค้างไว้เวลาใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการข้อมืออักเสบขึ้นได้
ทางแก้ปัญหาก็คือต้องปรับเปลี่ยนท่านั่งและการวางมือเวลาใช้คอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องค่ะ โดยท่าวางมือที่ถูกต้องขณะใช้คอมพิวเตอร์ก็คือ ต้องวางมือให้ขนานไปกับพื้นโต๊ะ ไม่งอหรือกระดกข้อมือเวลาที่ใช้เม้าส์และแป้นคีย์บอร์ดค่ะ นอกจากนี้สาวๆ ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ควรลุกไปพักบ้างทุกๆ 1 ชั่วโมงเพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบถค่ะ
แต่ถ้าอาการต่างๆ ยังไม่ทุเลาลง พี่เตยแนะนำว่าควรไปปรึกษาคุณหมอดีกว่าค่ะ เพราะบางคนอาจต้องรักษาด้วยวิธีการกายภาพบำบัดหรือผ่าตัด ทางที่ดีคือควรรีบสังเกตอาการของตัวเอง และไม่ควรนิ่งนอนใจ รีบไปพบคุณหมอจะดีกว่าน้า
อาการปวดหลัง (Back Pain)
อาการปวดหลังมักเกิดจากการนั่งผิดท่าเป็นเวลานาน รวมถึงท่านั่งที่ไม่สบายเวลาใช้คอมพิวเตอร์ด้วยค่ะ สาวๆ หลายคนชอบนั่งไขว่ห้างเวลาใช้คอมพิวเตอร์ สาวๆ รู้รึเปล่าเอ่ยว่าท่านั่งไขว่ห้างเนี่ยทำให้ปวดหลังสุดๆ เลย (แต่เตยพี่ก็ชอบนั่งไขว่ห้างเวลาเล่นคอมเหมือนกันนะ -..-) ถ้าไม่อยากปวดหลัง เราต้องเริ่มกันที่ท่านั่งที่ถูกต้องในการใช้คอมพิวเตอร์ค่ะ
ท่านั่งในการใช้คอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง
* เท้าทั้งสองข้างต้องวางแนบสนิทบนพื้น
* ไหล่ต้องปล่อยสบาย ไม่ยกไหล่หรือห่อไหล่ขณะใช้คอมพิวเตอร์
* เวลาใช้คอมพิวเตอร์ต้องไม่ก้มหน้ามากเกินไป ควรอยู่ในระยะ 50-70 องศา
* ควรลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบถและเป็นการพักสายตา
* หลังต้องแนบชิดกับพนักพิงเก้าอี้ และนั่งให้เต็มก้น ไม่ควรนั่งแค่ครึ่งเดียวหรือหมิ่นเหม่
* ปรับระดับความสูงของเก้าอี้ให้พอดีกับระดับโต๊ะคอมพิวเตอร์ ไม่ให้สูงเกินไปหรือเตี้ยเกินไป
พี่ผึ้งเคยทำ “3 Step บรรเทาอาการปวดหลัง” ไว้ในคอลัมน์ Move It Up สาวๆ คนไหนที่มีอาการปวดหลัง ลองเข้าไปทำท่าบริหารตามดูนะคะ พี่เตยว่าช่วยได้เยอะเลยค่า :)
โรคเกี่ยวกับสายตา (Computer Vision Syndrome)
เวลาที่เราต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีใครมีอาการตาพร่าหรือปวดตาบ้างมั้ยคะ?? พี่เตยมีอาการปวดตาเวลาที่ใช้คอมพิวเตอร์นานเกินไปค่ะ บางคนอาจมีอาการน้ำตาไหล ปวดศีรษะ และตาแดงร่วมด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่าเราใช้คอมพิวเตอร์นานเกินไป! จริงๆ แล้ว เราควรพักสายอย่างน้อยทุกๆ หนึ่งชั่วโมงด้วยการนั่งหลับตาซักพัก (แต่อย่าแอบหลับนะ ^^’’) หรือลุกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาซักสิบนาทีแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อค่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การจัดท่านั่งและระยะการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์คือสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ
ใช้คอมพิวเตอร์อย่างไรไม่ให้ปวดตา ??
1. ปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้พอดี ไม่จ้าเกินไป
2. ควรนั่งใช้คอมฯในที่ที่มีแสงสว่างมากพอ บางคนชอบปิดไฟในห้องนอน แล้วเล่นคอมพิวเตอร์ในห้องมืดๆ ทำแบบนี้เสียสายตามากๆ เลยค่ะ T^T
3. กระพริบตาบ่อยๆ เพื่อให้มีน้ำมาหล่อเลี้ยงลูกตา ทำให้ไม่เคืองตาค่ะ
4. อย่าลืมเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ เมื่อรู้สึกเคืองตา ปวดตา หรือแสบตา ให้พักสายตาทันที อย่าฝืนทำงานต่อ
5. ตาที่มองหน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องห่างจากหน้าจอประมาณ 45-70 เซนติเมตร
6. ปรับขนาดตัวหนังสือบนหน้าจอให้เหมาะสม ไม่เล็กเกินไป เพราะจะทำให้เราต้องเพ่งตามอง และอาจทำให้ปวดตาได้ค่ะ
สาวๆ คนไหนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อย่าลืมพักสายตาบ่อยๆ ถ้ามีอาการปวดตาร่วมกับปวดหัวด้วย ควรไปตรวจวัดสายตา เพราะสายตาอาจจะสั้นขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ แต่ถ้าตัดแว่นแล้ว พักสายตาก็แล้ว อาการปวดตายังไม่ดีขึ้น พี่เตยคิดว่าสาวๆ ควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุและรีบทำการรักษาค่ะ เรามีดวงตาเพียงแค่คู่เดียว เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลรักษาดวงตาของเราให้ดีที่สุด
อาการปวดหัว (Headache Problems)
อาการปวดหัวมักเกิดขึ้นบ่อยๆ กับคนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ สาเหตุหลักๆ มักเกิดจากความเครียด การมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน แสงหน้าจอคอมพิวเตอร์สว่างมากเกินไป รวมถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวขึ้นได้ทั้งสิ้น ถ้าเราจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เราต้องมีวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันอาการปวดหัวค่ะ
* อาการปวดหัวส่วนมากมักเกิดจากปัญหาอาการปวดตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์ค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องเริ่มจากการดูแลดวงตาของเราก่อนค่ะ อย่าลืมปรับแสงหน้าจอให้สว่างพอเหมาะ อย่าเพ่ง/จ้องหน้าจอนานเกินไป ปรับตัวหนังสือให้มีขนาดพอดี พักสายตาบ้างเมื่อดวงตาอ่อนล้า
* อย่าอดนอน บางคนต้องทำการบ้านตอนกลางคืน กว่าจะรู้ตัวเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่เสียแล้ว แบ่งเวลาดีๆ ถ้าได้การบ้านมา ต้องรีบทำ อย่าหมักดองไว้ มิเช่นนั้นต้องมาโหมทำทีเดียวจนไม่มีเวลาได้พักผ่อนน้า การพักผ่อนไม่เพียงพอก็ทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน
* บางคนเล่นคอมพิวเตอร์จนเพลินไม่ยอมกินข้าวกินปลา - -‘’ (ตอนเด็กๆ พี่เตยโดนคุณแม่ดุเรื่องนี้ตลอดเลย 55555) การที่สาวๆ นั่งเพลินไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ ไม่ยอมดื่มน้ำเนี่ย เป็นการทำร้ายร่างกายสุดๆ เลยค่ะ ดีไม่ดีจะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแถมมาด้วยนะ
* ความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวเหมือนกันค่ะ ยิ่งช่วงใกล้สอบทำให้ต้องรีบเคลียร์งานและการบ้านที่ได้รับมอบหมายมาทั้งเทอมแข่งกับเวลา อาจทำให้สาวๆ เกิดความเครียด รวมถึงสภาวะที่กดดันต่างๆ บวกกับการต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้สาวๆ ปวดหัวได้เช่นกันค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมแบ่งเวลาดีๆ ค่อยๆ เคลียร์การบ้าน อย่าโหมทำคืนเดียว ไม่งั้นล่ะก็..ร่างกายจะรับไม่ไหวน้า
พี่เตยเคยทำ “อาการปวดหัวในวัยรุ่น” ไว้ในคอลัมน์ Health Me สาวๆ ที่มีปัญหาปวดหัวบ่อยๆ ลองแวะเข้าไปอ่านได้นะคะ บางครั้งอาการปวดหัวอาจไม่ใช่แค่ปวดหัวธรรมดาก็ได้ค่ะ นอกจากใช้คอมพิวเตอร์บ่อยๆ แล้ว อย่าลืมสังเกตอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองด้วย
โรคนอนไม่หลับ (Insomnia)
นอกจากปัญหาของความเครียดและอาการปวดหัวแล้ว ปัญหาการนอนไม่หลับจากการใช้คอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่หลายคนเป็นอยู่แต่อาจจะไม่รู้ตัวค่ะ มีการวิจัยแล้วพบว่าความสว่างของหน้าจอมีผลต่อการนอนไม่หลับด้วย! จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่การใช้คอมพิวเตอร์ แต่รวมถึงการใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต่างๆ ด้วย
เมลาโทนิน (Melatonin) คือฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการนอนหลับและเวลาตื่นของมนุษย์ จากการศึกษาของนักวิจัยพบว่าการที่เราสัมผัสกับแสงของหน้าจอคอมพิวเตอร์/โทรศัพท์ต่างๆ ทำให้จำนวนของเมลาโทนินลดลง นอกจากนี้การใช้คอมพิวเตอร์ในช่วงกลางคืนยังทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว และยังทำให้นาฬิกาชีวิตเปลี่ยนแปลงด้วยค่ะ นี่คือสาเหตุที่ทำให้เรานอนไม่หลับนั่นเอง!
พี่เตยเองก็เป็นเหมือนสาวๆ หลายคนค่ะ ปิดไฟ เตรียมนอน หยิบโทรศัพท์ แล้วก็จิ้มๆ กดๆ ไปอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้นอน แถมโดนคุณแม่ดุเรื่องนี้ทุกวันเลย T^T สาวๆ รู้หรือไม่ว่าถ้าเราพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายอ่อนล้า โดยเฉพาะสาวๆ ที่อยู่ในวัยเรียน จะทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนหนังสือ รู้สึกเหนื่อยง่าย แถมยังให้หน้าตาโทรมด้วยนะ ทางที่ดีคือพยายามอย่าเล่นคอมพิวเตอร์จนถึงเวลาดึกมากๆ และอย่าลืมลิมิตเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเองกันด้วยนะ ถ้านอนไม่หลับจริงๆ ลองหาหนังสือเรียนมาอ่าน เชื่อพี่เตยค่ะ แปปเดียวหลับชัวร์ 55555
การใช้คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ สำหรับยุคสมัยนี้ พี่เตยเองก็ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทุกวันทั้งวันเหมือนกันค่ะ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เราก็ต้องหาทางดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ อย่าลืมสังเกตอาการไม่สบายต่างๆ ของตัวเองกันด้วยนะคะ ที่สำคัญคือต้องลิมิตเวลาการใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเองโดยเฉพาะสาวๆ ที่ยังเรียนอยู่ บางคนติดเกม ติด facebook จนไม่ยอมนอนกันเลยทีเดียว แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเองค่ะ เรายังอายุน้อย ยิ่งต้องรีบดูแลตัวเอง ก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ วันนี้พี่เตยกับคอลัมน์ Health Me ต้องไปก่อนละน้า เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ บ๊ายบายยยย
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล
naturallifechiropractic.com
webmd.com
elertgadget.com
55 ความคิดเห็น
เราเป็นหลายโรคเลย
เพิ่งรู้ว่าเล่นคอมพ์ทำให้นอนไม่หลับด้วย???
ส่วนที่เหลือเป็นมาหมดแล้วเหมือนกันค่ะ =w=;;
รู้ว่าอันตรายแต่ก็ตัดไม่ได้สักที = =;;
ที่บอกมา เป็นเคยเป็นหมดเลย
เราต้องออกห่างแล้วแหละ
ลาก่อนท่านคอมพิวเตอร์
เป็นทุกโรคที่มีเลยค่ะ แต่ยังไม่หนักมาก
เป็นบ่อยๆที่สุดคือนอนไม่หลับ
ท่านั่งในการใช้คอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง
* เท้าทั้งสองข้างต้องวางแนบสนิทบนพื้น
* ไหล่ต้องปล่อยสบาย ไม่ยกไหล่หรือห่อไหล่ขณะใช้คอมพิวเตอร์
* เวลาใช้คอมพิวเตอร์ต้องไม่ก้มหน้ามากเกินไป ควรอยู่ในระยะ 50-70 องศา
* ควรลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบถและเป็นการพักสายตา
* หลังต้องแนบชิดกับพนักพิงเก้าอี้ และนั่งให้เต็มก้น ไม่ควรนั่งแค่ครึ่งเดียวหรือหมิ่นเหม่
* ปรับระดับความสูงของเก้าอี้ให้พอดีกับระดับโต๊ะคอมพิวเตอร์ ไม่ให้สูงเกินไปหรือเตี้ยเกินไป
ท่านั่งในการใช้คอมพิวเตอร์ที่ทำอยู่
-เท้าข้างใดข้างหนึ่งต้องเกยโต๊ะ ไม่ก็เก้าอี้อีกตัวหนึ่ง
-ห่อไหล่ขณะพิมพ์คีย์บอร์ด และเวลากดเมาท์เล่นเกมมันส์
-เชื่อว่าหลายคนไม่ทำในทางที่ผิด(บางคนจ้องซะใกล้เชียว)
-ไม่เคยยืดสายตาเลยย ยาวตลอดดดดดอย่างมาก5ชม.
-นั่งไม่เต็มก้น มันไม่สะใจ ไม่ถนัด
-ถ้ารู้ตัวเดี๋ยวปรับเอง ให้มันพอดีกับจอเกมก็พอ
เครดิต เพื่อนร่วมห้อง (T0T*)
เป็นเกือบทุกข้อ = =
แงงง
รุต้นเหตุอล้วว่าทำไมถึงนอนไม่หลับทั้งๆๆที่เราก้ตื่นเช้าแล้วนะ
ชัดเลยค่ะ "โรคนอนไม่หลับ" ตอนนี้ถ้าไม่ถึงตี 4 ตี 5 ก็ไม่หลับค่ะทั้งๆที่ง่วงจะแย่
งี้นี่เอง ..ตอนนี้เหลือแค่ข้อมือที่ยังไม่ปวด 55555
ปล.อย่าปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้พอดี <<< ห๊ะ?? =..=
ที่ว่ามาเราเป็นทั้งหมดเลยค่ะ แง้!
พอปรับท่านั่งแล้วสบายหลังกว่าจริงๆ
ขอบคุณมากๆ สำหรับบทความดีๆ นะคะ ^^
เราเล่นคอมหนักแต่ไม่เป็นนะ ยกเว้นปวดหลัง มาเป็นครั้งคราว
แล้วอาการปวดคอหละครับใช่รึเปล่า เพราะเป็นประจำ
เป็นหลายอย่าองญุ่อ๊ะ 55
อยากบอกว่าเราเป็นมันทุกข้อที่กล่าวมาเลยค่ะ...ฮืออออ
ใช่เลยอ่ะพี่เตยยยยยย โดยเฉพาะโรคนอนไม่หลับ
เป็นบ่อยค่ะ ... เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเล่นคอมฯ ทำให้นอนไม่หลับ
มิน่าล่ะ หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้สักที
ขอบคุณมากๆ ค่ะ มีประโยชน์มากจริงง