สวัสดีค่ะสาวๆ NUGIRL ช่วงนี้พี่โอ๊ตถูกถามบ่อยมากเลยค่ะ ว่าอายไลเนอร์ตัวไหนดีตัวไหนเริ่ด ใช้แล้วไม่แพนด้า ขอบตาไม่เลอะ อยู่ยงคงกระพัน อยากบอกว่าเป็นไอเท็มที่เป็นปัญหาโลกแตกมากๆ เลยค่ะ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว นอกจากพี่โอ๊ตจะไปค้นคว้าบวกกับทดลองใช้เองเพื่อหาข้อมูลมาให้ พี่โอ๊ตก็ยังเอาเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้อายไลเนอร์อยู่ทนอยู่นานมาฝากอีกด้วยแหละ พร้อมแล้วก็ไปกันเลยจ้า
ชนิดของอายไลเนอร์
จริงๆ เราก็พูดเรื่องนี้กันบ่อยพอสมควรนะ พี่โอ๊ตแอบย้ำอีกทีเผื่อคนที่ยังไม่รู้แล้วกันเนอะ
- แบบดินสอ (Pencil Eyeliner) อายไลเนอร์ชนิดนี้เหมาะกับมือใหม่หัดขับ เอ๊ย! หัดเขียน มากๆ เลยค่ะ เพราะเนื้อดินสอมักจะนิ่ม และเขียนง่าย บังคับทิศทางได้ง่าย ไม่เลอะเทอะ ใช้เขียนขอบตาและขอบตาด้านในได้ แต่ควรเลือกที่มียี่ห้อหน่อย เนื้อจะนิ่ม ไม่ระคายเคืองค่ะ
- แบบน้ำ (Liquid Eyeliner) มักจะมาในรูปแบบขวดจิ้มจุ่ม หรือปากกาหัวเมจิก เหมาะสำหรับคนที่เขียนเป็นแล้วประมาณนึง สามารถอัพเลเวลมาใช้แบบนี้ได้ค่ะ ซึ่งพี่โอ๊ตเองใช้อายไลเนอร์แบบนี้หัดเขียน ด้วยความที่อยากเขียนเป็นเร็วๆ และเป็นคนหนังตามัน ใช้แบบดินสอเขียนแล้วไม่รอด ปรากฏว่าเลอะเทอะหมดไปหลายขวดเลยค่ะกว่าจะได้เส้นสวยๆ T^T ข้อดีคือติดทนดีค่ะ แต่ข้อเสียคือควบคุมทิศทางลำบาก ต้องฝึกหลายๆ ทีถึงจะเขียนได้สวยค่ะ
- แบบเจล (Gel Liner) มีให้เลือกทั้งแบบอัดมาในแท่งดินสอ หรือมาในแบบกระปุกใช้คู่กับแปรง พี่โอ๊ตว่ามันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ ระหว่างเนื้อดินสอกับเนื้อลิขวิด เพราะได้สีที่ชัดเข้มแบบลิขวิด แต่เขียนได้ง่ายแบบดินสอ ข้อเสียคือถ้าเจอยี่ห้อไม่ดีก็แพนด้ามากๆ ค่ะ เพราะว่าเนื้อสีเข้มมาก และเนื้อเจลถ้าเก็บไว้นานๆ ก็อาจจะเกิดการแข็งตัว ใช้งานต่อไม่ได้ค่ะ ข้อดีคือเขียนง่าย เนื้อนิ่ม และให้สีชัด
วิธีเลือกอายไลเนอร์ให้เหมาะกับตัวเอง
- ลองสังเกตตัวเองดูก่อนนะคะ ว่าเป็นคนหนังตามันหรือไม่ วิธีทดสอบก็ง่ายมากๆ เลย ใช้กระดาษซับมัน ซับบริเวณหนังตา และบริเวณรอบๆ อย่างหัวคิ้วดู ว่ามีความมันติดออกมามั้ย ถ้ามี แสดงว่าเป็นคนหนังตามัน ไม่เหมาะที่จะใช้อายไลเนอร์แบบดินสอเลยค่ะ เพราะน้ำมันบริเวณหนังตาจะทำให้อายไลเนอร์เลอะออกมา พี่โอ๊ตแนะนำให้ใช้อายไลเนอร์เนื้อฟิล์มจะติดทนกว่าค่ะ
- สาวๆ ที่มีชั่นตาหลบใน หรือหนังตาพับลง อันนี้พี่โอ๊ตเองก็ประสบปัญหาอยู่โดยตรงเลยค่ะ เพราะไม่ว่าจะทาอายไลเนอร์แบบไหน ก็มักจะไม่ค่อยติดทน เวลาลืมตาก็มองไม่เห็นหรอกค่ะ แต่พอหลับตาปุ๊บ ชัดเลย! ลอกเป็นพื้นที่ว่างตรงขอบตาจนแทบจะตีแบตฯได้อยู่แล้ว วิธีแก้ของพี่โอ๊ตคือ ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นก่อนเขียนอายไลเนอร์ค่ะ หรือไม่ก็ทาอายแชโดว์สีดำทับไว้ เวลาหลับตาก็จะกลมกลืนกันไปค่ะ
- ส่วนสาวๆ ที่ไม่มีปัญหา ทั้งเรื่องของหนังตามัน หรือชั้นตาหลบใน ถือว่าโชคดีมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะว่าเลือกใช้ได้ทั้งแบบดินสอ และแบบลิขวิดเลย จะเนื้อแมตต์หรือเนื้อกลอสก็รอดค่ะ
- แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนที่ “ตาบวม” ไม่ควรเลือกใช้อายไลเนอร์แบบเนื้อกลอส (สีเงา) หรืออายไลเนอร์แบบมีกลิตเตอร์เยอะๆ เพราะจะยิ่งทำให้ตาดูบวมมากยิ่งขึ้นค่ะ ลองใช้เป็นดินสอ หรือเนื้อแมตต์จะดูสวยกว่านะ
อายไพรเมอร์ช่วยได้
บ่อยครั้งที่เรามักคิดว่า ถ้าไม่ได้ทาอายแชโดว์ ก็ไม่จำเป็นต้องทาอายไพรเมอร์ พี่โอ๊ตอยากบอกว่าอายไพรเมอร์นี่แหละที่เป็นคีย์เวิร์ดเลย พี่โอ๊ตเคยทดลองทาและไม่ทาสลับกันคนละวัน โดยใช้อายไลเนอร์แบบดินสอ (กล้ามาก) ปรากฏว่าวันที่ไม่ใช้ อายไลเนอร์เลอะช่วงหางตาค่ะ T^T ส่วนวันที่ใช้นี่ไม่เลอะเลย เพราะคุณสมบัติของอายไพรเมอร์คือ ทำให้เครื่องสำอางที่ลงหลังจากนั้นติดทนขึ้นนั่นเองค่ะ อ้อ! แต่ถ้าเป็นลิขวิดแบบเนื้อกลอส จะทาอายไพรเมอร์หรือไม่ทาก็ไม่ค่อยต่างกันค่ะ ด้วยคุณสมบัติที่ติดทนนานกว่าแบบอื่นๆ อยู่แล้วนั่นเอง
อายแชโดว์ช่วยชีวิต
ขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้อายไลเนอร์สิงสถิตย์อยู่บนหนังตาเราได้นานๆ ก็คือการ Tap อายแชโดว์สีเดียวกับอายไลเนอร์ลงไปเบาๆ ค่ะ การ Tap ก็คือการแตะแล้วกดเบาๆ ห้ามใช้แปรงถูหรือปาดเด็ดขาดค่ะ เพราะความหายนะจะเกิดขึ้นทันที อายไลเนอร์จะเริ่มเคลื่อนตัวแล้วหลุดออกจากที่ๆ ควรอยู่ค่ะ เพราะฉะนั้น กดลงไปเบาๆ ก็พอจ้า วิธีนี้จะช่วยให้อายไลเนอร์ของเราเซ็ตตัวอยู่บนหนังตาเราได้นานขึ้น
สำหรับอายไลเนอร์ที่พี่โอ๊ตจะแนะนำครั้งนี้ พี่โอ๊ตใช้มาหมดแล้ว ยืนยัน นั่งยัน นอนยันกันเลยอ่ะ! คัดมาแล้วว่าดี หนังตามันรอด หนังตาไม่มันปลื้ม มันเลอค่าจนต้องเอามาบอกต่อเลยจริงๆ
จริงๆ แล้วแบรนด์ Mistine นี่ทำอายไลเนอร์ออกมาเริ่ดหลายตัวนะ แต่ถ้าเอาที่อัพเดทและพี่โอ๊ตใช้แล้วรอดก็ต้องตัวนี้เลยค่ะ ดำดี ดำสนิทติดใจมาก แถมเป็นเนื้อแมตต์ด้วย ปลื้มสุดๆ เลย แต่ที่ยังแอบตินิดๆ คือ หัวแปรงใหญ่ไปนิดนึง ทำให้เวลาลากหางค่อนข้างจะยากไปหน่อย แต่ก็พออภัยให้ได้ค่ะ เพราะข้อดีนั้นมีเยอะกว่า ทั้งราคาถูก สีดำสนิท และติดทนไม่ไหลเลอะระหว่างวันด้วย (ราคาขึ้นอยู่กับรอบจำหน่ายในแคตตาล็อกและร้านตัวแทนนะคะ แต่ไม่เกิน 129 บาทแน่นอนเพราะนี่คือราคาเต็มจ้า)
Gel Liner กระปุกนี้เป็นแบรนด์ที่สองที่พี่โอ๊ตได้ลองใช้ค่ะ (กระปุกแรกคือ Etude) ประเด็นคือทนกระแสไม่ไหว และเห็นว่าราคาก็ไม่แพง ซื้อมาลองก็คงไม่เสียหายมาก ที่ไหนได้ เลิฟเลย! คือเนื้อเค้านิ่มกว่าที่คิดค่ะ แล้วก็ปาดทีเดียวอยู่เลย ไม่เลอะ ไม่ไหล มันดีงามมากๆ แต่ข้อเสียก็คือ ไม่มีแปรงมาให้ และเนื่องจากเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเจล ถ้าปล่อยให้โดนลมนานๆ มีสิทธิ์จะแห้งได้ พี่โอ๊ตใช้วิธีเอาแปรงตักกะปริมาณขึ้นมาไว้หลังมือ แล้วปิดฝากระปุกเลย จากนั้นก็วอร์มครีมด้วยแปรง แล้วค่อยเขียนขอบตาค่ะ หรือบางคนไม่ถนัด อาจจะคว่ำกระปุกไว้กับที่ราบก็ช่วยได้เหมือนกันนะ กระปุกนึงใช้ได้นานมากๆ ค่ะ
อายไลเนอร์ตัวนี้ต้องบอกว่าพบกันโดยบังเอิญจริงๆ ค่ะ คือพี่ไปเจอแพ๊คคู่ในเซเว่น ราคาถูกมากๆ ก็เลยลองหยิบมาดู เป็นคู่สีดำ-น้ำเงิน จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ พอได้ลองแล้วมันดีกว่าที่คิดเยอะมากๆ (คือแบรนด์นี้ถ้าพูดถึงเรื่องแป้งพัฟฟ์จะดังพอสมควร อย่างอื่นพี่ไม่เคยลองค่ะ) คือเนื้อดินสอเค้านิ่ม และเป็นแบบหมุนออโต้ ไม่ต้องเหลา ใช้ง่ายสุดๆ ค่ะ สีดำก็ดำสนิท สีน้ำเงินก็แซ่บมาก แต่แอบมีข้อเสียนิดนึงคือ สีดำแอบเลอะระหว่างวันนิดๆ ค่ะ ไม่ได้น่าเกลียดมาก เมื่อคิดถึงราคาก็จำต้องยอมยกโทษให้ 555
อันนี้ก็ได้มาเพราะทนกระแสไม่ไหวอีกเช่นกัน และสืบเนื่องมาจากที่พี่โอ๊ตไปลงคอร์สเรียนแต่งหน้ามา อาจารย์ที่สอนภูมิใจนำเสนอมาก ว่าอายไลเนอร์ตัวนี้มันเลิศเลอเพอร์เฟ็คต์ยังไง แหม! ถ้าอาจารย์จะพูดขนาดนี้ล่ะก็ พี่ก็ต้องไปพลิกแผ่นดินหามาให้ได้ล่ะค่ะ! ปรากฏว่าพี่ใช้เขียนขอบตาด้านบน และเขียนอินเนอร์ด้วย ตาไม่เลอะเลยทั้งวัน แต่ๆ ต้องเป็นวันที่ลงอายไพรเมอร์นะ วันไหนไม่ได้ลงก็ไม่รอดเช่นกันค่ะ ที่ชอบคือเนื้อนิ่ม เขียนอินเนอร์แล้วไม่เคืองตา สีดำชัดมากๆ ติดทนทั้งวันค่ะ ข้อเสียคือ มันเป็นแบบเหลา ต้องหาซื้อกบเหลาพกคู่กันด้วยนะ พอปลายมนแล้วจะเขียนไม่ค่อยสวยค่ะ ส่วนราคานี่ถูกแพงแล้วแต่ชะตากรรมจริงๆ นะ 555
สุดท้ายแล้ว ลากันไปด้วยอายไลเนอร์เทพๆ ที่สาวๆ เทใจให้ แต่เอาจริงๆ รุ่นขายดีของเค้าดูเหมือนจะเป็นรุ่นปากกาหัวเมจิกค่ะ แต่บังเอิญว่าพี่โอ๊ตได้ลองตัวนี้แล้วกรี๊ดสนั่นลั่นบ้าน เพราะชอบหัวแปรงเค้าที่ทำให้เขียนง่ายมากๆ ลืมไปเลยว่าเคยเลอะยังไง 555 และชอบตรงที่ติดทนดีมากๆ ต่อให้ไม่ลงอายไพรเมอร์ตาก็ไม่เลอะเลยค่ะ อาจจะดูแล้วราคาสูงกว่าตัวอื่นๆ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าได้ลองแล้วจะบอกว่ามันดีเกินราคามากๆ ค่ะ ข้อเสียสำหรับพี่โอ๊ตมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นคือ มันหาซื้อยากค่ะ เมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ ต้องซื้อกับร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่าย หรือร้านเครื่องสำอางใหญ่ๆ เท่านั้น แต่ก็ไม่เกินความสามารถหรอกนะ อิอิ
เป็นยังไงบ้างคะ Pick Your Best คราวนี้ พี่โอ๊ตถึงกับยอมเปิดกรุอายไลเนอร์มาแชร์เลยนะ อย่าสงสัยว่าทำไมพี่ใช้หลายตัวจัง พี่เชื่อมากๆ ว่า พอสาวๆ เริ่มแต่งหน้าเป็น จะต้องมีอายไลเนอร์มากกว่า 1 แท่งแน่นอนค่ะ อิอิ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นแบบ Liquid Eyeliner ไม่ว่าจะเป็นแบบจิ้มจุ่มหรือแบบหัวปากกาเมจิก พี่จะใช้ประมาณ 3 เดือนแล้วก็ทิ้งค่ะ เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์จะเริ่มหนืด เขียนไม่ค่อยออกแล้ว ส่วนแบบเจลนี่ก็ถ้ายังไม่แห้งกรังตายจากกันไปซะก่อน ก็จะใช้ไปเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนแบบดินสออยู่ได้นานสุดเลย แต่ก็ใช้บ่อยจนหมดไปหลายแท่งแล้ว เม้าท์มอยกันมาเยอะละ เดี๋ยวจะไม่จบ 555 กลับมาเจอกันใหม่ครั้งหน้านะคะ ใครอยากให้พูดเรื่องอะไรก็ลองคอมเม้นท์ทิ้งไว้ได้นะ บ๊ายบายค่ะ ^^
26 ความคิดเห็น
เราชอบใช้อายไลเนอร์ของมิสทีนมากที่สุดอ่า เรามีทั้งแบบดินสอ แบบปากกา แบบพู่กัน
อยากลองใช้แบบเจลดูบ้างจร้า
ชอบใช้แบบดินสอที่สุด เพราะยังเขียนอายไลเนอร์ไม่เก่ง เขียนออกมาแล้วเส้นดูเป็นธรรมชาติดี เดี๋ยวต้องหา Mei Linda มาลองซะแล้ว ^^
ชอบใช้แบบดินสอออ
ช่วยแนะนำอาหารเสริมที่ดี ไม่มีผลเสียกับร่างกายมาก ให้หน่อยค่ะ ตอนนี้เลือกไม่ถูกเลยว่าจะทานของอะไรดี ช่วยหน่อยนะค่ะ
ตอนนี้ใช้ so black อยู่ค่ะ ดีงามมาก ไปเดินงานวิทย์ที่ร้อนชิบ แต่ไม่ละลายเลยจ้ะ
เราใช้ anastasia ค่ะ แพงโฮก แต่ดีนะ
อายไลน์เนอร์ตัวแรกในชีวิตคือ IN2IT ที่เป็นดินสอหมุนๆ คือสีเข้มโอเค แต่เราหนังตามันมาก ระหว่างวันก็เลยแพนด้า แต่ถ้าไม่ตั้งใจมองก็จะไม่ค่อยเห็นว่ามันแพนด้ามากนัก
ส่วนตัวที่รู้สึกว่ามันเจ๋งมาก! คือ 12plus miracle cc jewelry eyeliner ถ้าไปซื้อในวัตสันแล้วใช้บัตร เราซื้อมาประมาณ 40-50 บาท ซึ่งถูกมาก >< พอใช้ไปก็ไม่แพ้ใดๆทั้งสิ้น แล้วที่บอกว่าหนังตาเรามัน ระหว่างวันก็ไม่ลอกหลุด ไม่แพนด้า กันน้ำพอสมควร(คือเอาน้ำราดในส่วนที่เขียนมันจะไม่เลือนหรือไหล แต่ถ้าถูนิดเดียวก็จะค่อยๆละลายไปจนเกลี้ยง) แล้วหัวพูกันแข็งพอดีทำให้เขียนง่าย ถึงแรกๆอาจจะจักจี้เล็กน้อยก็เถอะ 555
อีกตัวที่ลองซื้อมาคือของ skinfood ที่เป็นตัวในไลน์ช็อตเค้ก มันขวดเล็กมากก หัวพู่กันค่อนข้างนิ่ม สำหรับมือใหม่เขียนยากเวอร์ =[]= แต่เนื้อมันเป็นเงา แล้วพอแห้งจะกลายเป็นฟิล์มทันที
ของmei lindaเคยลองแล้วนะ ติดทนจริงๆค่ะ เคยเอาออกมาเขียนตอนไปเรียน ทำตกหัวหักละเอามาเขียน ปรากฏว่าเลอะจ้า เอาทิชชู่ชุบน้ำเปล่าเช็ดละเละหนักกว่าเดิมอีกอ่ะ แบบตาเป็นหมีแพนด้าไรงี้55 แต่ไม่กันน้ำตานะ เคยร้องไห้ครั้งนึง ทีเขียนไว้นี่หายหมดเลยย
Mei linda ยี่ห้อนี้เคยใช้เพราะหาซื้อได้ในราคาไม่แพงค่ะ
ใช้ยี่ห้อนี้อยู่เหมือนกันค่ะ ดีมากๆ แต่เวลามันแห้งระวังเศษผงมันเข้าตานะคะ คันยุ๊กยิ๊กเลย 55+