ทำยังไงให้รอยสิวหายคะ?
เจอกับพี่โอ๊ตอีกครั้งใน NUGIRL GURU สำหรับ Beauty คราวนี้ก็มาพร้อมกับคำถามที่สาวๆ มาตั้งกระทู้กันรัวๆ ยอมใจเลยว่าคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสาวๆ จริงๆ ค่ะ
Q:
A: จริงๆ แล้วทั้งพี่โอ๊ตและพี่เตยก็เคยให้คำแนะนำในเรื่องนี้ไปพอสมควรแล้วค่ะ แต่สำหรับสาวๆ ที่อาจจะยังไม่เคยอ่าน เรามาทบทวนความจำกันอีกทีดีกว่า โดยวันนี้เราจะมาแก้ปัญหากันตั้งแต่ต้นเหตุเลย
รอยสิวเกิดจากอะไร
แน่นอนว่าก็ต้องเกิดจาก “สิว” ค่ะ แต่ว่าสิวแต่ละประเภทก็จะทิ้งร่องรอยอารยธรรมไว้ไม่เหมือนกัน พวกสิวประเภทไม่มีหัว สิวลูกกระจ๊อก เช่น สิวเสี้ยน สิวอุดตัน สิวผด พวกนี้จะทิ้งรอยไว้แป๊บๆ แล้วหายไปแบบไม่ทันจะรู้ตัวด้วยซ้ำ
ส่วนสิวขุ่นแม่ เช่น สิวอักเสบ สิวหัวหนอง สิวช้าง ตอนเป็นก็กลุ้มแล้ว แต่พอหายนี่ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่เลยค่ะ เพราะเล่นทิ้งของฝากไว้ให้ดูต่างหน้าซะหลายเดือน หรืออาจจะเป็นปีเลยก็ได้ ที่แย่กว่านั้นคือ บางทีก็ทิ้งหลุมระเบิดไว้บนหน้าเราด้วย (เศร้า)
รอยสิวแบ่งออกเป็นสองแบบคือ รอยแดง เป็นผลจากการอักเสบซ้ำซ้อนของผิว เมื่อหัวสิวหลุดออกไปแล้ว แต่ผิวยังมีการอักเสบอยู่ จึงเห็นเป็นรอยแดงค่ะ ส่วน รอยดำ เกิดขึ้นหลังจากที่สิวหายอักเสบแล้ว แต่เซลล์ผิวยังซ่อมแซมและสร้างเม็ดสีผิวได้ไม่สมบูรณ์ จึงเห็นเป็นจุดคล้ำๆ หรือเป็นรอยดำนั่นเองค่ะ
ส่วนสิวขุ่นแม่ เช่น สิวอักเสบ สิวหัวหนอง สิวช้าง ตอนเป็นก็กลุ้มแล้ว แต่พอหายนี่ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่เลยค่ะ เพราะเล่นทิ้งของฝากไว้ให้ดูต่างหน้าซะหลายเดือน หรืออาจจะเป็นปีเลยก็ได้ ที่แย่กว่านั้นคือ บางทีก็ทิ้งหลุมระเบิดไว้บนหน้าเราด้วย (เศร้า)
รอยสิวแบ่งออกเป็นสองแบบคือ รอยแดง เป็นผลจากการอักเสบซ้ำซ้อนของผิว เมื่อหัวสิวหลุดออกไปแล้ว แต่ผิวยังมีการอักเสบอยู่ จึงเห็นเป็นรอยแดงค่ะ ส่วน รอยดำ เกิดขึ้นหลังจากที่สิวหายอักเสบแล้ว แต่เซลล์ผิวยังซ่อมแซมและสร้างเม็ดสีผิวได้ไม่สมบูรณ์ จึงเห็นเป็นจุดคล้ำๆ หรือเป็นรอยดำนั่นเองค่ะ
รู้ก่อนชนะก่อน
จริงๆ แล้วมันมีวิธีเบสิคมากๆ ที่จะช่วยให้รอยแผลจากสิวนั้นไม่เหวอะหวะกระจายพื้นที่ แต่บางทีเราก็ลืมไปค่ะว่าวิธีแบบนี้มันช่วยได้
- ไม่บีบหรือแกะสิว ใครทำให้ตีมือแรงๆ ตามอายุเลย! การที่เราไปบีบเค้นขืนใจให้เค้าต้องออกมาเนี่ย มันเหมือนเป็นการสร้างความแค้นให้เค้าค่ะ เผลอๆ สิวจะยิ่งอักเสบมากกว่าเดิมถ้าเราบีบหัวหนองออกมาไม่หมด เช้าวันต่อมาเกิดอาการเป่งกว่าเดิม แถมพอหายก็กลายเป็นรอยใหญ่กว่าเดิมไปอีก ควรมั้ย? ถามใจดูค่ะ
- ทาครีมกันแดด บางคนร้อง อี๋...ไม่เอาอ่ะ มันเหนอะหนะ มันอุดตัน เอาจริงๆ ถ้าล้างหน้าให้สะอาดมันก็ไม่อุดตันนะ แต่ถ้าไม่ทาครีมกันแดดเลย รอยสิวที่เป็นอยู่ก็จะคล้ำมากขึ้น รักษายากกว่าเดิมไปอีกค่ะ เลือกเอา!
- ทายาแต้มสิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทาๆ หายๆ ทาบ้างไม่ทาบ้าง ทาแล้วแต่อารมณ์ นึกออกก็ทา ของแบบนี้ต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอค่ะ เพื่อให้ตัวยารักษาได้อย่างต่อเนื่อง แล้วจะเห็นเลยว่ารอยสิวที่เหลือทิ้งไว้นี่น้อยมาก รักษากันต่ออีกแป๊บเดียวก็หายแล้วค่ะ
- อย่าลืมทาครีมบำรุงผิว อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง ผิวโทรมเด็ดขาดค่ะ จำไว้ว่าผิวยิ่งชุ่มชื้นและแข็งแรงมากเท่าไหร่ การฟื้นฟูผิวก็จะทำได้ดียิ่งขึ้น แปลว่ารอยสิวเองก็จะจางไวขึ้นเช่นกันค่ะ
- ใช้ยารักษารอยสิว เดี๋ยวนี้มีเยอะแยะหลายยี่ห้อค่ะ พี่โอ๊ตเคยแนะนำบางส่วนไว้แล้วใน Pick Your Best : แนะนำ 5 ผลิตภัณฑ์ "ลดรอยสิว" ทาตั้งแต่สิวหายแรกๆ จะยิ่งลดรอยได้ดีค่ะ
นอกจากนี้ พี่โอ๊ตยังมีวิธีรักษาสิวโดยใช้ของบ้านๆ หาซื้อได้ง่าย บางอย่างแค่เปิดตู้เย็นก็เจอแล้ว มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
1. น้ำมะนาว ใช้คอตตอนบัดจุ่ม แล้วทาเฉพาะรอยดำ (ห้ามใช้กับรอยแดงเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ระคายเคืองได้ค่ะ) แต้มทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วไปล้างออก เนื่องจากในน้ำมะนาวมีวิตามินซีและ AHA เข้มข้น เลยทำให้เร่งการผลัดเซลล์ผิวได้ไวค่ะ
2. น้ำผึ้ง ล้างหน้าให้สะอาด ทาน้ำผึ้งทิ้งไว้บริเวณที่เป็นรอยสิวประมาณ 15 – 30 นาที จากนั้นล้างออกค่ะ น้ำผึ้งจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น และยังช่วยต่อต้านแบคทีเรียได้ดีอีกด้วย
3. ว่านหางจระเข้ สาวๆ สามารถใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้สด ล้างให้สะอาดแล้วปั่นให้ละเอียด ใช้พอกหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและสมานรอยแผลได้ดีค่ะ แต่ว่าถ้ายุ่งยากไป ลองหาเจลว่านหางจระเข้มาทาแทนก็ได้นะ
4. น้ำมันมะกอก เลือกแบบที่เป็นออแกนิค 100% นะคะ แบบผสมน้ำหอมขวดละ 10 – 20 อย่าเอามาเสี่ยงค่ะ ใช้คอตตอนบัตทาเฉพาะรอยสิว ทาเฉพาะก่อนนอนทุกวัน จะเห็นว่ารอยสิวจางเร็วขึ้นค่ะ (ถ้าทาน้ำมันมะกอกแล้วไม่ต้องทายารักษารอยสิวนะคะ ให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ)
5. เบคกิ้งโซดา ผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 ทาบริเวณที่เป็นรอยสิว (ไม่แนะนำสำหรับรอยแดงค่ะ) ทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีแล้วล้างออก เบคกิ้งโซดาจะช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น เพื่อเร่งการเกิดผิวใหม่นั่นเอง (แต่เวลาทาลงไปไม่ต้องไปขัดผิวนะคะ)
6. มันฝรั่งดิบ หั่นมันฝรั่งเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาถูบริเวณที่เป็นรอยสิว (ไม่แนะนำสำหรับรอยแดงค่ะ) ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที แล้วล้างหน้าตามปกติค่ะ
7. มะเขือเทศ นำมะเขือเทศลูกใหญ่ ผ่าครึ่งคว้านเมล็ดออก แล้วนำไปสับหรือปั่นให้ละเอียด แล้วพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีค่ะ มะเขือเทศช่วยให้ผิวหน้าใส และทำให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้นอีกด้วย
5. เบคกิ้งโซดา ผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 ทาบริเวณที่เป็นรอยสิว (ไม่แนะนำสำหรับรอยแดงค่ะ) ทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีแล้วล้างออก เบคกิ้งโซดาจะช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น เพื่อเร่งการเกิดผิวใหม่นั่นเอง (แต่เวลาทาลงไปไม่ต้องไปขัดผิวนะคะ)
6. มันฝรั่งดิบ หั่นมันฝรั่งเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาถูบริเวณที่เป็นรอยสิว (ไม่แนะนำสำหรับรอยแดงค่ะ) ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที แล้วล้างหน้าตามปกติค่ะ
7. มะเขือเทศ นำมะเขือเทศลูกใหญ่ ผ่าครึ่งคว้านเมล็ดออก แล้วนำไปสับหรือปั่นให้ละเอียด แล้วพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีค่ะ มะเขือเทศช่วยให้ผิวหน้าใส และทำให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้นอีกด้วย
จำไว้ว่ารอยสิวไม่ใช่ปัญหาโลกแตกค่ะ อย่าไปเครียดกับมันมาก ลองรักษากันที่ต้นเหตุคือ ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ดื่มน้ำเยอะ ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพผิวและสุขภาพกายที่ดีค่ะ เมื่อสิวไม่ขึ้นก็ไม่ต้องกังวลกับรอยสิว จริงมั้ย? ครั้งหน้าพี่โอ๊ตจะหยิบคำถามอะไรมาตอบกันอีก ต้องติดตามใน NUGIRL GURU นะจ๊ะ ^^
มีเกมมาให้เล่นอีกแล้วววว แค่ตอบว่า “สาวๆ มีเคล็ดลับในการรักษารอยสิวยังไงบ้าง”
ตอบได้ถูกใจพี่โอ๊ตก็เลือกรับไปเลย ว่าอยากได้ของรางวัลชิ้นไหน
ตอบได้ถูกใจพี่โอ๊ตก็เลือกรับไปเลย ว่าอยากได้ของรางวัลชิ้นไหน
A: Giftset ผลิตภัณฑ์ Noble White จำนวน 2 รางวัล
B: Mee Underline 9 Seconds Auto Pencil Eyeliner จำนวน 2 รางวัล
B: Mee Underline 9 Seconds Auto Pencil Eyeliner จำนวน 2 รางวัล
ตัวอย่าง: พี่โอ๊ตเน้นที่การบำรุงผิวค่ะ พอผิวแข็งแรงแล้ว รู้สึกว่ารอยสิวจางไวมากๆ (เลือก A ค่ะ)
หมายเหตุ
1. สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2559 และประกาศผลในวันที่ 28 มีนาคม 2559 ค่ะ
2. อย่าลืม log in ก่อนทุกครั้งนะคะ สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกเว็บไซต์ Dek-D.com เท่านั้นจ้า
3. หากพบว่าผู้โชคดีคอนเฟิร์มกลับมาเป็นชื่อและที่อยู่เดียวกัน พี่ขออนุญาติรวมเป็น 1 รางวัลเท่านั้นนะคะ แบ่งให้เพื่อนๆ คนอื่นบ้างเนอะ เข้าใจตรงกันน๊า ^^
1. สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2559 และประกาศผลในวันที่ 28 มีนาคม 2559 ค่ะ
2. อย่าลืม log in ก่อนทุกครั้งนะคะ สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกเว็บไซต์ Dek-D.com เท่านั้นจ้า
3. หากพบว่าผู้โชคดีคอนเฟิร์มกลับมาเป็นชื่อและที่อยู่เดียวกัน พี่ขออนุญาติรวมเป็น 1 รางวัลเท่านั้นนะคะ แบ่งให้เพื่อนๆ คนอื่นบ้างเนอะ เข้าใจตรงกันน๊า ^^
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก http://beautyhacks.co.uk/how-to-get-rid-of-acne-scars-in-less-than-a-week/
51 ความคิดเห็น
วิธีการลดรอยสิว จะใช่น้ำผึ้งค่ะ พอกทั้งเช้าตอนอาบน้ำก่อนไปโรงเรียน และ ตอนเย็น ถึงจะเหนียวนิดหน่อยแต่ก็ลดรอยสิวไปได้เยอะมากๆ ค่ะ ถึงแม้ว่าจะช้าแต่ก็ชัวร์ค่ะ ต้องทำเรื่อยๆ ทำอย่างสม่ำเสมอไม่ต้องเช้าเย็นก็ได้ค่ะ วันละครั้งก็ได้ หลัง ๆ จะผสมน้ำมะนาวไปด้วยค่ะ เพราะจะได้พอกทีเดียวเลยนอกจากรอยสิวหายแล้ว รูขุมขนเริ่มเล็กลงด้วย ส่วนครีมที่ใช้จะใช้ครีมอันนี้จำชื่อ ครีมไม่ได้ เราเรียกว่าครีมมะนาวยิ้ม อันนี้ดีมากๆ เพราะเป็นครีมที่ลดรอยสิวโดยเฉพาะค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญที่จะไม่ให้เกิดรอยสิวคือ ห้ามแกะสิว (ซึ่งมันก็คันไม้คันมืออ่ะนะ พยายามแกะให้น้อยลงก็แล้วกัน) (เลือก A ค่ะ)
วิธีการของเรา คือเราจะพยายยามไม่แกะสิวค่ะจะไ้ไม่เป็นรอย ส่วนตรงที่เกิดรอยแล้วก็เวลาล้างหน้าเสร็จแล้วก็จะแต้มยาลดรอยสิวของสมูตอี ก่อนออกจากบ้านก็จะทาครีมกันแดดเวลาอยู่บ้าก็ต้องทาน่ะค่ะ แล้วก็มีมาร์คหน้าบางส่วนใหญ่เราก็จะวานหางจระเข้หรือไม่ก็น้ำผึง+มะนาวค่ะ (เลือก B ค่ะ)
สิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะคือห้ามเเกะสิวเด็ดขาด ซึ่งอดใจยากมาก555 แล้วก็ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ เวลาเป็นสิวก็ใช้ยาแต้มสิวเอา ส่วนรอยเก่าๆ ก็ใช้ยาลดลอยสิวของดร.สมชายค่ะ โดยส่วนตัวแล้วรอยจางลงจริงๆนะคะทั้งที่ยังใช้ได้ไม่นาน หาซื้อก็ง่ายด้วย (เลือก A ค่ะ)
วิธีการของเราคือ จะรักษาผิวหน้าให้สะอาดค่ะ เนื่องจากต้องแต่งหน้าทุกวัน จึงทำความสะอาดผิวหน้าด้วยการเช็ดเครื่องสำอางค์และล้างหน้าให้สะอาดค่ะ และถ้าครีมรักษาสิวอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันสิวเกิดใหม่ค่ะ (เลือก B ค่ะ)
เคล็ดลับในการดูแลรักษารอยสิวของเรานะคะ
นอกจากข้อห้ามที่ควรปฏิบัติว่าห้ามแกะ แคะ หรือเกาบริเวณที่เป็นสิวแล้ว หลังจากที่สิวแห้ง กลายเป็นรอยสิวแดงหรือเป็นจุดสีดำ เราจะล้างหน้าให้สะอาดค่ะ แต่ไม่ควรจะบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้หน้าแห้ง หลังล้างหน้าควรทาครีมบำรุงประเภทที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ตบท้ายด้วยการทาครีมกันแดดประเภทที่เนื้อครีมบางเบา ซึมง่าย จะได้ไม่เหนอะหนะใบหน้า ไม่อุดตันด้วย
ช่วงกลางคืนหากว่าว่างเราอาจจะพอกหน้าด้วยมาร์คประเภทที่ช่วยให้ความชื่มชื้นแก่ผิวค่ะ เป็นตัวช่วยดีๆอีกอย่างเลย
เลือก A ค่ะ
เคล็ดลับในการรักษาสิวนะคะ
1.อดทนไว้!!! ห้ามแกะ แคะ เกา บีบ
2.อย่ากินช็อกโกแลต
3.ดื่มน้ำบ่อยๆค่ะ ทั้งรักษาสิวและทำให้ขับของเสียออกจากร่างกายได้ด้วยค่ะ ได้สองอย่างเลย
4.ใช้สิ่งรอบข้างค่ะ เช่น มะเขือเทศ น้ำมะนาว ว่านหางจระเข้
5.ล้างหน้าให้สะอาดค่ะ
6.มาร์คหน้า ช่วยได้เหมือนกัน
7.ใช้ครีมบำรุงหรือครีมลดสิว
8.ทาครีมกันแดด
อาจจะมีหลายข้อนะคะแต่ขอบอกแค่นี้เพราะเห็นคนอื่นเขาทำกันอ่ะค่ะ 5555 ยังไงก็ขอร่วมสนุกอีกคนนะคะ ขอบคุณค่า เลือก A ค่ะ
เคล็ดลับในการรักษาสิว คือ
1. ทายาทาสิวและยาลดรอยสิว ให้สม่ำเสมอค่ะ จะได้หายไวๆ ยิ่งสิวหายไวเท่าไร ยิ่งมีโอกาสเป็นรอยดำน้อยลงค่ะ
2.มาส์กหน้า ควรเป็นมาส์กหน้าสำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ ควรอ่านส่วนประกอบก่อนซื้อทุกครั้ง ซึ่งมาส์กที่ดีที่ไม่ก่อให้เกิดสิวควรที่จะ ปราศจากน้ำหอมและแอลกฮอล์ค่ะ
3.ล้างหน้าให้สะอาด เพราะความสกปรกเป็นบ่อเกิดให้เกิดสิวค่ะ
4.หากจำเป็นต้องแต่งหน้าควรเลือกเครื่องสำอางสำหรับคนเป็นสิว ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องสำอางออกมาสำหรับคนเป็นสิวให้เลือกซื้อมากมายค่ะ ลองไปหาซื้อกันดูนะคะ
5.ทาครีมบำรุง ถึงแม้ว่าเราจะเป็นสิว ก็ไม่ควรที่จะละเลยการบำรุงผิวหน้าค่ะ ซึ่งถ้าเราใช้ครีมบำรุงสำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ รับรองว่าสิวไม่ขึ้นแน่นอน รวมถึงเวลาที่สิวหายแล้วจะได้ไม่มีปัญหาผิวอื่นมารบกวนอีก อย่างเช่น ปัญหาผิวขาดน้ำหรือรูขุมขนกว้าง ซึ่งถ้าเราบำรุงตั้งแต่ตอนเป็นสิวรับรองว่าไม่มีปัญหาผิวนี้เกิดแน่นอนค่ะ
6.อย่านอนดึก การนอนดึกเป็นต้นเหตุการเกิดสิว ฉะนั้นถ้าไม่อยากสิวขึ้น ควรเข้านอนก่อน 4 ทุ่มนะคะ
7.ทำความสะอาดที่นอน ปลอกหมอนอาทิตย์ละครั้ง เพราะเป็นส่วนที่เราต้องเอาผิวหน้าสัมผัสเป็นเวลานาน โดยเฉพาะปลอกหมอน ถ้าไม่อยากสิวขึ้นอย่าลืมซักปลอกหมอนกันนะคะ
8.อย่าเอามือสัมผัสหน้าบ่อย เพราะมือเราไม่รู้ว่าสัมผัสอะไรมาบ้าง การเอามือสัมผัสหน้าก็เหมือนนำสิ่งสกปรกเข้าสู่ใบหน้าโดยตรง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
9. ดื่มน้ำอย่างน้อย 7-8 แก้วต่อวัน จะได้ขับของเสียจากร่างกาย เพราะบางทีสิวก็เกิดจากของเสียที่ตกค้างอยู่ในร่างกายค่ะ
**** เลือก B ค่ะ ****
การดูแลผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของเราค่ะ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงอันดับแรกนะคะ ถ้าเราดูแลผิวหน้าดี หน้าของเราก็จะไม่เป็นสิวและจะไม่เกิดรอยดำด้วยค่ะ ถ้าเกิดว่าเกิดมาแล้วเราก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เห็นผลจริงและปลอดภัยต่อผิวหน้าเราค่ะ อย่างแรกขอพูดถึงการทำให้สิวยุบลงก่อนนะคะ ดิฉันเลือกใช้เบนเซค 5% ก่อนบ้างหน้าค่ะ ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างหน้าด้วย Acne aid ขวดสีแดงค่ะ ตามด้วยน้ำเกลือเช็ดหน้าตามค่ะ ที่เช็ดด้วยน้ำเกลือเพราะรู้สึกว่าสะอาดกว่าน้ำธรรมดาที่ใช้ล้างหน้าค่ะ แล้วก็จะแต้มสิวด้วยคลินดาเอ็มค่ะ เห็นผลดีจริงๆค่ะ พอสิวเนิ่มยุบก็จะมีรอยดำเกิดขึ้นจึงเลือกใช้สมูทอีที่ลดรอยดำค่ะ บวกกับใช้ฟูจิสเนลแบบมาร์คและแบบทาค่ะ ใช้ดีจริงๆค่ะหาซื้อง่าย และอีกอย่างนึงค่ะคือการดื่มน้ำมะเขือเทศทุกวัน ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายและพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ (เลือก Aค่ะ)
หนูมีวิธีการรักษารอยแผลเป็นจากสิวให้หาย คือ
1. พยายามจะไม่บีบ แกะ เค้นสิว เพราะมือสกปรก เผลอมือบอนไปขยี้สิว แทนที่สิวหายกลายเป็นทิ้งรอยดำ แดงไปตลอดชีวิตเลยค่ะ
2. ก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้ง ป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดง รอยดำจากสิว และกลับถึงบ้าน อย่าลืมล้างเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่ง เพราะเครื่องสำอางจะไปอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิว
3. ดื่มน้ำเปล่าสะอาด วันละ 2 ลิตร เพราะน้ำทำให้ผิวของเราชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง ถ้าอยากผิวสวย สุขภาพดี อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆด้วยนะคะ
4. รับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินสูง เช่น ส้ม สตรอเบอรี่ แอปเปิ้ล มะละกอ มะม่วง ฯลฯ
5. ทาครีมหรือเซรั่มบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน เช้าและก่อนนอน เพราะครีมหรือเซรั่มบำรุงผิวเป็นส่วนหนึ่งช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยแดง รอยดำจากสิว
6. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เกิน 22:00
7. สิ่งนี้ขาดไม่ได้เลยค่ะ คือ ทาเจลว่านหางจระเข้ทุกครั้งหลังจากทาครีมหรือเซรั่มบำรุงและก่อนแต่งหน้า เพราะตัวเจลว่านหางจระเข้ช่วยให้สมานแผล ลดรอยแผลเป็นจากสิว ทำให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื่น เด้ง อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี เมคอัพติดทนนานด้วยค่ะ
(เลือก B)
ไม่ใช้มือจับหน้าถ้าไม่จำเป็นค่ะ จะไปเพิ่มสิวขึ้นมาอีก
และใช้พวกเจลว่านหางจรเข้ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ใช้ครีมแต้มรอยสิว และสุดท้ายคือมีการขัดผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวหนึ่ง-สองสัปดาห์/ครั้ง ค่ะ ตอนนี้หน้าเราก็เป็นรอยใช้วิธีนี้ ลดเลือนได้ไปเยอะเลยค่ะ
พยายามไม่แกะสิว ไม่ไปจับหน้าค่ะ ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้ง
ทาครีมกันแดด นอกจากจะทำให้หน้าไม่อุดตันแล้ว จะทำให้หน้าไม่คล้ำอีกด้วย
ครีมบำรุงสม่ำเสมอ เลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตนเองค่ะ เพื่อจะได้ดูแลผิวหน้าอย่างตรงจุดค่ะ
ใช้ยาแต้มรอยสิว ในเมื่อตอนที่เรามีสิวยังต้องใช้ยาแต้มสิว นับอะไรกับรอยดำรอยแดงล่ะ
นอนพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้ผิวหน้าดูสดใส แล้วยังทำให้สุขภาพดีอีกด้วย
รับประทานอาหารให้ครบ5หมู่ แม้รอยสิวจะหายไปแล้ว อาจทำให้ร่างกายดูขาวกระจ่างใสด้วยนะเออ(เลือกAค่ะ)
คือเราเป็นคนที่สิวไม่เยอะ แต่รอยสิวคือเยอะมากกก แบบเป็นนิสัยของใครหลายๆคนเลย ที่ชอบแกะสิวเราก็เป็น เอะอะบีบๆ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ เพราะว่าเราเริ่มดูแลผิว ดื่มน้ำเยอะๆ ใช้ยาแต้มสิวเป็นประจำ(เรื่องนี้ช่วยได้เยอะเลย ><) แล้วก็ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอค่ะ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่ดูแลผิวเราแล้วก็ทำให้ผิวดีขึ้นค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องใช้ความอดทนความสม่ำเสมอในการดูแลผิวด้วยนะคะ (เลือกBค่า)