หุ่นพัง!! เพราะปัญหา “ท้องผูก”

อาการท้องผูกเป็นอย่างไร?
หลายคนอาจยังนึกภาพอาการท้องผูกไม่ออก ก่อนที่จะไปดูเคล็ดลับแก้ท้องผูก พี่เตยจะพาสาวๆ มาดูอาการทั่วไปของท้องผูกกันก่อนจ้า

* ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่จริงๆ แล้วเราควรขับถ่ายทุกวันค่ะ
* อุจจาระเป็นก้อนแข็ง ขับถ่ายยากกว่าปกติ
* มีอาการเจ็บปวดหลังถ่ายเสร็จ
* มีอาการท้องอืด แน่นท้อง
* ใช้เวลาในการขับถ่ายนาน


สาเหตุของท้องผูก
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกนั้นมีหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งการใช้ยาประเภทต่างๆ รวมถึงการใช้ยาระบายที่ไม่ถูกต้อง และการละเลยในการขับถ่ายด้วยค่ะ แต่วันนี้พี่เตยจะพาสาวๆ มาดู 3 สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกในผู้หญิงแบบเรากันค่ะ



1. การรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเยอะเกินไป
สาวๆ ทราบมั้ยคะว่าการรับประทานอาหารประเภทแป้งและไขมันเยอะเกินไป ก็ทำให้เกิดปัญหาในการขับถ่ายได้เช่นกัน เพราะอาหารประเภทนี้ไม่มีใยอาหารเลย ทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวได้น้อยลงและเกิดปัญหามีอุจจาระค้างในลำไส้ใหญ่นั่นเองค่ะ

2. การดื่มน้ำน้อยเกินไป
หลายคนดื่มน้ำวันนึงแทบไม่ถึง 0.5 ลิตร สาวๆ รู้มั้ยว่าการดื่มน้ำน้อยขนาดนี้ทำให้ร่างกายของเราย่ำแย่ น้ำจะช่วยให้อุจจาระของเรานิ่มขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายค่ะ

3. การไม่รับประทานผักและผลไม้
ในผักและผลไม้มีใยอาหารที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น หากสาวๆ ละเลยการรับประทานผักและผลไม้จะทำให้เกิดการท้องผูกได้แน่นอนค่ะ เพราะใยอาหารจะช่วยให้อุจจาระเป็นก้อนและมีความนิ่ม ทำให้ง่ายต่อการขับถ่ายนั่นเอง


เคล็ดลับง่ายๆ ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก
1. ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา
เมื่อรู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ ไม่ควรอั้นเด็ดขาดค่ะ เพราะจะทำให้ท้องผูกได้ เวลาที่เหมาะสมในการขับถ่ายคือช่วงเช้าหลังตื่นนอนหรือหลังการรับประทานอาหารค่ะ

2. ดื่มน้ำเยอะๆ
ถ้าอยากมีสุขภาพที่ดี การดื่มน้ำคือเคล็ดลับที่สำคัญมากๆ ค่ะ การดื่มน้ำเยอะๆ สามารถช่วยให้ระบบขับถ่ายของร่างกายทำงานเป็นปกติ ใน 1 วันเราควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 แก้ว (หรือ 1.5-2.0 ลิตร) การดื่มน้ำในปริมาณที่มากพอจะช่วยให้ลำไส้ทำงานอย่างเป็นปกติ และช่วยให้อุจจาระเป็นก้อนและนิ่ม ทำให้ขับถ่ายออกมาได้สะดวกค่ะ



3. รับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใย
สำหรับใครที่มีปัญหาในการขับถ่าย ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูง ใน 1 วันควรรับประทานผักและผลไม้ให้ได้ประมาณ 4-5 ทัพพี แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบทานผักผลไม้ อาจเลือกดื่มน้ำพรุนสกัดเข้มข้น เพราะพรุนถือว่าเป็นผลไม้ที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยในการขับถ่ายที่ดีมาก เนื่องจากมีใยอาหารสูง ช่วยเพิ่มกากในระบบทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาอาการท้องผูกด้วยวิธีการปรับสมดุลในลำไส้ให้ดีขึ้นค่ะ ในปัจจุบันมีพรุนสกัดเข้มข้นแบบขวดที่สะดวกต่อการรับประทานและยังหาซื้อได้ง่ายมากๆ อีกด้วยค่ะ แค่ดื่มก่อนนอน ตื่นมาก็จะถึงเวลาขับถ่ายพอดีค่ะ

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ใหญ่ให้ทำงานได้ดีขึ้น และส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายของร่างกายค่ะ นอกจากนี้ท่านั่งในการขับถ่ายก็มีส่วนช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น เพราะจะช่วยให้กล้ามเนื้อและลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยท่านั่งที่เหมาะสำหรับการขับถ่ายคือการนั่งยองๆ หรือการนั่งงอเข่าค่ะ



5. หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบาย
โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้ยาระบายในคนที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายมากๆ ปกติแล้วควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้นและไม่ควรใช้ยาระบายติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยทั่วไปยาระบายจะมีฤทธิ์ทีช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ให้ร่างกายรู้สึกอยากขับถ่ายออกมา หากใช้ยาระบายบ่อยๆ หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ร่างกายจะเกิดอาการดื้อยา ทำให้ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายได้เอง และทำให้ลำไส้ของเราทำงานผิดปกติด้วยค่ะ ที่สำคัญคือไม่ควรใช้ยาระบายในการลดความอ้วนเด็ดขาด


สนับสนุนโดย แบรนด์วีต้า