ปิดเทอมนี้ ลองเช็กดูซิ ผิวของเราเป็นแบบไหน
ช่วงเวลาปิดเทอมของสาวๆ NUGIRL ถือเป็นช่วงที่น่าอิจฉามากๆ สำหรับพี่โอ๊ตเลยล่ะค่ะ เพราะว่าจะได้ชาร์จพลังให้เต็ม เตรียมตัวสำหรับเปิดเทอมใหม่ เอาล่ะ สำหรับคำถามรับปิดเทอมนี้ ก็เป็นอีกคำถามที่พี่โอ๊ตได้ยินจากคนรอบข้างบ่อยมากๆ วันนี้ก็เลยอยากเอามาแชร์กันค่ะ
A: ผิวของเรานั้นไม่สามารถแยกประเภทได้ตั้งแต่เกิดค่ะ สาวๆ จะเริ่มสังเกตได้ว่าผิวของตัวเองนั้นเริ่มเปลี่ยนไปพร้อมๆ กับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือช่วงที่เริ่มมีประจำเดือนนั่นเองค่ะ ซึ่งตอนนี้แหละที่ผิวของเราจะเริ่มแยกประเภทไปเป็นผิวแบบต่างๆ โดยอาจจะมาจากพันธุกรรม หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ แต่ปัญหาก็คือ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าผิวของเราเป็นแบบไหน พี่โอ๊ตลองรวบรวมจุดสังเกตของผิวแต่ละแบบมาให้สาวๆ เช็กกันดูค่ะ พร้อมแล้วก็เริ่มได้เลย
วิธีเช็กผิวเบื้องต้น
ก่อนจะไปลงลึกรายละเอียดของผิวแต่ละแบบ ลองเริ่มจากการเช็กผิวเบื้องต้นก่อนค่ะ โดยให้สาวๆ ล้างหน้าให้สะอาด ซับให้แห้ง แล้วปล่อยผิวไว้ 1 – 2 ชั่วโมง โดยไม่ต้องลงครีมบำรุงผิวใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากนั้นให้ใช้กระดาษซับมัน ซับเบาๆ ทั่วใบหน้า แล้วลองสังเกตว่ามีน้ำมันออกมาบริเวณไหนบ้าง
1. ผิวธรรมดา
- มีน้ำมันติดออกมาน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลย
- ระหว่างวันผิวไม่แห้ง แต่ก็ไม่มัน
- สีผิวค่อนข้างสม่ำเสมอ และไม่ค่อยมีจุดด่างดำ
- ผิวเรียบเนียน และแทบจะมองไม่เห็นรูขุมขนเลย
- ระหว่างวันผิวไม่แห้ง แต่ก็ไม่มัน
- สีผิวค่อนข้างสม่ำเสมอ และไม่ค่อยมีจุดด่างดำ
- ผิวเรียบเนียน และแทบจะมองไม่เห็นรูขุมขนเลย
ผิวธรรมดานั้นถือว่าเป็นผิวในฝันของสาวๆ เลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากเป็นผิวที่มีความสมดุลอันดีเยี่ยม ไม่มันและไม่แห้งเกินไป จึงทำให้ผิวค่อนข้างเรียบเนียน ไม่ค่อยมีปัญหาสิวหรือรูขุมขนกว้าง แทบจะไม่ต้องกังวลกับผิวหน้าตัวเองเลย
Daily Skincare
เช้า : ล้างหน้าให้สะอาดด้วยคลีนเซอร์แบบอ่อนโยน จากนั้นเช็ดตามด้วยโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผิว และช่วยให้ผิวกระจ่างใสและชุ่มชื่นขึ้น ปิดท้ายด้วยการทาครีมบำรุงที่ผสมสารกันแดด เพื่อบำรุงและปกป้องผิวจากแสงแดดอีกชั้นหนึ่งค่ะ
เย็น : ล้างหน้าและใช้โทนเนอร์เหมือนช่วงเช้า แต่ในช่วงเย็นสามารถเพิ่มเซรั่มที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากมลภาวะระหว่างวันได้ค่ะ จากนั้นทาครีมบำรุงตามเป็นขั้นสุดท้าย เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับสาวๆ ที่มีผิวธรรมดาค่ะ
เย็น : ล้างหน้าและใช้โทนเนอร์เหมือนช่วงเช้า แต่ในช่วงเย็นสามารถเพิ่มเซรั่มที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากมลภาวะระหว่างวันได้ค่ะ จากนั้นทาครีมบำรุงตามเป็นขั้นสุดท้าย เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับสาวๆ ที่มีผิวธรรมดาค่ะ
2. ผิวมัน / ผิวเป็นสิว
- ผิวมีความมันวาวอย่างเห็นได้ชัด
- รูขุมขนกว้าง
- เป็นสิวง่าย และมีสิวเสี้ยน สิวหัวดำเยอะ
- รูขุมขนกว้าง
- เป็นสิวง่าย และมีสิวเสี้ยน สิวหัวดำเยอะ
ความหวังของสาวๆ ผิวมันก็คือ การทำให้ผิวหน้ามีความมันวาวน้อยลง หลายคนคิดว่าความมันเกิดจากการบำรุงผิวที่มากเกินไป ซึ่งจริงๆ แล้วผิดค่ะ ผิวมันเกิดจากการที่ผิวไม่มีสมดุลที่ดี จึงทำให้ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ยิ่งเราพยายามทำให้ความมันหายไปเท่าไหร่ ผิวก็จะยิ่งผลิตน้ำมันออกมาทดแทนมากขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือ การทำความสะอาดและบำรุงผิวที่ถูกต้อง เพื่อปรับสมดุลผิวให้ผลิตน้ำมันออกมาอย่างพอดีนั่นเอง
Daily Skincare
เช้า : ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรเจล เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรก ขจัดความมันส่วนเกิน แต่ยังคงความชุ่มชื่นไว้บนผิว จากนั้นใช้โทนเนอร์ที่ช่วยควบคุมความมันเช็ดตาม ทาครีมบำรุงประเภท Oil – Free หรือปราศจากน้ำมัน เพื่อไม่ให้ผิวมันเยิ้มระหว่างวัน และปิดท้ายด้วยการทาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Zinc oxide เป็นหลัก เนื่องจากหลังการทาผิวจะดูแมตต์และไม่มันระหว่างวันค่ะ
เย็น : ล้างหน้าและใช้โทนเนอร์เหมือนช่วงเช้า ลองเพิ่มเซรั่มที่มีส่วนผสมของ AHA / BHA หรือ Retinol เพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง แต่ถ้าใครมีปัญหาสิว ลองใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ Salicylic หรือ Tea Tree Oil ก็จะช่วยได้เยอะมากๆ จากนั้นปิดท้ายด้วยการทาครีมบำรุงประเภท Oil – Free เหมือนช่วงเช้า แล้วเข้านอนได้เลยค่ะ
เย็น : ล้างหน้าและใช้โทนเนอร์เหมือนช่วงเช้า ลองเพิ่มเซรั่มที่มีส่วนผสมของ AHA / BHA หรือ Retinol เพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง แต่ถ้าใครมีปัญหาสิว ลองใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ Salicylic หรือ Tea Tree Oil ก็จะช่วยได้เยอะมากๆ จากนั้นปิดท้ายด้วยการทาครีมบำรุงประเภท Oil – Free เหมือนช่วงเช้า แล้วเข้านอนได้เลยค่ะ
3. ผิวผสม
- ผิวมันช่วงบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก และคาง)
- ผิวรอบดวงตา ช่วงกราม และกรอบหน้ามักจะแห้ง
- มีสิวเสี้ยนเยอะ
- รูขุมขนกว้าง
- ผิวรอบดวงตา ช่วงกราม และกรอบหน้ามักจะแห้ง
- มีสิวเสี้ยนเยอะ
- รูขุมขนกว้าง
จุดสังเกตของสภาพผิวแบบนี้ก็ตามชื่อเลยค่ะ คือจะมีผิวสองแบบผสมกันอยู่บนใบหน้า โดยส่วนมากแล้วจะเป็นผิวมันบริเวณทีโซน คือหน้าผาก จมูก และคาง ส่วนข้างแก้มนั้นอาจจะเป็นผิวธรรมดา หรือผิวแห้งค่ะ ซึ่งถ้าถามว่าจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์แยกสำหรับผิวสองแบบมั้ย ก็ไม่จำเป็นค่ะ แค่หาผลิตภัณฑ์ที่เป็นกลาง คือดูแลผิวทั้งสองแบบได้ก็พอ
Daily Skincare
เช้า : ผิวผสมจะมีวิธีดูแลผิวคล้ายผิวมันค่ะ คือล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรเจล เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรก ขจัดความมันส่วนเกิน แต่ยังคงความชุ่มชื่นไว้บนผิว จากนั้นใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์เช็ดตาม ใช้ครีมบำรุงที่เนื้อบางเบาและซึมง่าย ผิวผสมไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์แบบ Oil – Free แต่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่หนักผิวจนอาจทำให้เกิดสิวอุดตันตามมาค่ะ ปิดท้ายด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Zinc oxide เป็นหลักเช่นเดียวกับผิวมันค่ะ
เย็น : ล้างหน้าและใช้โทนเนอร์เหมือนช่วงเช้า ส่วนการบำรุงก็แทบจะเหมือนผิวมันเลยค่ะ คือใช้ เซรั่มที่มีส่วนผสมของ AHA / BHA หรือ Retinol เพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง แต่ถ้าใครมีปัญหาสิว ลองใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ Salicylic หรือ Tea Tree Oil ปิดท้ายด้วยการทาครีมบำรุงเนื้อบางเบาเหมือนช่วงเช้าค่ะ
เย็น : ล้างหน้าและใช้โทนเนอร์เหมือนช่วงเช้า ส่วนการบำรุงก็แทบจะเหมือนผิวมันเลยค่ะ คือใช้ เซรั่มที่มีส่วนผสมของ AHA / BHA หรือ Retinol เพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง แต่ถ้าใครมีปัญหาสิว ลองใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ Salicylic หรือ Tea Tree Oil ปิดท้ายด้วยการทาครีมบำรุงเนื้อบางเบาเหมือนช่วงเช้าค่ะ
4. ผิวแห้ง
- ผิวลอกเป็นขุยแห้ง หรือมีผื่นแดง
- รูขุมขนเล็กมาก
- ผิวดูอ่อนแอ ไม่มีชีวิตชีวา
- เกิดริ้วรอยง่าย
- รูขุมขนเล็กมาก
- ผิวดูอ่อนแอ ไม่มีชีวิตชีวา
- เกิดริ้วรอยง่าย
ผิวแห้งนั้นเกิดจากการที่เกราะป้องกันของชั้นผิวถูกทำลาย ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื่นได้ง่าย เกิดเป็นขุย หรือดูแห้งตึงจนสังเกตได้ เมื่อไม่มีเกราะป้องกันผิว เลยทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย และยังเกิดริ้วรอยก่อนวัยเร็วกว่าผิวประเภทอื่นอีกด้วยค่ะ
Daily Skincare
เช้า : ล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งโลชั่น คลีนซิ่งมิลค์ หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบไม่มีฟองจะดีที่สุดค่ะ เพราะผิวแห้งนั้นนอกจากจะต้องรักษาความชุ่มชื่นไว้แล้ว ยังไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการเสียดสีบนใบหน้าได้ง่ายอีกด้วย จากนั้นใช้โทนเนอร์ปราศจากแอลกอฮอล์ และให้ความชุ่มชื่นเป็นพิเศษ ทาเซรั่มที่มีส่วนผสมของ Antioxidant เพื่อช่วยลดการสูญเสียของคอลลาเจนใต้ชั้นผิวระหว่างวัน ปิดท้ายด้วยการทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดค่ะ
เย็น : ล้างหน้าและใช้โทนเนอร์เหมือนช่วงเช้า ใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ Retinol ที่นอกจากจะช่วยเรื่องรูขุมขนได้ดีสำหรับสาวๆ ผิวมันแล้ว ก็ยังให้ความชุ่มชื่นผิวได้ดีสำหรับสาวผิวแห้งอีกด้วยค่ะ ทาอายครีมเพื่อช่วยลดการเกิดริ้วรอยรอบดวงตา ปิดท้ายด้วยการทาครีมบำรุงที่เน้นเรื่องการเติมน้ำให้ผิว และมีส่วนผสมของ Rosehip Seed Oil, Evening Primrose Oil, Borage Oil, Phospholipids, Cranberry oil, Sweet Almond Oil และ Jojoba Oil ซึ่งน้ำมันจากธรรมชาติต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เกราะป้องกันผิวของสาวๆ แข็งแรงขึ้นได้ค่ะ
5. ผิวแพ้ง่าย
- ผิวอักเสบได้ง่าย
- มีรอยแดงตามบริเวณใบหน้า
- เกิดผื่นแดงหรือระคายเคืองง่าย
- รู้สึกคันหรือแสบผิวได้ง่าย
- มีรอยแดงตามบริเวณใบหน้า
- เกิดผื่นแดงหรือระคายเคืองง่าย
- รู้สึกคันหรือแสบผิวได้ง่าย
หลายคนเข้าใจว่าผิวแพ้ง่ายกับผิวเป็นสิวนั้นคือผิวประเภทเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ ผิวเป็นสิวนั้นอาจเกิดจากฮอร์โมนหรือต่อมผลิตน้ำมันที่ทำงานผิดปกติ แต่ผิวแพ้ง่ายนั้นมักจะเกิดจากการทำปฏิกิริยาภายนอก จนทำให้เกิดเป็นสิวผด หรือผื่นแดงค่ะ บอกเลยว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าไม่ระวังผิวพังเอาได้ง่ายๆ เลยล่ะ
Daily Skincare
เช้า : คล้ายกับผิวแห้งมากๆ ค่ะ ให้ล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งโลชั่น คลีนซิ่งมิลค์ หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบไม่มีฟอง จากนั้นใช้โทนเนอร์ปราศจากแอลกอฮอล์ และมีส่วนผสมของ white tea extract, green tea, chamomile, and bisabolol เพื่อช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพื่อลดการเสี่ยงที่จะแพ้ค่ะ จากนั้นปิดท้ายด้วยการทาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Zinc oxide เป็นหลัก เพราะทำให้เกิดการระคายเคืองได้น้อยที่สุดค่ะ
เย็น : ใช้ทุกอย่างเหมือนช่วงเช้าได้เลย แค่ตัดครีมกันแดดออกเท่านั้นค่ะ
บอกเลยว่า NUGIRL GURU ครั้งนี้พี่โอ๊ตหาข้อมูลมาอย่างแน่นปึ้กเลยค่ะ พยายามจะอธิบายให้สาวๆ เข้าใจได้ง่ายที่สุด และสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวของตัวเองได้แบบง่ายๆ อีกด้วย แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าที่เช็กนั้นถูกต้องแล้วรึยัง ก็ลองคอมเมนต์มาถามพี่โอ๊ตได้เลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจนะ แล้วกลับมาเจอกันใหม่ครั้งหน้าทุกวันเสาร์ที่ 4 ของเดือนนะคะ ^^
นอกจากการดูแลผิวประจำวันแล้ว พี่โอ๊ตยังมีวิธีดูแลผิวแบบพิเศษระหว่างอาทิตย์มาฝากกันด้วยค่ะ
ผิวธรรมดา : ใช้ผลิตภัณฑ์มาส์กผิวประเภท Peeling คือมาส์กแล้วลอกออก เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิว คงความเรียบเนียน และช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
ผิวมัน / ผิวเป็นสิว /ผิวผสม : มาส์กผิวด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทโคลนมาส์ก เพื่อดีท็อกซ์และกระชับรูขุมขน
ผิวแห้ง : นวดผิวด้วยน้ำมันบำรุงผิว เพื่อช่วยคืนความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างล้ำลึก
ผิวแพ้ง่าย : มาส์กผิวด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทเจล เพื่อช่วยลดการระคายเคืองของผิว และให้ความชุ่มชื่น เพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้น
ผิวธรรมดา : ใช้ผลิตภัณฑ์มาส์กผิวประเภท Peeling คือมาส์กแล้วลอกออก เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิว คงความเรียบเนียน และช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
ผิวมัน / ผิวเป็นสิว /ผิวผสม : มาส์กผิวด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทโคลนมาส์ก เพื่อดีท็อกซ์และกระชับรูขุมขน
ผิวแห้ง : นวดผิวด้วยน้ำมันบำรุงผิว เพื่อช่วยคืนความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างล้ำลึก
ผิวแพ้ง่าย : มาส์กผิวด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทเจล เพื่อช่วยลดการระคายเคืองของผิว และให้ความชุ่มชื่น เพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้น
4 ความคิดเห็น
จะสวยให้ดู
ผิวแห้งเพราะอยู่แห้งแอร์ตลอดค่ะ ก็ทาโลชั่นอยู่นะ แต่บางทีก็เอาไม่อยู่ เจอรายการนี้ เอามาฝากค่ะ https://youtu.be/hnaIotutwEU
เป็นผิวแพ้ง่ายค่ะ รายงานตัว ตอนนี้ต้องใช้สบู่อาบน้ำสำหรับคนแพ้ง่ายตลอดเลย ตอนนี้ใช้เดอมาพอนอยู่ค่ะ ชอบนะไม่แพ้