แม้จะกลับมานานแล้ว แต่พี่โอ๊ตและพี่แอนเจก็ยังรู้สึกเหมือนว่าตัวเองยังอยู่เกาหลีกันทั้งคู่เลยค่ะ 555 สืบเนื่องมาจากเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว ทั้งพี่โอ๊ตและพี่แอนเจได้ไปเที่ยวเกาหลีในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน และก็ช้อปปิ้งของกลับมามหาศาล เรียกว่าสติก็พังสตางค์ก็ไม่มี ซึ่งของทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้นที่ซื้อมาก็ไม่ใช่ว่าจะดีไปหมดทุกอย่าง เลยได้โอกาสหยิบเอาของที่เราได้ลองใช้กันแล้วว่ามันผ่าน มันเวิร์ค มันควรจ่าย เอามารีวิวให้ดูกันถึง 10 ไอเท็มเลยทีเดียวค่ะ  
 

 

มาเริ่มจากไอเท็มของพี่โอ๊ตกันก่อนเลย

  
1. A’pieu Wonder Tension #23 (₩12,800)
     อ่านออกเสียงชื่อแบรนด์นี้ไม่ถูกซักที ขนาดว่าเงี่ยหูฟังบีเอแล้วนะเนี่ย 555 สำหรับคูชั่นตัวนี้ บอกตรงๆ ว่าไม่ได้ตั้งใจซื้อค่ะ และไม่ได้ทำการบ้านกับแบรนด์นี้ก่อนไปเลยว่าควรซื้ออะไรในช่วงนั้น รู้แค่ว่าคูชั่นนางดีใช้ได้ แต่ไม่ใช่รุ่นนี้ 555 คือตอนเข้าร้านคนมุงคูชั่นรุ่นนี้เยอะมาก พอเข้าไปส่องแล้วเห็นว่าเป็นแบบตาข่ายก็หันไปบอกบีเอเลยว่าเอารุ่นนี้แหละ ใจง่ายเวอร์ ความดีงามก็คือ นางปกปิดดีมากกกกก และไม่ทำให้หน้าเยิ้มเลย เป็นไอเท็มที่ได้มาแบบแจ็คพ็อตมากๆ และสีเข้ากับผิวดี ไม่สว่างเกินไป และไม่ดรอประหว่างวันค่ะ ราคาก็ถือว่าไม่แพง ประมาณ 380 บาท ข้อดีของคูชั่นตาข่ายก็คือไม่ต้องออกแรงกดเยอะก็จะได้เนื้อคูชั่นในปริมาณที่พอเหมาะค่ะ ข้อเสียคือเรื่องสีที่ทำมาแค่สองเบอร์คือ 21 กับ 23 ใครผิวคล้ำหน่อยไม่รอดแน่นอนค่ะ
 

2.Sugarball Cushion Cheek Color No.4 (₩8,000)
     นี่ก็หยิบมาเพราะเห็นคำว่าคูชั่น เพราะใจอยากได้คูชั่นบลัชอยู่แล้ว พอเปิดออกมา...เดี๋ยวนะ นี่คือครีมบลัชเว้ยยยย แค่มีพัฟฟ์คูชั่นมาให้ก็เป็นคูชั่นบลัชได้แล้วเรอะ! แต่ๆๆ สีมันน่ารักมากๆ เลยค่ะ และการใช้พัฟฟ์คูชั่นก็ช่วยให้เกลี่ยง่ายขึ้น และสีติดทนเช้ายันเย็นเลย กลายเป็นว่าชอบมาก และไม่รู้จะใช้หมดเมื่อไหร่ด้วย 555 คิดเป็นราคาไทยประมาณ 240 บาทค่ะ
 

3. 0720 Lip Tint in oil (₩2,000)
     เกิดจากการดั้นด้นที่จะต้องไปเดินไดโซะแปดชั้นที่มย็องดงให้ได้ เลยได้อันนี้กลับมาด้วยค่ะ นี่คือลิปทินท์เนื้อออยล์ที่สีสวยดีงามมากๆ และไม่ทำให้ปากแห้งเลย ชอบมากเวอร์ แล้วราคาแค่ 60 บาท เสียดายที่ตอนนั้นไม่มั่นใจในตัวนางมากพอ กลัวใช้แล้วปากเยินเลยหยิบมาอันเดียว T^T ใครได้ไปแนะนำให้ซื้อค่ะ สีน่ารักมากจริงๆ และติดทนด้วย
 

4. Aritaum Soothing Fresh Power Essence Pouch Pack (₩1,000)
     เดินๆ อยู่ใน Aritaum แล้วก็เหลือบไปเห็นสิ่งนี้วางใกล้ๆ มาส์กชีท และติดราคาว่า ₩1,000 เลยหยิบมาลองดูสองซองค่ะ เป็นสลีปปิ้งมาส์กเนื้อเจลที่ช่วยเรื่องผิวเรียบเนียนและให้ความชุ่มชื่นดีมากๆ ใครไปเที่ยวแล้วลืมสกินแคร์อยากให้ลองตัวนี้เลย เอาอยู่จริงๆ
 

5. Mamonde Rose Water Soothing Gel (₩9,000)
     ก่อนจะได้ตัวนี้มา พี่โอ๊ตเคยลองใช้โทนเนอร์กุหลาบของเค้ามาแล้วและชอบมากๆ ค่ะ (ที่ไทยมีขายแล้วด้วย ดีใจเวอร์) พอเห็นตัวนี้บนเชลฟ์เลยไม่ลังเลที่จะหยิบเลยค่ะ หลอดใหญ่เบิ้มเลยด้วย คุ้มสุดดด เนื้อเจลมีกลิ่นกุหลาบชัดแต่ไม่ฉุน ให้ความชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองดีมากค่ะ ใครชอบใช้เจลว่านหางจระเข้น่าจะชอบตัวนี้เหมือนกันนะ
 

มาดูฝั่งพี่แอนเจกันบ้างค่ะ 


6. Mise En Scene Perfect Repair (₩7,500)
     ใครเป็นสาวขี้เกียจใช้ครีมนวด ทำสีผม ชอบหนีบผมเป็นประจำจนผมแห้งเสียต้องใช้เซรั่มสูตรนี้เลยค่ะ “Repair” ผมเราจะนุ่ม ลื่นจัดทรงง่ายมากๆ ต่อให้ผมแห้งแค่ไหนก็เอาอยู่ ใครที่ผมมันง่ายก็อาจจะหยดเซรั่มน้อยหน่อย และลูบแค่ปลายผมก็พอค่ะ พี่แอนเจชอบที่กลิ่นหอมติดผม ไม่เหนอะหนะ ลูบปุ๊บผมนุ่มปั๊บเลยค่ะ
 

7. Vprove Optimula Hyaluron Poten Cleansing Foam (₩12,000)
     สาวหน้าแห้ง หน้าลอกเป็นขุยๆ ต้องหามาใช้สักครั้ง เพราะเป็นโฟมล้างหน้าที่ช่วยเติมน้ำ และเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้มากเลยค่ะ  กลิ่นหอมละมุน ประกอบกับแพคเกจรูปปาร์คโบกอมนี่ทำให้พี่แอนเจมโนแรงมาก ><” ข้อเสียของโฟมนี้คือ ไม่สามารถจะคลีนเครื่องสำอางบนหน้าเราได้มากเท่าคลีนเซอร์นะคะ ถึงแม้ชื่อจะบอกเป็นคลีนซิ่งโฟมก็ตาม
 

8. W.Lab Clear Dental Gargle (₩9,000)
     เมื่อ 2 -3 เดือนก่อนไปเกาหลีพี่แอนเจได้เห็นโฆษณาของเกาหลี ว่าใช้น้ำยาบ้วนปากนี้เพียง 30 วินาที ก็สามารถกำจัดคราบพลักหรือสิ่งสกปรกที่อยู่ในช่องปากได้เป็นอย่างดี ก็เลยตั้งใจว่าไปเกาหลีจะซื้อเจ้าสิ่งนี้มารีวิว หลังจากซื้อมาแล้วก็ลองใช้เลย ก็ต้องพบกับความจริงที่ว่า “มันไม่เหมือนในโฆษณานะเธอออ” แต่จริงๆ ก็ทำให้ปากเรามีกลิ่นหอมนะคะ ไม่ทำให้แสบปากด้วย มีช้อปที่มย็องดงถ้าใครมีโอกาสได้ไปก็สามารถแวะได้ค่ะ
 

9. Demeter Fragrance Library (First Kiss, Laundronmat) (₩15,000)
     เป็นน้ำหอมที่พี่แอนเจอยากจะซื้อมาใช้นานแล้ว แต่ไม่เห็นขายในบ้านเรา และไปเจอที่เกาหลีโดยบังเอิญในร้าน Artbox แถมตอนนั้นเขากำลังลดราคาอยู่พอดีด้วย เลยซื้อมา 2 ขวดเลย จริงๆ มีกลิ่นให้เลือกมากมายเลยค่ะ ทั้งกลิ่นน้ำตา หญ้าเปียก กลิ่นดิน กลิ่นร้านซักรีด ซึ่งตอนแรกพี่แอนเจจะหยิบกลิ่นน้ำตามาแต่ดันหมดซะงั้น (หมดเร็วมาก เพราะกลิ่นหอมสุดๆ) เรื่องความติดทน อาจจะไม่เท่าน้ำหอมราคาแพงๆ นะคะ แต่ว่ากลิ่นเป็นเอกลักษณ์แน่นอน ไปคราวหน้าพี่ก็จะซื้อกลับมาอีก แถมมีร้านให้ผสมน้ำหอม และตั้งชื่อเป็นของเราเองด้วยค่ะเริ่ดเว่อร์!
 

10. HAPPY BATH - Natural Real Moisture (₩2,600)
     ใครที่ชอบใช้ครีมอาบน้ำกลิ่นหอมๆ พี่แอนเจขอบอกเลยว่า ต้องไปโดน  Happy Bath มีโอกาสได้ใช้ตอนไปเกาหลีเพราะว่าห้องน้ำในเกสท์เฮ้าส์ที่ไปพักจัดไว้ให้แล้วชอบมาก ผิวนุ่มชุ่มชื่นสุดๆ ไม่เคยอาบครีมอาบน้ำแล้วรู้สึกว่าผิวเรานุ่มขนาดนี้มาก่อนเลย (อันนี้ไม่ได้เว่อร์!) เลยซื้อกลับมาใช้ที่ไทยด้วยค่ะ
 

     10 ไอเท็มที่พี่โอ๊ตและพี่แอนเจเลือกมาให้ คิดว่าน่าจะยังไม่มีคนรีวิวมากเท่าไหร่ เผื่อใครได้ไปเกาหลีจะได้รู้ว่าไอเท็มนี้มันเวิร์ค สามารถหยิบแล้วเดินไปจ่ายเงินได้เลย 555 พี่โอ๊ตก็ได้แต่หวังว่าแต่ละแบรนด์จะเข้าไทยเร็วๆ จะได้ไม่ต้องพรีหรือรอไปซื้อถึงที่ให้ลำบากเนอะ กลับมาเจอกับพี่โอ๊ตและพี่แอนเจอีกทีให้ปีหน้า เราสองคนยังอยู่ที่เดิม และจะหาไอเท็มดีๆ มาทำรีวิวอีกแน่นอนค่ะ  
 

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามพี่โอ๊ต และ พี่แอนเจ 
พี่โอ๊ต : oat_nugirl
พี่แอนเจ : joanneryy ​   
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด