สูตรความงามฉบับกรุงศรีอยุธยา ที่ “แม่หญิงการะเกด” อยากบอกต่อ!! #บุพเพสันนิวาส

        
      งงใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เพราะปกติพี่ผึ้งจะติดหนึบอยู่กับซีรี่ส์เกาหลี แต่ช่วงนี้กลับอินอยู่กับแม่หญิงการะเกด ซะงั้น!! มีใครติดหนึบหนับเหมือนพี่ผึ้งบ้างมั้ยนะ??  นั่งดูละครอยู่เพลินๆ พี่ผึ้งก็นึกสงสัยขึ้นมาว่าในสมัยแม่หญิงการะเกด จากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส พ.ศ. 2225 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา เนี๊ยผู้หญิงในยุคนั้นเค้าดูแลหน้าตาและผิวพรรณกันยังไงบ้าง?? เลยลองหาข้อมูลดูจ้า บอกเลยว่าตอนอ่านนี่ตื่นเต้นมากกกก..... เพราะทุกอย่างล้วนใช้จากธรรมชาติทั้งนั้น ตามไปดูกันดีกว่าค่ะ
 

เรื่องของสิว!!!! ต้องน้ำต้มกิ่งมะขามเท่านั้น
เรื่อง “สิว” ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็เป็นปัญหาเรื่องสิวกันทั้งนั้น สาวๆ สมัยกรุงศรีอยุธยาเค้าใช้น้ำต้มกิ่งมะขามรักษาสิวกันค่ะ กิ่งมะขาม 4-5 กิ่ง ต้มลงหม้อน้ำเดือด ต้มให้เดือดนานประมาณ 10 นาที นำมาล้างหน้าแทนน้ำเปล่าทุกเช้าเย็น ประมาณ 1 สัปดาห์ปัญหาเรื่องสิวจะค่อยๆ ดีขึ้น
 
Tip :: บอกตามตรงสูตรนี้พี่ผึ้งยังไม่ได้ลองเลยนะ เพราะกิ่งมะขามนี่หายากแท้ แต่!! ตามที่เคยศึกษาข้อมูลมาคร่าวๆ พวกพืชผัก ผลไม้ ที่มีรสชาติเปรี้ยว หรือมีความเป็นกรดอ่อนๆ มักจะมีคุณสมบัติช่วงล้างผิวหนัง ลดรอยด่างดำ ช่วยให้สิวแห้งเร็วขึ้น ต่างๆ เหล่านี้ เหมือนที่ในปัจจุบันมีครีมต่างๆ ที่มีส่วนผสมของ มะขาว มะนาว เลม่อน ส้ม และอื่นๆ อีกมากมายเนอะ ถ้าหากิ่งมะขามได้เมื่อไหร่จะลอง!! สัญญาค่ะ อิอิ 
 
 

ผิวนวลเนียนด้วยข้าวโพดดิบ
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา คงจะยังไม่มีโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวแบบทุกวันนี้ สาวๆ ในสมัยนั้นเค้าเลยใช้น้ำนมข้าวโพดในการบำรุงผิวกันค่ะ ใช้ข้าวโพดดิบ 1 ฝัก จากนั้นแกะเมล็ดข้าวโพดออกมา โขลกในครกให้ละเอียดจากนั้นนำมาคั้นด้วยผ้าขาวบาง จะได้เป็นน้ำนมจากข้าวโพด ใช้ทาผิวหน้าทุกวัน จะทำให้ผิวหน้านวลเนียน

Tip  :: ข้าวโพดมีสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด เช่น กรดอะมิโน และวิตามินต่าง ๆ ช่วยบำรุงเซลล์
 
  

หยุดปัญหาผิวหน้ามัน ฉบับแม่หญิงการะเกด
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน เมืองไทยก็อากาศร้อนแดดแรงอยู่ดี!! สำหรับสาวๆ ในสมัยนั้นเค้าใช้สูตรน้ำซาวข้าวกันจ้าโดยจะใช้น้ำซาวข้าวครั้งที่สอง เช็ดบางๆ ทั่วผิวหน้า ปัจจุบันนี้พี่ผึ้งเห็นสาวๆ หลายคน หรือพวก ยูทูปเปอร์บางคนยังแนะนำวิธีนี้อยู่นะคะ แต่ตอนนี้น่าจะต้องล้างข้าวให้สะอาดจากฝุ่นละอองก่อน ถึงจะนำน้ำซาวข้าวมาใช้ได้ ไม่งั้นจากหน้าใสคงเปลี่ยนเป็นหน้าสิวแน่เลย

Tip  ::  ในข้าว จะมีสารบำรุ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน กรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ
 
ผิวผ่อง แบบสาวยุคกรุงศรีอยุธยา
ในสมัยโบราณคงไม่ได้มีการฮิตผิวขาวอะไรแบบยุคสมัยนี้!! เพราะในสมัยก่อนนั้นจะนิยมผู้หญิงที่มีผิวผ่อง คงเหมือนกับการมีผิวออร่าแบบสาวๆ สมัยปัจจุบันนี้ สิ่งที่นิยมใช้กันก็คือขมิ้นสด โดยจะใช้ขมิ้นสดปลอกเปลือกจากนั้นฝานเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปตำในครก พอได้ขมิ้นสดตำละเอียดก็จะนำมาพอกตัด ขัดบำรุงผิวเวลาอาบน้ำ คล้ายการมาส์กผิวตัวในปัจจุบันนี้ เป็นการขัดขี้ไคลและทำให้ผิวผองขึ้นนั่นเองจ้า

Tip ::  ขมิ้นมีสรรพคุณช่วยสมานผิว และฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง เลยทำให้ผิวพรรณนวลเนียนดูผุดผองนั่นเองจ้า 
 
       เคล็ดลับความงามที่น่าสนใจแบบนี้ มีให้เสนอในคอลัมน์ Beauty Story นะคะ สำหรับวันศุกร์หน้าพี่โอ๊ตจะมีอะไรน่าสนใจมาฝากสาวๆ NUGIRL ก็อย่าลืมเข้ามาอ่านกันนะจ๊ะ แต่ตอนนี้พี่ผึ้งขอตัวไปดูบุพเพสันนิวาสก่อนละจ้า นี่ก็ดูย้อนหลังไปมาซ้ำแล้วซ้ำอีก!! แบบว่าชอบบบ เบลล่าน่าร๊ากกก 
 
  ​NUGIRL เปลี่ยนตัวเองให้สวยไม่ใช่เรื่องยาก 
พี่ผึ้ง
พี่ผึ้ง - Columnist บรรณาธิการคอลัมน์ NUGIRL

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

แมนดี้เองค่ะ Member 24 ก.พ. 61 08:55 น. 2

จริงๆ ชอบอะไรก็ตามที่บำรุงผิว เป็นสูตรมะขาม ขมิ้น น้ำนมข้าว พวกนี้มาก เพราะใช้แล้ว เห้ย แกร มันดีจริง แต่บางทีขี้เกียจทำส่วนผสมเอง พอจะไปดูครีมตามห้าง ส่วนมากก็ไข่มุกญี่ปุ่น สาหร่ายวากาเมะ ดอกซากุระ ชาโคล+น้ำผึ้งเกาหลีงี้ พูดก็พูดเถอะ อยากให้โลชั่นของไทยทำอะไรที่มันมีส่วนผสมไทยๆบ้างอ่ะค่ะ 555+ เพราะเรารู้ไงว่าโอ.เค.คุณสมบัติของอันนี้ดียังไง


เมื่อก่อนเคยเห็นว่าโลชั่นของอะไรสักอย่างมีสูตรขมิ้นด้วย น่าจะทำอีกนะคะ

0
กำลังโหลด
ผ่านมา 25 ก.พ. 61 12:19 น. 4

มะขาม น้ำซาวข้าว ขมิ้น นี่เคยอ่านเจอนะว่าเป็นสมุนไพรเกี่ยวกับความงาม แต่ข้าวโพดนี่ โลกเพิ่งรู้จักตอนโคลัมบัสพบทวีปอเมริกานี่เอง กว่าการบริโภคข้าวโพดจะแพร่หลายในตะวันตกจริงๆก็น่าใช้เวลานานมากอยู่ แล้วเมืองไทยจะได้กินข้าวโพดน่าจะสมัยรัตนโกสินทร์แล้วเพราะพวกมิชชันนารีชาวอเมริกันเริ่มเข้ามาสมัยร.4 แล้ว ข้าวโพดที่กินกันส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นพืชท้องถิ่นแต่โบราณของเมืองไทยหรืออุษาคเนย์นะ แต่เป็นพืชอเมริกัน แต่ขมิ้น ใช้แทนแป้งผัดผิวบำรุง เหมือนคนพม่าใช้ทานาคา สมัยก่อนผู้หญิงไทยอาบน้ำใช้มะขามเปียก น้ำใบส้มป่อย สระผมใช้มะกรูด ข้อดีของพวกนี้คือ มันไม่ใช่เคมีแบบสบู่ปัจจุบัน อาบกับน้ำฝนน้ำคลองแล้วขัดตัวออกหมด ไม่ทิ้งสารตกค้าง แต่สมัยนี้ใช้สบู่ แชมพู ถ้าอาบน้ำประปาก็เหมือนจะหมดดี แต่ถ้าน้ำต่างจังหวัดพวกน้ำบาดาล น้ำฝนนี่คือล้างออกไม่หมด เป็นเคมีตกค้างที่ผิว ผิวเสียกระดำกระด่างอีก

0
กำลังโหลด

5 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
แมนดี้เองค่ะ Member 24 ก.พ. 61 08:55 น. 2

จริงๆ ชอบอะไรก็ตามที่บำรุงผิว เป็นสูตรมะขาม ขมิ้น น้ำนมข้าว พวกนี้มาก เพราะใช้แล้ว เห้ย แกร มันดีจริง แต่บางทีขี้เกียจทำส่วนผสมเอง พอจะไปดูครีมตามห้าง ส่วนมากก็ไข่มุกญี่ปุ่น สาหร่ายวากาเมะ ดอกซากุระ ชาโคล+น้ำผึ้งเกาหลีงี้ พูดก็พูดเถอะ อยากให้โลชั่นของไทยทำอะไรที่มันมีส่วนผสมไทยๆบ้างอ่ะค่ะ 555+ เพราะเรารู้ไงว่าโอ.เค.คุณสมบัติของอันนี้ดียังไง


เมื่อก่อนเคยเห็นว่าโลชั่นของอะไรสักอย่างมีสูตรขมิ้นด้วย น่าจะทำอีกนะคะ

0
กำลังโหลด
ButsaParath NavaNarin Member 24 ก.พ. 61 14:51 น. 3

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ น่าสนใจหลายสูตรเลยค่ะ กดเข้ามาแบบไม่คาดหวังนึกว่าจะมีแต่เรื่องที่รู้อยู่แล้วอย่างว่านหาง น้ำซาวข้าว

แต่นี่อย่างเรื่องอย่างกิ่งมะขามก็เพิ่งรู้ เดี๋ยวถ้าลองแล้วได้ผลจะมาเล่าให้ฟังนะคะ

0
กำลังโหลด
ผ่านมา 25 ก.พ. 61 12:19 น. 4

มะขาม น้ำซาวข้าว ขมิ้น นี่เคยอ่านเจอนะว่าเป็นสมุนไพรเกี่ยวกับความงาม แต่ข้าวโพดนี่ โลกเพิ่งรู้จักตอนโคลัมบัสพบทวีปอเมริกานี่เอง กว่าการบริโภคข้าวโพดจะแพร่หลายในตะวันตกจริงๆก็น่าใช้เวลานานมากอยู่ แล้วเมืองไทยจะได้กินข้าวโพดน่าจะสมัยรัตนโกสินทร์แล้วเพราะพวกมิชชันนารีชาวอเมริกันเริ่มเข้ามาสมัยร.4 แล้ว ข้าวโพดที่กินกันส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นพืชท้องถิ่นแต่โบราณของเมืองไทยหรืออุษาคเนย์นะ แต่เป็นพืชอเมริกัน แต่ขมิ้น ใช้แทนแป้งผัดผิวบำรุง เหมือนคนพม่าใช้ทานาคา สมัยก่อนผู้หญิงไทยอาบน้ำใช้มะขามเปียก น้ำใบส้มป่อย สระผมใช้มะกรูด ข้อดีของพวกนี้คือ มันไม่ใช่เคมีแบบสบู่ปัจจุบัน อาบกับน้ำฝนน้ำคลองแล้วขัดตัวออกหมด ไม่ทิ้งสารตกค้าง แต่สมัยนี้ใช้สบู่ แชมพู ถ้าอาบน้ำประปาก็เหมือนจะหมดดี แต่ถ้าน้ำต่างจังหวัดพวกน้ำบาดาล น้ำฝนนี่คือล้างออกไม่หมด เป็นเคมีตกค้างที่ผิว ผิวเสียกระดำกระด่างอีก

0
กำลังโหลด
I AM FANDI ' Member 27 ก.พ. 61 19:22 น. 5

กิ่งมะขามนี้ไม่รู้แต่ถ้ากิ่งเล็กๆกับใบมะขามต้มน้ำแล้วทั้งล้างหน้าทั้งอาบ ดีจริงค่ะ ผิวนี่ใสสวยเลย เห็นแม่ทำบ่อย ปัจจุบันอายุมากแล้วผิวยังสวยจนลูกอิจฉาเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด