*แต่งหน้าในที่นี่ คือมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น พัฟฟ์แต่งหน้า ฟองน้ำไข่ แปรงแต่งหน้าแบบต่างๆ

     

ทำไมเราถึงต้องล้างพัฟฟ์หรือแปรงเป็นประจำ

          เพราะทุกครั้งที่เราใช้พัฟฟ์หรือแปรงสัมผัสกับผิว มักจะมีเหงื่อ น้ำมัน และแบคทีเรียติดขึ้นมาด้วย ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้สามารถขยายตัวได้รวดเร็วในอากาศที่ร้อนหรือชื้น โดยเฉพาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำหรือน้ำมัน อย่างเช่นรองพื้น ครีมบลัช ไฮไลท์และเฉดดิ้งเนื้อครีม เมื่อนำมาใช้ในครั้งต่อๆ ไป แบคทีเรียที่สะสมอยู่บนแปรงหรือพัฟฟ์ ก็จะย้ายมาบนผิวของเราแทน จนทำให้เกิดสิว หรือการอาการระคายเคืองได้ค่ะ

 

          ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ล้างแปรงนั้นมีอยู่หลายอย่างค่ะ แต่พี่โอ๊ตขอแยกออกเป็นสองแบบ เพื่อให้สาวๆ สามารถล้างได้สะอาดและตรงจุดที่สุดนะคะ

น้ำยาล้างพัฟฟ์หรือแปรง : น้ำยาแบบนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงสามารถล้างสิ่งสกปรกออกจากแปรงที่ใช้กับเครื่องสำอางแบบฝุ่นได้ดี แต่ถ้าเป็นแปรงรองพื้น หรือบลัชออนที่สีเข้มมากๆ ก็อาจจะหลงเหลือสีทิ้งไว้ค่ะ

น้ำมันมะกอกผสมสบู่เหลวเด็กหรือน้ำยาล้างจาน : เหมาะกับแปรงหรือพัฟฟ์ที่ทำความสะอาดได้ยาก เช่นแปรงรองพื้น พัฟฟ์คูชั่น หรือฟองน้ำไข่ น้ำมันมะกอกจะช่วยละลายรองพื้นออกมาได้ดีมากๆ และสบู่เหลวเด็กหรือน้ำยาล้างจานก็ช่วยล้างความมันออกอีกทีค่ะ สูตรนี้สามารถใช้กับแปรงขนสัตว์ได้ ไม่ทำให้แปรงพังค่ะ

สบู่ก้อน : เป็นสิ่งที่พี่โอ๊ตเลือกใช้บ่อยที่สุดเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าทำความสะอาดขนแปรงได้เกลี้ยงจริงๆ แม้แต่แปรงที่เป็นสีขาวก็ยังสะอาดเอี่ยม แต่ข้อเสียก็คือไม่ควรใช้กับแปรงขนสัตว์ เพราะอาจทำให้ขนแปรงแห้งและเสียทรงได้ค่ะ

     ทั้ง 3 วิธีนี้สาวๆ สามารถใช้ล้างได้ทั้งปรงและพัฟฟ์เลยค่ะ จะใช้ล้างพัฟฟ์คูชั่นก็ได้นะ ลองไปดูวิธีการล้างที่นี่เลย >>รีวิว 4 วิธีล้างพัฟฟ์ Cushion จะสะอาดหรือเขรอะ?<<

1. อย่าขยี้ขนแปรงแรงจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ขนแปรงเสียได้ ให้ใช้วิธีวนกับฝ่ามือ หรือหาชามแก้ว ชามเซรามิค วนแปรงไปเรื่อยๆ จนสะอาดค่ะ
2. อย่าจุ่มแปรงลึก หรือเอาแปรงผ่านน้ำจนถึงบริเวณข้อต่อ เพราะอาจทำให้กาวเสื่อม จนด้ามแปรงหลุดออกมาได้ค่ะ
 

3. อย่าตากแปรงในแนวตั้ง เพราะน้ำที่ขนแปรงอุ้มเอาไว้จะไหลเข้าไปในด้ามแปรง ทำให้กาวที่ติดขนแปรงด้านในเสื่อม จนอาจทำให้ขนแปรงหลุดออกมาได้ค่ะ ให้วางแปรงลงบนผ้าขนหนูนุ่มๆ หรือกระดาษทิชชู่ที่สะอาด แล้วตากไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทค่ะ

 

    เป็นเรื่องใกล้ตัวที่พี่โอ๊ตคิดว่าสาวๆ หลายคนยังมองข้าม เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่เราไม่จำเป็นต้องรอให้แบคทีเรียสะสมจนทำให้เป็นสิวก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง ลองเริ่มทำกันตั้งแต่ตอนนี้ กันไว้ปลอดภัยกว่าแน่นอนค่ะ