ช่วงนี้เปิดไปโซเชียลไหน ก็เห็นโฆษณาอาหารเสริมหรือวิตามินที่เคลมว่ากินแล้วผิวใสขึ้นมาเพียบ! ไหนจะรีวิวจากคนนั้นคนนี้อีก เลยทำให้พี่โอ๊ตเกิดความสงสัยขึ้นมาค่ะ ว่าจริงๆ แล้วอาหารเสริมหรือวิตามินพวกนี้ มันสามารถช่วยให้ผิวของเราใสขึ้น ขาวขึ้นได้จริงๆ เหรอ? เรื่องนี้อย่าเก็บความสงสัยไว้นานค่ะ ไปหาคำตอบกันเลยดีกว่า
 
          แน่นอนว่าข้อมูลเราก็ไม่ได้เอามาลอยๆ ค่ะ แต่พี่โอ๊ตและทีมงานได้มีโอกาสนั่งคุยกับ คุณหมออั๋น - นายเแพทย์อภิรักษ์ ตีระลัภนานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ประจำศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ในเรื่องนี้กันด้วยค่ะ ซึ่งคุณหมอก็ได้ให้ความรู้ดีมากๆ และเข้าใจง่ายด้วยค่ะ
 

“วิตามินซี” ที่หลายๆ คนบอกว่ากินแล้วผิวขาวขึ้น/ใสขึ้น

          วิตามินซีน่าจะเป็นวิตามินพื้นฐานที่หลายคนรู้จักค่ะ พี่โอ๊ตเองก็กินวิตามินซีที่เป็นอาหารเสริมอยู่เหมือนกันนะ เพราะว่าพี่โอ๊ตเป็นภูมิแพ้อากาศและเป็นหวัดง่ายมากๆ ซึ่งวิตามินซีช่วยเรื่องนี้ได้ค่ะ ส่วนผิวนี่ไม่เคยสังเกตเลย 555 สำหรับเรื่องวิตามินซี คุณหมอก็ให้คำตอบมาแบบนี้ค่ะ
          “วิตามินซีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ อาจจะช่วยลดการสร้างเม็ดสีในการทดลองได้ แต่พอเรามาทดสอบในผิวคนกลับไม่สามารถช่วยลดการสร้างเม็ดสีได้ วิตามินซีสามารถกระตุ้นการสร้างใยคอลลาเจน ถือว่าเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่มีอยู่ในวิตามินซีครับ แต่เราก็ยังไม่เคยมีการศึกษายืนยันอย่างจริงจังว่า การทานอาหารเสริมหรือวิตามินเหล่านี้มันได้ผลจริงๆ รึเปล่า เพราะการที่จะทานเข้าไปแล้วทำให้มีผลในการต้านอนุมูลอิสระได้ ต้องทานในปริมาณทีสูงมากครับ”
 

          โดยสรุปก็คือ ที่เราเข้าใจว่ากินวิตามินซีเข้าไปแล้วจะทำให้ขาวขึ้นนั้นไม่จริงค่ะ เพราะว่าเค้าไม่สามารถช่วยลดหรือเปลี่ยนเม็ดสีผิวได้ แต่เนื่องจากวิตามินซีสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ เลยทำให้ผิวของเราดูอิ่มเอิบขึ้น จนรู้สึกว่าผิวใสขึ้นนั่นเองค่ะ
 

คอลลาเจนยอดฮิต กินแล้วผิวฟูอิ่มน้ำ

          อาหารเสริมยอดฮิตที่ตีคู่มากับวิตามินซีก็คงไม่พ้นเจ้า คอลลาเจน เนี่ยแหละค่ะ ทุกวันนี้มีอยู่หลายรูปแบบเลย ทั้งแบบชง แบบเม็ด แบบเจลลี่ ทำให้กินง่ายและหาซื้อง่าย รวมถึงราคาเองก็ไม่ได้แพงเท่าช่วงแรกๆ ด้วยค่ะ
          “คอลลาเจนเป็นสารกลุ่มเจลลี่ ซึ่งก็คือโปรตีนอย่างหนึ่งครับ เมื่อเราทานเข้าไปมันก็จะย่อยกลายเป็นกรดอะมิโนหมด ไม่ได้เป็นคอลลาเจนที่จะซึมเข้าไปในร่างกายได้ อีกอย่างคือการทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน ต้องบอกเลยว่าคอลลาเจนมีโมเลกุลค่อนข้างใหญ่ มันไม่สามารถที่จะซึมผ่านผิวของเราเข้าไปได้ ดังนั้นสารพวกนี้จะทำหน้าที่อมน้ำและช่วยให้ผิวดูตึงขึ้นมากกว่า ในส่วนของคอลลาเจนเองก็ยังไม่มีการศึกษาที่เชื่อถือได้มายืนยันว่ามันได้ผลจริง เพราะฉะนั้นถ้าเราจะเลือกใช้ ก็ควรเลือกสารที่ปลอดภัยและเป็นสารที่มีในธรรมชาติอยู่แล้ว เช่น วิตามินซี เป็นต้น”
 


อยากขาวไว นึกถึง “กลูต้าไธโอน”

          สาวๆ ที่อยากให้ผิวขาวเร็วๆ ก็มักจะเจอแม่ค้าแนะนำว่าต้อง กลูต้าไธโอนเลย ขาวเร็วขาวไวขาวไปถึงจักรวาล ลองอ่านดูค่ะว่าคุณหมอพูดถึงเจ้าตัวนี้ยังไง
          “กลูต้าไธโอนเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว คือร่างกายเราสามารถสร้างได้ และเราสามารถซื้อกินเองได้ในรูปของอาหารเสริม แต่ยังไม่มีใครทราบกลไกการทำงาน ว่าทำไมถึงทำให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งในบางประเทศก็ยอมให้สารตัวนี้ถูกกฏหมาย แต่ในบางประเทศยังไม่ผ่านอ.ย.(สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา)ด้วยซ้ำ เช่นประเทศของเรา เป็นต้น ปัญหาคือเราไม่ทราบว่ากลไกมันคืออะไร แต่หลายคนก็เชื่อว่ามันสามารถลดการสร้างเม็ดสีได้ทั้งที่ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า และบางคนก็เชื่อว่ามันสามารถเปลี่ยนเมลานินของคนเอเชียได้ จากที่เป็นยูเมลานิน เปลี่ยนให้เป็นโอเมลานินเหมือนผิวฝรั่งได้ ซึ่งยังเป็นแค่สมมติฐานเท่านั้น
          อีกปัญหาของกลูต้าไธโอนคือ มันเป็นกรดอะมิโนต่อกันสามตัว พอโดนน้ำย่อยในทางเดินอาหาร มันก็ไม่เป็นกลูต้าไธโอนแล้ว กลายเป็นกรดอะมิโนสามตัวลอยอยู่ในท้อง ผลข้างเคียงจากการกินก็คือทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร นอกจากกินแล้วไม่ได้ผล ยังเสียเงินแพงอีกด้วย”
 

          ร้องอ้าวดังมากเลยค่ะจุดนี้ แล้วที่พูดๆ กันว่ากินกลูต้าฯ แล้วขาวติดสปีดแบบฟาสต์แอนด์ฟิวเรียสนั่นคืออะไร! ตรงจุดนี้คุณหมอย้ำมากๆ เลยว่าเหมือนเราเอาร่างกายตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับสารที่ไม่มีการับรอง เพราะฉะนั้นต้องระวังให้ดีค่ะ
 

แค่กินอาหารเสริม ไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้

          พี่โอ๊ตเห็นว่าช่วงหลังหลายแบรนด์ออกมาเคลมว่าอาหารเสริมของตัวเองนั้น กินเข้าไปแล้วจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ ฟังดูน่าสนใจมากเลยค่ะ เรื่องนี้เป็นไปได้แค่ไหน ให้คุณหมอตอบเองเลยดีกว่า
          “มีการศึกษาอย่างหนึ่งที่เชื่อถือได้ครับ คือการทานวิตามินซีแบบไฮโดส (Hi-Dose) คือ 1,000 - 2,000 มิลลิกรัม ร่วมกับวิตามินอีแบบไฮโดส คือ 1,000 IU ต่อวัน จะทำให้ผิวของเราทนแดดได้มากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่ากินแล้วจะขาวหรือสวยเลย ในทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าทำให้ผิวไหม้จากแดดได้ช้าลง แต่ต้องกินในปริมาณมาก และจะกินวิตามินซีหรือวิตามินอีแค่ตัวเดียวก็ไม่ได้ ต้องกินคู่กัน ซึ่งวิตามินซีคือกรดแอสคอร์บิก เมื่อเรากินมากถึง 2,000 มิลลิกรัม ด้วยความเป็นกรดก็ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ ดังนั้นการจะกินให้ถึงโดสนี้ก็คงไม่มีใครทำได้ทุกวัน โดยปกติแล้วหมอก็จะแนะนำให้กินวิตามินซีที่ 1,000 มิลลิกรัม เพราะถ้าสูงกว่านี้จะเริ่มมีอาการปวดท้องหรือท้องเสียได้ครับ”
 

ความปลอดภัยในการกินอาหารเสริม/วิตามินต่างๆ

          พูดมาถึงตรงนี้แล้ว พี่โอ๊ตก็สงสัยค่ะว่า สรุปแล้วการกินอาหารเสริมมันดีกับร่างกายจริงมั้ย และจะส่งผลข้างเคียงอะไรรึเปล่า
          “วิตามินแต่ละแบบร่างกายก็สามารถรับได้ต่างกัน แต่ถ้าจะกินเพื่อให้เห็นผลเรื่องผิว อาจจะต้องกินในปริมาณที่ค่อนข้างสูง อย่างเมื่อก่อนเราเคยมีความเชื่อว่าการกินวิตามินซีที่ละลายน้ำได้ เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะต่อให้กินเกินปริมาณที่ร่างกายรับได้ ร่างกายก็จะขับออกมาทางปัสสาวะ แต่สมัยนี้ก็มีการพัฒนาให้ปลอดภัยมากขึ้น 
          เมื่อก่อนเราเข้าใจว่าวิตามินคือสารที่มาจากธรรมชาติ กินยังไงก็ปลอดภัย จนเมื่อ 2 ปีก่อน ได้มีการศึกษาแล้วว่า คนที่กินวิตามินเอ มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็มีการศึกษาเพิ่มขึ้นมาอีกว่า คนที่กินวิตามินบีมากเกินไป ก็สามารถกระตุ้นทำให้เป็นมะเร็งปอดได้เหมือนกัน 
          เราต้องเข้าใจก่อนว่า เวลาที่เราจะผลิตยาขึ้นมาซักตัวหนึ่ง มันจะมีกระบวนการเยอะมาก เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย แต่ถ้าเป็นอาหารเสริม ก็สามารถข้ามขั้นตอนเหล่านั้นไปได้เลย เพราะฉะนั้นเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยเมื่อเรากินเข้าไป มันก็เหมือนเราเอาร่างกายตัวเองไปเสี่ยง เพราะต้องคิดว่าขนาดวิตามินพื้นฐานอย่างวิตามินเอหรือวิตามินบี ยังมีการศึกษาย้อนหลังว่าทำให้เป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น แล้วยิ่งตัวอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ที่เราไม่ทราบที่มาที่ไป หรือไม่รู้กลไกการทำงานของมัน การที่เราตัดสินใจทานเข้า ก็คือการเอาร่างกายตัวเองไปเสี่ยงดีๆ นี่เองครับ”
 

ผิวสวยได้ ไม่ต้องพึ่งวิตามิน

          ต้องยอมรับค่ะว่าที่อาหารเสริมหรือวิตามินต่างๆ มันฮิตขนาดนี้ เพราะว่าเราแค่อยากสวย แค่นั้นเอง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องผิดเลยค่ะ พี่โอ๊ตเองก็คิดนะ แต่ถ้าน้องๆ ไม่มั่นใจและไม่อยากเสี่ยงกับการเลือกซื้ออาหารเสริม คุณหมอก็มีวิธีดูแลผิวแบบง่ายๆ มาแนะนำกันด้วยค่ะ
 
1. ล้างหน้าให้สะอาด ลดมัน = ลดสิว
          “อันดับแรกหมอขอเน้นไปที่เรื่องสุขอนามัย หรือการทำความสะอาดผิวก่อนเลยครับ ก่อนที่เราจะไปบำรุงผิว อยากให้ล้างหน้าให้สะอาดก่อน ถ้าใครหน้ามันมากจริงๆ ระหว่างวันจะล้างหน้าเพิ่มด้วยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องล้างแค่เช้า-เย็น ถ้าหน้าไม่มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สิวน้อยลงได้”
 

2. ขาวสวยได้ แค่ใช้ครีมกันแดด
          “ก่อนจะบำรุงผิว หมออยากให้ป้องกันก่อน ถ้าอยากมีผิวสวย ต้องเข้าใจก่อนว่า ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนผิว มันเกิดจากแสงแดดมากกว่า 80% และไม่ถึง 20% ก็คือตามอายุที่มากขึ้น ถ้าเราสามารถป้องกันผิวจากแดดได้ ก็จะทำให้เกิดริ้วรอยได้ช้ากว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นถ้าอยากขาวอยากสวย ต้องป้องกันผิวจากแดดก่อนเลย ดังนั้นครีมกันแดดก็คือสกินแคร์ที่จำเป็นต้องใช้ ถ้าใครหน้ามันหรือสิวขึ้นง่าย ก็ต้องเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อไม่ให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น
          ครีมกันแดด เรียกได้ว่าเป็น Sun Filtering ก็คือกรองรังสียูวีก่อนที่จะมาถึงผิวเรา แต่เราก็เชื่อว่ายังมีรังสีบางส่วนที่ลงมาถึงผิวได้ เลยทำให้ครีมกันแดดบางยี่ห้อผสมสารแอนตี้ออกซิแดนท์เข้ามา เพื่อกันยูวีที่จะเข้ามาทำให้เกิดอนุมูลอิสระบนผิว ซึ่งตามทฤษฎีแล้วก็ดูเป็นเหตุผลที่ดี แต่อย่างที่หมอได้บอกไปว่า สารแอนตี้ออกซิแดนท์นั้นมีโมเลกุลค่อนข้างใหญ่ ทำให้ไม่สามารถซึมเข้าผิวได้
          ครีมกันแดดนั้นควรจะทาให้หนา เหมือนเราใส่เสื้อเกราะไว้ป้องกัน ถ้าทาบางเกินไปก็เหมือนใส่เสื้อกล้ามออกไปรบ แต่ปัญหาก็คือ พอหลายๆ แบรนด์ ผสมวิตามินซี ผสมไวท์เทนนิ่งเข้ามา พอเราทาหนาปุ๊บ ก็กลายเป็นแสบหน้า ทาไม่ได้อีก ดังนั้นถ้าจะซื้อครีมกันแดด ให้แยกชัดกับครีมบำรุงไปเลยจะดีกว่าเอาทั้งสองอย่างมารวมกัน”
 
3. ใช้ครีมบำรุงตามความจำเป็น
          “ถ้าถามหมอว่าเด็กวัยรุ่นจำเป็นต้องทาไวท์เทนนิ่ง แอนตี้ออกซิแดนท์ หรือวิตามินแบบต่างๆ มั้ย มีอยู่สองอย่างที่หมออยากให้คิดก่อนครับ อย่างแรกคือ ร่างกายของเด็กช่วงวัยรุ่นนั้นยังเด็ก ระบบการต้านอนุมูลอิสระในช่วงวัยนี้จึงดีมากๆ จนไม่จำเป็นต้องเพิ่มมากไปกว่านี้ อีกอย่างหนึ่งคือ สกินแคร์ประเภทแอนตี้ออกซิแดนท์นั้นมีโมเลกุลค่อนข้างใหญ่ ทาลงบนผิวก็ไม่สามารถซึมเข้าไปได้อยู่ดี ดังนั้นสกินแคร์ประเภทนี้จึงไม่ได้จำเป็นอะไรกับเด็กในช่วงวัยรุ่น เผลอๆ ทำให้สิวขึ้นอีกต่างหาก สรุปได้ว่า ถ้าอยากดูแลผิวในช่วงวัยรุ่น ให้ล้างหน้าให้สะอาดและทาครีมกันแดดเป็นประจำ หรือเน้นไปที่การรักษาสิวก็พอครับ
 

วิธีเลือกซื้อสกินแคร์และอาหารเสริมให้ปลอดภัย

          ก่อนจะบอกลา คุณหมอก็มีวิธีง่ายๆ ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ปลอดภัยกับผิวและร่างกายของเรา จะได้ไม่ต้องเสียดายเงินที่จ่ายไปค่ะ
          “ที่สำคัญเลยคือต้องผ่านอ.ย.ก่อนครับ อย่ายึดตามรีวิวบนโซเชียลเป็นหลัก เพราะอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ผ่านอ.ย. หรือบางครั้งบอกว่าผ่านแล้ว แต่เอาเลขอ.ย.ไปตรวจแล้วพบว่าปลอมก็มี ส่วนสกินแคร์ เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มันจนเกินไป เพื่อป้องกันการเกิดสิว หรือถ้าซื้อสกินแคร์มาแล้ว รู้สึกว่ามันระคายเคือง ให้หยุดใช้ได้เลย อย่าใช้ต่อแค่เพราะว่าเสียดายเลยครับ”
 
เช็คเลขอ.ย.ได้ที่นี่เลย>> http://pca.fda.moph.go.th/service.php
 
          หรือเอาง่ายๆ เลย พี่โอ๊ตคิดว่าการเลือกแหล่งซื้อก็สำคัญค่ะ เลือกผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในร้านที่ไว้ใจได้ หรือตามร้านขายยา ก็ช่วยลดความเสี่ยตรงนี้ไปได้เยอะเหมือนกันนะ
 
          การได้คุยกับคุณหมอครั้งนี้ ถือว่าได้เปิดโลกมากๆ เลยค่ะ มีหลายอย่างเลยที่พี่โอ๊ตเองก็ไม่รู้ มาแจ่มแจ้งก็วันนี้แหละ 555 พี่โอ๊ตเองก็หวังว่าน้องๆ จะเอาข้อมูลตรงนี้ไปช่วยในการตัดสินใจซื้ออาหารเสริมหรือวิตามินต่างๆ ได้มากขึ้น อย่างที่คุณหมอได้บอกไว้ว่าอย่าเอาร่างกายตัวเองไปเสี่ยง เพราะนอกจากจะเสียเงินไปแล้ว ยังอาจจะได้โรคอื่นๆ กลับมาเป็นของแถมด้วยค่ะ 
 
 
ติดตาม NUGIRL บนช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Youtube : nugirldekd
Instagram : @nugirldekd
Twitter : @nugirldekd
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด