8 ข้อห้าม ถ้าไม่อยาก "อ้วน!"

1. อย่าเป็นทาสอาหารจังก์ฟู้ด
          เห็นข้อแรกก็อยากปาดเหงื่อแล้วค่ะ อาหารจังก์ฟู้ดหรืออาหารขยะที่พี่โอ๊ตหมายถึงคืออาหารที่เราซื้อกินได้ง่ายและหาสารอาหารได้ยาก อย่างพวกแฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด ลูกชิ้นทอด ไส้กรอกทอด ไม่ว่าจะหาซื้อได้ตามร้านหรือรถเข็นหน้าโรงเรียนก็ไม่ต่างกันค่ะ เนื่องจากอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยแป้งและน้ำมัน ที่สุดท้ายแล้วน้องเค้าก็จะไปรวมตัวประชุมตามต้นแขนต้นขา หรือพุงของเรานั่นเอง
 

2. อย่ากินกลางดึก
          บางคนพยายามอดทนมาทั้งวัน ยอมไม่กินมื้อเย็นก็มี แต่พอความมืดเริ่มกล้ำกรายเท่านั้น เสียงลึกลับก็ดังขึ้น! ก้มลงดูสิ นั่นมันเสียงท้องร้องของเธอไง! แล้วจากนั้นเธอก็เลยย่องเข้าครัว ต้มน้ำร้อน ฉีกซองมาม่า อ่าาาาห์... ฟิน…. คือถ้ามันจะวนลูปงี้ แอดว่าปีหน้าก็ไม่น่ารอดค่ะ การกินของหนักๆ ในตอนกลางคืน นอกจากกระเพาะจะย่อยไม่ทันจนอาจเกิดกรดไหลย้อนแล้ว ยังทำให้เกิดการสะสมไขมันได้ง่าย เพราะเรากินแล้วแป๊บนึงก็โดดขึ้นเตียงนอน เพราะฉะนั้นได้โปรดเลิกเถอะค่ะ หาอะไรเบาๆ กินก่อน 6 โมงก็ได้ จะได้ไม่รู้สึกหิวโหยจนเกินไปเนอะ

*เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใช้เวลาย่อยในกระเพาะ “อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง”
 

3. อย่ายอมอดเพื่อความผอม
          ถ้าวันๆ นึงเรากินแค่มื้อเดียวต้องผอมลงแน่ๆ เลย ใช่ค่ะ ผอมลงแน่นอน และอาจพ่วงภาวะขาดสารอาหารหรือโรคอื่นๆ มาเป็นเพื่อนด้วย การอดข้าวนั้นทำให้น้ำหนักลงได้เร็ว แต่ไม่ยั่งยืนค่ะ เพราะเราจะทำได้ในช่วงเวลาหนึึ่ง แล้วพอร่างกายเริ่มทนไม่ไหวก็จะกลับมากินอย่างพายุ สรุป อ้วนกว่าเดิม! พี่โอ๊ตว่าลองเริ่มจากการงดอาหารจำพวกแป้งลง ก็เห็นผลชัดอยู่นะ
 

4. อย่ากินของหวานจนติด
          ถ้าบอกให้งด 100% พี่โอ๊ตว่ายากเกินไปค่ะ ลองปรับชีวิตให้เคยชินกับการกินของหวานให้น้อยลงก่อน เช่น ถ้าชอบไปร้านขนมทุกอาทิตย์ ลองลดเหลือสองอาทิตย์ครั้ง เดือนละครั้ง เคยสั่งชานมหวานปกติ ค่อยๆ ลดมาเป็นหวาน 75% 50% เอาที่โอเคเลย พี่โอ๊ตว่าประมาณ 25% ค่ะ พอเรากินของหวานน้อยลง ร่างกายมันจะเริ่มชินไปเอง และเริ่มไม่โวยวายที่จะหาของหวานกินอยู่ตลอดด้วย ลองค่อยๆ ปรับดูนะคะ
 

5. อย่ากินทุกอย่างที่ขวางหน้า
          เอาล่ะ มันช่างตรงข้ามกับเป้าหมายเราเหลือเกิน เราจะกินทุกอย่างได้ยังไง ถ้าจุดหมายของเราคือร่างที่ผอมเพรียว แล้วอย่ามาทำเป็นพูดเลยนะ ว่ากินๆ ไปก่อน เดี๋ยวค่อยเบิร์นออกก็ได้ เพราะมันไม่ง่ายขนาดนั้นค่ะ ขนมหวานบางจาน หรือหมูกระทะบางมื้อ เราต้องเบิร์นด้วยการเดินรอบกรุงเทพฯ เลยก็มี เพราะฉะนั้น พี่โอ๊ตว่าเราหักห้ามใจตัวเองแต่แรกเถอะ เวิร์คสุด
 

6. อย่ากดดันตัวเอง
          น้องๆ หลายคนเคยถามพี่โอ๊ตว่า หนูออกกำลังกายมาอาทิตย์นึงแล้ว ทำไมหนูยังไม่ผอม น้ำหนักยังไม่ลดซักที พี่โอ๊ตก็อยากจะตอบด้วยคำตอบเดิมๆ แต่เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับค่ะ ว่าสิ่งที่เรากินเข้าไป เรากินมันมาทั้งชีวิต ดังนั้นพอเราอยากบอกลามัน เราก็ควรให้เวลามันด้วยเช่นกันค่ะ อย่ากดดันตัวเองว่าชั้นไม่ผอมลงเลย ชั้นจะไม่ผอมอีกแล้ว เพราะมันไม่จริงเลยค่ะ ทุกคนสามารถมีหุ่นที่สวยงามได้ถ้าเราตั้งใจมากพอค่ะ
 

7. อย่าขี้เกียจ!!
          พี่โอ๊ตได้ดูซีรีส์เรื่องหนึ่งมา แล้วชอบประโยคที่เพื่อนนางเอกคุยกันมาก คือ “โลกนี้มีแต่ผู้หญิงขี้เกียจ ไม่มีผู้หญิงน่าเกลียด” คือคำนี้มันใช่เลยค่ะ เพราะทุกๆ คนสามารถสวยได้ถ้าเราขยันดูแลตัวเองและมีความพยายามมากพอ อยากหน้าใสต้องบำรุง อยากผอมก็ต้องออกกำลังกายค่ะ และไม่จำเป็นต้องหักโหมด้วย แต่ทำให้ได้อย่างสม่ำเสมอทุกวัน การเป็นผู้หญิงสวยก็ไม่ได้ยากเกินไปค่ะ
 

8. อย่าพูดลอยๆ แต่ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
          การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนมีข้อดีกว่าที่คิดค่ะ ลองย้อนกลับไปคิดดีๆ ว่าตอนที่เราเริ่มลดน้ำหนัก เราพูดอะไรกับตัวเองไว้บ้าง ถ้าเราบอกแค่ว่า ฉันอยากจะผอมลง การผอมลงแค่ 1 กรัมก็คงบรรลุเป้าหมายเราแล้วใช่มั้ยคะ และแน่นอน เราก็จะเลิกล้มไปในที่สุด หรือหลายคนชอบพูดออกมาลอยๆ ว่า ฉันจะลดความอ้วน แล้ว...แล้วยังไงต่อนะ สุดท้ายเราก็ลืมมันไปค่ะ
 

          ลองตั้งเป้าหมายให้ตัวเองว่า ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้ …. กิโลกรัม ภายใน …. เดือน เขียนตัวใหญ่ๆ แปะไว้ในที่ๆ มองเห็นได้ง่าย ทำตารางออกกำลังกายแปะไว้ข้างกัน ทำลิสต์ของที่กินไปวันนี้ (อันนี้พี่โอ๊ตว่าเวิร์คมาก บางวันกินเยอะจนรู้สึกผิด ถัดมาอีกวันคือกินน้อยลงอัตโนมัติเลย) หรือถ้าแอดวานซ์อีกหน่อย ลองตั้งรางวัลให้ตัวเองดูค่ะ เช่น ลดได้ 1 กิโลฯ เราจะซื้อสติ๊กเกอร์ไอดอลที่เราชอบ 1 แผ่น แล้วตั้งรางวัลให้สูงขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะรู้สึกมีแรงฮึดมากขึ้นค่ะ (อย่าตั้งรางวัลที่ดีมากๆ ตั้งแต่แรก เพราะสุดท้ายเราจะไม่มีอะไรมาล่อใจตัวเองค่ะ)

          จริงๆ ทั้ง 8 ข้อนี้ พี่โอ๊ตคิดว่าเราอาจจะไม่ได้เป็นทุกข้อก็ได้ค่ะ ให้คิดไว้เสมอว่ามันไม่ยากเกินไปหรอก แต่ก็อยากให้ทุกคนมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับมัน พยายามทำให้ได้โดยเฉพาะสามข้อสุดท้าย เพราะถ้ามีสามข้อนี้แล้วล่ะก็ ข้ออื่นๆ ก็ชิลแล้วแน่นอนค่ะ

          ก่อนจะไป คิดว่าต้องมีน้องๆ หลายคนคิดว่าเราต้องผอมขนาดไหนถึงจะสวย พี่โอ๊ตก็อยากบอกกันตรงนี้เลยค่ะ ว่ารูปร่างที่ดีมันไม่มีมาตรฐานหรอก คนเราจำกัดความคำว่าสวยไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอยากให้ลองตั้งต้นที่ว่า เราจะไม่อ้วนจนสุขภาพแย่ แทนการบอกตัวเองว่า ฉันจะต้องผอม จำไว้ว่าสุขภาพของเราต้องมาเป็นอันดับหนึ่งค่ะ ถ้าเราอยู่ในจุดที่ใส่เสื้อผ้าได้พอดี ไม่อึดอัด และไม่มีโรคภัยไข้เจ็บให้ต้องกังวล นั่นแหละคือหุ่นดีในแบบของเราค่ะ