น้องๆ หลายคนเคยเป็นมั้ยคะ เวลาถามเพื่อนว่าวันนี้กินอะไรกันดี เลิกเรียนแล้วจะไปไหน หรือระหว่างของสองอย่างจะเลือกอันไหนดี คำตอบที่ได้กลับมาคือ “อะไรก็ได้” ฟังแล้วบางทีก็สตั๊นท์ไปเลย...
 
แล้วคำว่า “อะไรก็ได้” มันคืออะไรล่ะ!

         โอเคค่ะ ตอนนี้เราจะใจเย็นๆ สงบสติอารมณ์เอาไว้ก่อน มันอาจจะไม่ใช่เรื่องน่าโมโหถ้าเราสามารถทำความเข้าใจกับคำว่า “อะไรก็ได้” ในความหมายและสถานการณ์ต่างๆ ค่ะ บอกเลยว่าเรื่องนี้ต้องอาศัยการสังเกตล้วนๆ
 
1. อะไรก็ได้ = ฉันขี้เกียจคิด

         มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราถามอะไรเดิมๆ ซ้ำบ่อยๆ จนคนถูกถามเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะเลือกคำตอบ  เช่น ถามเรื่องข้าวกลางวันในโรงเรียน ซึ่งก็มีแต่ร้านเดิมๆ แปลว่าตัวเลือกมันชัดเจนอยู่แล้วว่าเราจะเจอแบบนี้ตลอดเทอมนั่นแหละ ดังนั้น อะไรก็ได้ คือ ไม่อยากคิดละ เอาอะไรมาก็ได้ แต่จะชอบไม่ชอบก็อีกเรื่องนึงนะ
 

 
2. อะไรก็ได้ = ฉันรำคาญแล้วนะ

         อะไรก็ได้ แบบนี้ มักจะโผล่มาพร้อมข้อความซัพพอร์ตตามหลัง หรือนำมาด้วยเสียงบ่น เช่น อะไรก็ได้ หยิบๆ มาเถอะ / โอ๊ย! ถามจัง เอาอะไรก็ได้นั่นแหละ! เรียกว่าประโยคเกรี้ยวกราดก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเราอาจจะไปถามไม่ถูกจังหวะ หรือถามคำถามเดิมๆ บ่อยมากจนเกินไป หรือดันไปถามตอนที่เค้ากำลังยุ่งๆ อยู่ คำตอบที่ได้มาก็แทบไม่มีประโยชน์เลยค่ะ
 
3. อะไรก็ได้ = เธอต้องรู้ใจฉันสิ

         อันนี้พี่โอ๊ตคิดว่ายากสุดเลยค่ะ แต่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่รู้จักกันดีจริงๆ อย่างเพื่อนสนิท หรือแฟนที่คบกันมานานแล้ว คำตอบแบบนี้มันคือการ “หยั่งเชิง” ว่าเธอความจำดีแค่ไหน ใส่ใจฉันมากพอรึเปล่า เช่น ถ้าเกิดไปถามเพื่อนว่าจะกินไอศกรีมมั้ย กินรสอะไร แล้วเพื่อนตอบมาว่าอะไรก็ได้ นั่นแปลว่าเค้าคาดหวังแล้วว่าเราจะซื้อรสที่เค้าชอบมาให้แน่นอน อะไรประมาณนี้ค่ะ
 

 
4. อะไรก็ได้ = ตัดปัญหา

         มักจะเกิดขึ้นในกรณีที่คนถูกถามไม่มีสิทธิ์เลือก หรือพูดง่ายๆ คือคนถามมีคำตอบในใจแล้วนั่นเองค่ะ ก็เป็นการตอบเพื่อจบบทสนทนาให้เร็วขึ้น เช่น เรารู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเราอยากกินขนมร้านนี้นะ พอถูกถามเลยตอบว่า อะไรก็ได้ ให้ดูกว้างๆ เพื่อให้เพื่อนเสนอร้านขึ้นมา และถ้าเราโอเคที่จะไปก็แฮปปี้เอนดิ้งค่ะ
 
5. อะไรก็ได้ = อะไรก็ได้จริงๆ

         คนแบบนี้มีอยู่บนโลกจริงๆ ค่ะ คือคนที่อะไรก็ได้หมดเลย โอเคกับทุกอย่าง ถ้ามีเพื่อนที่เป็นคนชิลๆ ไม่ค่อยช่างเลือก แล้วเค้าตอบแบบนี้กลับมา ก็แปลว่า อะไรก็ได้จริงๆ ค่ะ ไม่ต้องนั่งคิดให้วุ่นวายเลย
 
 
วิธีรับมือ เมื่อเจอคำตอบว่า “อะไรก็ได้”
 
  • ทบทวนความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนก่อน ว่าเราสนิทกันอยู่ในระดับไหน เพราะถ้าสนิทกันมาก แปลว่าเราต้องพอรู้ว่า เพื่อนเราเป็นคนแบบไหน ช่างเลือกมั้ย หรือสบายๆ เพื่อนเราชอบอะไรเป็นพิเศษ ก็จะทำให้เดาความหมายของคำตอบนี้ได้ไม่ยากค่ะ
  • ประเมินสถานการณ์ เช่น เพื่อนกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่รึเปล่า หรือกำลังยุ่งกับเรื่องอื่นอยู่มั้ย เพราะบางทีการโดนถามคำถามในเวลาที่เราอารมณ์ไม่ดี ไม่มีสมาธิ หรือกำลังโฟกัสเรื่องอื่นๆ อยู่ อาจจะทำให้รู้สึกหงุดหงิด จนต้องตอบแบบปัดๆ ไปก่อนว่า อะไรก็ได้ ถ้าใครเจอแลลนี้ รอให้เพื่อนพอมีเวลา หรืออารมณ์เย็นลงก่อนค่อยถามอีกทีก็อาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ
  • สำหรับเพื่อนที่ขี้เกียจคิด และเราก็ไม่อยากคิดแทน เพราะถ้าไม่ถูกใจต้องโดนบ่นแน่นอน ลองหาตัวช่วยค่ะ เช่น ทำสลากขึ้นมาเลย จะกินข้าวร้านไหน มีกี่ช้อยส์ เขียนลงไปให้หมด แล้วจับสลากเอา เป็นการบังคับให้เค้าเลือกด้วยตัวเค้าเอง จะได้ไม่มาบ่นทีหลังค่ะ หรือถ้าขี้เกียจฉีกกระดาษพับ เดี๋ยวนี้ในโทรศัพท์ก็มีแอปฯ สุ่มตัวเลือกให้ใช้เพียบค่ะ ลองไปเล่นดูเด้อ
     

แล้วถ้าเป็นเราเองที่ชอบพูดว่า “อะไรก็ได้” ล่ะ
         อันนี้พี่โอ๊ตต้องพูดตรงๆ เลยค่ะ (เป็นการพูดกับตัวเองด้วยเหมือนกัน) ว่าความคิดของเรามันไม่ใช่ลำโพง ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ใจเราไปหมด ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำก็คือ
  • ฝึกตัวเองให้มีการตัดสินใจ เพราะชีวิตของเราไม่สามารถให้คนอื่นคิดแทนได้ทุกเรื่อง การเริ่มจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ถือเป็นการฝึกสกิลนี้ไปในตัวค่ะ
  • พูดอย่างที่ใจคิด อยากกินอะไร อยากทำอะไรก็พูดไปเลย อย่าใช้คำว่า “อะไรก็ได้” เพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ใจเรา การที่เค้าไม่รู้ ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่ใส่ใจนะคะ แต่มันเป็นเพราะการที่เราพูดว่า “อะไรก็ได้” มันคือคำตอบแบบปลายเปิด ซึ่งมันก็คิดได้ว่าเราอาจจะอยากเลือกอย่างอื่นมากกว่าสิ่งเดิมๆ ที่ชอบก็ได้
  • พยายามสงบสติถ้ากำลังโมโห หรือกำลังยุ่ง เพราะคนถามอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความโกรธของเราเลยก็ได้ บอกเค้าไปเลยตรงๆ ว่าเรากำลังยุ่งอยู่ หรืออารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ ยังคิดไม่ออกตอนนี้ อย่างน้อยๆ ก็เป็นการเตือนคนฟังแล้วนะ ดีกว่าตอบแบบขอไปทีแล้วมาทะเลาะกันทีหลังค่ะ
     

         จริงๆ แล้วไม่ว่าความสัมพันธ์ของเราจะอยู่ในรูปแบบไหน ครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก พี่โอ๊ตคิดว่าการพูดก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยค่ะ หลายครั้งที่เราพูดกันด้วยอารมณ์ พูดกันด้วยความคาดหวัง ทำให้อีกฝ่ายตีความหมายไปผิดๆ จนทำให้ต้องทะเลาะกันใหญ่โต ดังนั้นมันน่าจะดีกว่ามากๆ เลย ถ้าเราจะพูดด้วยความใส่ใจกันและกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงคนฟังก่อนที่จะพูด ถ้าทำได้ทั้งสองฝ่าย บอกเลยว่าไม่ต้องเสียเวลาทะเลาะกันแน่นอนค่ะ อย่าให้ช่วงเวลาดีๆ ของเราต้องเสียไป แค่เพราะคำว่า “อะไรก็ได้” เลยค่ะ


 
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น