7 วิธีจัดการ อาการ “อกหัก” ของสาวๆ มัธยม

           ถ้าพูดถึงเรื่องความรักแล้ว พี่โอ๊ตเชื่อเลยว่าน้องๆ หลายคนน่าจะนึกถึงแต่เรื่องดีๆ โลกสีชมพู หรือนึกถึงช่วงเวลากุ๊กกิ๊กโรแมนติก จนอาจจะลืมคิดไปว่า การมีความรักยังมีอีกด้านหนึ่งรออยู่ ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ นั่นคือความผิดหวังนั่นเองค่ะ

      รักแรก รักแบบปั๊บปี้เลิฟ มักจะเกิดขึ้นในช่วงวัยมัธยมนี่แหละ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะสมหวังได้ตลอด เลยทำให้หลายคนถึงกับตั้งตัวไม่ทันเวลาที่ต้องเจอจริงๆ รู้สึกโลกพัง ท้อแท้ ไม่มีใครเข้าใจ แล้วเราจะจัดการกับความรู้สึกนี้ได้ยังไงบ้าง?

           จริงๆ แล้วความรู้สึก “อกหัก” มันอธิบายได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายค่ะ ที่มาของแต่ละคนนั้นอาจจะต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนคือ “การสูญเสีย” ค่ะ และไม่ว่าการสูญเสียนั้นจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงกับเรา อย่างการถูกบอกเลิก หรือเป็นแค่สิ่งที่เราหวังไว้ เช่น ไปแอบชอบรุ่นพี่แต่เค้าดันมีแฟนแล้ว ก็ทำให้เราเกิดความเศร้า และรู้สึกปวดใจได้ และความรู้สึกนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับเพื่อนที่เราสนิทด้วยมากๆ แต่มีสาเหตุให้ต้องเลิกคบกันไปอีกด้วยค่ะ

    

           คนส่วนใหญ่จะชอบปลอบกันว่า ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ต้องได้เจอคนที่ดีกว่านี้แน่ๆ แต่พี่โอ๊ตอยากให้ลองสังเกตว่า เวลาเราอกหักหรือผิดหวังมากๆ ความรู้สึกในตอนนั้นคือเหมือนทั้งโลกมีเราที่เจ็บอยู่คนเดียวเลยค่ะ เพราะงั้นใครพูดอะไรมาตอนนี้เราไม่เข้าใจหรอก และไม่อยากจะยอมรับด้วย พี่โอ๊ตอยากให้น้องๆ ใจเย็น และลองทำตามวิธีที่พี่โอ๊ตเอามาแชร์ดูค่ะ

           การได้เล่าเรื่องของเราให้คนที่เราสนิทด้วยฟัง ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท จะทำให้รู้สึกดีขึ้นได้มากๆ เลยค่ะ พูดทุกอย่างที่เราอยากพูด หรือถ้ารู้สึกเกรงใจ ไม่อยากเล่าให้ใครฟัง หาสมุดโน๊ตซักเล่ม เขียนความรู้สึกของเราลงไปให้หมดค่ะ หรือใช้แอปฯในมือถือก็ได้ พิมพ์ลงไปให้หมด อย่างน้อยๆ การได้เล่ามันออกมาก็ช่วยให้สมองเบาขึ้นได้ค่ะ
 

2. ร้องไห้ให้พอ

           การร้องไห้ไม่ได้แปลว่าเราต้องอ่อนแอเสมอไปค่ะ การได้ร้องออกมาสามารถช่วยระบายความอึดอัดที่มีได้ แต่ถ้าไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น ก็หาที่ที่ค่อนข้างส่วนตัว แล้วปล่อยให้เต็มที่ เวลาเราดู MV หรือซีรีส์ ที่เค้าชอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ บอกเลยว่ามันคือเรื่องจริงค่ะ! เพราะห้องน้ำมันส่วนตัวที่สุดแล้ว อยากจะเปิดเพลงคลอไปด้วยก็ยังได้

           จำไว้ว่าทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ใครจะมองไม่เห็นก็ช่างเค้าค่ะ พยายามนึกถึงข้อดีของตัวเองเข้าไว้ เพราะคนอกหักมักจะชอบโทษตัวเองก่อนว่า ฉันไม่ดีเองเค้าถึงได้ทิ้งไป ฉันผิดเอง ซึ่งจุดนี้เราต้องมีสติค่ะ! การโทษตัวเองไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น และความผิดหวังมันอาจจะไม่ได้เกิดจากความผิดของเรา อย่าปล่อยให้ตัวเองมีทัศนคติที่แย่ค่ะ
 

4. อย่าปล่อยให้ตัวเองโทรม

           นอนหลับให้เต็มอิ่ม กินอาหารดีๆ ดูแลผิว และหาเวลาออกกำลังกายบ้าง ทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเครียดของเราได้ และยังช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นอีกด้วยค่ะ ดีกว่าการที่เห็นตัวเองในกระจกทุกครั้งแล้วรู้สึกป่วยตลอดเวลา มันจะดึงให้สภาพจิตใจยิ่งแย่ค่ะ
 

5. ทำตัวเองให้ยุ่งเข้าไว้

           ลุกขึ้นมาทำความสะอาดห้อง จัดของที่ปล่อยให้กองไว้มานาน หรือทำอะไรก็ได้ที่ชอบเหมือนอย่างที่ปกติชอบทำ อย่างการดูหนังหรือคอนเสิร์ต หรือหาอะไรที่สนุกๆ ทำ เพื่อให้สมองไม่ต้องนึกถึงแต่เรื่องแย่ๆ ค่ะ
 

6. พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์

           ถ้าท้ายสุดแล้วไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร จงอย่าลืมว่าคนเรามีศาสนาไว้เป็นที่พึ่งทางใจค่ะ พี่โอ๊ตไม่ได้จะบอกให้งมงายนะคะ ไม่ต้องถึงกับไปบนบานขอให้ใครมารักเรา แต่อยากให้พึ่งพระเพื่อความสบายใจมากกว่า ขอให้พระที่เราเชื่อช่วยเอาความไม่สบายใจของเราทิ้งไปก็ได้ หรือน้องๆ อาจจะลองนั่งสมาธิดูก็ได้ค่ะ การที่เราใจสงบ ก็ทำให้สมองได้ทบทวนอะไรได้มากขึ้นนะ
 

           น้องๆ หลายคนชอบคิดว่าความเศร้าจะอยู่กับเราไปตลอดกาล เราจะไม่มีวันยิ้มได้หรือมีความสุขได้อีก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ ทุกคนสามารถพบเจอเรื่องดีๆ ได้ ถ้าเราผ่านช่วงเวลานี้ไปและเปิดใจมากพอ แต่ก็อาจจะใช้เวลาต่างๆ กัน เร็วบ้างช้าบ้าง เราไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง และไม่จำเป็นต้องปิดใจเช่นกันค่ะ

           ความเศร้า ความผิดหวัง มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และลึกซึ้งมากๆ ไม่มีทางเลยที่ใครจะเข้าใจได้ดีไปกว่าตัวเราเอง วิธีการรับมือกับความเสียใจของแต่ละคนจึงต่างกัน ไม่มีวิธีไหนที่ถูกผิดหรือดีกว่า แต่เราทุกคนสามารถทำให้ความรู้สึกนี้กลายเป็นอดีตได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์หรือยาเสพย์ติดเลยค่ะ ความสุขมันหาได้ง่ายกว่าที่คิด แต่ต้องเริ่มที่ใจเราเองก่อน ว่าพร้อมที่จะสร้างมันขึ้นมาได้เมื่อไหร่ 

           มีอยู่คำพูดนึงที่พี่โอ๊ตชอบมากๆ เลยค่ะ “คนเราพบกับความเจ็บปวดเพื่อที่จะได้ก้าวต่อไป” ดูเป็นคำพูดที่เหมือนจะเข้าใจยาก แต่จริงๆ แล้วความหมายชัดมากค่ะ ความเจ็บปวดจะทำให้เราเห็นโลกได้กว้างขึ้น รู้จักตัวเองมากขึ้น และทำให้เราเข้มแข็งขึ้นด้วย น้องๆ ยังอยู่ในวัยเรียน ยังมีโอกาสได้เจอคนอีกเยอะ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อีกเพียบ ยิ่งเราลุกได้เร็วเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้เปรียบค่ะ