อยากให้ผิวใส ต้องใช้ AHA หรือ BHA?

           จริงอยู่ว่าผิวของเรานั้นสามารถผลัดเองได้ตามธรรมชาติเมื่อถึงกำหนดเวลา แต่ถ้าผิวของเราเจอแสงแดดบ่อยๆ (โดยเฉพาะอากาศในบ้านเราที่ร้อนขนาดนี้) รวมถึงอายุที่เพิ่มขึ้นๆ ก็ทำให้ผิวของเรานั้นเริ่มผลัดเซลล์ได้ช้าลง เป็นที่มาของผิวหมองคล้ำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็เลยจำเป็นต้องผลัดเซลล์ผิวหรือสครับผิวออกบ้างนั่นเอง
 

          เวลาพูดว่า ‘สครับผิว’ พี่่โอ๊ตว่าหลายคนจะนึกถึงเม็ดสครับเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งสครับแบบนั้น ถือเป็นหนึ่งในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวของเราค่ะ แต่จริงๆ แล้วยังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายอย่างมากๆ เลย ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว เช่น Peeling Mask, Peeling Gel, Exfoliating Gel รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วนผสมของ AHA และ BHA ด้วยค่ะ

            ถ้าเป็นเมื่อก่อน พี่โอ๊ตบอกเลยว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA หรือ BHA เป็นอะไรที่ค่อนข้างเสี่ยงกับการแพ้มากๆ เพราะนวัตกรรมต่างๆ ยังน้อย และมีโอกาสระคายเคืองได้สูง แต่ปัจจุบันทั้ง AHA และ BHA ก็มีพัฒนาการด้วยนวัตกรรมและการวิจัยต่างๆ ทำให้กลายมาเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และลดสิวได้ดีมากๆ ดังนั้นวันนี้เราจะไปทำความรู้จักกันค่ะ

         เราจะชอบได้ยินกันบ่อยๆ ว่า AHA (Alpha Hydroxy Acid) ก็คือกรดผลไม้ แต่จริงๆ แล้วน้องเค้าไม่ได้มาจากผลไม้อย่างเดียวนะคะ แต่ยังมาจากอ้อยได้อีกด้วย แถมยังเป็น AHA ที่มีขนาดเล็กที่สุดอีกด้วยค่ะ ถือว่าเป็น AHA ที่ใช้กันเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ ถึงจะดูขัดแย้งนิดๆ ในความที่ชื่อเค้ามีคำว่า กรด แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าแพทย์ผิวหนังกลับแนะนำให้ใช้กับคนที่มีผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง รวมถึงผิวที่ถูกแดดทำร้ายมาก็ใช้ได้เหมือนกันนะ นั่นเพราะว่า AHA สามารถไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้นั่นเองค่ะ

         ถ้าถามว่า AHA ดีกับผิวของเรายังไง บอกเลยว่าเค้ามีดีมากกว่าการผลัดเซลล์ผิวค่ะ การทำงานของ AHA ก็คือช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก และยังกระตุ้นการผลิตเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนอีกด้วยค่ะ ดังนั้นการใช้ AHA ไม่ใช่แค่ทำให้เราผิวใสขึ้น แต่ยังช่วยลดริ้วรอยบนผิวที่มองเห็นได้ชัดด้วยค่ะ

         ถึงชื่อจะคล้ายกันมากๆ แต่การทำงานต่างกันมากเลยค่ะ BHA คือ Beta Hydroxy Acid หรือบางคนอาจจะคุ้นในชื่อของ กรดซาลิไซลิก ที่มักจะอยู่ในผลิตภัณฑ์รักษาสิว และจะทำงานได้ลึกถึงรูขุมขน เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวมัน หรือผิวที่มีแนวโน้มจะเกิดการอุดตันได้ง่าย ผิวเป็นสิว และมีรูขุมขนกว้างค่ะ

         BHA สามารถใช้เพื่อละลายน้ำมันหรือสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ และยังช่วยกำจัดแบคทีเรียได้ด้วย ทำให้เป็นส่วนประกอบสำคัญที่นิยมใช้เพื่อรักษาสิวนั่นเองค่ะ นอกจากนี้แล้ว เรายังใช้ BHA ที่มีความเข้มข้นมากๆ รักษาหูดได้ด้วยค่ะ
 

 

แล้วผิวของเรา ต้องใช้ AHA หรือ BHA กันแน่ล่ะ?

           เรื่องนี้ต้องเริ่มจากการสรุปให้ได้ก่อนค่ะ ว่าผิวของเรามีปัญหาอะไรกันแน่ ถ้าเป็นผิวที่มีปัญหาสิว หรือสิวเรื้อรัง แนะนำให้ใช้ BHA หรืออาจจะใช้ทั้ง AHA และ BHA ร่วมกัน เพื่อให้แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น

         แต่ถ้าผิวของเราค่อนข้างแห้ง และเราแค่อยากผลัดเซลล์ผิวให้ดูใสมากขึ้น ก็ให้เลือกใช้แค่ AHA ก็พอค่ะ แต่ก็อย่าลืมว่าผลิตภัณฑ์ทุกอย่างก็มีระยะเวลาในการทำงานของมัน

          และเรื่องสำคัญที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด คือทั้ง AHA และ BHA ต่างก็เป็นตัวกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ถ้ามีปริมาณที่เข้มข้นมากๆ เราควรใช้แค่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันการระคายเคืองค่ะ แต่ถ้าเอาให้ชัวร์เลย ก็เลือกสกินแคร์ที่ผสมในสูตรอยู่แล้วด้วยปริมาณที่เหมาะกับการใช้ทุกวัน ก็จะปลอดภัยกับผิวมากกว่าค่ะ

รวมโปรดักส์ AHA / BHA ที่ช่วยให้ผิวใส
 

Some by Mi AHA BHA PHA 30 Days Miracle Cream (585 บาท)
มอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเป็นเกราะป้องกันผิวจากการแพ้ ด้วย AHA BHA และ PHA ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและยังมีส่วนผสมของ เซนเทลล่า เอเชียติก้า และใบ Tea Tree เนื้อครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น อ่อนโยนกับสิวเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย
 

COSRX : AHA/BHA Clarifying Treatment Toner (490 บาท)
สเปรย์โทนเนอร์เพื่อผิวกระจ่างใส ด้วย AHA จากน้ำแอปเปิ้ล และ BHA จากเปลือก WILLOW อ่อนโยนต่อผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งขจัดสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวหน้า ป้องกันการเกิดสิว และยังมี ALLANTOIN เพื่อให้ความชุ่มชื้นให้ผิว ชะลอการเกิดริ้วรอย ช่วยให้ผิวสะอาดเรียบเนียน และดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
 

Naturelle*Maxkin AHA Skin Treatment Cream 10% (120 บาท)
ครีมบำรุงผิวที่ประกอบด้วย AHA จากผลไม้ ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้ผิวเนียนเรียบและดูกระจ่างใสขึ้น เหมาะสำหรับคนที่กังวลเรื่องความหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยแผลเป็น และริ้วรอยต่างๆ
 

Cute Press Acne Clear 2% BHA (299 บาท)
เจลทาผิวหน้า สำหรับคนที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยน เพื่อผิวหน้าเรียบเนียนสดใสยิ่งขึ้น.
 

PhDerma Peeling Booster (249 บาท)

เซรั่มสูตรเข้มข้น อ่อนโยนกับผิว ด้วยเทคโนโลยีการผลัดเซลล์ผิว พร้อมเสริมสร้างการผลิตคอลลาเจน มี AHA 9.9% ช่วยจัดการรอยสิว เผยผิวกระจ่างใส BHA ช่วยลดสิวอุดตัน และควบคุมความมันส่วนเกิน กระชับรูขุมขน และ PHA ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เพื่อผิวกระจ่างใส เรียบเนียน ไร้ที่ติเหมือนผิวได้เกิดใหม่