โลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปเร็วมากๆ เลยค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะรู้จักแค่ความสัมพันธ์แบบเพื่อน แฟน หรือว่าแค่พี่น้อง แต่เดี๋ยวนี้อีกสถานะยอดฮิตที่น้องๆ หลายคนกำลังเจอก็คือสถานะ “คนคุย” นั่นเองค่ะ เป็นอีกสถานะที่ทำให้หลายคนหนักใจไม่น้อยเลยแหละ

ความสัมพันธ์แบบไหนที่เรียกว่า “คนคุย”

สถานะคนคุยนั้น เริ่มมาจากที่คนสองคนตกลงกันค่ะ คุยกันแบบไม่ใช่เพื่อนไม่ใช่แฟน เป็นห่วงกัน คิดถึงกัน แต่ไม่มีสิทธิ์ไปหึงหวง คล้ายๆ จะมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนนั่นเอง  

การเป็นคนคุย ก็เหมือนเส้นทางก่อนถึงทางแยกสามทางค่ะ เริ่มจากเปิดใจคุยกัน เรียนรู้กัน ก่อนจะพัฒนาไปเป็นแฟน เป็นแค่เพื่อน หรือสุดท้ายอาจจะกลายเป็นคนไม่รู้จักกันเลยก็ได้ ข้อดีของความสัมพันธ์แบบนี้ก็คือความสบายใจ มีคนที่คุยได้ ปรึกษากันได้ ไม่มีอะไรผูกมัดกัน แต่แน่นอนว่ามันคงเริ่มไม่ดีถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดอยากพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นมา แต่อีกฝ่ายไม่ได้คิดแบบเดียวกัน ก็อาจจะทำให้ความสัมพันธ์เริ่มอึดอัดและพังไม่เป็นท่าได้ค่ะ

ทำยังไงดี ถ้าอยากออกจากสถานะคนคุย

ถามตัวเองให้แน่ใจ

อย่างที่บอกว่าการเป็นคนคุยก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ ทบทวนตัวเองก่อนว่าเราแน่ใจจริงๆ ใช่มั้ยที่จะยุติความสัมพันธ์นี้ ลองชั่งน้ำหนักดูว่าการมีเขาหรือไม่มีดีกว่ากัน แต่แนะนำว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่ความสัมพันธ์เริ่มอึดอัดหรือรู้สึกว่าต้องอดทนให้ผ่านไปแต่ละวันๆ ก็ควรเดินออกมาได้แล้วค่ะ

คุยกับเขาไปตรงๆ

การตัดสินใจหันหน้าคุยกันตรงๆ เป็นเรื่องที่ดีค่ะ จะมองว่าเป็นความหวังสุดท้ายก็เราก็ได้ เพราะการตัดสินใจบอกความรู้สึกตัวเองออกไป นอกจากจะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจเรามากขึ้นแล้ว อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาได้ทบทวนตัวเองอีกด้วยว่าอยากไปต่อกับเรารึเปล่า ถ้าคำตอบคือ ไม่ ก็จะทำให้เราตัดความสัมพันธ์นี้ได้เร็วขึ้นค่ะ

ค่อยๆ เฟดตัวเองออกมา

วิธีนี้ก็ถือว่าไม่ใจร้ายกับตัวเองเกินไปนักค่ะ ลองค่อยๆ ถอยออกมาจากเขาทีละนิด จากที่เคยต้องบอกเขาทุกๆ วัน ว่าวันนี้จะทำอะไร ไปไหน ไปกับใคร ก็ค่อยๆ ลดลงค่ะ การทำแบบนี้ถือเป็นสัญญาณบอกอีกฝ่ายกลายๆ ว่าเราต้องการไปจากความสัมพันธ์แบบนี้แล้วนั่นเอง

มองหาความสัมพันธ์ใหม่ๆ

อาจจะไม่ได้หมายถึงการมีคนคุยคนใหม่ หรือหาคนมาเป็นแฟนให้ได้ แต่อยากให้ลองโฟกัสที่ความสัมพันธ์อื่นๆ บ้างค่ะ บางทีชีวิตเราอยู่กับเพื่อนก็อาจจะแฮปปี้กว่าก็ได้ ไม่ได้จำเป็นต้องมีคนคุยตลอดเวลาค่ะ แต่ถ้าใครมีก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะคะ พี่โอ๊ตมองว่าความสัมพันธ์ใดๆ ก็ตามมันเป็นเรื่องของจังหวะและเวลาค่ะ

ลองอยู่กับตัวเองบ้าง

การอยู่คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องแย่ค่ะ อยู่คนเดียวในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงให้ปิดห้องแล้วขังตัวเองไว้ ไม่ออกไปเจอใครเลยนะคะ แต่หมายความว่าให้ลองหาอะไรทำคนเดียว ไปเรียนเวิร์คช็อปที่ชอบ แบ็คแพคไปเที่ยวคนเดียว หาของอร่อยๆ กิน หรือออกไปเจอเพื่อนๆ บ้าง บางทีเราอาจจะชอบชีวิตที่ไม่ผูกติดกับใครมากกว่าก็ได้นะ

สุดท้ายแล้ว ความสัมพันธ์แบบคนคุย หรือแบบไหนก็ตาม ในทุกความสัมพันธ์เราควรมีความชัดเจนในตัวเอง ถ้าเรียนรู้กันแล้วรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ ก็ควรออกจากความสัมพันธ์นี้ให้เร็วที่สุด อย่าคิดว่าคุยๆ กันไป ‘เผื่อ’ เราอาจจะชอบเขา เพราะนี่คือความเห็นแก่ตัว และเป็นการปิดโอกาสไม่ให้อีกฝ่ายไปเจอความสัมพันธ์ที่ดีกว่าค่ะ

ส่วนน้องๆ ที่เจอความผิดหวังในวันนี้ ก็อย่าไปคิดว่าชีวิตนี้เราจะไม่เจอคนที่เข้าใจเราแบบนี้อีกแล้ว อย่าลืมว่าส่วนหนึ่งมันก็เกิดจากที่เราชอบเขา เลยทำให้คิดว่าเขาเข้าใจเราไปทุกอย่าง แต่เอาจริงๆ บางทีเพื่อนเรายังเข้าใจเรามากกว่าคนคุยของเราเลย แล้วน้องๆ ก็ยังอยูในวัยที่จะได้เจอคนอีกเพียบเลยล่ะค่ะ ใช้ชีวิตของเราให้สนุกและมีความสุขที่สุดดีกว่านะ

 

พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด