สาวๆ เคยสังเกตผิวตัวเองกันบ้างมั้ยคะ ว่าทำไมอยู่ดีๆ ผิวของเราถึงได้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนที่มีประจำเดือน นั่นก็เป็นเพราะว่าสภาพผิวของเราขึ้นอยู่กับฮอร์โมนเป็นหลักนั่นเองค่ะ ยิ่งช่วงมีรอบเดือนที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ก็ยิ่งทำให้ผิวมีปัญหาได้ง่าย โดยเฉพาะปัญหาสิวทำให้สาวๆ หลายคนพยายามที่จะหาสกินแคร์มาแก้ปัญหาในช่วงนี้ บางคนเปลี่ยนสกินแคร์ยกเซ็ตเพราะอยากให้หายไวๆ เลยก็มีค่ะ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราควรจะดูแลผิวในแต่ละช่วงเวลาของเราตามฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงค่ะ เพื่อให้สกินแคร์ที่เราใช้ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และทำให้ผิวไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลังด้วยนะคะ

การเลือกใช้สกินแคร์ในช่วง 1 รอบเดือน

โดยปกติแล้วผู้หญิงเราจะมีรอบเดือนโดยเฉลี่ยประมาณ 28  วัน (นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา ไปจนถึงวันก่อนที่ประจำเดือนรอบใหม่จะเริ่มค่ะ) และจะมีประจำเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 5 วัน เราสามารถดูแลผิวในแต่ละช่วงได้ตามนี้เลยค่ะ

ช่วงที่ 1 วันที่ 1-5 ของรอบเดือน *เลี่ยงการใช้หรือทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมา ร่างกายของเราจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้ผิวของเราอ่อนแอง่ายกว่าช่วงอื่นๆ ดังนั้นเราไม่ควรเปลี่ยนสกินแคร์หรือทดลองครีมอะไรใหม่ๆ ในช่วงนี้ค่ะ ยิ่งอะไรที่เข้มข้นล้ำลึกมากๆ อย่างพวกเซรั่ม เอสเซ้นส์ มาสก์ อาจจะต้องเลี่ยงไปก่อน เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคืองขึ้นมา แนะนำว่าช่วงนี้ให้ใช้สกินแคร์พื้นฐานก็พอค่ะ เน้นที่การทำความสะอาด ให้ความชุ่มชื้น และก็อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยนะคะ

ช่วงที่ 2 วันที่ 6-14 ของรอบเดือน *ช่วงเวลาของการฟื้นฟูผิว

ตั้งแต่วันที่ 6 ของรอบเดือน เป็นช่วงที่ประจำเดือนมักจะหมดไปแล้ว และร่างกายกำลังจะเตรียมตกไข่ครั้งต่อไป ช่วงนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเริ่มสูงขึ้น ทำให้ผิวของเราสามารถดูดซึมสารบำรุงต่างๆ ได้ง่าย ใครที่เตรียมจะเปลี่ยนสกินแคร์ ให้ลองในช่วงนี้ได้เลยค่ะ โดยเฉพาะเอสเซ้นส์หรือเซรั่ม ถ้าใช้ช่วงนี้จะเห็นผลได้ชัดเลยล่ะ เหมาะกับการฟื้นฟูผิวสุดๆ และช่วงนี้ก็ยังเหมาะกับการสครับหรือผลัดเซลล์ผิวอีกด้วยค่ะ 

ช่วงที่ 3 วันที่ 15-28 ของรอบเดือน *ป้องกันปัญหาผิวก่อนประจำเดือนจะมา

เป็นช่วงที่ร่างกายของเราจะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง ผิวจะหมองคล้ำได้ง่ายเพราะไวต่อการถูกกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีเมลานินค่ะ แนะนำว่าในช่วงนี้ให้ใช้สกินแคร์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส หรือช่วยผลัดเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่ฮอร์โมนแอนโดรเจนมีปริมาณสูง แล้วไปกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิว ทำให้ผิวของเรามีความมันมากกว่าปกติ ผลที่ตามมาก็คือ สิวเสี้ยน สิวอุดตัน รวมไปถึงสิวอักเสบ จะขึ้นมาได้ง่ายในช่วงนี้เลยค่ะ ใครที่มีผิวมันผิวผสมอยู่แล้วอาจจะเจอปัญหาหนักหน่อย ให้เน้นผลิตภัณฑ์ที่รักษาสมดุลบนผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือมันจนเกินไป ก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้ค่ะ

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น ช่วงกลางรอบเดือนของแต่ละคนก็จะต่างกันออกไปค่ะ แต่เรามักจะมีช่วงที่ 1 กับช่วงที่ 3 ใกล้เคียงกัน ก็คือ 5 วันที่มีเลือดประจำเดือน และ 14 วันก่อนมีรอบเดือนครั้งต่อไป ดังนั้น ทุกคนสามารถคำนวณรอบวันของช่วงที่สองได้ง่ายๆ เลยก็คือ นับวันที่มีประจำเดือนไป 5 วัน และนับถอยจากวันแรกของรอบเดือนต่อไปเข้ามา 14 วัน ช่วงตรงกลางนี่แหละค่ะคือช่วงที่ 2 ที่เหมาะกับการฟื้นฟูผิว หรือถ้าจะให้ดูง่ายขึ้น ลองโหลดแอปพลิเคชั่นบันทึกรอบเดือนมาช่วย ก็จะทำให้เราเห็นภาพมากขึ้นค่ะ

ตัวอย่างคนที่มีรอบเดือน 30 วัน

วันที่ 1-5 คือวันที่มีประจำเดือน / วันที่ 17-30 คือ 14 วันก่อนมีรอบเดือนครั้งถัดไป
วันที่ 1-5 คือวันที่มีประจำเดือน / วันที่ 17-30 คือ 14 วันก่อนมีรอบเดือนครั้งถัดไป
ดังนั้นแถบสีชมพูก็คือช่วงที่ 2 เป็นช่วงที่เหมาะกับการฟื้นฟูผิว

วิธีปรับฮอร์โมนแบบง่ายๆ ในช่วงรอบเดือน

  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนสำคัญกับฮอร์โมนในร่างกายของเรามากๆ ค่ะ พยายามนอนหลับให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ แต่ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำเยอะๆ ในครั้งเดียวนะคะ ให้ค่อยๆ จิบระหว่างวันเพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอค่ะ
  • ออกกำลังกายบ้าง ไม่จำเป็นต้องหักโหม แต่ให้ร่างกายพอได้เกิดการเผาผลาญบ้าง ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ฮอร์โมนของเราสมดุลได้ค่ะ
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อช่วยในการขับถ่าย และหลีกเลี่ยงอาหารมัน ของหวาน และอาหารที่ทำจากแป้งค่ะ
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น