ถ้ากำลังรู้สึกว่าช่วงนี้หัวใจเต้นแปลกๆ เพราะใครบางคนอยู่ จนคิดว่าตัวเองกำลัง ‘ตกหลุมรัก’ รึเปล่า? แต่ก็แอบไม่แน่ใจ ว่าเราแค่รู้สึกชื่นชมเขา ชอบเขาแบบเพื่อน หรือว่าเรากำลังชอบเขาแบบคนรัก อยากพัฒนาจนได้คบกันจริงจัง ถ้ายังตอบตัวเองไม่ได้ ก็ลองทำตาม 3 สเต็ปนี้กันดูค่ะ

เช็ก! 5 อาการนี้แหละที่บอกว่าเรากำลังตกหลุมรัก!

Photo Credit :  freepik.com
Photo Credit :  freepik.com
  1. ตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาไลน์หาหรือโทรมา
    ไลน์ปุ๊บ ตอบปั๊บ ขึ้น read เหมือนแสตนด์บายหน้าไลน์ตลอดเวลา หรือเขาโทรมาก็แทบไม่เคยได้ยินเสียงรอสาย เพราะเรารับก่อนตลอด แบบนี้จะยังปฏิเสธว่าไม่ชอบเขาอีกเหรอ? 
     
  2. เห็นอะไรก็นึกถึงเขาไปหมด
    ไม่จำเป็นว่าเราต้องมานั่งคิดถึงเขาทั้งวันจนไม่เป็นอันทำอะไรนะ แต่อาจจะเห็นบางอย่างในชีวิตประจำวันของเราแล้วนึกถึงเขา เช่น สั่งชานมไข่มุกมากินแล้วก็นึกขึ้นว่าถ้าเป็นเขาต้องสั่งไม่หวานมากแน่ๆ หรืออาจจะเผลอคุยเรื่องเขากับคนอื่นแบบไม่รู้ตัว
     
  3. อยู่กับใครก็เผลอนึกถึงเขา
    ขนาดว่าออกไปเที่ยวกับเพื่อนหรือครอบครัว ก็ยังมีบางช่วงที่แอบคิดว่า เขาน่าจะมาด้วยกันเนอะ ถ้าเขาอยู่ตรงนี้คงดีมากเลย
     
  4. มีเรื่องอะไรก็อยากบอกเขาเป็นคนแรก
    ถ้ามีเรื่องดีๆ ก็อยากให้เขายินดีกับเราเป็นคนแรก ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจก็อยากให้เขาช่วยปลอบ อยากได้คำพูดดีๆ จากเขาก่อนคนอื่น
     
  5. อยากไปไหนมาไหนกันแค่สองคน
    เพราะถ้าไปกับเพื่อนก็คงไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากเท่าไหร่ อยากไปกินข้าว ดูหนัง นั่งคาเฟ่ ใช้เวลาด้วยกันแค่สองคน
     

ถ้ามีอาการตามทั้ง 5 ข้อนี้ หรือมากกว่าครึ่งขึ้นไป ก็เป็นไปได้ว่าเรากำลังตกหลุมรักเขาเข้าแล้วแบบเต็มๆ เลยค่ะ ทีนี้สเต็ปต่อไปก็คือ  ลองเช็กว่าเรากับเขาเคมีเข้ากันรึเปล่า ไลฟ์สไตล์ไปกันได้ไหม เวลาอยู่ด้วยกันแล้วเป็นยังไง

เช็ก! เคมีเรากับเขาตรงกันรึเปล่า?

Photo Credit :  freepik.com
Photo Credit :  freepik.com
  1. เช็กความสนใจของเขา
    ลองชวนคุยว่าเขาชอบอะไรบ้าง อาจจะเริ่มจากเรื่องทั่วๆ ไป อย่างของที่ชอบกิน หนังหรือซีรีส์ที่ชอบดู  เขาชอบเที่ยวที่ไหน ไปจนถึงมุมมองเรื่องความสัมพันธ์ เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของการเป็นคนคุยกันนั่นเองค่ะ จริงอยู่ว่าการคบกันไม่ได้จำเป็นว่าต้องชอบอะไรที่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยๆ เราก็ต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่อีกฝ่ายชอบด้วย แต่ถ้าประเมินดูแล้วว่าเราไม่อินจริงๆ ก็คงทำให้คุยกันยากขึ้นค่ะ
     
  2. ลองหาโอกาสแตะตัวแบบไม่ตั้งใจ
    ไม่ใช่การแต๊ะอั๋งนะคะ หมายถึงการแตะแขน หรือแตะมือเบาๆ การถูกสัมผัสแบบนี้จะบอกได้คร่าวๆ ว่า เขารู้สึกยังไง เพราะโดยปกติ ถ้าไม่ใช่คนสนิทหรือคนที่ชอบ น้อยคนมากๆ ที่จะโอเคกับการถูกแตะตัวค่ะ ตัวเราเองก็เหมือนกัน ถ้าอยู่ๆ ให้ไปแตะตัวใครก็ไม่รู้ เราก็คงรู้สึกแปลกๆ แต่ถ้าทำแล้วทุกอย่างยังโอเค ดูเป็นธรรมชาติ ก็ไปต่อได้เลย
     
  3. ถามตัวเองให้แน่ใจ ชอบเขาที่ตรงไหนกันแน่
    ไม่แปลกที่เราจะชอบใครที่รูปร่างหรือหน้าตาค่ะ เพราะพี่โอ๊ตก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติของมนุษย์นะ แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า รูปร่างหน้าตาภายนอก ไม่ได้เป็นตัวช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราไปได้ดี นิสัยใจคอ หรือไลฟ์สไตล์ที่เข้ากันได้ต่างหาก ที่จะทำให้คนสองคนรู้ใจและอยู่ด้วยกันได้มากขึ้น การชอบใครสักคนแค่เพราะว่าเขาดูดี แต่เราไม่ได้โอเคในเรื่องอื่นๆ เลย ก็จะทำให้ความรู้สึกนี้หายไปได้ง่ายๆ ค่ะ

ทีนี้ก็ได้เวลาเข้าสู่สเต็ปสุดท้าย ก่อนที่จะตัดสินใจบอกรัก หรือตัดสินใจว่าเราจะคบกับคนนี้แน่ๆ เพื่อเป็นความแฟร์กับทั้งตัวเราและเขาด้วยค่ะ

ฟันธง! เราชอบเขาจริงๆ ใช่ไหม?

Photo Credit :  freepik.com
Photo Credit :  freepik.com
  • ขอความเห็นจากเพื่อนสนิทหรือคนที่ไว้ใจได้
    บางทีการตัดสินใจคนเดียวก็ทำให้พลาดได้ค่ะ เพราะบางคนก็แยกความรู้สึกของตัวเองไม่ออก แต่กลับเป็นคนนอกที่มองเห็นชัดกว่า ลองฟังความเห็นจากเพื่อนหรือพี่น้องที่เราสนิทด้วย ยิ่งถ้าใครสามารถคุยกับคุณพ่อคุณแม่เรื่องนี้ได้ ก็จะยิ่งเห็นมุมมองที่กว้างขึ้นค่ะ เล่าความรู้สึกของเรา หรือปฏิกิริยาที่เขามี เพื่อที่จะได้ฟังความเห็นว่าคนอื่นคิดยังไง แล้วทบทวนความรู้สึกของเราอีกทีค่ะ
     
  • เราแค่ไม่อยากอยู่คนเดียวรึเปล่า
    หลายๆ คนที่อยู่ในช่วงเวลาทุกข์ใจ อาจจะมีปัญหาส่วนตัว หรือผิดหวังจากคนอื่นมา ก็อยากที่จะมองหาใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน ถ้าแบบนี้ก็เป็นไปได้สูงเลยว่าเราอาจจะไม่ได้ชอบเขาจริงๆ ค่ะ แต่แค่อยากมีเพื่อนไว้ซักคนเท่านั้นเอง แนะนำว่าให้ลองทำอะไรที่ชอบคนเดียวดูก่อน แล้วสังเกตว่าเราเป็นยังไง แฮปปี้ไหม และรู้สึกยังไงเมื่อไม่มีเขาอยู่ด้วย
     
  • รู้สึก หึง เขาบ้างรึเปล่า
    ความรู้สึกหึง หรือไม่สบายใจเวลาเห็นเขาไปกับคนอื่น ก็เป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันความรู้สึกเราได้เหมือนกันนะ เพราะเราจะไม่รู้สึกแบบนี้กับเพื่อนนั่นเองค่ะ แต่แนะนำว่าถ้ายังไม่ได้คบกัน ก็อย่าไปอารมณ์เสียใส่เขาเลยนะ อาจจะพูดในเชิงหยอกล้อได้บ้าง แต่ถ้าโวยวายใส่กัน อาจจะทำให้ความสัมพันธ์นี้ไปไม่รอดค่ะ

ถ้าฟันธงแล้วว่าเราจริงจังกับความสัมพันธ์นี้แน่ๆ อย่างแรกเลยที่อยากบอกคือ อยากให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับคนที่เราชอบ เพื่อให้เขาได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของเรา ไม่ใช่พยายามแสดงแต่สิ่งดีๆ หรือทำแต่สิ่งที่เขาชอบ เพราะสุดท้ายแล้วคนเราก็ไม่สามารถทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองไปได้ตลอดค่ะ ให้เขาชอบที่เราเป็นเราดีกว่าเนอะ

แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ ก็ไม่ใช่ใบรับประกันว่าความรักของเรามันจะต้องดี เพราะนี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ แต่อย่างน้อยๆ การที่เราเช็กความรู้สึกของตัวเองให้แน่ใจก่อนจะเริ่มต้นกับใครซักคน ก็ดีกว่าการตัดสินใจปุบปับ แล้วมารู้ทีหลังว่าอีกฝ่ายไม่ใช่สำหรับเรา กลายเป็นการทำร้ายกันโดยไม่ตั้งใจไปอีก ในทางกลับกัน ถ้าเราทบทวนจนมั่นใจในตัวเองและอีกฝ่ายแล้ว เราก็จะเต็มใจที่จะปรับตัวเข้าหากัน และรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ให้ดีค่ะ

พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด