ไขปัญหา Study Abroad

- ขึ้นอยู่กับระดับการศึกษาที่สนใจจะเข้าศึกษาต่อค่ะ ระดับภาษาอังกฤษใช้เวลา 2-3 เดือน ระดับมัธยมศึกษาประมาณ 6-7 เดือน และประมาณ 8 เดือนขึ้นไปสำหรับระดับมหาวิทยาลัยค่ะ

- ได้ค่ะ แต่จะต้องเรียนภาษาอังกฤษก่อน ถ้าพื้นฐานดีก็อาจจะเรียนเพิ่มเติมประมาณ 3 เดือน แต่ถ้าพื้นฐานไม่ดี อาจจะต้องใช้เวลาเรียนเพิ่มประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี

- การเรียนภาษาต่างประเทศ น้องๆ จะมีโอกาสได้ฝึกฝน ใช้งานจริง และยังมีสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้สามารถพัฒนาได้ไวขึ้น เช่น รายการทีวี คุยกับเพื่อนชาวต่างชาติ (แต่อยู่เมืองไทยก็ดูรายการทีวีภาษาอังกฤษกับคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติได้เหมือนกันนะจ๊ะ สิ่งสำคัญ คือ ต้องตั้งใจค่ะ ^^)

- เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป จะหาที่เรียนได้ง่าย เกรดเฉลี่ย 2.50 ขึ้นไป ถ้ามีคะแนน IELTS , TOEFL , GMAT สูง ก็จะหาที่เรียนได้ง่ายขึ้น เกรดเฉลี่ย 2.00 ขึ้นไป จะต้องเรียนหลักสูตร Certificate หรือเตรียมความพร้อมก่อน แต่ถ้ามีคะแนน IELTS 6.5 / TOEFL 580 ก็อาจจะได้รับการพิจารณาค่ะ (สู้ๆๆๆ นะ)

- ทำได้จ้า แล้วแต่สถาบันจะพิจารณา แต่เราก็อาจจะต้องเรียนวิชาอะไรเพิ่มเติมเพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนต่อสาขาใหม่นะคะ

- IELTS สอบถามได้ที่ IDP โทร. 02-6383111 และที่ British Council โทร. 02 6525480-9

TOEFL สอบถามได้ที่ IIE โทร. 02 6520653

- 1. ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการตัดสินใจ

2. ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย หลีกเลี่ยงปัญหาและความล่าช้าต่างๆ

3.แนะนำทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อความสำเร็จในการศึกษา

4.ข้อมูลที่ Agency ให้ จะผ่านการตรวจสอบและพิจารณามาระดับหนึ่ง เพราะ Agency มีประสบการณ์ในการติดต่อกับโรงเรียน/มหาวิทยาลัย นั้นๆ

5.ช่วยในการคิดทบทวนว่าแท้จริงแล้ว น้องๆ อยากเรียนอะไร และน้องๆ มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน

6.ช่วยติดต่อส่งใบสมัคร ยื่นวีซ่า การโอนเงินค่าเล่าเรียน จัดหาที่พัก

7.บริการรับ-ส่ง ที่สนามบิน

8.เป็นที่ปรึกษา ทำหน้าที่เหมือนเป็นพี่เลี้ยง

- การพักกับครอบครัวจะช่วยให้น้องๆ ได้มีโอกาสฝึกฝนภาษาทุกวัน อีกทั้งยังได้เรียนรู้วัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศนั้นๆ อีกด้วย การอยู่แบบ Home Stay จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาก่อนค่ะ

- อายุวีซ่าที่จะได้รับ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของหลักสูตรที่สมัครเรียน เช่น สมัครหลักสูตร 1 ปี ก็จะได้วีซ่า 1 ปี 1 เดือน นักเรียนที่สามารถต่อวีซ่าได้ในประเทศที่กำลังศึกษาอยู่ ตราบเท่าที่ยังคงสภาพการเป็นนักศึกษา/นักเรียน ไม่จำเป็นต้องกลับประเทศไทยเพื่อต่อวีซ่าใหม่ค่ะ

- สถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกา/แคนาดา ส่วนใหญ่ต้องการคะแนน GMAT แต่สถาบันในออสเตรเลีย อังกฤษและนิวซีแลนด์ จะมีทั้งที่ต้องการและไม่ต้องการค่ะ

- ถ้าเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษจะไม่สามารถทำงานได้ แต่ถ้าเรียนในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยโดยส่วนใหญ่จะสามารถทำงาน Part-Time ได้ แต่ต้องไม่เกิน 16-20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ค่ะ

- การเรียนทางไกลเป็นการเพิ่มพูนความรู้ที่ดีในระดับหนึ่ง เพราะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่ต้องละทิ้งภารกิจหน้าที่ ขอเพียงแต่มีเวลาที่จะค้นคว้าด้วยตนเอง เขียนรายงานและรู้จักการใช้ internet ก่อนจะเรียนก็ควรเช็คก่อนว่า สำนักงาน ก.พ. รับรองมาตรฐานหรือไม่? เท่าที่ทราบ ก.พ.ยังไม่รับรองจ้า

- โดยทั่วไปนักศึกษาสามารถยื่นขออยู่ต่อเพื่อทำงานหาประสบการณ์หรือฝึกงานหลังจบหลักสูตรได้ โดยจะมีระยะเวลาประมาณ 1 ปี

- แล้วแต่ประเทศที่จะเลือกไปศึกษา ระยะเวลาที่ลงทะเบียนเรียนและหลักสูตรที่เลือก

แฮ่กๆ กว่าจะพิมพ์หมดเมื่อยเหมือนกันนะเนี่ย แต่เพื่อน้องๆ แล้ว พี่ปาล์มสู้ตายจ้า ^^v แล้วในนี้มีคำถามที่น้องๆ อยากทราบบ้างไหมนะ? อิอิ คงจะมีแน่ๆ เลย แต่ถ้าหากว่าไม่มี น้องๆ สามารถส่งเมล์มาถามพี่ปาล์มได้เสมอค่ะ อิอิ

พี่ปาล์มขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร การศึกษาอัพเกรด

ขอบคุณภาพประกอบจาก

www.pewclimate.org

www.erau.edu

www.uofaweb.ualberta.ca

*สนใจสอบถาม แนะนำ ติ-ชม หรืออยากเล่าประสบการณ์เรียนนอก

ส่งอีเมล์หรือแอด msn มาได้ที่ palm@dek-d.com*