สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... มาแล้วๆๆ มาเจอกับ พี่เป้ และคอลัมน์เล่าประสบการณ์เด็กนอกกันทุกๆ วันพฤหัสนะคะ ^^ สำหรับสัปดาห์นี้เป็นอีกครั้งที่อยากกรี๊ดดดมากกกก เพราะเจ้าของเรื่องสัปดาห์นี้ เธอทั้งสวย(มาก) เก่ง(มาก) และที่สำคัญคือ "กล้ามาก" ... กล้าไม่กล้ายังไง ก็ไป Work&Travel ที่อเมริกาคนเดียวมาแล้วล่ะ !!! โอ้โห แล้วไปคนเดียวแบบนี้ จะเจอเรื่องอะไรบ้างนะ ??? ... อย่ารอช้าค่ะ เลื่อนไปอ่านกันด่วนเลย

 

 

 

       สวัสดีค่ะพี่น้องชาวเด็กดีทุกคน ชื่อ “กุ้ง” สิริมาตา ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ( ABAC ) คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ ปีที่ 4 อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาจากคอลัมน์ Hilight  Dek-D.com Webmaster แนะนำ “ของเล่นเทรนด์ใหม่ล่าสุด”     

      วันนี้พี่มีประสบการณ์ Work and Travel มาฝากน้องๆ และเรื่องราวความคิดบางสิ่งบางอย่างที่น่าจะตรงใจใครหลายๆ คน ^^

      จริงๆ แล้ว พี่มีความคิดอยากใช้ชีวิตเมืองนอกตั้งแต่มัธยม แต่ตอนนั้นภาษายังไม่พร้อม รู้สึกว่าตัวเองโง่มาก แต่งประโยคยังไม่เป็นเลย พอได้มาเรียนพิเศษที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษแห่งหนึ่ง ทำให้เรารู้คำศัพท์ แต่งประโยคได้มากขึ้น คิดว่าเราพร้อมแล้วละที่จะไปโครงการแลกเปลี่ยนภาษาฯ ก็เลยปรึกษาคุณแม่ ท่านก็ไม่อยากให้เราไป เพราะท่านเห็นเราเป็น “เด็ก” แต่ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่า “ดื้อ” ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอลองสอบซะหน่อยแม้จะรู้ว่าสายเกินไป ( ตอนนั้น ม.6 ) เดินดุ่ยๆ ไปสมัครสอบทั้งๆ ที่รู้ว่าอายุเกิน ผลออกมาคือ “สอบติด” อันดับรองสุดท้าย!!! (ดีใจเหมือนสอบได้ที่ 1 ฮ่าๆๆ) ใครจะคิดละว่าเราจะสอบผ่าน … แต่สุดท้ายก็อดไป เพราะอายุเกิน T_T

                         
             พอเข้ามหาลัย มีโครงการ Work and Travel มาจัดนิทรรศการที่มหาลัย รู้สึกสนใจมากๆ อยากไป เก็บแผ่นพับไปศึกษาดูทุกโครงการเลย ในใจคิดว่าถ้ามีโอกาสอยากจะไปทุกซัมเมอร์เลยได้ไหม 5555 ขอคุณแม่ทุกปี แต่คุณแม่ก็ยังปฏิเสธ เมื่อปีที่แล้วเลยขอคุณแม่อีกครั้ง บอกท่านว่า “แม่จ๋า นี่เป็นโอกาสปีสุดท้ายแล้วนะคะ ถ้าหนูเรียนจบหนูคงไม่มีโอกาสได้ไปแล้ว ขอไปสักครั้งนะคะ” สุดท้ายท่านก็อนุญาต เย้ๆๆๆๆ ^^ สำเร็จ!!!

             หลังจากสมัครเข้าโครงการ พี่ก็ศึกษาดูว่า มีงานอะไรน่าทำบ้าง ไปที่ไหนดี ตอนนั้นเหลืองานว่างไม่กี่งานค่ะ เพราะสมัครประมาณปลายเดือนสิงหาคมซึ่งถือว่าค่อนข้างช้าแล้ว แต่คิดในใจว่า จะไม่เอาแมคโดนัลด์กับสวนสนุกแน่นอน คนทำเยอะมาก  อยากทำอะไรที่แตกต่างจากคนอื่น ที่สำคัญถ้าไปแล้วเจอแต่คนไทย อยู่กับคนไทย เราก็ไม่ค่อยได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษสิ เพราะมัวแต่พูดภาษาไทยใส่กัน นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนะที่ไม่ไปกับเพื่อนๆ เลือกที่จะไปคนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง แม้ว่าทักษะการพูดเราจะไม่ได้ดีมาก แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด...

              จากนั้น ก็ต้องเลือกว่าจะไปทำงานที่เมืองอะไร .... เคยลองหลับตาแล้วจินตนาการดู ถ้าพูดถึงเมืองที่อเมริกา ความคิดแว้บแรกที่เข้ามาคืออะไร? พี่เชื่อว่าส่วนใหญ่คงนึกถึง New York, Los Angeles, San Francisco, California, Washington DC, Florida พี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ เมืองใหญ่ๆ ใครๆ ก็อยากไป
ในที่สุด พี่ก็เลือกทำงานที่ The Statue of Liberty หรือเทพีเสรีภาพ ในนามของบริษัท Evelyn Hill Inc. ซึ่งได้ทำงานอยู่ตรงเทพีเสรีภาพค่ะ (ตรงฐานเทพีเสรีภาพเป็นพิพิธภัณฑ์นะคะ)
 
              ส่วนเรื่องที่พักนั้น  ถ้าเลือกทำงานที่ New York เค้าจะไม่มีที่พักให้ ต้องหาเอง พี่ก็โอเค ก็ลอง Search หา Location และเลือกห้องที่ถูกใจเรา หลังจากนั้นก็ติดต่อกับเจ้าของบ้านไปทาง E-mail ทุกสิ่งทุกอย่างพี่เป็นคนติดต่อเองทั้งหมด ตอนนั้นคุณแม่ยังไม่รู้เลยว่าพี่ไปอยู่ที่ไหน จริงๆ ไม่อยากให้ท่านกังวลอะไรมากมาย เพราะพี่เองก็โตแล้ว แต่ยังไงเค้าก็คิดว่าเราเป็น “เด็ก” อยู่วันยันค่ำ สรุปว่าพี่ได้ที่พักที่ Staten Island เป็นเกาะเล็กๆ เงียบๆ สบายๆ  มีเรือข้ามฟากบริการฟรีทั้งวันทั้งคืน

               ที่ทำงานของพี่อยู่ตรงเทพเสรีภาพ กลางแม่น้ำฮัดสัน ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด ตรงเทพีเสรีภาพนั้นคือแม่น้ำนะ ไม่ใช่ทะเล ถ้าได้เห็นของจริงจะรู้ว่าแม่น้ำนี่มันใหญ่จริงๆ (แต่ไม่รู้น้ำเค็มเปล่านะ ไม่เคยชิมแฮะ -_-“) วันแรกที่ไปทำงาน เรียกว่าวันปฐมนิเทศ  พี่ยังไม่รู้หรอกว่าเค้าจะให้เราไปทำอะไรระหว่าง Food Service, Gift Shop หรือ Tent ได้แต่ภาวนาขอให้เค้าเลือกเราไปทำ Gift shop (ร้านขายของที่ระลึก) สาธุๆๆ แล้วพี่ก็ได้จริงๆ ดีใจมากที่ได้ทำงานอย่างที่เราตั้งใจไว้ สัญญาเลยว่าจะทำงานอย่างตั้งใจและทำให้ดีที่สุด

 

 

 

      พอเริ่มทำงาน ช่วงแรกๆ เค้าจะให้เราทำหน้าที่หลักๆ คือเติมของที่ระลึก , แกะของออกจากลัง , นำของใส่ตู้เก็บของ , ดูแลความสะอาด และช่วยลูกค้าในด้านต่างๆ เช่น ลูกค้าถามทางไปร้านอาหาร , ห้องน้ำ , วิธีการส่งโปสการ์ด และให้ความช่วยเหลือในเรื่องของตู้จ่ายแสตมป์ .......

      พอทำไปเรื่อยๆ เค้าจะเริ่มให้เราไปทำที่ Fast Food ซึ่งอยู่ติดกับ Gift Shop หน้าที่หลักๆ คือ คอยต้อนรับลูกค้า แจกเมนู และเก็บเมนูเข้าที่เดิม .......

      และพอเริ่มเก่งขึ้นอีก เค้าจะทำให้เรามาทำแคชเชียร์ ซึ่งไม่ได้ง่ายเลย ช่วงแรกๆ จะมีปัญหาเรื่องของหน่วยเหรียญ ต้องเข้าใจนะว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มาอเมริกา เงินดอลลาร์ เหรียญต่างๆ เรายังไม่คุ้นเคย ใครจะรู้ว่าเหรียญ dime (10 cents) มันจะเล็กกว่าเหรียญ nickel (5 cents)  บางทีก็อาจจะมีทอนผิดถูกบ้างในช่วงต้นๆ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร  ปัญหาอีกอย่างคือ การอ่านตัวเลข อย่างเช่น 108.02 ตอนแรกอ่านว่า วัน-ฮัน-เดรด-แอนด์-เอ๊จ-ดอลลาร์-แอนด์-ทู-เซนต์ ดูมันจะยากและยาวเกินไป สุดท้ายลองฟังเพื่อนร่วมงานพูดว่าเค้าพูดยังไง เค้าพูดกันว่า วัน-ฮัน-เดรด-เอ๊จ-โอ-ทู ฟังแล้วง่ายขึ้นเยอะเลย

     พูดถึงเรื่องงาน ก็คงจะต้องพูดถึงเรื่องค่าจ้างด้วย พี่ได้  $8.5 / ชั่วโมง โดยที่ไม่โดนหัก Tax (หักเพียง 50 cents เป็น Tax ช่วยเหลือคนพิการ) และได้ทานอาหารฟรีด้วย แต่ไม่ทั้งหมดนะ อาหารบางอย่างได้ส่วนลด 40% และสามารถซื้อของที่ระลึกได้ส่วนลด 33%

           

             

 

 

      ส่วนเรื่องเพื่อนร่วมงาน ขอบอกว่าผู้จัดการใจดีมากๆ เพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติเฮฮา Friendly สุดๆ ส่วนมากเป็นพวกละตินอเมริกันเยอะ เลยทำให้ได้ภาษาสเปนเพิ่มมาด้วยนิดหน่อย

     โดยเฉพาะผู้จัดการเนี่ย อยู่ที่นั่นพี่เป็นเด็กไทยคนหนึ่งที่ผู้จัดการรักมาก เค้าชอบเรียกพี่ว่า Baby, Sweetie, Mommy แต่ที่ประทับใจที่สุดคือ เจ้านายใหญ่เรียกพี่ว่า Happy รู้สึกชอบชื่อนี้มากๆ เค้าชอบถามเราว่า ทำไมเราถึงดูมีความสุขได้ตลอดเวลา ยิ้มตลอดเลย 5555 เวลาเจอกับเข้านาย พี่ก็ชอบเข้าไปกอดเค้า รู้สึกว่าได้แสดงความรักและอบอุ่นดีค่ะ

      ผู้จัดการชอบชมเด็กไทยว่า เด็กไทยเป็นเด็กขยัน นอบน้อม ไม่ก้าวร้าว เค้าประทับใจมาก เค้าพาพี่ไปเที่ยวที่บ้านที่ New Jersey พาไปเที่ยว เดินห้าง Shopping จนถึงวันนี้ยังรู้สึกขอบคุณมากๆ  รักและคิดถึงผู้จัดการมากๆ ตอนที่พี่จะกลับไทย เค้าก็บอกว่าอย่ากลับได้มั้ย อยู่ที่นี่ต่อเถอะ มานอนที่บ้านก็ได้ เดี๋ยวทำอาหารให้ พี่อึ้งเลย มาทำงานแค่สองเดือนกว่า แต่รู้สึกสนิทและผูกพันกันมาก แอบรู้สึกซึ้งใจอะ  T_T ฮือๆๆ เศร้าอะ

              สุดท้ายก็อยากจะฝากน้องๆ ที่อยากไป Work&Travel ว่ามันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่สุดยอดมาก ได้ทั้งความสนุกและประสบการณ์ ได้เรียนรู้วิธีช่วยเหลือตัวเองโดยไม่มีพ่อแม่ ได้เรียนรู้การแก้ปัญหาและอะไรอีกมากมายเลยทีเดียวล่ะค่ะ ^^

 

               โอ๊ยยย สวยยยยอะ ชอบจัง 55555 รูปก็งาม นามก็เพราะ หน้าเหมือนดาราซักคนแต่นึกชื่อไม่ออกแฮะ (น้องๆ ช่วยนึกหน่อยสิ) เห็นมั้ยคะว่าผู้หญิงสมัยนี้ ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ต้องเก่งและกล้าแบบนี้ด้วย !! ดังนั้น ใครที่กำลังคิดจะ Work&Travel ก็ไม่ต้องกลัวนะคะ ! ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากจะแบ่งปันเพื่อนๆ ก็ส่งมาให้ พี่เป้ ได้ที่ pay@dek-d.com เหมือนเดิมเลยค่ะ แล้วเจอกันแน่นอน อิอิ

 

เด็กดีดอทคอม :: 3 ประเทศที่มีสงกรานต์เหมือนเมืองไทย; tags: holi, tomatina, สี, อินเดีย, โปแลนด์, สเปน, เทศกาล, ประเพณี, สงกรานต์

หากต้องการนำบทความไปเผยแพร่ยังเว็บไซต์อื่นกรุณาอ้างอิงถึงแหล่งที่มา
หรือหากต้องการนำไปใช้อย่างเป็นทางการ กรุณาติดต่อทีมงานเจ้าของบทความ

 

    

        

 

 ลองนึกภาพตัวเอง ...
ที่พูด "ภาษานอร์เวย์" ไม่ได้ซักคำ

แต่ต้องไปเรียนและอยู่ที่นั่น ... อย่างถาวร !!

 

Available on Dek-D.com
Study Abroad Column
Thursday 7 Oct 2010


 

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ตั๊ก 30 ก.ย. 53 21:21 น. 19
หน้าคล้ายๆ ตาลอ่ะ ที่เล่นหนังเรื่องใครอยู่ในห้องอ่ะ
แต่เก่งมากเลยอ่ะ อยากมีประสบการณ์แบบนี้บ้างอ่ะ แต่ภาษาไม่ได้เลยอ่ะ T_T
0
กำลังโหลด

62 ความคิดเห็น

Is_Mean Member 30 ก.ย. 53 11:46 น. 1

พี่สวยจัง 555
แต่สุดยอด เป็นมีน มีนคงไม่กล้าไป แค่โทรไปถามข้อมูลยังไม่กล้าเลย 555
และยิ่งหาทีพักเอง บลาๆ ไม่กล้าอ่ะ (รู้สึกว่าอยู่ๆ ก็มียางอาย กลายเป็นคนขี้อาย 55)
อยากไปมั่งจัง เดี๋ยวรอมีนอยู่มหาลัยก่อนนะค่ะ (หรือจะไปโครงการอื่นในระดับมัธยมดี)
พูดเหมือนสอบได้! อิจฮาที่มีผู้จัดการดีจัง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
มูนไนท์ ค่ำคืนเเห่งดวงจันทร์ Member 30 ก.ย. 53 12:16 น. 3
ใช่คนที่ชื่อมิ้นท์ เพชรา วงศ์วาสนาหรือเปล่า

เเต่อยากไปมั่งจัง ชอบอ่านคอลัมน์ประสบการณ์เด็กนอกมากๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
mickeykung Member 30 ก.ย. 53 15:04 น. 8
ชอบบทความ Work and Travel มากเลยครับพี่เป้
เพราะนานๆมีที
อยากให้มีเยอะๆ
อ่านเเต่เรื่องนักเรียนเเลกเปลี่ยนเยอะเเล้ว
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
marially_sj Member 30 ก.ย. 53 16:19 น. 10
 -0- อยากไปบ้างจัง
เเต่อายุยังน้อยเกิ๊นน !
55555 คิดว่ายังไงซักวันนึงจะต้องไปให้ได้เลยล่ะ
ไปทั้งได้ทำงาน ทั้งได้ภาษาด้วยอ่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ม่านเมฆา Member 30 ก.ย. 53 17:07 น. 12

สวยและเก่งมากสุดยอดเลยค่ะ

เคยอยากไปเหมือนกัน แต่ก็หมดโอกาสแล้วค่ะ

ไว้รอต่อโทคงจะได้ไป

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
๑๐ :) piesqyy Member 30 ก.ย. 53 20:24 น. 15
 Bath & Bodywork!!!!!
อยากบอกว่าเราปลื้มเครื่องสำอางค์ที่นี่มากๆ
มีกลิ่น Twilight ด้วย >< แต่ใช้ยังไม่หมด
อยากไปอีกเหมือนกัน ~ I LOVE USA
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
❉luscioυs Member 30 ก.ย. 53 21:08 น. 18
คิดอยู่เหมือนกันเลยค่ะ ว่าพี่เขาหน้าตาเหมือนดาราสักคน
แต่นึกชื่อไม่ออก = ="
พี่เค้าทั้งสวย ทั้งกล้าจริง ๆ นับถือ ๆ

อยากเก่งเหมือนพี่เขาจัง อยากไปเมืองนอกแบบนี้มั่ง! 555
แต่พ่อแม่ไม่ให้ไปแน่ ๆ อย่างว่า เขายังคิดว่าเราเป็น "เด็ก" อยู่ดี

0
กำลังโหลด
ตั๊ก 30 ก.ย. 53 21:21 น. 19
หน้าคล้ายๆ ตาลอ่ะ ที่เล่นหนังเรื่องใครอยู่ในห้องอ่ะ
แต่เก่งมากเลยอ่ะ อยากมีประสบการณ์แบบนี้บ้างอ่ะ แต่ภาษาไม่ได้เลยอ่ะ T_T
0
กำลังโหลด
harharha Member 30 ก.ย. 53 21:52 น. 20

เอาไว้โตก่อน ขอเก็บความรู้ที่ไทยไปก่อน
แล้วถึงเวลาที่เราพร้อมเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะอะไรก็ต้องไปให้ได้

ปล. พี่กุ้งโคตรสวยอ่ะ *-* ชอบบบบ บ~ 5555+

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด