"เม็กซิโก" ประเทศนี้ โรงเรียนหยุดบ่อย เพราะครูไปประท้วง !

          สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... วี๊ดวิ้ววว ตอนนี้ทั้ง AFS และ YFU ก็ทยอยประกาศผลกันหมดแล้ว น้องๆ หลายคนไม่ว่าจะทั้งตัวจริงหรือตัวสำรองต่างก็ดูตื่นเต้นกันมากๆ เลยเนาะ ^^ พี่เป้ ขอเอาใจช่วยเต็มที ตื่นเต้นประดุจได้ไปเองทีเดียว ฮ่าๆๆ ... สำหรับประสบการณ์เด็กนอกวันนี้ ขอบอกว่าเด็ดทั้งประเทศและเจ้าของเรื่องเลยค่ะ เพราะเป็นเรื่องราวจาก "เม็กซิโก" ที่น้องเจ้าของเรื่องเค้าเพิ่งเดินทางกลับมาถึงไทยได้หมาดๆ และพร้อมแล้วที่จะเล่าให้ชาว Dek-D.com ฟัง !

          สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน ผมชื่อ "อาสาฬห์ เกษตรสุนทร" ชื่อเล่นชื่อ "ป๊อป" นะครับ ตอนนี้เรียนชั้นม.6 โรงเรียนชลราษฎรอำรุง จังหวัดชลบุรี เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ YFU ทุนเต็มจำนวนไปประเทศเม็กซิโกครับ

          ตอนแรกต้องขออธิบายก่อนนะครับว่า ทางโครงการจะมีทุนให้ทุกๆ ปี แต่ละปีก็มีประเทศให้เลือกสอบไม่เหมือนกัน การสอบแข่งขันก็ตั้งแต่ระดับตัวแทนโรงเรียน ตัวแทนเขตพื้นที่การศึกษา ตัวแทนจังหวัด และคัดเลือกรอบประเทศ โดยจะสอบข้อสอบภาษาอังกฤษและสอบสัมภาษณ์ครับ ซึ่งถือว่าค่อนข้างโหดพอสมควรเพราะเขาต้องการวัดความสามารถในการตอบคำถาม ส่วนคำถามก็จะเป็นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตเอาตัวรอดในต่างประเทศ การเผยแพร่วัฒนธรรม การทำหน้าที่นักเรียนแลกเปลี่ยน สุดท้ายก็สอบได้มาครับ คนเดียวเลยครับที่ไปเม็กซิโก ก็ดำเนินการขอวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน ปรากฏว่ามีปัญหาเรื่องวีซ่าของอเมริกา ได้ยากมาก จากเดิมที่จะต้องบินกรุงเทพ-ฮ่องกง-ลอสแองเจลิส เลยต้องเปลี่ยนเป็นกรุงทพ-ปารีส-เม็กซิโกแทน (ก็เพิ่งเคยรู้ว่าไปทางนี้ได้ด้วย) ก็ดำเนินวีซ่ามาเรื่อยๆ ไม่ได้สักที ปัญหาเยอะมากครับ สุดท้ายก็ได้วันสุดท้ายก่อนเดินทาง แล้วก็ออกเดินทางครับ

          ประเทศเม็กซิโกตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ (อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอเมริกาใต้นะครับ) มีขนาดใหญ่ประมาณ 4 เท่าของประเทศไทย แบ่งการปกครองออกเป็นรัฐ 31 รัฐ เวลาห่างจากประเทศไทย 12 ชั่วโมงครับ ใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ(อย่านึกว่าใช้ภาษาเม็กซิกันนะครับ) แต่ก็มีภาษาท้องถิ่น 62 ภาษาทีเดียว !!

          เมืองที่ผมอยู่ชื่อเมือง Ciudad Ixtepec (อ่านว่า ซิวดาด อิซเตเปก) รัฐ Oaxaca (วาฮาก้า) อยู่ทางตอนใต้ของประเทศครับ เป็นรัฐที่อยู่ในหุบเขา ทะเลสวย ร้อนด้วยครับ และเป็นรัฐนึงที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมืองที่ผมอยู่เป็นชนบทเล็กๆ ชาวบ้านยังใส่ชุดพื้นบ้านเดินตลาด กินอาหารเม็กซิกันที่ทำจากเตาถ่าน คนส่วนใหญ่ก็ทำอาชีพทำไร่ทำสวนครับ

           โรงเรียนที่ผมเรียนชื่อโรงเรียน CBTis91 เป็นคล้ายๆ โรงเรียนอาชีวะ มีสายบัญชี สายคอมพิวเตอร์ สายแล็บและสายไฟฟ้า ผมเลือกเรียนสายคอมพิวเตอร์ครับ มาถึงวันแรก เพื่อนๆ ในห้องก็ให้ความสนใจกันมาก พาแนะนำโรงเรียน เลี้ยงข้าวด้วยครับ หุหุ ผมก็ตกใจ เอ๊ะ หวังอะไรจากเรารึเปล่า 5555 แต่เขาก็เป็นแบบนี้ทุกคน ในทุกๆ วัน จะมีเพื่อนๆ เดินมาเวียนคุยทีละคน ไม่เกิน 2-3 เดือนผมก็สนิทกับเพื่อนทั้งห้อง  แต่โรงเรียนนี้มีที่แปลกอย่างนึงครับคือ ร.ร.หยุดบ่อยมากๆๆๆ เพราะครูไปประท้วง !!! ฟังไม่ผิดหรอกครับ ที่นี่ทุกๆ เดือนครูจะเดินทางเข้าเมืองหลวงของรัฐเพื่อประท้วงขอขึ้นเงินเดือน บางทีก็ไปเช้าเย็นกลับ บางทีก็สองวัน บางทีประท้วงกันเป็นอาทิตย์ๆ เลยครับ ผมเลยไม่ค่อยได้ไปโรงเรียน น่าสงสารเด็กที่นั่นมากครับ ต้องอ่านหนังสืออยู่กับบ้าน เพราะโรงเรียนปิด เหอๆๆ      

          สำหรับโฮสท์แฟมิลี่ ครอบครัวของผมมีคุณพ่อเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงแพะ คุณแม่เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีของสำนักงานการไฟฟ้า และน้องชายอายุ 17 ครับ และหลังบ้านยังมีบ้านของคุณปู่คุณย่าด้วย เป็นครอบครัวที่น่ารักมากๆ และยังมีน้า พี่น้องของแม่ ตายายที่อยู่เมืองเดียวกัน ก็สนิทกันมากครับ ตอนแรกก็คิดว่าทุกอย่างน่าเรียบรื่นดี แต่ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ  มีอยู่วันนึง โฮสท์แม่ทำแกงเนื้อเอาไว้ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยทานเนื้ออยู่แล้ว ไม่ได้นับถือเทพเจ้าอะไรหรอกนะครับ แค่ไม่ชอบกลิ่น แล้ววันนั้นกลิ่นเนื้อมันแรงมากๆๆ ก็เลยกินไปนิดเดียว พอแม่กลับบ้านมา เขาก็ถามผมว่ากินข้าวรึยัง ผมบอกว่ากินแล้ว เขาก็ตะโกนใส่หน้าว่า เด็กขี้โกง ทำไมอาหารยังเต็มหม้ออยู่เลย เราก็บอกว่ากินแล้วจริงๆ แต่กินไม่เยอะ เขาก็ไม่เชื่อแล้วก็เข้าห้องปิดประตูใส่หน้าไปเลย  ผมก็เข้าห้องนอนร้องไห้เลย หลังจากวันนั้นเลยต้องเปิดใจคุยกับเขา ว่าเราอะไม่ได้รังเกียจอาหารเขานะ แค่ไม่กินเนื้อ กินน่ะกินได้ แต่ไม่มาก เขาก็เลยเข้าใจ

          และด้วยความที่เมืองผมเป็นเมืองชนบท กิจกรรมที่มีเลยแตกต่างไปจากที่อื่นครับ ทุกเมืองในเม็กซิโกจะมี Casa de cultura แปลตรงๆ ตัวก็คือบ้านวัฒนธรรมครับ จะเป็นบ้านหลังใหญ่ๆ มีครูที่รัฐบาลจ้างมาเพื่อมาสอนเต้นรำ สอนวาดรูป สอนดนตรี ถักเปล ปักผ้า เป็นการทำกิจกรรมยามว่างหลังเลิกเรียนครับ เพราะฉะนั้นเย็นๆ เราจะไม่ค่อยเห็นเด็กมาจับกลุ่มมั่วสุมกันตามมุมเมืองแน่นอน เพราะเด็กจะเอาเวลาเรียนไปอะไรพวกนี้ครับ

          มาถึงเรื่องอาหารกันบ้างครับ ของชอบผมเลย คนที่นี่จะกินแป้งบางๆ ทำจากข้าวโพดคล้ายแป้งโรตี เรียกว่าตอร์ติญ่าครับ ในอาหารเม็กซิกันหลักๆ เลยก็จะมีแป้งตอร์ติญ่า ชีส ถั่วดำบด ซอสพริกและเนื้อสัตว์ครับ แต่วิธีปรุงก็จะแตกต่างกันไปตามเมืองและรัฐ แต่ทีชอบที่สุดเห็นจะเป็น Taco (ทาร์โก้) เป็นแป้งตอร์ติญ่าห่อด้วยเนื้อสัตว์ แล้วราดซอสพริกบีบมะนาวห่อแล้วเอาเข้าปากเลยครับ ยิ่งกว่านั้น แถวบ้านผมเขายังกินอิกัวน่าด้วยครับ ตัวใหญ่ๆ กินกันเป็นเรื่องปกติเลย เอาไปยำบ้าง ทำซุปบ้าง ทั้งหนังทั้งเท้าใส่ไปหมดเลย ผมโดนหลอกกินครั้งนึงลืมไม่ลงเลย

          ส่วนเรื่องเที่ยวนั้น ผมเป็นคนนึงที่ได้ไปเที่ยวบ่อยมากๆ ครับ ทั้งทะเล ภูเขา แม่น้ำ และโบราณสถาน แต่ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือ Chichen Itza ที่ได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก่อนที่จะได้ไปก็ตื่นเต้นมากครับ แต่ดูคนที่นี่กลับดูเฉยๆ มาก ไม่ค่อยภูมิใจกันสักเท่าไหร่ (หรือชินแล้ว) 5555 ซึ่งโบราณสถานของอาณาจักรโบราณเหล่านี้ จะตั้งอยู่ตั้งแต่ตอนกลางของประเทศไปถึงตอนใต้ เรียกได้ว่ามีโบราณสถานที่เป็นพีระมิดเกือบครึ่งประเทศเลยทีเดียว แต่ละที่ก็มีจุดเด่นและความแตกต่างกันออกไปตามอาณาจักร อย่าง Chichen Itza นั้นเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรมายา ตัวพีระมิดที่เราเห็นนั้นเป็นปราสาทของพระราชาประกอบด้วยบันได 365 ขั้น ทุกๆ เดือนก.ค.จะมีปรากฎการณ์ที่เงาพระอาทิตย์ส่องมากระทบเหลี่ยมพีระมิด ทำให้เกิดเงาเป็นตัวงูเลื้อยลงมาซึ่งเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก

          สำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรโบราณๆ ก็อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ เพราะว่าในเม็กซิโกมีเมืองใหญ่หลายเมืองที่น่าท่องเที่ยว เพราะอาคารบ้านเรือนนั้นเขาตกแต่งสไตล์สเปน เดินแล้วให้อารมณ์เหมือนไปสเปนยังไงยังงั้น มีอยู่ครั้งนึงผมเคยไปทริป YFU กับเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนที่เมืองนึงที่ทั้งเมืองตึกรามบ้านช่องตกแต่งเป็นสไตล์สเปนสวยมากๆ พวกเราก็ตื่นเต้นชมความงามกันอยู่ที่นั่นหนึ่งคืน แต่เมื่อพวกเราตื่นมาตอนเช้า ก็ต้องย้ายโรงแรม เพราะว่าเมื่อคืนมีคนฆ่ากันตายแล้วเอาศพมาแขวนไว้ที่ตึกอาคารใกล้ๆ กับโรงแรม!! พวกเราก็ทั้งตกใจ กลัว และเสียดายมากครับ เพราะที่เม็กซิโกนั้น บางส่วนเป็นเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อนที่ค้ายาส่งยาข้ามประเทศ แล้วเกิดฆาตกรรม อาชญากรรมไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงครับ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะเรื่องที่เกิดเหล่านั้นมีเฉพาะในแถบภาคเหนือ(ส่วนที่ติดกับอเมริกา)ซะส่วนมาก เค้าว่ากันว่าบางเมืองวันนึงตายเป็นสิบๆ ศพก็มี เหอๆๆๆ ประเภทฆ่าตัดหัวมาแขวน มาวางตามถนนก็มี แต่ยังไงก็ตาม ในเม็กซิโกยังมีเมืองหลายเมืองที่สงบและสวยงามมากครับ เพราะปีนึงมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปจากอเมริกาเยอะมากๆ

           ผมรู้สึกโชคดีมากๆ ครับที่ได้รับโอกาสไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้ผมรู้จักโตขึ้น ดูแลตัวเองได้มากขึ้น ทำให้โลกของผมเปิดกว้าง ทำให้รู้ว่าอีกฝั่งนึงของโลกเขาทำอะไรกันบ้าง และที่สำคัญที่สุด ทำให้ผมได้เรียนรู้การใช้ชีวิตการปรับตัวอยู่ผู้อื่น การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ อาจจะแปลกบ้าง เราชอบบ้างไม่ชอบบ้าง แต่วัฒนธรรมทั่วโลกไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูก มีแต่คำว่าแตกต่างครับ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่เป้ที่ให้โอกาสผมมาแชร์ประสบการณ์ดีๆกับเพื่อนๆ เด็กดี สำหรับเพื่อนๆ น้องๆ คนไหนสนใจอยากจะคุยไม่ว่าจะเป็นเรื่องประเทศเม็กซิโก หรือเกี่ยวกับน.ร.แลกเปลี่ยนก็แอดเฟสบุคกันมาได้ครับที่ arsan kasetsoontorn ผมมีรูปภาพสวยๆ อีกเยอะแยะเลยครับ

           ก่อนอื่นขอบอกเลยว่า ชื่อจริงน้องป๊อปเท่มากๆๆๆ (เจ้าตัวเกิดวันอาสาฬหบูชาซะด้วย) แถมยังเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ อีกต่างหาก พี่เป้ ชอบสุดก็ตรงที่คนในเมืองยังใส่ชุดพื้นบ้าน ดูอนุรักษ์วัฒนธรรมเม็กซิกันดีมากๆ เลยค่ะ ^^ ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกมันส์ๆ อยากแบ่งปันเพื่อนๆ ก็ส่งมาได้เหมือนเดิมที่ pay@dek-d.com ส่งมาเยอะๆ เลยนะ ไม่ต้องเขิน 5555