รู้หรือยัง! 4 หนทางหาข้อมูลเรียนต่อนอกด้วยตนเอง

 

 
 

        สวัสดีค่ะน้องๆชาว Dek-D.com พบกันอีกแล้วกับ พี่สตางค์ อีกเช่นเคย ^0^  วันนี้พี่มีข้อแนะนำดีๆสำหรับใครที่กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศอยู่ เช่น อยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่เราสนใจอยู่ หรืออยากจะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคณะที่เราต้องการจะศึกษาต่อ รวมถึงรายละเอียดขั้นตอนการสมัครต่างๆ ทั้งหมดทั้งมวล... วันนี้พี่ก็มี 4 หนทางดีๆในการหาข้อมูลเหล่านี้ด้วยตนเองมาฝากน้องๆกันค่ะ 

 

        สอบถามจากคนรู้จัก

        น้องๆอาจจะสอบถามจาก อาจารย์ที่คณะ รุ่นพี่ที่รู้จัก ญาติๆ หรืออาจจะเป็น ลูกของเพื่อนพ่อ หรือ เพื่อนของลูกของเพื่อนของแม่...เอ่อ...ชักจะเริ่มยาว และเริ่มงง 555+ เอาเป็นว่าใครก็ตามที่เขามีประสบการณ์ไปเรียนต่อในต่างประเทศน่ะค่ะ เดินรี่เข้าไปหาเขา แล้วรวบรวมความกล้ายื่นนิ้วออกไปสะกิดถามเลย! ยิ่งคนคนนั้นมีความใกล้ชิดกับสาขาวิชาและประเทศที่เราอยากจะไปเรียนเท่าไหร่ยิ่งดี เช่นอาจารย์ในคณะที่จบมาจากประเทศที่เราสนใจ หรือ รุ่นพี่ที่กำลังเรียนต่ออยู่ในประเทศที่เรากำลังอยากจะไป ยิ่งเรียนในคณะ หรือมหาวิทยาลัยที่เราใฝ่ฝันจะไปเรียนได้ยิ่งดี เพราะจะทำให้เราได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อเรามากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 


        แต่ขอบอกก่อนว่า การหาขัอมูลด้วยวิธีนี้นั้น ข้อมูลที่เราได้ส่วนมากมักจะเป็นข้อมูลกว้างๆหรือคร่าวๆ เช่น ถามอาจารย์ที่คณะว่าถ้าอยากเรียนต่อด้านการตลาดในประเทศอังกฤษ จะมีมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่มีชื่อเสียงในด้านนี้ หรือถามรุ่นพี่ว่าระบบการศึกษาในประเทศนั้นที่เราสนใจมันเป็นประมาณไหน หลักสูตรโดยทั่วไปกี่ปี ตอนพี่สมัครเรียนอย่างไร เป็นต้น แต่ก็จะไม่ได้รายละเอียดที่ลงลึก แล้วก็อาจจะไม่อัพเดตมากนัก แต่การสอบถามคนรู้จักนั้นจะมีประโยชน์มากในกรณีที่ถามเกี่ยวกับประสบการณ์โดยตรงของคนผู้นั้น เช่น ตอนที่เรียนมีปัญหาอะไรบ้าง หรือเราควรเตรียมตัวเตรียมพร้อมในการเรียนและการใช้ชีวิตในต่างแดนอย่างไร เพราะแน่นอนว่าเขาเหล่านั้นย่อมจะต้องผ่านร้อนหนาว (และหิมะ ในบางที...) มาก่อนเรา เราก็สามารถที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของเขามาไว้เป็นข้อมูลของเราได้

 

        ค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต

       เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด และได้ข้อมูลมากมายก่ายกอง (จนบางครั้งถึงกับเกินความต้องการ 555+) อยากจะรู้อะไรก็เสิร์ชเอาเลยจ้า ใครคิดอะไรไม่ออกก็อาจจะเริ่มต้นจากอันดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงก็ได้ โดยใช้คำว่า "University Ranking" (หมายถึงการจัดอันดับมหาวิทยาลัย) แล้วก็ใส่ชื่อคณะที่เราต้องการจะไปเรียนด้วย จะได้เป็นการจัดอันดับในสาขาวิชาของเรา เช่น ถ้าอยากจะเรียนต่อด้านกฎหมาย ก็ลองหาจากคำว่า Law universtiy ranking แบบนี้เป็นต้น 


       สำหรับใครที่มีชื่อมหาวิทยาลัยอยู่ในใจแล้ว (อาจจะได้มาจากการถามคนรู้จัก หรือค้นหาในอินเตอร์เน็ตจากการจัดอันดับเหมือนที่พี่บอกเมื่อกี้) การหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่เราจะเรียนรวมถึงข้อมูลของมหาวิทยาลัยนั้น ก็ยิ่งทำได้ง่าย โดยการเสิร์ชหาจากชื่อมหาวิทยาลัยนั้นๆเลย แล้วตามหาเว็บอย่างเป็นทางการของที่นั่น (Official Website) สาเหตุที่พี่อยากให้น้องๆหาข้อมูลจากเว็บ official หรือเว็บที่ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้สร้างเองมากกว่านั้น ก็เพื่อที่เราจะได้ข้อมูลที่แท้จริงถึงรายละเอียด รวมถึงเป็นข้อมูลที่มีการอัพเดตโดยตรงจากมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีความน่าเชื่อถือกว่านั่นเองค่ะ เช่นบางที ในเว็บหนึ่งบอกว่าวิชาที่เราต้องการจะเรียนเปิดสอนในมหาวิทยาลัย A แต่เอาเข้าจริงปีนี้มหาวิทยาลัย A อาจจะไม่เปิดสอนวิชาที่เราต้องการเพราะมีเหตุขัดข้องบางประการ เป็นต้น ฉะนั้นดูจากเว็บที่น่าเชื่อถือจะดีที่สุดนะคะ

 

        ติดต่อกับมหาวิทยาลัยโดยตรง

        อันนี้จริงๆแล้วต้องบอกก่อนว่าแอบโยงใยมาจากข้อเมื่อกี๊ คือเมื่อเราหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วเกิดคำถาม รู้สึกค้างคาอยากจะรู้ข้อมูลที่บางครั้งในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเขาไม่ได้บอกเอาไว้ หรือเขาบอกเอาไว้แต่เราอ่านแล้วไม่เข้าใจ เราก็สามารถที่จะติดต่อถามเอากับเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยโดยตรงได้เลยค่ะ โดยน้องๆสามารถหาเบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมลล์ของเจ้าหน้าที่ได้ตามเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนั่นเองค่ะ อาจจะอยู่ในหัวข้อ Contact University หรือ Contact us (ส่วนมากจะอยู่ล่างๆของหน้าเว็บ) ใครที่อยากจะโทรศัพท์ไป Speak กับเค้า อย่าลืมกดรหัสประเทศให้ถูกต้องนะจ๊ะ แต่ใครไม่กล้าคุยโดยตรง ก็ส่งอีเมลล์ไปซักเค้าละกันเนอะ แต่จะบอกว่าเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใจดี ไม่กัด ไม่ข่วน ไม่ต้องกลัวกันไปนะ ^_^


        อ้อ! ถ้าไหนๆจะโทรศัพท์หรืออีเมลล์ไปหาทางมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว เราสามารถขอให้เค้าส่งข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ข้อมูลคณะที่เราจะเรียน รายละเอียดหอพัก หรือข้อมูลที่เราสนใจต่างๆ  มาให้กับเราโดยตรงได้เลยนะคะ บางที่ก็จะส่งเป็นอีเมลล์มาให้กับเรา หรือบางที่ก็ใจดีส่งข้อมูลผ่านไปรษณีย์มาให้เราเป็นเล่มๆเลย เพราะยังไงเราก็เหมือนกับเป็นลูกค้าของเขาคนหนึ่ง มหาวิทยาลัยทั้งหลายก็ย่อมอยากจะมีนักเรียนไปสมัครเรียนสถาบันเค้าเยอะๆ รวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยก็ถือเป็นการโปรโมทมหาวิทยาลัยเค้าด้วย เพราะฉะนั้นเราสามารถขอให้เขาส่งมาให้ได้เลยค่ะ เต็มที่! ไม่เสียตังค์!

 

        ติดต่อผ่านเอเจนซี่

        ตัวเลือกสุดท้าย สำหรับใครที่ไม่กล้าติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยเอง แต่ก็อยากจะถามใครซักคน คนที่รักกันจริงและจะไม่ทิ้งกันไป...เย้ยย! ไม่ใช่่! ถ้าอยากจะถามรายละเอียดกับผู้รู้ลึกรู้จริง หรือไม่ก็อยากจะได้ใครที่จะมาเป็นผู้แทนในการไปซักถามกับทางมหาวิทยาลัยให้เราแล้วล่ะก็ ลองหาเอเจนซี่ หรือ ตัวแทน/ผู้แทน ที่ดูแลรับปรึกษาแนะแนวด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งเอเจนซี่เหล่านี้มีให้เราได้เลือกใช้บริการเยอะมากๆ เดินหน้าลุยเข้าไปหาเขาเลย!
        การติดต่อผ่านเอเจนซี่นี้ก็เป็นอีกวิธีที่สะดวก อยากรู้อะไรก็ซักถามเขาเลยเต็มที่ โดยทางเอเจนซี่ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้คำปรึกษากับเรา และเผลอๆเรายังอาจจะได้พบกับเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยนั้นๆแบบตัวเป็นๆเลยด้วย เพราะบางเอเจนซี่อาจจะมีการจัดงานมีตติ้งหรือจัดการดูแลให้เราได้พบปะกับตัวแทนจากมหาวิทยาลัย ที่เดินทางบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาพบเรา ซึ่งเราก็จะได้มีโอกาสซักถามพูดคุยทุกอย่างที่เราอยากรู้ได้ซึ่งๆหน้ากันไปเลย แล้วเมื่อเราตัดสินใจได้ว่าจะสมัครเรียนกับที่ไหน เอเจนซี่ก็จะเป็นผู้ช่วยตรวจเอกสารและส่งเอกสารในการสมัครเหล่านั้นให้กับเราด้วย สะดวกมากๆ


          แต่การติดต่อกับเอเจนซี่นั้น น้องบางคนอาจจะกลัวโดนเอเจนซี่หลอก กลัวเจอเอเจนซี่ที่ไม่ดี ใครอยากจะรู้ถึงวิธีเลือกเอเจนซี่ที่น่าไว้วางใจ ก็สามารถตามอ่านได้ที่นี่เลยจ้า >>>  สืบเอเจนซี่ป้องกันกลโกง!


 

        ใครที่กำลังมองหาข้อมูลเรียนต่อ ตอนนี้คงจะพอมองเห็นหนทางที่จะสามารถหาข้อมูลรายละเอียดที่เราต้องการได้ด้วยตนเองแล้วเนอะ แต่ถ้าใครจะถามพี่ว่า วิธีทางไหนที่ดีที่สุด พี่สตางค์ ก็ขอตอบเลยว่า "ทุกวิธีมารวมกัน" เพราะถ้าเป็นพี่ล่ะก็ จะถามประสบการณ์จากคนรู้จักด้วย เปิดอินเตอร์เน็ตด้วย อีเมลล์หาเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยด้วย (ไม่กล้าโทรไปสปีคกับเค้าหรอกนะ แต่อยากให้เขาส่งข้อมูลมาให้ที่บ้าน...แบบว่า งก...) และสุดท้ายก็ติดต่อเอเจนซี่ (ให้เอเจนซี่ส่งใบสมัคร และหาหอพักให้ด้วย...แบบว่า ขี้เกียจ)  555+

        แต่จริงๆแล้ว ยิ่งเราหาข้อมูลเรียนต่อ และจัดการเรื่องต่างๆด้วยตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะเป็นการฝึกดูแลตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เพราะเมื่อเราไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วจริงๆ ถึงตอนนั้นเราก็จะต้องดูแลและช่วยเหลือตัวเองอย่างแท้จริง ฝึกเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้ พอไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนคนเดียวจริงๆจะได้คล่องๆ...เนอะ ^_^

 

 


ภาพประกอบ: le.ac.uk, stanford.edu

 



 

 

พี่สตางค์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

12 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Salary-Man Member 5 เม.ย. 55 13:57 น. 9
TOP 5 อาชีพ เงินเดือนสูงสุด สำหรับเด็กจบใหม่ ปี 2554

www.dek-d.com/board/view.php?id=2427748


ข้อมูลเงินเดือนทุกอาชีพ ปี 2555

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2386936


อย่าพลาดชม และตัดสินใจเลือกเรียนคณะที่ใช่สาขาที่มีความก้าวหน้าสูงนะครับ



0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
จิรประภา 25 ส.ค. 57 08:52 น. 12
อยากทราบวิธีการติดต่อทางมหาลัยโดยตรงที่ไม่ผ่านโครงการใดๆเลย ตอนนี้อยู่ม.5 เทอม 2 จบม.6 จะเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ (ตอนนี้ยุ lincoln NZ) เลยอยากทราบว่าต้องทำยังไงบ้าง สอบอะไรมั้ย จะมาต่อปริญญาตรี-โท หากจะทำงานพิเศษด้วยต้องทำเรื่องอะไรบ้าง รบกวนด้วยนะคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด