สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เจอกับ พี่เป้ และวัฒนธรรมต่างประเทศสนุกๆ จากทั่วโลกเช่นเคย ^^ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นหนึ่งที่เว็บไซต์ต่างประเทศหลายเว็บพร้อมใจกันนำเสนอ นั่นก็คือเรื่องของ "World's poorest president" หรือประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก!!!!!! คือถ้าพูดถึงภาพลักษณ์ของนักการเมืองหรือผู้นำประเทศ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า "ความรวยและหรูหรา" เป็นสิ่งที่เรานึกถึงเป็นอันดับแรกๆ แต่ประธานาธิบดีท่านนี้กลับใช้ชีวิตแบบคนจน! เพราะฉะนั้นวันนี้ พี่เป้ ขอพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกับท่านโคเซ่ มูคิก้า [José Mujica] ซึ่งเป็นประธานาธิบดีของประเทศอุรุกวัยค่ะ
##สีของหัวสไลด์
1=ส้ม
2=ฟ้า
3=ชมพู
4=ม่วง
5=ฟ้า
6=เขียว##
ใส่สีเลขสีที่นี่หลังเครื่องหมายดอกจันทร์ห้ามมีเว้นวรรคนะ-> *2
World's poorest president
โคเซ่ มูคิก้า [José Mujica] เป็นประธานาธิบดีของประเทศอุรุกวัย ซึ่งตั้งอยู่ใน
ทวีปอเมริกาใต้ เขาเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม
1935 ปัจจุบันอายุได้ 77 ปี
โดยแม่ของเขาเป็นชาวอิตาเลียนที่อพยพมาอยู่ที่อุรุกวัยและมีฐานะยากจนมาก
ส่วนพ่อของเขา
ประกอบอาชีพเป็นชาวนา ต่อมาได้ล้มละลายและเสียชีวิตลง
เมื่อโคเซ่ มูคิก้า อายุได้เพียง 5 ขวบ
เขาเริ่มเข้าสู่วงการการเมืองในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 โดยได้เข้าร่วมในการเคลื่อนไหว
ของกลุ่มทหารคอมมิวนิสต์ที่ชื่อว่า
Tupamaros ต่อมาเขาถูกจับและติดคุกแต่หนีออก
จากคุกมาได้แต่ก็ถูกจับอีก สุดท้ายแล้วเขาติดคุกรวมเป็นเวลา 14 ปีและเป็น
อิสระในปี
1985 เมื่ออุรุกวัยล้มเลิกระบอบคอมมิวนิสต์และกลับเป็นประชาธิปไตย
ในปี 1999 เขาได้รับเลือกให้เป็นวุฒิสมาชิกในวุฒิสภา ต่อมาในปี 2005 ได้เป็นรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงปศุสัตว์ เกษตรกรรม
และการประมงเนื่องจากในอดีตครอบครัวเขาเป็น
เกษตรกรนั่นเอง และต่อมาในปี 2010 ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของประเทศ
อุรุกวัย
สำหรับชีวิตส่วนตัว ในปี 2005 เขาได้แต่งงานกับภรรยาซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกของวุฒิสภา
ทั้งสองใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสมถะ
และไม่มีลูกกับสุนัขพิการ 3 ขา พวกเขาอาศัยอยู่นอก
เมืองหลวง โดยประกอบอาชีพเสริมด้วยการปลูกสวนดอกไม้ ซึ่งจริงๆ แล้ว
ตำแหน่ง
ประธานาธิบดีของประเทศจะได้บ้านหลังใหญ่แสนหรูหราประจำตำแหน่ง แต่เขาเลี่ยงที่จะ
รับบ้านหลังใหญ่ไว้และเลือก
มาใช้ชีวิตที่นอกเมืองแทน อย่างไรก็ตาม ที่หน้าบ้านของเขา
จะมีตำรวจ 2 นายที่คอยประจำการและดูแลความปลอดภัยให้อยู่ด้วย
บ้านของเขาไม่ได้มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายอะไรเลย น้ำที่ใช้ก็มาจากบ่อน้ำ
บริเวณบ้าน เวลาที่ซักผ้าก็ซักด้วยมือ
และนำออกมาตากนอกบ้าน ไม่ได้ใช้เครื่องซักผ้า
ราคาแพงหรือมีคนใช้คอยรับใช้แต่อย่างใด แต่ประธานาธิบดีท่านนี้ก็พอใจกับ
สิ่งที่เขามี
อยู่ เพราะเขาเชื่อว่าความมั่งคั่งไม่สามารถซื้อความสุขได้
| ประธานาธิบดีโคเซ่ มูิคิก้า มีเงินเดือนจาก ตำแหน่งประธานาธิบดีเดือนละประมาณ 4 แสนบาท แต่เขาได้บริจาคเงินเดือนเดือน ละ 3 แสน 6 หมื่นบาทหรือคิดเป็น 90% ของเงินเดือนทั้งหมดให้แก่มูลนิธิ!! โดยเป็นมูลนิธิที่คอยช่วยเหลือคนยากจน ในปี 2011 ที่ผ่านมา เขาเปิดเผยทรัพย์สิน ส่วนตัวทั้งหมด โดยเขามีทรัพย์สินทั้งหมด เพียง 5 ล้าน 4 แสนบาท ถือเป็น ประธานาธิบดี ที่จนที่สุดในโลก ซึ่งผู้นำ ประเทศที่รวยที่สุดในโลกคือสุลต่านแห่ง บรูไน มีทรัพย์สินทั้งหมด 600,000,000 ล้านบาท (หกร้อย ล้านล้านบาท) |
"ฉันถูกเรียกว่าเป็นประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก
แต่ฉันกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองจน
คนจนส่วนมากคือคนที่ทำงานเพียงเพื่อจะ
พยายามที่จะมีชีวิตแบบคนรวย
และมีความต้องการที่ไม่สิ้นสุด"
"นี่คือความอิสระ ถ้าคุณไม่ได้มีทรัพย์สินมาก
คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักตลอดชีวิตเพื่อหาทางรักษาทรัพย์สมบัติเหล่านั้นไว้
นั่นจะทำให้คุณมีเวลาเพื่อตัวเองมากขึ้นด้วย"
"จักรวาลนี้มีทรัพยากรเพียงพอที่จะทำให้คนจำนวน 7,000-8,000 ล้านคนได้ใช้อย่างเท่าเทียมกันเหมือนที่เห็นในสังคมของ
พวกคนรวยหรือเปล่า? ทุกวันนี้สังคมมนุษย์มีการบริโภคแบบ Hyper Consumption หรือการกักตุนเอาไว้ก่อน ซึ่งเป็นการ
ทำลายจักรวาลที่แท้จริง"
เขาจะหมดวาระประธานาธิบดีในปี 2014 หรือในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าประธานาธิบดี
ท่านนี้อาจจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งต่อ
เพราะเขาตั้งใจจะเกษียณตัวเองและใช้ชีวิตอย่างสงบ
ในบ้านหลังเล็กๆ กับภรรยาจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
อ่านจบแล้วก็แอบอึ้งนะคะ จะมีสักกี่คนในโลกที่พร้อมจะละทิ้งความสะดวกสบายหรูหราในชีวิต และเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบพอเพียง มีความสุขเท่าที่มี ขอนับถือประธานาธิบดีท่านนี้จากใจจริงเลยค่ะ
TWITTER @PAYDEKD
ภาพประกอบ : bbc.co.uk,dailymail.co.uk
61 ความคิดเห็น
ถ้านักการเมืองบ้านเราทำได้ซักนิดของลุงก็ดีนะคะ
"ไทยคงเจริญขึ้นเยอะ"
ประธานาธิบดีที่ดีจริงๆครับ
ทั้่งแนวคิด การกระทำ ยอดเยี่ยมจริงๆ
คุณน่ายกย่องและน่านับถือมากๆ
MY IDOL
อยู่ เพราะเขาเชื่อว่าความมั่งคั่งไม่สามารถซื้อความสุขได้
เพราะเขาเชื่อว่าความมั่งคั่งไม่สามารถซื้อความสุขได้"
เอาใจไปเลย
ประเทศเรานักการเมืองน่าจะคิดกันแบบนี้บ้าง