เจาะลึกมหา'ลัยดัง ณ เกาหลี : Korea University(มหาวิทยาลัยโคเรีย)

Korea University (고려대학교) หรือ มหาวิทยาลัยโคเรีย หรือ มหาวิทยาลัยเกาหลี เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังมากระดับแนวหน้าของเกาหลีใต้ ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลและมหาวิทยาลัยยอนเซ ก่อตั้งเมื่อ 5 พฤษภาคม 1905 และติดอันดับ 21 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2012 จากการจัดอันดับของ QS World University Rankings ..... คนเกาหลีทั่วไปนิยมเรียกที่นี่ว่า โคแด โดยมาจาก 고려(โค-รยอ) + 대학교(แท-ฮัก-คโย) = 고대 อ่านออกเสียงว่า โคแด นั่นเอง

ที่ตั้ง วิทยาเขตหลักอยู่ที่กรุงโซล ย่านอันนัม ส่วนอีกวิทยาเขตอยู่ที่เมืองเซจง

สาขาที่มีชื่อเสียง บริหารธุรกิจ , นิเทศศาสตร์ , สังคมศาสตร์ , นิติศาสตร์ , International Studies

อัตราการแข่งขัน คณะที่มีอัตราการสมัครเข้าเรียนสูงสุดของนักเรียนเกาหลี 3 อันดับแรกได้แก่ แพทยศาสตร์ บริหารธุรกิจ และศึกษาศาสตร์
จำนวนนักศึกษา ระดับปริญญาตรี 25,182 คน ระดับปริญญาโทและเอก 5,109 คน
กิจกรรมเด่น
- งานกีฬา "โคยอนจอน" เป็นประเพณีแข่งขันกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยเกาหลีและมหาวิทยาลัยยอนเซ เริ่มมีตั้งแต่ปี 1965 มีแข่งขันกีฬา 5 ชนิดคือ เบสบอล บาสเกตบอล ไอซ์ฮอกกี้ ฟุตบอล และรักบี้
- งาน 입실렌티(Ipselenti) จัดโดยชมรมเชียร์ ในงานจะมีเชียร์ลีดเดอร์ คอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดัง มีกิจกรรมและเกมเล่นบนเวที
สาขาที่เปิดสอนระดับปริญญาตรี

สาเหตุที่เลือกโคแด (고대를 고르는 이유) ทุนรัฐบาลเกาหลีแต่ละปีมันจะมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน อย่างปีก่อนหน้าที่จะสมัครเค้าจะให้มาเรียนภาษาก่อนหนึ่งปีที่ต่างจังหวัด หลังจากนั้นก็จะให้ไปสมัครปริญญาโทหรือเอกโดยตรงกับทางมหาลัยเลย ก็จะยากมาก เพราะต้องยื่นเอกสารเอง สอบสัมภาษณ์ ฯลฯ แต่ของปีตัวเองที่สมัครจะคล้ายๆ กับระบบเอนทรานซ์คือให้ระบุมหาลัยและคณะที่อยากเรียน เป็น 5 อันดับ แล้วส่งไป จากนั้นทางทุนก็จะไปตัดเลือกว่า 1. เราได้ทุนนี้มั้ย 2. ได้ที่ไหนใน 5 ที่ที่เลือกไป ซึ่งตอนนั้นก็เลือก โคแด - ยอนเซ - คยองฮี - เวแด - ซองกยูนกวัน ตามลำดับ เป็นคณะเดียวกันหมดคือเหมือนอักษรฯ เอกภาษาเกาหลี แล้วก็โป๊ะเชะได้อันดับหนึ่งเลยคือโคแด ซึ่งไปถามเพื่อนๆ ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ได้อันดับหนึ่ง ในใจก็เลยแอบนึกว่าที่ได้เพราะเราไม่ได้เลือกพวกม.ที่ดังๆ อย่างโซลหรือยอนเซขึ้นอันดับหนึ่งก่อนหน้า โคแดเค้าก็เลยรับเรา เพราะเราเห็นความสำคัญของมหาลัยเค้ามั้ง (เป็นเทคนิคเคล็ดลับในการเลือกมหาลัยเรียนต่อ เพราะแม้แต่มหาลัยคงไม่มีใครอยากเป็นที่สองรองจากคนอื่น) ทีนี้ที่เลือกโคแด เพราะหนึ่งเลยคือ จะสังเกตได้ว่า พี่เลือกม.ในโซลทั้งหมด คือไม่อยากไปเรียนต่างจังหวัด นึกภาพตัวเองนั่งรถบขส. เข้ามาเที่ยวกับเพื่อนแล้วนั่งรถกลับมันคงเหนื่อยนิดๆ เพราะเพื่อนคนไทยก็เรียนที่โซลหมด นอกจากนี้โคแดยังเป็นมหาลัยชั้นนำของประเทศ(โซลแด - โคแด - ยอนแด = SKY) ในภาพที่นึกไว้คือ โซลแดมันจะให้อารมณ์เด็กเรียนใส่แว่นหนาเตอะ แบกตั้งหนังสือเดินไปมามากจนเกินไป ซึ่งไม่ใช่เรา ส่วนยอนเซกับโคแดก็แอบชั่งใจอยู่นาน อาจารย์ก็แนะนำว่าโคแดดีกว่า เพราะว่ามีอาจารย์ที่มีชื่อเสียงด้านการสอนภาษาเกาหลี แล้วเราก็ชอบอารมณ์ที่กันเองๆ ลุยๆ แมนๆ (ฮ่าๆๆๆ) ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แม้ว่าที่คณะจะเป็นหญิงล้วน ผู้ชายน้อยมากกกก แต่แมนทุกคนจริงๆ คือสวยด้วย แมนด้วย และฉลาดมากๆ ชอบมาก ไม่ใช่แบบแบ๊วๆ สวยใสไร้สติ ก็เลยได้มาลงเอยที่นี่นั่นเอง

บรรยากาศในโคแด (고대의 분위기) โคแดจะมีสองแคมปัสคือในโซล ชื่อว่า "อานัมแคมปัส" และที่ต่างจังหวัดชื่อ "เซจงแคมปัส" ที่โซลที่เรียนอยู่ก็จะอยู่แถวๆ ชานเมืองนิดนึง รอบๆ ยอนเซกับอีฮวาจะอยู่ในเมือง จะเป็นห้างหรูหราใจกลางเมือง แต่ของโคแดจะมีแต่ร้านมินิมาร์ท ร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาราโอเกะ ล่าสุดร้านไดโสะคงสงสาร เลยมาเปิดสาขาที่นี่ให้ได้ช้อปของแต่งบ้านบ้าง ในมหาลัยจะแบ่งออกเป็นสองฝั่งเหมือนของจุฬาฯ เลย ฝั่งนึงจะเป็นด้านสายวิทย์ อีกฝั่งจะสายศิลป์ ก็จะมีหอประชุมที่ไว้จัดงานใหญ่ๆ ห้องสมุดรวม หอพัก ถ้าใครเคยเห็นรูป ตึกที่นี่จะเป็นตึกหินๆ คล้ายๆ กัน มีหลายคนที่เคยมาจะชมว่ามหาลัยสวย แต่เรามาเรียนทุกวัน ความสวยมันก็จะลดลงเรื่อยๆ เพราะเหนื่อยหน่ายที่จะมาเรียน อิอิ บรรยากาศก็คึกคักดี อาจารย์ที่นี่จะสอนตรงเวลามาก เข้าตรงเลือกตรง พอหมดเวลาก็จะกรูกันออกมาพร้อมกันทุกห้อง เห็นแล้วก็อยากกลับไปเรียนป.ตรีอีก เข้าใจว่าเด็กที่นี่เรียนจริงเล่นจริง อย่างช่วงที่มีงานรับน้องหรืองานใหญ่ๆ อย่างงานแข่งกีฬา "โคยอนจอน" คนก็จะแน่นไปหมด พวกนี้เค้าจะไปกันเป็นคณะยกกันไปหมดจริงๆ ส่วนช่วงใกล้สอบนี่อย่าหวังเลยว่าจะมีที่ว่างที่ห้องสมุดหรือตึกที่ใช้อ่านหนังสือ เพราะเด็กจะเต็มมาก อารมณ์หอกลางที่จุฬาฯ หรือตามร้านกาแฟก็จะมีคนมาติวตลอด อย่างตอนช่วงสอบ หน้าหนาวมีคนแซวว่าไปห้องสมุดอ่ะไม่ต้องเปิดฮีตเตอร์เลย เพราะเด็กเยอะมากจนมันอุ่นเอง นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาต่างชาติเยอะ มีทุกชาติเลยจริงๆ มันจะมีงานที่ให้นักศึกษาต่างชาติมาออกบูธวัฒนธรรมขายอาหารเล่นเกมของชาติตัวเอง เท่าที่เห็นก็เยอะมาก แทบจะทุกชาติเลย แต่จะเน้นหนักไปที่จีนกับญี่ปุ่น อย่างตอนที่เรียนที่สถาบันภาษา ประมาณ 70% จะเป็นคนจีนเลย ส่วนคนไทยไม่เยอะ ไม่เกิน 15 คน

จุดเด่นของโคแด (고대의 특기) ไม่รู้ว่าเด็กป.ตรี เค้าเป็นยังไงกันบ้าง แต่ในมุมที่เรียนป.โท ต้องบอกว่าเรื่องพี่น้องสำคัญมากจริงๆ ในเอกจะรักกันมากทั้งป.โท ป.เอก จะคอยช่วยเหลือกันตลอด ยิ่งเราเป็นต่างชาติก็จะยิ่งได้รับการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ ไม่มีอารมณ์แบบแข่งกันเรียนหรืออิจฉาริษยากันอย่างที่ได้ยินว่าเด็กเกาหลีแข่งกันเรียน ไม่มีเลย เราได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เข้าไปเทอมแรก พอขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ก็จะดูแลน้องๆ ดีอย่างที่เราเคยได้รับมา ประทับใจในส่วนนี้มากจริงๆ เพราะถ้าไม่มีคนช่วยคงเรียนไม่รอดจริงๆ

แหล่งรวมตัวเด็กโคแด (고대 학생의 모임 장소) จุดรวมตัวน่าจะมีสองที่ คือที่ลานหน้ารูปปั้นที่ประตูใหญ่ ถือเป็นจุดนัดพบ หรือเวลามีงานรับน้องก็ใส่เสื้อสีแดงมารวมตัวกันที่นี่ หรือช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วงที่อากาศดีๆ ก็จะมีเด็กๆ มาจับกลุ่มสั่งไก่หรือพิซซ่ามานั่งกินกัน ตกดึกหน่อยก็อาจจะเป็นเบียร์เย็นๆ ส่วนอีกที่คือจะเป็นสนามกีฬากลางแจ้งและในฮอลล์ด้านหลังม. เวลามีงานใหญ่ๆ หรือคอนเสิร์ตก็จะไปจัดที่นั่น

ตารางเรียนที่ต้องเจอ (등록해야 되는 특강) ถ้าของป.ตรี ก็จะแล้วแต่ว่าใครลงอะไร ส่วนใหญ่วิชาที่เรียน ในหนึ่งวิชาจะเรียน 2 ชั่วโมงครึ่งต่อสัปดาห์ โดยจะแบ่งเป็น 1 ชั่วโมง 15 นาทีแบ่งเป็นสองครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็น จันทร์ - พุธ หรือ อังคาร - พฤหัส รวมทั้งหมด 16 สัปดาห์ต่อหนึ่งภาคเรียน (รวมสอบกลางภาค - ปลายภาคด้วย)  ส่วนของป.โท - เอก หนึ่งวิชาจะเรียนรวดเดียว 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนใหญ่ก็จะเรียน 3-4 ตัวต่อหนึ่งภาคเรียน แต่จะมีของแถมเยอะมาก ทำให้ต้องไปมหาลัยแทบทุกวัน

แอดไวเซอร์ที่รัก (사랑하는 선생님) แอดไวเซอร์แต่ละท่านก็จะไม่เหมือนกัน มีอยู่ท่านนึงเป็นจะเป็นลุคลุงๆ หน่อย เก่งมาก สอนดีมาก แต่แกจะไม่ใช้มือถือ เวลานัดก็ต้องไปที่ห้องหรืออีเมลไป อีกท่านนึงเป็นผู้หญิงวัยรุ่นหน่อย เคยเรียนวิชาป.ตรีด้วย สอนดีมากถึงมากที่สุด แต่จะมีไม้เด็ดคือเช็คชื่อทุกคาบ โดยตอนแรกจะให้เด็กส่งรูปตัวเองไป แล้วแกก็เอาไปใส่โปรแกรมเช็คชื่อ พอเริ่มต้นคาบมาก็จะเช็คชื่อไล่ไปทีละคน แบบโชว์รูปอ่ะ ที่เจ็บใจก็ส่งรูปไม่เริดไป ทั้งเทอมก็จะเป็นหน้านั้นวนไปมาตลอด ส่วนเวลามีปัญหาหรือติดต่อทางเมลไปก็จะตอบเร็วมาก เหมือนเช็คตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนแอดไวเซอร์ของเราจะออกแนวยุ่งมากกกกกกกกกกกกกกก คือเค้าต้องทำงานวิจัย สอนป.ตรี - โท - เอก งานราษฎร์งานหลวง จะได้เจอตอนคาบเรียนเท่านั้น แต่เวลามีปัญหาก็จะมีพี่ป.เอก กับคนเกาหลีเข้ามาช่วยตลอด เราก็เลยจะไปเจอาจารย์ตอนที่จำเป็นมากๆ จริงๆ เท่านั้น

ความเชื่อของชาวโคแด (고대의 믿음) เคยได้ยินแต่ประมาณว่า จะมีต้นไม้ต้นนึงที่จะออกดอกก่อนต้นอื่นตลอด พอเริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิ ก็จะมีต้นนี้แหละที่ออกดอกก่อนชาวบ้านเค้า ก็เป็นสัญญาณว่าเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว

ความในใจหรือความภูมิใจถึงโคแด (고대는 나의 자랑스러움) ใช้ชีวิตที่นี่มา 2 ปีครึ่งแล้ว ก็รู้สึกว่าที่นี่คือบ้านจริงๆ เดินเข้าม.มาก็รู้สึกคุ้นเคย ผูกพันและสบายใจ อะไรหลายๆ อย่างมันหลอมรวมให้รู้สึกชอบ ทำให้คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกที่นี่ และก็อยากจะขอบคุณที่เค้าเลือกเราด้วยเช่นกัน