เคล็ดลับ : เขียนภาษาอังกฤษให้แจ่มเหมือนเจ้าของภาษา!!

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com หลังจากที่พี่เป้และพี่ได้สำรวจความคิดเห็นจากน้องๆ เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษพบว่าทักษะที่น้องๆ ไม่มั่นใจมากที่สุดคือการเขียน เพราะการฟังสามารถอาศัยสีหน้าท่าทางคนพูดเพื่อประกอบความเข้าใจได้ การพูดก็ยังพอใช้ภาษามือช่วยได้ ส่วนการอ่านก็ใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้เพื่อทำความเข้าใจไปทีละนิด แต่การเขียนกลับเป็นเรื่องที่ดูทางการที่สุด น้องๆ จะต้องกังวลทั้งเรื่องไวยากรณ์ คำศัพท์ และหลักการเขียนอื่นๆ อีกมากมาย พี่พิซซ่า เลยหาตัวช่วยให้น้องๆ ปรับปรุงการเขียนภาษาอังกฤษมาให้ค่ะ

 




     ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้ไขและพัฒนาทักษะการเขียน เราต้องพิจารณาก่อนว่าอะไรคือจุดอ่อนที่ทำให้เราเขียนไม่ได้ซะที จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดค่ะ


การเรียงลำดับของคำ

     แม้ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษจะมีรูปแบบประธาน + กริยา + กรรม เหมือนกันอย่างฉันรักเธอกับ I love you. แต่เวลาใส่คำขยายต่างๆ เข้าไปในประโยค ลำดับจะต่างกันอย่างฉันมีกระเป๋าสีแดง ก็เป็น I have a red bag.

     นอกจากนี้เวลาทำเป็นประโยคคำถาม ภาษาอังกฤษก็จะย้ายคำกริยามาไว้หน้าประธาน ทั้งที่ภาษาไทยไม่มี เช่น นั่นคือแฟนเธอรึเปล่า กับ Is that your boyfriend? หรือเธอชื่ออะไร What is your name? (แปลตรงตัวได้ว่าอะไรคือชื่อเธอ)

     Did his dad tell him not to worry? ประโยคนี้ดูง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพราะคำศัพท์ก็แปลออกทุกตัว แต่ถ้าให้เขียนเองตั้งแต่แรก พี่เชื่อว่าหลายคนคงไม่แน่ใจว่าเรียงประโยคยังไงให้อ่านรู้เรื่อง (จงแปลประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษ “พ่อของเขาบอกเขารึเปล่าว่าไม่ต้องเป็นห่วง”)

 

เรื่องของเวลาและ Tense ต่างๆ

     ภาษาไทยไม่ต้องเปลี่ยนรูปตามกาล จะกินเมื่อวาน วันนี้ หรือพรุ่งนี้ ก็ยังคง “กิน” อยู่วันยังค่ำ แต่ภาษาอังกฤษกลับมีตั้ง 12 Tenses ทั้งอดีตของอดีต ทำแล้วจบแล้วในอดีต ทำแล้วแต่ยังไม่จบ จะทำแบบแน่นอน จะทำแบบยังไม่แน่นอน หรือแม้แต่กาลปัจจุบันอย่าง Present Simple Tense ที่กริยายังต้องเติม –s, -es เมื่อประธานเป็นเอกพจน์อีก ตอนเด็กๆ พี่ก็เคยสงสัยค่ะว่ามันจะทำมาเยอะแยะทำไม แต่พอคิดได้ว่าคำตอบคงอยู่ที่คนคิดภาษาอังกฤษซึ่งไม่รู้ว่าจะไปเจอได้ที่ไหนแล้ว พี่เลยเปลี่ยนมาจำว่ามันมี Tense อะไรบ้าง แต่ไปสงสัยเรื่องการใช้แต่ละ Tense ให้ถูกต้องแทน (ต้องบอกว่าการสงสัยแบบหลังนี่เกิดประโยชน์มากกว่ากันเยอะ)

 



เครื่องหมายวรรคตอน

     ภาษาไทยใช้เครื่องหมายวรรคตอนไม่บ่อยมากนัก เมื่อจบประโยคก็ไม่ต้องใส่จุดด้วย (มหัพภาค) แต่ภาษาอังกฤษต้องจบประโยคด้วยจุด เพราะภาษาไทยใช้การเว้นวรรคแสดงการจบประโยคอยู่แล้ว แต่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เขียนเว้นวรรคทุกคำจึงต้องมีจุดแสดง ส่วนประโยคคำถาม ในภาษาไทยก็ไม่นิยมใช้เพราะแต่เดิมไทยไม่มีเครื่องหมายปรัศนี (?) จนกระทั่งรู้จักภาษาต่างประเทศ และถือว่ามีคำไทยที่รวมความเป็นเครื่องหมายคำถามเข้าไปในตัวอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแสดงเครื่องหมายคำถามอีก เช่น กี่, ใคร, อะไร

     นอกจากนี้ภาษาไทยยังมีไม้ยมก (ๆ), ไปยาลน้อย (ฯ), ไปยาลใหญ่ (ฯลฯ) ที่ภาษาอังกฤษไม่มีใช้  ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่จุกจิกเรื่องเครื่องหมายวรรคตอนเยอะมาก มีกฎเยอะแยะไปหมด แต่ภาษาไทยเน้นใช้ “วรรค” เป็นหลัก ซึ่งวรรคของภาษาไทยแทนเครื่องหมายวรรคตอนของภาษาอังกฤษได้หลายตัวมาก ทำให้เป็นอีกหนึ่งปัญหาการเขียน เพราะเดาไม่ถูกว่า “วรรค” ตรงนี้ควรเป็นเครื่องหมายไหนดี

 

สุภาษิต คำพังเพย สำนวน

     แต่ละภาษามีสุภาษิต คำพังเพย และสำนวนต่างกันตามวัฒนธรรมและลักษณะของประเทศนั้นๆ อย่างหนีเสือปะจระเข้ จะกลายเป็นหนีกระทะทอดไปเจอกองไฟทันที (Out of the frying pan and into the fire) หรือเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามก็เป็นเข้ากรุงโรมต้องทำตามชาวโรมัน (When in Rome do as the Romans do) ซึ่งเวลาจะใช้คนไทยคงนึกไม่ถึงกรุงโรมแน่ๆ ถ้าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเลือกอาณาจักรที่ไทยเราคุ้นเคยมากกว่าอย่างกรุงอโยธยา

     ถึงสำนวนพวกนี้ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ แต่โชคดีที่ปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลมากมายที่ช่วยให้เรารู้ว่าอันไหนเป็นอันไหน ทำให้ไม่ต้องพยายามแปลเองผิดๆ ถูกๆ อีกแล้วค่ะ (พี่พิซซ่า เคยรวบรวมสำนวนที่ใช้สัตว์เปรียบเทียบไว้ ไปดูได้ที่นี่ค่ะ)

 



ไม่รู้คำศัพท์

     จริงๆ ปัญหานี้แก้ได้ง่ายมากเพราะมีพจนานุกรมตั้งหลายประเภท แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ น่าจะเป็นการใช้ไม่เป็นมากกว่า ไม่รู้ว่าคำนี้ใช้ในประโยคนี้ได้หรือไม่ หรือว่าคำนี้มีความหมายด้านบวกหรือลบ หรือไม่แน่ใจว่ามันให้ความหมายตรงกับที่คิดไว้ในหัวรึเปล่า ฉะนั้นต้องมีพจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษติดไว้ด้วยอีกเล่มหนึ่งค่ะ เลือกเล่มที่อธิบายความหมายเยอะๆ และยกตัวอย่างเยอะมากๆ จะได้เห็นภาพมากขึ้นว่าคำที่เราเลือกจากพจนานุกรมไทย-อังกฤษไปใช้นั้น มันถูกต้องจริงๆ แล้วรึยัง

 

ไม่รู้จะเขียนอะไร/ไม่มีอะไรจะเขียน

     ข้อนี้จัดเป็นปัญหาการเขียนแบบไม่ขึ้นกับภาษา อย่างนี้แสดงว่าต่อให้เป็นภาษาไทยก็ยังไม่รู้จะเขียนอะไรอยู่ดี ซึ่งพี่ไม่สามารถช่วยได้ค่ะ 5555

 





     วิธีที่ดีที่สุดคือคิดเป็นภาษาอังกฤษไปเลยค่ะ ห้ามคิดเป็นภาษาไทยแล้วแปลกลับเป็นภาษาอังกฤษ เพราะรายละเอียดหลายๆ อย่างอาจจะตกหล่นระหว่างการแปลได้ แต่พี่ก็เข้าใจค่ะว่ามันพูดง่ายแต่ทำยากสำหรับใครหลายๆ คน เพราะมันต้องอาศัยความคุ้นเคย ถึงจะทำให้คิดเป็นภาษาอังกฤษได้เลย แต่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นการฟังหรืออ่านก็ได้ เพื่อสร้างความคุ้นเคยในการใช้ภาษาค่ะ แต่ในระหว่างที่ยังไม่คุ้นกับการใช้ภาษาอังกฤษ ก็มีวิธีช่วยพัฒนาทักษะการเขียน ดังนี้

     การเขียนร่างหลายๆ ครั้งหรือเขียนแล้วทบทวนแก้ไขหลายรอบ อย่าเขียนครั้งเดียวส่งค่ะ ร่างเสร็จก็ตรวจทานใหม่ ถ้าเป็นการบ้านที่อีกนานกว่าจะส่งก็ให้รีบทำแต่เนิ่นๆ ตรวจรอบแรกแล้วทิ้งไว้ซัก 3 วันมาอ่านอีกที แก้ไขแล้วก็เว้นไว้อีก 5 วันมาแก้อีกรอบ ควรเว้นจังหวะระหว่างการแก้ไขแต่ละครั้งด้วย (เหมือนแต่งนิยาย) ครั้งหลังๆ มาอ่านก็จะรู้สึกว่า “วันนั้นฉันเขียนอะไรลงไปเนี่ย”

     จับอะไรรวมกันได้ก็รวมเข้าด้วยกัน ถ้าน้องๆ รู้สึกว่าทำไมงานเขียนตัวเองมันดูพื้นๆ มากเลย มีแต่ I am. He is. They are. เต็มไปหมด เช่น He has beautiful eyes. They are green. He is looking right at me. ก็ลองรวมเป็น His beautiful green eyes are looking right at me. ซึ่งสามารถฝึกการแปลงรูปประโยคได้จากการอ่านและฟังเยอะๆ ดูหนังฟังเพลงจัดเต็มไปเลยค่ะ




     ลองอ่านออกเสียงเผื่อสะดุด การอ่านออกเสียงทำให้เราได้ใช้ประสาทสัมผัสเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประสาทสัมผัสที่เพิ่มขึ้นก็เหมือนกับตัวช่วยตรวจสอบที่เพิ่มขึ้น บางทีพูดไปพูดมาน้องก็อาจจะรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมากับบางประโยค

     ขยันพิมพ์ภาษาอังกฤษในสเตตัส ใครจะว่าก็ช่าง แต่เราทำเพื่อพัฒนาทักษะตัวเอง เวลาอยากจะเม้าธ์หรือวิจารณ์หนังที่เพิ่งไปดูมา ก็ลองเปลี่ยนมาอัพสเตตัสเป็นภาษาอังกฤษแทน พยายามแสดงเหตุผลไปเยอะๆ พระเอกหล่อยังไง ตัวโกงดีเลวยังไง ดนตรีประกอบเพราะมั้ย เขียนไปตามใจชอบเลยค่ะ เพื่อนในเฟซบุ๊คที่เก่งภาษาอังกฤษผ่านมาเห็นก็จะช่วยแนะนำแก้ไขให้ และการแสดงความเห็นเป็นภาษาอังกฤษบ่อยๆ ก็จะทำให้ไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวเวลาต้องเขียนงานค่ะ

     พิมพ์ลง Google เมื่อมีประโยคที่ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกมั้ย วางคำขยายถูกตำแหน่งหรือยัง ให้ลองพิมพ์ประโยคนั้นลง Google ดูค่ะ ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาจะช่วยยืนยันได้ว่ามีคนเขียนแบบนี้หรือไม่ แต่ต้องอ่านทีละผลลัพธ์ดีๆ นะคะ ว่าเขาใช้ในสถานการณ์เดียวกันกับเรารึเปล่า

 



     น้องๆ หลายคนคงไม่อยากเขียนไปถามอาจารย์ว่าถูกมั้ย เพราะกลัวอะไรหลายๆ อย่าง (ถ้าผิดอายตายเลย) พี่พิซซ่า เลยมีเว็บไซต์ดีๆ ที่มีแบบฝึกหัดมาฝากค่ะ

     http://www.rong-chang.com/ex/contents.htm แบบฝึกหัดไวยากรณ์แบบปรนัย

     http://www.rong-chang.com/easyread/emx/contents.htm แบบฝึกหัดการเรียงประโยค คลิกทีละคำได้เลย ไม่ต้องพิมพ์ค่ะ

     http://www.rong-chang.com/writing/ แบบฝึกหัดเขียนประโยคตามรูปแบบหรือไวยากรณ์ที่กำหนดให้

     http://www.rong-chang.com/qa2/index.html รวมเรื่องสั้นพร้อมคลิปเสียง ที่จะทำให้เห็นรูปแบบการเขียนมากขึ้น

     http://www.common-mistakes.net/ เว็บรวบรวมคำผิดที่เจอบ่อยในการเขียนภาษาอังกฤษ อย่างคำที่ความหมายใกล้กัน

     http://oxforddictionaries.com/words/better-writing รวมข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่างทั้งไวยากรณ์ พจนานุกรม การสะกด เครื่องหมายวรรคตอน และอื่นๆ อีกมากมาย

 




     คำศัพท์ภาษาอังกฤษแต่ละคำนอกจากจะมีความหมายตามพจนานุกรมแล้ว หลายคำยังสามารถให้อารมณ์ได้อีกด้วย นั่นคือแทนที่จะหมายถึงสิ่งหนึ่งเฉยๆ แล้ว ยังให้ความรู้สึกไปด้วยว่าเรากำลังพูดถึงสิ่งนั้นในแง่บวกหรือลบ เรียกว่า Connotation ค่ะ เช่น Slim, Skinny, Slender, Thin ทั้งหมดแปลว่าผอม แต่ Skinny ให้ความรู้สึกแง่ลบ เพราะบอกเป็นนัยว่าผอมเกินไป ผอมแบบสุขภาพไม่ดี ส่วน Slim กับ Slender ให้ความหมายแง่บวกแบบตัวผอมหุ่นดี ในขณะที่ Thin คือผอมเฉยๆ ไม่ได้ใส่ความรู้สึกอะไรลงไป

     หรือ
House กับ Home ที่ต่างก็แปลว่าบ้านเหมือนกัน แต่ Home ให้ความรู้สึกของบ้านทางใจ ที่ที่มีครอบครัว มีคนที่เรารักรออยู่ ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น ไม่ใช่แค่อาคารที่อยู่อาศัยประเภทหนึ่งเท่านั้น การรู้จักพวก
Connotative Word (คำที่เป็น connotation) จะช่วยทำให้เราสื่อสารได้ตรงกับความรู้สึกได้ดีขึ้นมากเลยค่ะ ลองไปดูตัวอย่างกัน

 
Positive Connotation
ความหมายแง่บวก
Denotation
ความหมายปกติ
ตามพจนานุกรม
Negative Connotation
ความหมายแง่ลบ
คำแปล
aroma smell stench กลิ่น
thrifty inexpensive cheap ไม่แพง, ถูก
cabin hut shack กระท่อม
strong-willed stubborn pig-headed หัวแข็ง
previously owned second hand used ใช้แล้ว
unusual strange weird แปลก

     ซึ่งการที่จะรู้ได้ว่าคำไหนมีความหมายตรงๆ คำไหนให้อารมณ์ร่วม แล้วเป็นความรู้สึกแง่บวกหรือลบนั้น ต้องอาศัยความคุ้นเคย ที่มาจากการอ่านหนังสือ ชมภาพยนตร์ หรือฟังเพลงภาษาอังกฤษเยอะๆ ค่ะ ถึงจะเข้าใจได้ว่าเขาจัดคำนั้นๆ ไว้ในหมวดไหน ซึ่งการจัด connotation นี้ก็ไม่ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วสังคมที่ใช้ภาษาอังกฤษ เพราะในบางกลุ่มอาจจะบางคำในมุมที่ต่างออกไปก็ได้

 

 

     ถ้าน้องๆ มีข้อสงสัย ส่งคำถามมาให้ พี่พิซซ่า ได้เลยนะคะ ^^แล้วมาพบกับคอลัมน์ภาษาอังกฤษได้ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายนค่ะ ส่วนใครอยากอ่านเรื่องราวสนุกๆ เกี่ยวกับการเรียนต่อนอก สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ www.dek-d.com/studyabroad

 

TWITTER: @PiZZaDekD

ข้อมูล
examples.yourdictionary.com, en.wikipedia.org/wiki/Connotation
www.elfwood.com/farp/thewriting/eslkathrel/eslkathrel.html
esl.about.com/library/lessons/blwritingplans.htm
www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=58509




อ่านเรื่องราวภาษาอังกฤษดีๆ ย้อนหลังได้ที่นี่ค่ะ

8 คู่ศัพท์ที่มีความหมายเกือบเหมือนกัน (และคนใช้ผิดบ่อย)

รู้ไหม? ภาษาอังกฤษก็มีสระเสียงสั้นเสียงยาวนะ

"ภาษาอังกฤษ" สำเนียงออสเตรเลีย รู้มั้ยเป็นยังไง?

รวมศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ยืมมาจากภาษาอื่น!!

10 คู่ศัพท์ENG ใช้ต่างกันในอังกฤษและอเมริกา (เคลียร์กันชัดๆ)

20 สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้สัตว์เปรียบเทียบ



พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

39 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
-ll P R E A W ll- Member 1 มิ.ย. 56 10:09 น. 2
เรื่องประโยคไม่ค่อยกลัวคะ แต่ศัพท์นี่สิ ไม่แน่นเลย พอจะเขียนประโยคอะไรที่ห็จะมาสะดุดตรงคำศัพท์ ทุกทีคะ T T
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
October 1 มิ.ย. 56 23:57 น. 4
คือเข้าใจคะ ว่าเค้าพูดเกี่ยวกับอะไร แต่ตอบไม่ได้ อ่านได้ แต่แปลไม่ได้
เรียงประโยคถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ลองคุยสไกด์กับต่างชาติ เค้าก็เหมือนเข้าใจกับ Tense ที่เราเติมบ้างไม่้เติมบ้าง อยากเรียนไกด์อ่า คงต้องฝึกฝนอีกเยอะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากนำรูปถ่าย หรือข้อมูลของผู้อื่น ที่มิได้เป็นบุคคลสาธารณะมาลง โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม หรือมีลงเบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่จริง

กำลังโหลด
อรนุช 4 มิ.ย. 56 14:32 น. 8
ในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษอีกท่าน
ขอแชร์ประสบการณ์สั้นๆ จากการสอนภาษาอังกฤษที่ผ่านมา คือ ปัญหาเด็กไทย ขาดคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษในสมอง ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษอ่อนแอ เพราะ [การยอมแพ้(แพ้ใจ)ตนเองเสียก่อน ..หรืออีกนัย คือ ยังไม่รักการอ่านเท่าที่ควร โดยเฉพาะภาษาอื่น... ที่ไม่ใช่ภาษาไทย] เนื่องจากการเขียนภาษาอังกฤษ ต้องอาศัยคลังคำศัพท์ ความเข้าใจโครงสร้างภาษา GRAMMAR (ไม่ใช่การท่องเพื่อติวสอบเท่านั้น..แล้วก็ลืม) รวมทั้ง การสังเกตจดจำตัวอย่างงานเขียนในรูปแบบต่างๆ จึงประมวลทุกอย่างรวมกันและประยุกต์ใช้ในการเขียนบทความภาษาอังกฤษในระดับต่างๆ ซึ่งเปรียบได้เหมือนน้ำผลไม้รวมปั่นที่นักเรียนชอบดื่มคลายความร้อนให้สดชื่น เช่นเดียวกับทักษะดังกล่าวที่ครูเล่าค่ะ
เริ่มตั้งแต่วันนี้ ... หนังสือภาษาอังกฤษประเภทต่างๆ อาทิ วารสาร MAGAZINE, เรื่องสั้นต่างๆ Short stories หรือแม้แต่ข้อความโฆษณา แต่ถ้าบางคนชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมเนื้อเพลงที่นักเรียนชอบฟัง ก็ฝึกอ่านเนื้อเพลง อ่านเนื้่อเพลง เดาความหมายและทำความเข้าใจ
ถ้านักเรียนมีความสนใจ ยินดีให้คำปรึกษาเพิ่มเติมที่คุณครูอรนุช (oyeang@yahoo.com)/ Phone: 083-7093747
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
คนที่อยากเก่งอังกฤษ 14 ก.ค. 56 11:26 น. 18
เราก็พอรู้บ้างอ่ะนะ แต่เรื่องThese is These are were was is am are ก็พอได้บ้างอ่ะนะพอเดาได้แต่ Tense นี่สิ ท้อใจจัง อ่านได้ ตอบได้บาง แปลได้เป็นบางคำค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ไปลองทำในเว็บ มาก็ได้บางไม่ได้บางค่ะ มีประโยชน์มากค่ะ วันมะรืน ก็จะสอบแล้ว
0
กำลังโหลด
สิรภัทร 4 ต.ค. 56 16:27 น. 19
เวลาจะขอคำแนะนำในเรื่อง ต่าง ๆ ควรจะเริ่มต้นประโยค และลงท้ายว่าอย่างไรคะ รบกวนหน่อยนะคะ จาก เด็ก...เริ่มหัดเขียน ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
1
PiZZaPeaCH Member 5 ต.ค. 56 00:52 น. 19-1
"คำแนะนำในเรื่องต่างๆ" นี่คือแบบไหนหรอคะ นึกภาพไม่ออก ฮะฮะฮะ สมมติว่าแฟนเก่าที่ทำเราเจ็บช้ำมาโดยตลอด แถมสุดท้ายยังทิ้งเรา จนเราทำใจไม่ได้ วันนึงเขาโทรมาหาเราแล้วบอกว่าคิดถึงและชวนไปกินข้าว เราตอบว่าขอคิดดูก่อน แล้วก็วางหู จากนั้นก็หันมามองเพื่อนรักที่ยืนฟังอยู่ใกล้ๆ เพื่อขอความเห็น กรณีนี้ส่วนมากเราจะพูดว่า What should I do? ฉันควรทำยังไงดีเนี่ย หรือ Should I?ฉันควรไปมั้ย ถ้าเราต้องทำรายงานวิเคราะห์เพลงหลายๆ ภาษา แต่เราไม่รู้จักเพลงเกาหลีเลย ก็ไปหาแฟนคลับตัวแม่ และขอคำแนะนำจากเขาว่า Could you recommend me some Korean songs? เธอช่วยแนะนำเพลงเกาหลีให้ฉันหน่อยได้มั้ย มีอีกหลายแบบค่ะ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่พูด
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด