5 สาเหตุหลักที่เด็กไทยโดนไล่ออกจากงาน Work&Travel

     สวัสดีค่ะชาว Work & Travel และน้องๆ ชาว Dek-D.com ทุกคน หลังจากให้ข้อมูลเกี่ยวกับการไปเวิร์กและข้อมูลของแต่ละรัฐมานานแล้ว วันนี้มาดูเรื่อง "การไล่ออก" กันดีกว่าค่ะ ไม่ได้จะขู่ให้กลัวนะคะ เพียงแต่มีหลายคนถามเข้ามาว่าภาษาไม่ดี กลัวทำอะไรผิดกฎแล้วโดนไล่ออกจะทำไงดี ก็เลยจะพามาดูสาเหตุในการไล่ออกที่เด็กไทยเจอบ่อยค่ะ 


5 สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กไทยโดนไล่ออก

     โดยทั่วไปแล้วที่อเมริกาจะยึดกฎ 3 ครั้งออกค่ะ นั่นคือหากทำผิดกฎครั้งแรกจะโดนว่ากล่าวตักเตือน ครั้งที่สองอาจจะโดนหักเงิน พักงาน หรือลดชั่วโมงงาน ส่วนครั้งสุดท้ายที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบคือคุณไม่ได้ไปต่อค่ะ ต้องลากกระเป๋าออกไปเลย แต่ถ้าเป็นความผิดร้ายแรงอย่างทำอนาจารในที่สาธารณะ กระทำชำเราผู้อื่น จุดไฟเผาหอพัก จำหน่ายยาเสพติด หรือค้ามนุษย์ ความผิดระดับนี้ไม่มีแก้ตัวนะคะ นายจ้างจะแจ้งตำรวจให้มาจัดการเองเลย ซึ่งพวกเราก็ไม่มีใครไปทำอะไรแย่ๆ แบบนี้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ ส่วนมากจะเป็นเรื่อง "ความต่างทางวัฒนธรรม" ต่างหากที่ทำให้โดนไล่ออก ฉะนั้นลองไปดูสาเหตุที่เด็กไทยโดนไล่ออกบ่อยที่สุดกันค่ะ




1. เข้างานสาย หายตัวบ่อย ลาไม่แจ้ง

     บ้านเราจะค่อนข้าง "หยวนๆ" กับเรื่องนี้ ถ้าเหตุผลพอคุยกันได้ก็โอเคไป แต่ที่โน่นจะมองว่าเหตุผลอะไรก็ช่าง สายก็คือสาย จะมาบอกว่าเหตุสุดวิสัยรถเมล์ชนแท็กซี่เลยต้องลงไปรอคันใหม่อีกนานจนสายเลย นายจ้างก็จะตอบว่าเสียใจด้วยนะที่เจอเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าเธอออกมาเร็วกว่านี้ก็ไม่ต้องขึ้นคันนี้ที่จะไปเกิดอุบัติเหตุ ยิ่งถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไปไม่ทันแน่ต้องหาทางแจ้งนายจ้างให้ได้ทันทีเลยว่าวันนี้สายแน่ ห้ามสายแบบเซอร์ไพรซ์ค่ะ

     นอกจากนี้ยังรวมถึงเวลาไปพักแล้วกลับมาทำงานต่อด้วยนะคะ อย่ากินเพลินจนตอกบัตรเข้าสายเด็ดขาดค่ะ พวกอู้ไปแอบเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ครั้งละนานๆ เป็นประจำนี่ก็โดนเด้งมาเยอะค่ะ บางทีถึงกับให้ตอกบัตรเวลาเข้าห้องน้ำด้วย OoO ส่วนถ้าจะลาต้องลาล่วงหน้าค่ะ ลากิจลาพักผ่อนควรบอกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ล่วงหน้า 

     ส่วนลาป่วยอันนี้จะยากหน่อยค่ะ เพราะตอนก่อนนอนเราจะรู้สึกว่าไปไหวน่า นอนหลับเดี๋ยวก็หาย เสียดายเงินแย่ถ้าไม่ไปทำงาน แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้นเรากลับป่วยหนักจริงๆ แบบที่อยู่ไทยมาไม่เคยเป็นมาก่อนเลยซักครั้ง พอโทรลานายจ้าง 1 ชั่วโมงก่อนเวลางานก็อาจโดนสวดกลับมาเป็นชุดว่าแล้วทำไมไม่โทรบอกตั้งกะเมื่อคืน ซึ่งเราก็จะตอบในใจว่า "แล้วจะรู้มั้ยล่ะว่าจะป่วยหนักขนาดนี้ ไม่ใช่หมอนะ" พี่ก็เคยเป็นค่ะ 555 ตอนนั้นก็เถียงในใจว่า "ถ้ารู้ก่อนมันก็ไม่ใช่ลาป่วยป่ะ ยังกะลาไปเที่ยวให้นัดล่วงหน้าเนี่ย" แต่เขาจะมองว่าก็ทำไมไม่ประเมินตัวเองมาให้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนล่ะ ฉะนั้นถ้ารู้สึกว่าป่วยแม้เพียง 50% ของสมัยอยู่ไทยก็ให้ตีว่าควรลาป่วยไปเลยค่ะ เพราะทั้งสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ อากาศ อาหารการกิน และอื่นๆ อีกมากมายมันไม่เหมือนตอนเราอยู่บ้านที่จะเรียนไปไอไปก็ได้ คนที่ไม่เคยป่วยอาจจะไปเป็นหนักเลยก็ได้เช่นกัน 



 



2. ทำงานผิดพลาดซ้ำซาก

     ข้อนี้ส่วนมากเด็กเวิร์กจะได้สิทธิพิเศษเป็นกฎ 5 ครั้งออกแทน เพราะเขายังมีเหตุผลพอจะมองว่า เรามีทั้งปัญหาทางภาษา วัฒนธรรม และยังเป็นนักเรียนอยู่ ก็เลยเพิ่มจาก 3 เป็น 5 ครั้งให้ค่ะ

     ส่วนมากเด็กเวิร์กอยู่บ้านจะไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก แต่ต้องไปเป็นแรงงานเต็มตัวที่โน่น มันก็ต้องใช้เวลาฝึกฝนใช่มั้ยคะ พี่นอนหงายไถลตัวเข้าใต้เตียงเพื่อเช็ดหยากไย่ในนั้น ครั้งแรกในชีวิตก็ตอนไปเวิร์กนี่แหละค่ะ (เพราะเตียงที่บ้านพี่ไม่มีใต้เตียง 555) ครั้งแรกๆ ก็โดนบ่นว่าปัดผิดทางโน่นนี่ แต่พอเขาบอกแล้วจากนั้นก็ไม่เคยทำผิดอีกเลย คือเราเรียนรู้กันได้ เขาก็จะไม่อะไรมากค่ะ

     แต่ถ้าทำผิดเรื่องเดิมๆ ทั้งที่สอนแล้วหลายรอบ แบบนี้จะโดนเด้งเยอะค่ะ เช่น เขาบอกว่าพับเสื้อในร้านขายของต้องพับให้เรียงกันเป็นรูป แต่เราดันไม่ตั้งใจทำ ดื้อดึงจะพับเหมือนชุดนอนที่บ้านอยู่นั่นแหละ บางทีอาจจะโดนไล่ออกตั้งแต่ก่อนครบ 5 ครั้งก็ได้ ฉะนั้นต้องเปิดใจกว้างๆ พยายามเรียนรู้ อย่าไปท้าทายอะไรเยอะ ถึงแม้วิธีพับของเราจะเรียบร้อยกว่าเยอะแต่ถ้าเขาไม่อนุมัติก็ช่างเขาเถอะค่ะ





3. ขโมยของโดยไม่ได้ตั้งใจ

     ที่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจก็เพราะเราก็คนดีๆ กันทั้งนั้น ไม่มีใครกะว่าไปอเมริกาเพื่อตั้งหน้าตั้งตาปล้นอยู่แล้ว แต่ตามร้านอาหารหรือที่ทำงานแบบมีโรงอาหารพนักงาน ส่วนมากจะมีกฎว่า "ห้ามพนักงานนำอาหารออกนอกพื้นที่เด็ดขาด" นั่นคือถ้าจะทานในบริเวณนี้อ่ะได้ แต่ห้ามเอากลับไปกินต่อที่บ้านเด็ดขาด ซึ่งเราจะมองว่า ยังไงเค้าก็ทิ้งอยู่แล้ว จะปล่อยให้เสียของทำไม เราเอากลับไปกินให้ก็ประหยัดตั้งเยอะ คิดว่าเราจะเอาไปหลอกขายต่อหรอ

     ใช่เลยค่ะ เพราะเด็กอเมริกันหลายคนชอบจิ๊กอาหารในร้านที่ดูสวยๆ แพงๆ ไปขายต่อในราคาน่ารักๆ เนื่องจากพวกเขาต้องหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือ นายจ้างส่วนมากก็เลยตั้งกฎนี้ตามๆ กันมา เพื่อกันการเอาไปขายต่อ แล้วเงินเข้ากระเป๋าพนักงาน ทั้งที่เป็นวัตถุดิบของบริษัท ทำโดยเชฟมือหนึ่งของร้าน และอีกอย่างคืออาหารแต่ละร้านจะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เมื่อนำไปขายคนก็จะรู้ทันทีว่าเป็นของที่ไหน แล้วระหว่างมาทานที่ร้านเสียเงิน $30 กับมีคนเอาไปเดินขายในเมืองอันละ $10 ถ้าเราเป็นลูกค้าเราก็คงไม่ไปที่ร้านอีกใช่มั้ยคะ ผลระยะยาวก็คือ ที่ร้านมีลูกค้าน้อยลง การจ้างงานก็ลดลง ปีหน้าเขาก็จะไม่ต่อสัญญา Work & Travel กับไทยอีก เผลอๆ ไม่ต้องรอปีหน้าก็ได้ น้องอาจจะได้กลับบ้านก่อนกำหนดเลยก็ได้ค่ะ ฉะนั้นเขาเลยต้องกันไว้ก่อนเลย

     พี่เคยไปทำงานในรีสอร์ทที่โปรโมทว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เห็นตอนดึกๆ ของกินที่เหลือโยนทิ้งหมด เลยไปถามเขาเลยว่ามันรักษาสิ่งแวดล้อมยังไง กินทิ้งกินขว้างเนี่ย ให้พวกเราเอากลับไปกินเวลาหิวตอนดึกๆ ยังดีซะกว่า แล้วนายจ้างก็เลยเล่าให้ฟังมาแบบนี้ค่ะ (พี่ก็ฟังไปกินไป)





4. ไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

     หลายครั้งปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากตัวน้องด้วยซ้ำ แต่เป็นเด็กไทยใสซื่อทุกทีเลยที่โดนไล่ออก ข้อนี้จะยากกว่าทุกข้อเลยค่ะ เพราะเวลาเจ้าถิ่นไม่ชอบหน้าเราทั้งที่เราไม่เคยทำอะไรให้เลย  เจ้าถิ่นก็จะไปใส่ร้ายป้ายสีให้นายจ้างฟัง หรืออาจจะจัดฉากใส่ไฟเราต่อหน้าเลยก็มีคนเจอมาแล้วค่ะ ซึ่งถามว่าเราทำอะไรได้มั้ย ก็ทำไม่ได้นะ เราอุตส่าห์อยู่เงียบๆ เฉยๆ แล้ว พวกนั้นนั่นแหละมารังควานไม่เลิก

     ปัญหานี้ให้ใจเย็น และท่องเอาไว้ว่าเราเป็นนางเอกละครไทย จะโดนโขกสับ จัดฉากใส่ความอะไรยังไงก็เป็นนางเอกละครไทยสมัยเก่าไว้ค่ะ (ไม่เอาแบบสมัยใหม่ที่ตบคืนนะ) แล้วพิจารณาให้ดีว่า จะเดินเกมต่อยังไง ซึ่งถ้าใจร้อนหรือมีแต่อารมณ์โมโหอยากเอาคืน เราก็จะยิ่งดูร้ายไปตามที่โดนเม้า (และพระเอกบื้อก็มาเห็นตอนเราตบคืนทุกที) ฉะนั้นไม่เอาค่ะ เราต้องมีสติและคำนวณผลดีผลเสียให้รอบคอบ ดูความเป็นไปได้หลายๆ ทางก่อนลงมือทำอะไร ภายนอกเราเป็นนางเอกสมัยก่อนก็จริง แต่เราต้องคิดอะไรเหนือกว่าแบบนางเอกยุคใหม่ไว้ด้วยค่ะ




     เพื่อประโยชน์ของรุ่นน้องที่จะไปกับโครงการนี้อีก หลังวันสุดท้ายของการทำงานค่อยเขียนรายงานเรื่องที่โดนรังแกค่ะ แต่อย่าเม้าใส่ไฟนะ อาจจะให้เพื่อนๆ ช่วยเขียนหลายๆ คน หรือจะเขียนในแบบประเมินของลูกค้าก็ได้ค่ะ (แน่ใจนะว่านางเอก 555)

     เลือกคนที่จะแจ้งปัญหาด้วยให้ถูกคนเสมอค่ะ นั่นคือคนที่มีอำนาจสามารถแก้ไขอะไรให้ได้ มีปัญหากับเพื่อนร่วมห้องก็ควรบอกหัวหน้าที่ดูแลเรื่องการจัดห้องพัก มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานบางคนก็ควรบอกหัวหน้าที่จัดตารางงานให้จัดตารางเราไม่ให้ชนกับคนนั้น หรือถ้ามีปัญหากับตัวงานก็ควรบอกหัวหน้าที่สามารถย้ายแผนกให้เราได้ค่ะ

     อย่าไฝว้แบบทุ่มสุดตัว เพราะมีโอกาสน้อยมากที่เราจะได้ความเป็นธรรมค่ะ เขามักจะเลือกคนของเขาก่อนเสมอ และบอกเราว่า "ปล่อยๆ ไปเถอะ ช่างมัน" ฉะนั้นอย่าเอามาคิดมากจนปวดหัวนอนไม่หลับ เพราะนี่เป็นแค่งานชั่วคราวช่วงปิดเทอม ไม่ใช่งานประจำในฝันที่เราเฝ้ารอมาทั้งชีวิต 



5. ปัญหาส่วนตัว

     บางคนอาจจะมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงจนไม่สามารถทำงานได้ ไม่ใช่ว่านายจ้างจะใจดำไม่สงสารนะคะ แต่ในทางธุรกิจมันก็ไม่ใช่ค่ะ แถมเราไม่ใช่พนักงานประจำที่ทำมา 20 ปีจงรักภักดีถวายชีวิตด้วย

     บางคนอาจจะติดมือถือมากเกินไปจนแอบเล่นในเวลางาน อันนี้คนรู้จักพี่ก็โดนเตือนหลายครั้งมาก ดีที่ไม่ถึงกับโดนไล่ออก

     คนที่ความอดทนต่ำก็ไม่สามารถทำงานบริการและใช้แรงงานพวกนี้ได้ เพราะนอกจากจะวีนใส่นายจ้างและเพื่อนร่วมงานแล้ว ยังวีนใส่ลูกค้าด้วย เพราะน้องจะเจอลูกค้างี่เง่าได้เยอะมาก แต่ก็ต้องคุมอารมณ์ให้ดี อย่าคิดแค่ว่าด่าแล้วก็จากกัน มันกับเราไม่เจอกันอีกแล้ว เพราะผลเสียจะเกิดกับองค์กรค่ะ จะโกรธเกลียดนายจ้างหรือคนบางคนในองค์กรยังไง ก็อย่าลืมนึกถึงพนักงานที่ดีๆ คนอื่นที่ไม่รู้อะไรด้วยนะคะ แล้วไหนจะครอบครัวที่เขาต้องหาเลี้ยงอีก (ยังเป็นนางเอกอยู่)




     เช่นเคยค่ะ พี่จะย้ำเสมอว่า Work & Travel ไม่ใช่อะไรที่น่ากลัวหรือโหดร้ายทะลุโลก นี่เป็นแค่การรวมเรื่องแย่ๆ มาให้ดู เพื่อที่น้องๆ จะได้เตรียมฟิตร่างกายและใจไปพบว่า "พี่เว่อร์เกิน มาแล้วสนุกออก มีแต่คนดีๆ" เดี๋ยวคราวหน้าพี่จะเอาเหตุผลแปลกๆ ที่เคยมีคนโดนไล่ออกมาแล้วมาให้ดูนะคะ เป็นอะไรที่ฮามากๆ ไว้คลายเครียดท้ายปีค่ะ 


ภาพประกอบ
www.abrs.com
conservalinked.com
www.repmanblog.com
www.huffingtonpost.com
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เด็กเวิค2013 14 ธ.ค. 56 21:40 น. 11
บทความนี้ดีมากๆค่ะพี่พิซซ่า ขอมาแชร์ความเห็นส่วนตัวเพิ่มนะคะ บอกสาเหตุอื่นๆที่เคยเห็นๆมาตอนไปเวิคนะคะ รวมถึงปัญหาที่เจอและการแก้ไขในบางส่วน อย่างที่พี่ๆบอกเลย คือหายตัวไปไม่แจ้งไม่อะไร สายก็มี มีคนแอ๊บแบ๊วป่วยค่า ไอคอกแค่กๆ แต่ปรากฏว่า.......มีคนเห็นนางไปเดินสวีทกับฝรั่งเฉยเลย ขโมยของก็ตามนั้นค่ะ ขโมยของนี่รวมถึงเอาของในโรงแรมที่แขกทิ้งไป(ขอย้ำว่าทิ้ง ไม่ใช่ลืม)กลับบ้านด้วยนะคะ ไม่ทราบว่าเป็นทุกทีไหมแต่ก็เห็นๆมาค่ะ ถ้าใครขโมยเหล้ากลับยิ่งแล้วใหญ่เลยเพราะมีอายุไม่ค่อยถึงกันด้วย อันนี้ตามความปราณีของที่ทำงานละค่ะ ปล.เรื่องขโมยของอย่าไว้ใจใครแม้แต่คนไทย ล็อคห้องล็อคนุ่นนี่นั่นไว้ บางทีของไม่มีโดนขโมยเลยยยยยย พอใกล้ๆจะกลับออกลายมาขโมยกันก็มีนะคะ ประเด็นไล่ออกอีกอันนึง หลับค่ะ หลับเวลาทำงานและทำต่อหน้าแขกด้วย ไม่รุ้ว่าแขกเห็นไหม แต่เมเนเจอร์เจอกันจังๆ ก้โดนสอยกันไป ------------------------------ ส่วนนี้จะเป็นปัญหาที่เกิด แต่ไม่ถึงขั้นไล่ออก โดนหมั่นไส้ อันนี้ที่เจอไม่ถึงขั้นไล่ออกค่ะ แต่ก่อกวน สมมติเราพักได้15นาที-30นาที เราต้องรีบวิ่งจากที่ทำงานไปเดินอีกโซนเพื่อซื้อของกิน แล้วที่ทำงานมีนโยบายว่า guests come first เอาล่ะหว่า แขกมีเป็นสิบ แขกมาทีหลังให้ก่อนนี่เข้าใจ แต่เราจะไม่ต้องกินข้าวเลยหรอ... T T''' มีครั้งนึงเราเหลือเวลากินแค่10นาที และยังไม่ได้ซื้อของเลย วิ่งมาถึงเจอคิวแขกคอตกจ้ะ เดินกลับ โชคดีเพื่อนฝรั่งมาถามแล้ว เค้าไปคุยกับคนที่ทำร้านอาหารเค้าเลยลัดคิวให้เพราะเป็นของที่มีอยู่หยิบให้ได้เลยเงี้ยค่ะ ถ้าเราไปถามเองฝันค่ะโดนไล่ไปต่อแถว อีกประเด็นนึงของพวกก่อกวนก็คือสั่งแล้วแล้วแต่ไม่ทำให้ กวนไหมล่ะคะ ยืนรอไปสิ แต่เมเนอเจอร์กับพนักงานบางคนของโซนนี้น่ารักถ้าแกเห็นแกจะช่วยแกจะถาม อาจจะเพราะเขาเราจะงอกแล้ว55555 ถ้าใครเจอแบบนี้ถามค่ะถาม เราเดินไปถามเลยว่าคุณช่วยเช็คอาหารของฉันหน่อยได้ไหม เวลาพักฉันมีแค่30นาที นี่ยืนรอมา22นาทีแล้ว (ครัวเป็นครัวเปิดค่า เห็นเลยว่าทำเสร็จละแต่ไม่หยิบให้) นอกจากนี้ยังมีหาข้ออ้างเล็กๆน้อยๆเพื่อไล่ออกเวลาที่มีคนงานพอ ตอนมีเด็กไทยชาติเดียวทำผิดกฏยังไง อยากออกยังไง เธอต้องอยู่ได้เพราะขาดคน พออีกชาติมาเท่านั้นแหล่ะ เหอะๆ มือถือคนไทยก็ติดจริงจริ๊ง รอพักไม่ได้ไปแอบเล่นในห้องน้ำ เรื่องชู้สาว เอาล่ะถึงแม้ในไทยคุณไม่สวย คุณไม่ฮอต ในตปท.คุณก็โดนข้อหาชู้สาวได้ แม้จะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม อย่าลืมว่าโลกนี้มีคนขี้หึง หึงโหดอยู่ด้วย เราโดนมาละ ยืนคุยเฉยๆและฝ่ายชายชวนคุยในเรื่องทั่วไป๊ทั่วไป โดนโกรธจ้า ฝ่ายหญิงจากที่สนิทกันพอประมาณไม่คุยกับเราอีกแล้วไปเม้าๆกับกลุ่มนาง เพื่อนสนิทแย่งแฟนกันอะไรก็มี /กับฝรั่ง จะเรียกชู้สาวไหมไม่รู้ เพราะแฟนนางก็คุยไปทั่ว เกรียนไปทั่ว -เราก็ไม่ได้เล่นอะไรด้วย รู้แค่นางชอบส่งเราไปที่แย่ๆประจำ ทุกครั้งเลยป่าวก็ไม่รู้55555 (ที่ทำงานมีจุดทำงานหลายจุดค่ะ แต่ตำแหน่งเดียวกัน) เราก็บอกกับคนที่คุยได้เอา แต่ไม่ใช่โวยวายนะคะ ไม่ต้องพูดถึงคนที่ทำ นอกจากหัวหน้าจะถาม คุยแบบมีสติและเหตุผล โดนลวนลาม อันนี้ก็มีทั้งโดนแล้วและเกือบโดน สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา ถ้ารู้ว่าเราสู้มันไม่ได้ หรือไม่มีทางหนี แหกปากช่วยคุณได้ มีทั้งเกือบโดนและโดนไปแล้วนิดๆ แต่เรื่องยาวอ่ะ เดี๋ยวจะอ่านกันตาแฉะเกินไป เจ้าของบ้านที่เอเจนซี่อเมริกาหามาให้ดีจริง.....จริงหรอ? บ้านเรามีประเด็นเจ้าของบ้านแอบเข้ามาในบ้านโดนไม่แจ้งอะไร,ขางหาย ใครทำไม่รู้, พยายามขู่สงกลับไทย(อันนี้เนื่องจากฝ่ายเราก็มีผิดมากค่ะแต่เค้าจะเหมาหมดทุกคน) และ พยายามจะเอาเงินdepositเราไปทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไร แต่ป้าแกจะเอาตัง ไม่ยอมเฟ้ย เรื่องไรล่ะ ขอบอกว่าเราในไทยไม่เคยไปพูดอะไรกับใคร ไม่เคยกล้าถาม ไม่อะไรสักอย่าง แต่ในอเมริกาเราคุยได้นะ เค้าจะฟังไหมเข้าใจไหมอีกเรื่องเพราะส่วนใหญ่เค้าจะมีเหตุผลกันพอแม้เราจะตำแหน่งเล็กกว่า เด็กกว่า ถ้าเราถูก เราคุย(ดีๆ)ได้และไม่มีปัญหาภายหลังค่ะ เรื่องที่เล่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เจอจากการเวิคแค่ครั้งเดียวเท่านั้น มีเรื่องดีๆอีกเพียบและเรื่องแย่ๆก็ไม่ได้เล่าทั้งหมด เราเองก็ยังอยากไปเวิคอีกนะ สนุกดีประสบการณ์เพียบ ประสบการณ์มากน้อยแล้วแต่การวางตัว ความขยัน การเข้าสังคม และการคิดของแต่ละคน ทั้งที่ทั้งนั้นที่บอกเรื่องราวต่างๆมา ไม่ใช่เพื่อให้ขู่ให้กังวล เราแค่อยากให้คุณรู้ว่าเรื่องแบบนี้ก็มีนะจ้ะ เตรียมตัวให้พร้อม ลองคิดเล่นๆก็ได้ถ้าเรื่องแบบนี้เกินขึ้นฉันควรทำยังไง ฉันแก้อะไรได้บ้าง บางคนไปไม่เจอปัญหาเลยแฮปปี้เอนดิ้ง เอรววี่ติงจิงกะเบลค่ะ แล้วแต่ดวง แล้วแต่โชคว่าเจอใครดี เจอใครร้าย และการกระทำของตัวเราเองเท่านั้นนะคะ จะมีใครอ่านหมดไหมหน่อ5555555 ขอให้โชคดีและอย่าลืม 1.มีสติ 2.มีเหตุผล 3.อย่าโวยวายถ้าไม่จำเป็น 4.อย่ายอม แต่ก็อย่าไฝว้ ปล.มีอะไรถามได้คุยได้ในนี้นะ หรือจะโพสเมลไว้ก็ได้เดี๋ยวติดต่อไปค่า
5
PiZZaPeaCH Member 16 ธ.ค. 56 12:06 น. 11-1
คล้ายกันเลยค่ะ เสียใจ อยู่ไทยพี่ก็เป็นพวกเฉยๆ พี่กลัวคนแปลกหน้าด้วยจะไม่พูด ไม่กล้าสบตาเลย กลัวไปหมด แต่ตอนทำงานที่โน่น พี่มโนว่า "พี่เล่นเป็นพนักงานในร้าน...อยู่" ในเวลางานก็เลยพูดคุยได้ทั้งกับเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน และลูกค้า แต่ข้อเสียคือพอหมดเวลางานแต่ละวัน พี่ก็จะคุยกับเพื่อนร่วมงานแบบกล้าๆ กลัวๆ มีระยะห่างเยอะมาก แต่พอเข้างานก็ปร๋อเลย จนเค้าก็งงกันว่ามันเป็นอะไร Bipolar หรอ โดนแต๊ะอั๋ง โดนหลี โดนปล่อยมุกเสี่ยว หรือแม้แต่ชวนตรงๆ ซึ่งๆ หน้าว่า "ไปนอนบ้านชั้นมั้ย ชั้นวิน เธอวิน วินวินกันทั้งคู่ ไม่ผูกมัด" แล้วมันก็ลากแขนพี่ไปเลย คือสตั๊นท์ไปวินึงว่ามันตรงไปมั้ย แต่พอหายงงก็สะบัดหลุดแล้วเผ่นแน่บพร้อมตะโกนบอกมันไปเลยว่าไม่วินด้วยยยยย (และคนนั้นก็ไม่กล้ามองหน้าพี่อีกเลย) เกิดมาไม่เคยป๊อป ไม่เคยมีผู้ชายตอมมาก่อน แต่ไปที่นั่นแล้วโทรบอกแม่เลยว่าขายดีมาก มีแฟนคลับกันเลยทีเดียว ถึงขนาดมีผู้ชายที่พี่ไม่รู้ชื่อและไม่เคยคุยด้วย 2 คน มันเขม่นกันเองเพราะจะจีบพี่พร้อมๆ กัน และก็มีชะนีที่กรี๊ดๆ พวกนี้ มารุมรังเกียจ จิกตาใส่ ชักสีหน้า โยนของผ่านหัวไปมิลเดียว หรือเดินสวนกันในทางแคบๆ นางก็เอาสะโพกดินระเบิดมากระแทกจนพี่อัดกำแพง มีช่วงนึงเจ้านายมาขอยืมตัวพี่ไปช่วยอีกแผนก แล้วแจ็กพ็อตได้ไปทำงานคู่บัดดี้กับ 1 ในตัวแรง นางอู้สุดติ่งเลยทั้งที่มันคืองานหลักนาง เพราะพี่ไม่ใช่แม่บ้าน ก็ทำได้แค่เช็ดๆ ตามคำสั่ง แต่จะไม่รู้รายละเอียด แต่นางไม่ทำเลย ไปนอนกลิ้งบนเตียงแล้วโทรเม้าท์มอยโดยนินทาพี่ให้เพื่อนมันฟังด้วย แต่พอเจ้านายมาตรวจ นางกลิ้งลงมาทำเป็นจัดๆ ผ้าปูเตียง แล้วยังดุพี่ด้วยว่าบอกแล้วไม่ยอมฟัง ต้องปูผ้างี้ๆๆๆ ไม่ได้เรื่องเลยสาวไทยเนี่ย แต่พี่หน้าตาเจี๋ยมเจี๊ยมด้วยแหละ แค่ยืนเตี้ยอยู่ข้างๆ นางก็ดูน่าสงสารแล้ว หัวหน้าทั้งของแผนกพี่จริงๆ และที่พี่ไปช่วยงานเลยเอ็นดูเพราะตัวเท่าหลานเค้า 55555 ยิ่งถ้าพวกผู้ชายมาเห็นก็จะหักหน้านางอู้งานคนนั้นทันที ครั้งนึงต้องเลื่อนตู้เพื่อเช็ดข้างหลัง นางตัวใหญ่กว่าตู้แต่ก็ไปอ่อยให้ผู้ชายมาช่วยยก พอผู้ชายมาถึงก็บอกว่าพี่ไม่ต้องทำ เดี๋ยวเค้ากับนางอู้งานจะยกเอง (สะใจนิดๆ แต่ทำหน้าซึมๆ ต่อ) พี่ไม่ต่อกรกลับด้วยแหละ เลยไม่มีกรณีเด็ดๆ ของตัวเอง แต่เพื่อนๆ นี่เยอะมาก แล้วพี่จะโดนตามไปเป็นล่าม เพื่อนพี่ก็โดนบัดดี้เป็นพวกชะนีอู้งานเหมือนกัน แต่มันไฝว้เลย จนเรื่องใหญ่ แล้วถึงหลักฐานเรามีเพียบทั้งคลิปเสียงที่ฝั่งนั้นท้าว่านางจะอู้ จะทำไมยะ แต่สุดท้ายหัวหน้าของเพื่อนพี่ก็พยายามให้เพื่อนพี่ "ช่างนางเถอะ" เพราะนางคนนั้นยังทำงานต่ออีกหลายเดือน แต่เพื่อนพี่จะกลับเดือนหน้า เค้าก็ไม่อยากให้เยอะกันอ่ะ ฉะนั้นไม่ต้องรักความยุติธรรมสุดโต่งก็ได้ค่ะ ทนไว้ๆ 3 เดือนเอง ปกติอยู่ไทยนี่ ถ้าเจอคนแซงคิวเข้าประตูรถไฟฟ้า พี่ก็กัดนิ่มๆ ว่า "หัวลูกศรชี้ออกค่ะแปลว่าให้ข้างในออกก่อน ไม่ทราบมาก่อนก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะใครๆ ก็มีครั้งแรกทั้งนั้น คนเราผิดพลาดกันได้" แล้วยิ้มแบบใสซื่อให้ แต่ไปโน่นนี่ เย็นชากับโลกมาก นิ่งเว่อร์
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Patricia N. Member 15 ธ.ค. 56 22:19 น. 16

ขอบคุณมากค่ะ

ชอบบทความนี้มาก อายุ 18 เมื่อไหร่ จะไปทันที!เยี่ยม

และจะเป็นพนักงานที่ดี ไม่ทำผิดกฏ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

24 ความคิดเห็น

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
Jhinn Member 14 ธ.ค. 56 11:41 น. 3

อยากไป work มั่ง แต่เพิ่งรู้ฝรั่งนี่ก็ดูละครไทยเหมือนกันนะเนี่ย เดี๋ยว ๆ จะโดนเจ้าแม่เอาคืน โฮะ ๆ ๆ ๆ (ขำ ๆ จ้า 5 5 5 +) คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากจริง ๆ

ตั้งใจ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Helegriel (Anarya) Member 14 ธ.ค. 56 18:08 น. 9

งานอะไรก็มีเรื่องวุ่นๆทั้งนั้นแหละ กับไทยด้วยกันก็ใช่ย่อย ปล่อยวางอย่าไปคิดอะไรมากนัก หางานที่เหมาะกับเราจริงๆ หายากหน่อยก็ต้องหา เพราะอดทนๆๆโดนโขกสับไปจนตายน่ะไม่ไหวหรอก

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เด็กเวิค2013 14 ธ.ค. 56 21:40 น. 11
บทความนี้ดีมากๆค่ะพี่พิซซ่า ขอมาแชร์ความเห็นส่วนตัวเพิ่มนะคะ บอกสาเหตุอื่นๆที่เคยเห็นๆมาตอนไปเวิคนะคะ รวมถึงปัญหาที่เจอและการแก้ไขในบางส่วน อย่างที่พี่ๆบอกเลย คือหายตัวไปไม่แจ้งไม่อะไร สายก็มี มีคนแอ๊บแบ๊วป่วยค่า ไอคอกแค่กๆ แต่ปรากฏว่า.......มีคนเห็นนางไปเดินสวีทกับฝรั่งเฉยเลย ขโมยของก็ตามนั้นค่ะ ขโมยของนี่รวมถึงเอาของในโรงแรมที่แขกทิ้งไป(ขอย้ำว่าทิ้ง ไม่ใช่ลืม)กลับบ้านด้วยนะคะ ไม่ทราบว่าเป็นทุกทีไหมแต่ก็เห็นๆมาค่ะ ถ้าใครขโมยเหล้ากลับยิ่งแล้วใหญ่เลยเพราะมีอายุไม่ค่อยถึงกันด้วย อันนี้ตามความปราณีของที่ทำงานละค่ะ ปล.เรื่องขโมยของอย่าไว้ใจใครแม้แต่คนไทย ล็อคห้องล็อคนุ่นนี่นั่นไว้ บางทีของไม่มีโดนขโมยเลยยยยยย พอใกล้ๆจะกลับออกลายมาขโมยกันก็มีนะคะ ประเด็นไล่ออกอีกอันนึง หลับค่ะ หลับเวลาทำงานและทำต่อหน้าแขกด้วย ไม่รุ้ว่าแขกเห็นไหม แต่เมเนเจอร์เจอกันจังๆ ก้โดนสอยกันไป ------------------------------ ส่วนนี้จะเป็นปัญหาที่เกิด แต่ไม่ถึงขั้นไล่ออก โดนหมั่นไส้ อันนี้ที่เจอไม่ถึงขั้นไล่ออกค่ะ แต่ก่อกวน สมมติเราพักได้15นาที-30นาที เราต้องรีบวิ่งจากที่ทำงานไปเดินอีกโซนเพื่อซื้อของกิน แล้วที่ทำงานมีนโยบายว่า guests come first เอาล่ะหว่า แขกมีเป็นสิบ แขกมาทีหลังให้ก่อนนี่เข้าใจ แต่เราจะไม่ต้องกินข้าวเลยหรอ... T T''' มีครั้งนึงเราเหลือเวลากินแค่10นาที และยังไม่ได้ซื้อของเลย วิ่งมาถึงเจอคิวแขกคอตกจ้ะ เดินกลับ โชคดีเพื่อนฝรั่งมาถามแล้ว เค้าไปคุยกับคนที่ทำร้านอาหารเค้าเลยลัดคิวให้เพราะเป็นของที่มีอยู่หยิบให้ได้เลยเงี้ยค่ะ ถ้าเราไปถามเองฝันค่ะโดนไล่ไปต่อแถว อีกประเด็นนึงของพวกก่อกวนก็คือสั่งแล้วแล้วแต่ไม่ทำให้ กวนไหมล่ะคะ ยืนรอไปสิ แต่เมเนอเจอร์กับพนักงานบางคนของโซนนี้น่ารักถ้าแกเห็นแกจะช่วยแกจะถาม อาจจะเพราะเขาเราจะงอกแล้ว55555 ถ้าใครเจอแบบนี้ถามค่ะถาม เราเดินไปถามเลยว่าคุณช่วยเช็คอาหารของฉันหน่อยได้ไหม เวลาพักฉันมีแค่30นาที นี่ยืนรอมา22นาทีแล้ว (ครัวเป็นครัวเปิดค่า เห็นเลยว่าทำเสร็จละแต่ไม่หยิบให้) นอกจากนี้ยังมีหาข้ออ้างเล็กๆน้อยๆเพื่อไล่ออกเวลาที่มีคนงานพอ ตอนมีเด็กไทยชาติเดียวทำผิดกฏยังไง อยากออกยังไง เธอต้องอยู่ได้เพราะขาดคน พออีกชาติมาเท่านั้นแหล่ะ เหอะๆ มือถือคนไทยก็ติดจริงจริ๊ง รอพักไม่ได้ไปแอบเล่นในห้องน้ำ เรื่องชู้สาว เอาล่ะถึงแม้ในไทยคุณไม่สวย คุณไม่ฮอต ในตปท.คุณก็โดนข้อหาชู้สาวได้ แม้จะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม อย่าลืมว่าโลกนี้มีคนขี้หึง หึงโหดอยู่ด้วย เราโดนมาละ ยืนคุยเฉยๆและฝ่ายชายชวนคุยในเรื่องทั่วไป๊ทั่วไป โดนโกรธจ้า ฝ่ายหญิงจากที่สนิทกันพอประมาณไม่คุยกับเราอีกแล้วไปเม้าๆกับกลุ่มนาง เพื่อนสนิทแย่งแฟนกันอะไรก็มี /กับฝรั่ง จะเรียกชู้สาวไหมไม่รู้ เพราะแฟนนางก็คุยไปทั่ว เกรียนไปทั่ว -เราก็ไม่ได้เล่นอะไรด้วย รู้แค่นางชอบส่งเราไปที่แย่ๆประจำ ทุกครั้งเลยป่าวก็ไม่รู้55555 (ที่ทำงานมีจุดทำงานหลายจุดค่ะ แต่ตำแหน่งเดียวกัน) เราก็บอกกับคนที่คุยได้เอา แต่ไม่ใช่โวยวายนะคะ ไม่ต้องพูดถึงคนที่ทำ นอกจากหัวหน้าจะถาม คุยแบบมีสติและเหตุผล โดนลวนลาม อันนี้ก็มีทั้งโดนแล้วและเกือบโดน สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา ถ้ารู้ว่าเราสู้มันไม่ได้ หรือไม่มีทางหนี แหกปากช่วยคุณได้ มีทั้งเกือบโดนและโดนไปแล้วนิดๆ แต่เรื่องยาวอ่ะ เดี๋ยวจะอ่านกันตาแฉะเกินไป เจ้าของบ้านที่เอเจนซี่อเมริกาหามาให้ดีจริง.....จริงหรอ? บ้านเรามีประเด็นเจ้าของบ้านแอบเข้ามาในบ้านโดนไม่แจ้งอะไร,ขางหาย ใครทำไม่รู้, พยายามขู่สงกลับไทย(อันนี้เนื่องจากฝ่ายเราก็มีผิดมากค่ะแต่เค้าจะเหมาหมดทุกคน) และ พยายามจะเอาเงินdepositเราไปทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไร แต่ป้าแกจะเอาตัง ไม่ยอมเฟ้ย เรื่องไรล่ะ ขอบอกว่าเราในไทยไม่เคยไปพูดอะไรกับใคร ไม่เคยกล้าถาม ไม่อะไรสักอย่าง แต่ในอเมริกาเราคุยได้นะ เค้าจะฟังไหมเข้าใจไหมอีกเรื่องเพราะส่วนใหญ่เค้าจะมีเหตุผลกันพอแม้เราจะตำแหน่งเล็กกว่า เด็กกว่า ถ้าเราถูก เราคุย(ดีๆ)ได้และไม่มีปัญหาภายหลังค่ะ เรื่องที่เล่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เจอจากการเวิคแค่ครั้งเดียวเท่านั้น มีเรื่องดีๆอีกเพียบและเรื่องแย่ๆก็ไม่ได้เล่าทั้งหมด เราเองก็ยังอยากไปเวิคอีกนะ สนุกดีประสบการณ์เพียบ ประสบการณ์มากน้อยแล้วแต่การวางตัว ความขยัน การเข้าสังคม และการคิดของแต่ละคน ทั้งที่ทั้งนั้นที่บอกเรื่องราวต่างๆมา ไม่ใช่เพื่อให้ขู่ให้กังวล เราแค่อยากให้คุณรู้ว่าเรื่องแบบนี้ก็มีนะจ้ะ เตรียมตัวให้พร้อม ลองคิดเล่นๆก็ได้ถ้าเรื่องแบบนี้เกินขึ้นฉันควรทำยังไง ฉันแก้อะไรได้บ้าง บางคนไปไม่เจอปัญหาเลยแฮปปี้เอนดิ้ง เอรววี่ติงจิงกะเบลค่ะ แล้วแต่ดวง แล้วแต่โชคว่าเจอใครดี เจอใครร้าย และการกระทำของตัวเราเองเท่านั้นนะคะ จะมีใครอ่านหมดไหมหน่อ5555555 ขอให้โชคดีและอย่าลืม 1.มีสติ 2.มีเหตุผล 3.อย่าโวยวายถ้าไม่จำเป็น 4.อย่ายอม แต่ก็อย่าไฝว้ ปล.มีอะไรถามได้คุยได้ในนี้นะ หรือจะโพสเมลไว้ก็ได้เดี๋ยวติดต่อไปค่า
5
PiZZaPeaCH Member 16 ธ.ค. 56 12:06 น. 11-1
คล้ายกันเลยค่ะ เสียใจ อยู่ไทยพี่ก็เป็นพวกเฉยๆ พี่กลัวคนแปลกหน้าด้วยจะไม่พูด ไม่กล้าสบตาเลย กลัวไปหมด แต่ตอนทำงานที่โน่น พี่มโนว่า "พี่เล่นเป็นพนักงานในร้าน...อยู่" ในเวลางานก็เลยพูดคุยได้ทั้งกับเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน และลูกค้า แต่ข้อเสียคือพอหมดเวลางานแต่ละวัน พี่ก็จะคุยกับเพื่อนร่วมงานแบบกล้าๆ กลัวๆ มีระยะห่างเยอะมาก แต่พอเข้างานก็ปร๋อเลย จนเค้าก็งงกันว่ามันเป็นอะไร Bipolar หรอ โดนแต๊ะอั๋ง โดนหลี โดนปล่อยมุกเสี่ยว หรือแม้แต่ชวนตรงๆ ซึ่งๆ หน้าว่า "ไปนอนบ้านชั้นมั้ย ชั้นวิน เธอวิน วินวินกันทั้งคู่ ไม่ผูกมัด" แล้วมันก็ลากแขนพี่ไปเลย คือสตั๊นท์ไปวินึงว่ามันตรงไปมั้ย แต่พอหายงงก็สะบัดหลุดแล้วเผ่นแน่บพร้อมตะโกนบอกมันไปเลยว่าไม่วินด้วยยยยย (และคนนั้นก็ไม่กล้ามองหน้าพี่อีกเลย) เกิดมาไม่เคยป๊อป ไม่เคยมีผู้ชายตอมมาก่อน แต่ไปที่นั่นแล้วโทรบอกแม่เลยว่าขายดีมาก มีแฟนคลับกันเลยทีเดียว ถึงขนาดมีผู้ชายที่พี่ไม่รู้ชื่อและไม่เคยคุยด้วย 2 คน มันเขม่นกันเองเพราะจะจีบพี่พร้อมๆ กัน และก็มีชะนีที่กรี๊ดๆ พวกนี้ มารุมรังเกียจ จิกตาใส่ ชักสีหน้า โยนของผ่านหัวไปมิลเดียว หรือเดินสวนกันในทางแคบๆ นางก็เอาสะโพกดินระเบิดมากระแทกจนพี่อัดกำแพง มีช่วงนึงเจ้านายมาขอยืมตัวพี่ไปช่วยอีกแผนก แล้วแจ็กพ็อตได้ไปทำงานคู่บัดดี้กับ 1 ในตัวแรง นางอู้สุดติ่งเลยทั้งที่มันคืองานหลักนาง เพราะพี่ไม่ใช่แม่บ้าน ก็ทำได้แค่เช็ดๆ ตามคำสั่ง แต่จะไม่รู้รายละเอียด แต่นางไม่ทำเลย ไปนอนกลิ้งบนเตียงแล้วโทรเม้าท์มอยโดยนินทาพี่ให้เพื่อนมันฟังด้วย แต่พอเจ้านายมาตรวจ นางกลิ้งลงมาทำเป็นจัดๆ ผ้าปูเตียง แล้วยังดุพี่ด้วยว่าบอกแล้วไม่ยอมฟัง ต้องปูผ้างี้ๆๆๆ ไม่ได้เรื่องเลยสาวไทยเนี่ย แต่พี่หน้าตาเจี๋ยมเจี๊ยมด้วยแหละ แค่ยืนเตี้ยอยู่ข้างๆ นางก็ดูน่าสงสารแล้ว หัวหน้าทั้งของแผนกพี่จริงๆ และที่พี่ไปช่วยงานเลยเอ็นดูเพราะตัวเท่าหลานเค้า 55555 ยิ่งถ้าพวกผู้ชายมาเห็นก็จะหักหน้านางอู้งานคนนั้นทันที ครั้งนึงต้องเลื่อนตู้เพื่อเช็ดข้างหลัง นางตัวใหญ่กว่าตู้แต่ก็ไปอ่อยให้ผู้ชายมาช่วยยก พอผู้ชายมาถึงก็บอกว่าพี่ไม่ต้องทำ เดี๋ยวเค้ากับนางอู้งานจะยกเอง (สะใจนิดๆ แต่ทำหน้าซึมๆ ต่อ) พี่ไม่ต่อกรกลับด้วยแหละ เลยไม่มีกรณีเด็ดๆ ของตัวเอง แต่เพื่อนๆ นี่เยอะมาก แล้วพี่จะโดนตามไปเป็นล่าม เพื่อนพี่ก็โดนบัดดี้เป็นพวกชะนีอู้งานเหมือนกัน แต่มันไฝว้เลย จนเรื่องใหญ่ แล้วถึงหลักฐานเรามีเพียบทั้งคลิปเสียงที่ฝั่งนั้นท้าว่านางจะอู้ จะทำไมยะ แต่สุดท้ายหัวหน้าของเพื่อนพี่ก็พยายามให้เพื่อนพี่ "ช่างนางเถอะ" เพราะนางคนนั้นยังทำงานต่ออีกหลายเดือน แต่เพื่อนพี่จะกลับเดือนหน้า เค้าก็ไม่อยากให้เยอะกันอ่ะ ฉะนั้นไม่ต้องรักความยุติธรรมสุดโต่งก็ได้ค่ะ ทนไว้ๆ 3 เดือนเอง ปกติอยู่ไทยนี่ ถ้าเจอคนแซงคิวเข้าประตูรถไฟฟ้า พี่ก็กัดนิ่มๆ ว่า "หัวลูกศรชี้ออกค่ะแปลว่าให้ข้างในออกก่อน ไม่ทราบมาก่อนก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะใครๆ ก็มีครั้งแรกทั้งนั้น คนเราผิดพลาดกันได้" แล้วยิ้มแบบใสซื่อให้ แต่ไปโน่นนี่ เย็นชากับโลกมาก นิ่งเว่อร์
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Patricia N. Member 15 ธ.ค. 56 22:19 น. 15

ขอบคุณมากค่ะ

ชอบบทความนี้มาก อายุ 18 เมื่อไหร่ จะไปทันที!เยี่ยม

และจะเป็นพนักงานที่ดี ไม่ทำผิดกฏ

0
กำลังโหลด
Patricia N. Member 15 ธ.ค. 56 22:19 น. 16

ขอบคุณมากค่ะ

ชอบบทความนี้มาก อายุ 18 เมื่อไหร่ จะไปทันที!เยี่ยม

และจะเป็นพนักงานที่ดี ไม่ทำผิดกฏ

0
กำลังโหลด
พึมพำพรรณนา Member 20 ธ.ค. 56 20:52 น. 17

โอ้ว มุมมองที่จะไป work เริ่มเปลี่ยนเลย ขอบคุณนะแจ๊ะที่แชร์ประสบการณ์ รู้สึกไม่กล้าไปแล้ว เอ่อ..

3
เด็กเวิค2013 21 ธ.ค. 56 21:40 น. 17-1
ตกใจอย่ากลัวจิ คิดซะว่าทำเอาประสบการณ์ ที่ไหนๆก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่ว่าจะประเทศเราเองหรือต่างประเทศ ตัวเราเองมักจะคิดเสมอว่า ถ้าเกิดวันนึงเราไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆแล้วล่ะ เรามีเงินเท่าพี่ป๊าแม่ให้มาเราจะจัดการเงินเหล่านั้นยังไง แบ่งเวลาได้ไหม เราจะได้เรียนรู้อะไรบ้าง เราจะเข้ากับสังคมที่แตกต่างกับบ้านเราอย่างไร เราจะแก้ปัญหาได้ไหม แน่นอนค่ะว่าคนเราหนีปัญหาตลอดไปไม่ได้ ถ้าที่บ้านไม่มีปัญหาก็อยากแนะนำให้ลองดูน้า บอกเลยว่าหลายๆคนไม่มีเรื่องอะไรเลยแฮปปี้ดี๊ด๊าเอนจอยหมดไม่มีปัญหาอะไร สิ่งที่บอกๆไปอาจจะเป็นเพียงแค่มุมๆหนึ่งค่ะ เรื่องดีๆมีอีกเป็นล้านเรื่องเลย อย่ากลัวที่จะเริ่มต้นค่ะ ชีวิตยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ! ขอโทษนะคะถ้าคำพูดแลดูอวดดีไปหน่อยเอ่อ.. เราแค่อยากให้ลองคิดดูเฉยๆ เราเจอเรื่องแย่ๆมามากมายถ้ามันไม่ดี หรือไม่ได้อะไรเลย เราคงห้ามเธอไปแล้ว
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด