สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน อ่านชื่อบทความแล้วอย่างกับนิยายรักอมตะเลยใช่ไหมคะ วันนี้ “พี่น้อง” มีคดีเก่า แต่น่าสนใจมาเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเรื่องของผู้หญิงที่แต่งงานกับชายคนหนึ่ง เมื่อชายคนนี้เสียชีวิต เขาก็บริจาคหัวใจให้ชายอีกคน พอชายที่ได้หัวใจใหม่มาเจอเธอเข้าก็ตกหลุมรักเธออีกครั้ง (นึกถึง MV Timeless ของจางลี่อินเลย)
แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ เรื่องนี้ไม่ใช่หนังรักดราม่าน้ำตาคลอ แต่เป็นหนังลึกลับซ่อนเงื่อนพอๆ กับ Gone Girl เลยทีเดียว เพราะชายสองคนที่ได้ใช้หัวใจร่วมกันและรักหญิงคนเดียวกันนี้ ต่างก็จบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย
แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ เรื่องนี้ไม่ใช่หนังรักดราม่าน้ำตาคลอ แต่เป็นหนังลึกลับซ่อนเงื่อนพอๆ กับ Gone Girl เลยทีเดียว เพราะชายสองคนที่ได้ใช้หัวใจร่วมกันและรักหญิงคนเดียวกันนี้ ต่างก็จบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย
pic : pixabay
สามีคนที่ 1
ผู้หญิงที่พี่น้องกำลังกล่าวถึงนี้ชื่อ เชอริล สเวท แต่งงานกับชายคนหนึ่งและมีลูกชายสองคน แต่มาจับได้ทีหลังว่าชายคนนี้แต่งงานแล้ว (อ้าว!) ก็เลยต้องแยกทางกัน
สามีคนที่ 2
สามีคนที่สองของเชริลชื่อ เทรี่ คอทเทิล ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้ว กับลูกสาวอีกสองคน เทรี่นั้นเป็นลูกน้องของพ่อเชอริลอีกที ทั้งสองคนจึงมีโอกาสเจอกันและนำไปสู่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง จนเทรี่ตัดสินใจหย่ากับภรรยาของตน เพื่อมาแต่งงานกับเชริล ต่างฝ่ายต่างก็มีลูกติดฝั่งละสองคน และรวมลูกสาวคนใหม่ที่เกิดร่วมกันอีกหนึ่งคน
เนื่องจากเทรี่เรียนมาน้อย จึงทำงานได้เท่าที่วุฒิของตัวเองอำนวย เชอริลต่อว่าเทรี่ว่าหาเงินได้น้อยกว่าเธอเสียอีก ความเครียดทำให้เทรี่ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับน้องสาวครั้งหนึ่ง แต่พอน้องสาวของเขาเริ่มมีลูกกับสามี เขาก็ต้องย้ายกลับ
เดือนมีนาคม ปี 1995 เชอริลกับเทรี่ทะเลาะกันครั้งใหญ่ ลูกชายของเชอริลให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าแม่ของเขาถึงกับโยนแหวนแต่งงานทิ้งเลยด้วยซ้ำ เทรี่ต้องย้ายออกจากบ้านอีกครั้ง แต่เช้าวันนั้นเขาตัดสินใจยิงตัวตายในห้องน้ำที่บ้าน บาดเจ็บสาหัสจนต้องนำส่งโรงพยาบาล
ในตอนแรกเชอริลให้การกับนายอำเภอว่า ลูกชายของเธอเป็นคนตะโกนบอกว่าพ่อยิงตัวตาย แต่ตอนให้การกับเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพทีหลังเธอกลับให้การว่า ลูกชายตะโกนเรียกเธอ บอกว่าพ่อมีปืน เธอจึงรีบไปที่ห้องน้ำ แต่เขายิงตัวเองก่อน เขาล้มลงกับพื้นและพูดกับเธอว่า “ช่วยผมด้วย ที่รัก ผมกำลังจะตาย” ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องไหนเกิดขึ้นจริงหรืออาจไม่มีสักเรื่องที่เป็นเรื่องจริงก็ได้
หลังโคม่าอยู่ไอซียูมาได้ 4 วัน พ่อของเทรี่ก็อนุญาตให้หมอถอดเครื่องช่วยหายใจในวันที่ 20 มีนาคม
เนื่องจากเทรี่เรียนมาน้อย จึงทำงานได้เท่าที่วุฒิของตัวเองอำนวย เชอริลต่อว่าเทรี่ว่าหาเงินได้น้อยกว่าเธอเสียอีก ความเครียดทำให้เทรี่ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับน้องสาวครั้งหนึ่ง แต่พอน้องสาวของเขาเริ่มมีลูกกับสามี เขาก็ต้องย้ายกลับ
เดือนมีนาคม ปี 1995 เชอริลกับเทรี่ทะเลาะกันครั้งใหญ่ ลูกชายของเชอริลให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าแม่ของเขาถึงกับโยนแหวนแต่งงานทิ้งเลยด้วยซ้ำ เทรี่ต้องย้ายออกจากบ้านอีกครั้ง แต่เช้าวันนั้นเขาตัดสินใจยิงตัวตายในห้องน้ำที่บ้าน บาดเจ็บสาหัสจนต้องนำส่งโรงพยาบาล
ในตอนแรกเชอริลให้การกับนายอำเภอว่า ลูกชายของเธอเป็นคนตะโกนบอกว่าพ่อยิงตัวตาย แต่ตอนให้การกับเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพทีหลังเธอกลับให้การว่า ลูกชายตะโกนเรียกเธอ บอกว่าพ่อมีปืน เธอจึงรีบไปที่ห้องน้ำ แต่เขายิงตัวเองก่อน เขาล้มลงกับพื้นและพูดกับเธอว่า “ช่วยผมด้วย ที่รัก ผมกำลังจะตาย” ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องไหนเกิดขึ้นจริงหรืออาจไม่มีสักเรื่องที่เป็นเรื่องจริงก็ได้
หลังโคม่าอยู่ไอซียูมาได้ 4 วัน พ่อของเทรี่ก็อนุญาตให้หมอถอดเครื่องช่วยหายใจในวันที่ 20 มีนาคม
Paulette via findagrave.com
แต่หัวใจของเทรี่ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น พ่อของเทรี่ตกลงบริจาคอวัยวะของลูกชายให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งช่วยต่อชีวิตให้กับชายอีกคนที่กำลังจะเดินมาบรรจบบนเส้นทางเดียวกับเชอริลในอีกไม่กี่ปีต่อมา
สามีคนที่ 3
ซันนี่ เกรแฮม หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบเจ็ดปี เจ้าของเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์แห่งหนึ่งในเซาธ์ แคโรไลน่า เป็นทั้งนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและแฟมิลี่แมนที่แต่งงานกับภรรยามานานกว่า 3 ทศวรรษ ในปี 1995 ซันนี่ติดเชื้อไวรัสที่ทำลายกล้ามเนื้อหัวใจ หลังจากรอคอยหัวใจใหม่มาร่วมปี ในที่สุดเขาก็ได้รับการเปลี่ยนถ่ายหัวใจ
pic : pixabay
ซันนี่พบว่าเขารู้สึกแข็งแรงขึ้นมาก และไม่ค่อยกังวลเท่าไรกับการที่ได้หัวใจคนอื่นมาใช้ แต่เขาก็เริ่มมีพฤติกรรมอื่นที่เขาไม่เคยทำมาก่อน เช่น ชอบดื่มเบียร์ หรือกินฮอทด็อก ซึ่งเป็นอาหารโปรดของเทรี่
ในปี 1997 ซันนี่ก็นัดพบเชอริลเพื่อแสดงความขอบคุณเรื่องการบริจาคหัวใจ เพียงพบกันครั้งแรก ซันนี่ก็ตกหลุมรักเชอริลทันที แต่ฝ่ายหญิงดูจะยังไม่สนใจชายแก่อย่างเขาเท่าใดนัก
เชอริลแต่งงานครั้งที่ 3 กับ จอร์จ วัตคินส์ โดยซันนี่ยินดีเป็นพ่อเจ้าสาวให้เนื่องจากพ่อของเธอเสียชีวิตแล้ว ระหว่างนั้นเอง ภรรยาของซันนี่ก็เริ่มเข้าใจว่าสามีผู้ไม่เคยแปรผันของเธอกำลังเปลี่ยนไป
หลังจากนั้น ทั้งฝั่งเชอริลก็เลิกกับสามี และซันนี่ก็ขอหย่ากับภรรยาหลังจากแต่งงานอยู่กินกันมา 38 ปี เชอริลกับซันนี่ย้ายมาอยู่ด้วยกันโดยยังไม่แต่งงาน ซันนี่พยายามปรนนิบัติพัดวีเชอริลทุกอย่าง แต่ทั้งคู่ก็ยังมีระหองระแหงกันบ้าง จนปี 2002 เชอริลตัดสินใจแยกตัวออกไป แต่ซันนี่ยื่นฟ้องเธอข้อหาเบี้ยวหนี้และไม่ยอมคืนแหวนเพชรที่เขาให้เธอไว้ด้วย เธอจึงฟ้องเขากลับด้วยข้อหาขู่ทำร้ายร่างกาย
ระหว่างการฟ้องกันนั้น เชอริลก็แต่งงานใหม่อีกครั้ง
สามีคนที่ 4
สามีคนที่ 4 ชื่อ จอห์น บี. จอห์นสัน จูเนียร์ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำเรือนจำที่เชอริลทำงานเป็นพยาบาลอยู่ แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไปไม่รอดจนถึงขั้นร้องเรียนกับนายอำเภอว่าต่างฝ่ายต่างทำร้ายร่างกายกัน
และแล้ววันหนึ่งในปี 2003 ตำรวจก็ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเกิดขึ้นที่บ้านของทั้งคู่ เชอริลให้การว่าจอห์นหยิบปืนมาจะฆ่าตัวตาย แต่จอห์นให้การว่าเชอริลต่างหากที่หยิบปืนมาขู่จะฆ่าตัวตายจนเขาต้องเข้าไปห้าม ความจริงคืออะไรคงไม่มีใครบอกได้นอกจากเชอริลและจอห์นสันเอง
ทั้งคู่แยกกันอยู่นับแต่นั้น และเดือนสิงหาคมปี 2004 จึงได้หย่ากันอย่างสมบูรณ์ จอห์นสันบอกว่าตอนนั้นเขาเห็นเชอริลกลับมาใส่แหวนเพชรของซันนี่แล้วด้วย
และแล้ววันหนึ่งในปี 2003 ตำรวจก็ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเกิดขึ้นที่บ้านของทั้งคู่ เชอริลให้การว่าจอห์นหยิบปืนมาจะฆ่าตัวตาย แต่จอห์นให้การว่าเชอริลต่างหากที่หยิบปืนมาขู่จะฆ่าตัวตายจนเขาต้องเข้าไปห้าม ความจริงคืออะไรคงไม่มีใครบอกได้นอกจากเชอริลและจอห์นสันเอง
ทั้งคู่แยกกันอยู่นับแต่นั้น และเดือนสิงหาคมปี 2004 จึงได้หย่ากันอย่างสมบูรณ์ จอห์นสันบอกว่าตอนนั้นเขาเห็นเชอริลกลับมาใส่แหวนเพชรของซันนี่แล้วด้วย
สามีคนที่ 5
ในที่สุดเชอริลก็กลับมาหา ซันนี่ ผู้มีหัวใจของสามีคนที่สองของเธออีกครั้ง และทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ปี 2004 ระหว่างนั้น หลานชายของซันนี่สังเกตว่า ลุงของตนมีอาการแปลกไป แม้เขาจะประกาศชัดว่ารักเชอริลมาก และมีแผนมากมายสำหรับอนาคต แต่หลานชายคนนี้กลับเป็นคนไม่กี่คนที่รู้ว่าซันนี่เขียนพินัยกรรมเอาไว้ และขอให้เขาเป็นผู้จัดการมรดกแทน
pic : pixabay
เดือนเมษายน วันเอพริลฟูลเดย์ ซันนี่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการยิงตัวตายในสวนหลังบ้าน ดูเหมือนเขาคงคิดได้ว่าการได้หัวใจใหม่ของเทรี่จะไม่ใช่พรจากพระเจ้าอีกต่อไป
หลังการตายของซันนี่ คนใกล้ชิดรวมทั้งเชอริลจึงได้รู้ว่า จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ซันนี่ได้ถลุงเงินบำนาญหลังเกษียณของเขาจนหมด และยังเป็นหนี้อีกมหาศาล ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เชอริลได้ใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการ เพื่อนของเชอริลให้การกับตำรวจว่า เชอริลมาดื่มเหล้ากับเขาและระบายว่าสามีคนที่ห้าของเธอไม่เหลือเงินให้เธอสักบาท
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องที่เชอริลโพสต์ภาพชายหนุ่มที่เธออ้างว่าเป็นแฟนคนใหม่ลงในโซเชียลมีเดีย เพียงไม่กี่วันหลังจากซันนี่ยิงตัวตาย และยังพบข้อความโต้ตอบของทั้งคู่ที่สื่อไปในทางชู้สาวก่อนหน้าที่ซันนี่จะจบชีวิตตัวเองด้วยซ้ำ
ตำรวจไม่ปักใจเชื่อว่าการตายของซันนี่เป็นการฆ่าตัวตายร้อยเปอร์เซ็นต์ การสืบสวนยังคงดำเนินต่อ และยิ่งสืบสวนมากเท่าไร ทุกคนก็ยิ่งพบพฤติกรรมอันน่าประหลาดใจของเชอริล ทั้งจากสามีคนแรกที่เล่าว่าเธอเคยโทรมาขู่จะเป่าสมองเขา จนเขาต้องขอรับความคุ้มครองจากตำรวจ หรือจอห์น สามีคนที่สี่ที่บอกว่าใครก็ตามที่ข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ชีวิตคงไม่สงบสุขเป็นแน่
บางคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า หัวใจของเทรี่ที่ตกทอดมาถึงซันนี่อาจมียีนฆ่าตัวตายแฝงอยู่ แต่ตำรวจเชื่อว่านี่ไม่ใช่เรื่องของหัวใจหรือโชคชะตา แต่เป็นความซวยที่ชายคนนี้ได้เจอมากับหญิงที่ปั่นหัวชายหลายๆ คนมานักต่อนักแล้วมากกว่า แม้เรื่องนี้ยังไม่มีบทสรุป แต่ก็เป็นที่น่าจับตามองว่า ใครกันแน่คือต้นเหตุ ปมของเรื่องเกิดจากจุดไหน แล้วน้องๆ ล่ะ อ่านจนถึงตรงนี้แล้ว เจอข้อสงสัยอะไรบ้าง ลองมาขบคิดกัน(เล่นๆ)ดูค่ะ
ข้อมูลข่าวจาก
dailymail.co.uk
dailymail.co.uk
7 ความคิดเห็น
มันคือพล็อตนิยายที่ยอดเยี่ยมมาก
แต่อ่านแล้ว 'งง' ตามแฮะ
เชอริล ... ผู้หญิงที่อยากได้เงิน ...
นี่สินะ ที่มาของรักหลายเศร้า #ข้ามคหนี้ไป
สรุป...หญิงชั่วว่างั้นเหอะ
เอาจริงๆ นางก็มีสามี 5.5 คนนะคะ คนที่แลสงบสุขสุดก็คงสามีคนที่ 2.5 จอร์จ วัตคินส์ นี่แล
บางข้อสงสัยก็คงจะอยู่ที่สามีคนที่1คะ
สามีไม่น่าจะแต่งงานได้เกิน2คน (?)
ปัญหาก็คงอยู่ที่ความเจ้าชู้ของนางแหละคะ
คิดเล่นๆ แล้วเหมือนซันนี่จงใจผลาญเงินตัวเอง + สร้างหนี้
เพื่อให้เชอริลรับกรรม xD สะจาย