สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ช่วง 2-3 วันมานี้ มีข่าวนึงดังมากในอเมริกาค่ะ นั่นคือข่าวการจับกุมนักเรียนมัธยมวัย 14 ปีที่เอานาฬิกาแฮนด์เมดมาโรงเรียน แล้วครูกับตำรวจคิดว่าเขาทำระเบิดมา เรื่องนี้แชร์กันอย่างแพร่หลายทั่วโซเชียลมีเดียค่ะ
ต้องเล่าย้อนก่อนว่าอาเหม็ด โมฮาเหม็ด เป็นนักเรียนวัย 14 ปีที่โรงเรียน MacArthur High School ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาค่ะ ครอบครัวของเขาอพยพมาอยู่อเมริกาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว อาเหม็ดเก่งเรื่องวงจรไฟฟ้าและเครื่องยนต์กลไกมาตั้งแต่เด็ก เขาซ่อมโทรศัพท์ ซ่อมรถ ซ่อมคอมพิวเตอร์ ซ่อมของเล่นให้ที่บ้านอยู่ตลอด เป็นเด็กหัวดีมากๆ ตอนอยู่โรงเรียนเก่าเขาก็อยู่ชมรมหุ่นยนต์และสร้างอะไรน่าสนใจหลายๆ อย่าง เมื่อต้องมาเริ่มเทอมใหม่ในโรงเรียนแห่งนี้ อาเหม็ดจึงตั้งใจหาผู้ที่ชอบด้านวิศวกรรมเหมือนกันตั้งแต่สัปดาห์แรก โดยใช้ความถนัดด้านวิศวกรรมของตัวเองเป็นเครื่องมือค่ะ
อาเหม็ด โมฮัมเหม็ด
(Vernon Bryant/The Dallas Morning News)
คืนวันอาทิตย์ เขาใช้เวลา 20 นาทีก่อนเข้านอนรีบประดิษฐ์นาฬิกาดิจิตอลเพื่อนำไปให้อาจารย์ชม เขาต่อแผงวงจรและติดหน้าจอดิจิตอลด้านหน้า ก่อนเอาทั้งหมดใส่กล่องที่มีรูปเสือสามมิติแปะอยู่ แต่เมื่อเขาให้อาจารย์วิชาวิศวกรรมดู อาจารย์กลับไม่มีทีท่าประทับใจอย่างที่เขาคิด อาจารย์พูดเพียงแค่ว่า "มันก็โอเค แต่อย่าให้อาจารย์คนอื่นเห็นแล้วกัน" อาเหม็ดจึงเก็บนาฬิกาไว้ในกระเป๋าตลอดเวลา
นาฬิกาที่ว่า
(Irving Police Department/The Dallas Morning News)
เมื่อถึงชั่วโมงภาษาอังกฤษ นาฬิกาของเขาก็ส่งเสียงปลุกขึ้นมา อาจารย์จึงสั่งให้เขาปิดเสียง อาเหม็ดเลยหยิบนาฬิกาขึ้นมาโชว์ เมื่ออาจารย์เห็นสิ่งประดิษฐ์ของเขา เธอบอกว่ามันดูเหมือนระเบิดเลย และยึดไปให้ครูใหญ่ เมื่อถึงคาบเรียนที่ 6 ครูใหญ่และตำรวจก็มาพาตัวอาเหม็ดออกไปจากห้องเรียน
เขาพาอาเหม็ดเข้าไปในห้องที่มีตำรวจรออยู่ 5 คน ตำรวจคนหนึ่งพูดขึ้นในทันทีที่เห็นหน้าเขาว่า "นี่แหละคนที่ฉันคิดว่าต้องทำเรื่องนี้" ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นั่นทำให้อาเหม็ดรู้ว่าเพราะสีผิว ศาสนา และชื่อของเขาแน่ๆ ที่ทำให้ถูกมองเป็นแบบนี้ พวกตำรวจเอาแต่ถามว่าเขาพยายามทำระเบิดทำไม เมื่ออาเหม็ดบอกว่าเขาทำนาฬิกาดิจิตอลก็ไม่มีใครเชื่อ ตำรวจเอาแต่บอกว่ามองยังไงก็เหมือนระเบิดที่เห็นในหนังเลย
(Twitter #IStandWithArmed)
ในที่สุดตำรวจก็ใส่กุญแจมืออาเหม็ด และพาเขาออกจากโรงเรียนท่ามกลางสายตาเพื่อนๆ และอาจารย์ท่านอื่น อาเหม็ดบอกว่าอาจารย์ประจำชั้นช็อคมากที่เห็นเขาโดนจับเพราะอาจารย์ท่านนั้นเป็นอาจารย์คนเดียวในโรงเรียนนี้ที่รู้ว่าอาเหม็ดเป็นเด็กดีแค่ไหน
อาเหม็ดถูกนำตัวไปยังสถานพินิจ เขาโดนถ่ายภาพและเก็บลายนิ้วมือแบบอาชญากร ทางโรงเรียนพักการเรียนเขา 3 วัน อาเหม็ดบอกว่าพวกเขาเอาแต่คิดว่าคนแบบเขาจะต้องตั้งใจทำแบบนี้เพื่อมาขู่แน่ๆ
(Twitter #IStandWithArmed)
พ่อของอาเหม็ดให้สัมภาษณ์ว่าลูกชายของเขาแค่ต้องการสร้างสิ่งประดิษฐ์ดีๆ ขึ้นมาเท่านั้น แต่เพราะเขานามสกุลโมฮาเหม็ด และเพราะเหตุการณ์ 9/11 (แถมเพิ่งผ่านวันที่ 11 มาไม่กี่วัน) ที่ทำให้ทุกคนมองลูกชายของเขาผิดไป แม้ตอนนี้จะปล่อยตัวอาเหม็ดให้กลับมาอยู่บ้านแล้ว แต่อาเหม็ดก็ตั้งใจว่าเขาจะย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอื่นแทน
เมื่อข่าวนี้ถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตก็เข้ามาชมเชยความเก่งของอาเหม็ดในด้านวิศวกรรม และยังตั้งข้อสังเกตว่าที่ครูและตำรวจทำแบบนี้กับเขาก็เพราะสีผิว ศาสนา และชื่อของเขาแน่ๆ ถ้าเขาเป็นเด็กผิวขาวทั่วไปที่นับถือศาสนาคริสต์ ถึงพกนาฬิกาแปลกๆ ไปก็ไม่น่าโดนอะไร หลังอาเหม็ดรู้ว่ากระแสสังคมออกมาเป็นยังไงก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น หลังจากโดนตำรวจสอบสวนและยังโดนจับใส่กุญแจมือต่อหน้าเพื่อนร่วมโรงเรียน
แผงวงจรและสายไฟเยอะแยะในห้องนอนอาเหม็ด เขาประดิษฐ์วิทยุใช้เองด้วย
(Vernon Bryant/The Dallas Morning News)
นอกจากนี้คนดังมากมายยังร่วมให้กำลังใจอาเหม็ดค่ะ ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ทวีตว่า "นาฬิกาเจ๋งมากเลยอาเหม็ด อยากเอามาทำเนียบขาวมั้ย เราควรสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ อย่างเธอชอบวิทยาศาสตร์ นั่นคือสิ่งที่ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่"
ทำเนียบขาวเองก็เชิญอาเหม็ดไปร่วมพูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ NASA ในงานคืนดาราศาสตร์ที่จะจัดขี้นที่ทำเนียบขาวในเดือนหน้า ค่ายอวกาศ Space Camp ของนาซ่าก็มีผู้ใจบุญมอบทุนให้อาเหม็ดไปเข้าร่วมค่ายนี้ได้เลย
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก CEO Facebook ก็ตั้งสเตตัสถึงอาเหม็ดว่า "คุณน่าจะได้เห็นเรื่องเกี่ยวกับอาเหม็ดแล้ว เด็กนักเรียนวัย 14 ปีจากเท็กซัสที่สร้างนาฬิกาและโดนจับเมื่อเขานำมันไปโรงเรียน การมีทักษะและความทุ่มเทที่จะสร้างอะไรเจ๋งๆ น่าจะได้รับการชื่นชมไม่ใช่การโดนจับ อนาคตเป็นของผู้คนแบบอาเหม็ด อาเหม็ดถ้าเธออยากแวะมาเฟซบุ๊คก็ได้นะ ฉันอยากพบกับเธอ ขยันสร้างต่อไปล่ะ"
ทวิตเตอร์เองก็ทวีตชวนอาเหม็ดไปฝึกงานกับทวิตเตอร์ด้วย
Jaime Casap หัวหน้าทีม Google เพื่อการศึกษาก็ชวนอาเหม็ดมาชมการทำงานเช่นกัน แถมยังให้พกนาฬิกามาด้วย งาน Google Science Fair ก็ชวนอาเหม็ดมาร่วมงาน
ฮิลลารี่ คลินตันก็ทวีตว่า "การนึกเอาเองและความกลัวไม่ได้ทำให้เราปลอดภัย มันฉุดรั้งเราไว้ต่างหาก อาเหม็ด ขอให้อยากรู้อยากเห็นต่อไปนะ และขยันสร้างต่อไปด้วย"
นักวิทยาศาสตร์นาซ่าหลายคนก็ร่วมให้กำลังใจอาเหม็ด และเชิญชวนอาเหม็ดไปดูการทำงานของนาซ่าเช่นกัน Mike Seibert วิศวกรนาซ่าผู้ควบคุมยานสำรวจดาวอังคาร Opportunity ทวีตชมเชยอาเหม็ด และชวนไปดูการปฏิบัติงานที่นาซ่า
Bobak Ferdowsi วิศวกรชื่อดังอีกคนของนาซ่า ผู้ดูแลภารกิจแคสสินี-ไฮเกนส์ที่ไปสำรวจดวงจันทร์ของดาวเสาร์ ก็ทวีตชวนอาเหม็ดไปร่วมงานในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
Chris Hadfield นักบินอวกาศชาวแคนาดาที่เพิ่งกลับมายังโลกหลังไปประจำการที่สถานีอวกาศนานาชาติ ชวนอาเหม็ดไปร่วมงานนิทรรศการวิทยาศาสตร์ที่โทรอนโต้ในเดือนหน้า เขามีตั๋วเข้างานให้เรียบร้อยแล้ว โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์สาขาโทรอนโต้ก็มาทวีตต่อว่ามีห้องพักให้อาเหม็ดฟรีด้วย
และยังมีบริษัทด้านเทคโนโลยีอีกมากมายในซิลิคอน วัลเลย์ ที่ชวนอาเหม็ดมาเยี่ยมชมการทำงานหรือมาฝึกงาน ท่าทางอนาคตของอาเหม็ดจะต้องสดใสแน่ๆ อาเหม็ดบอกว่าตัวเองอยากเรียนต่อที่สถาบันด้านเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง MIT ซึ่งก็ไม่น่าเป็นเรื่องยากค่ะ ถ้าอาเหม็ดได้รับการสนับสนุนด้านวิศวกรรมศาสตร์ไปเรื่อยๆ แบบนี้
ทางด้านนักสืบชาวเน็ตก็มีการรวมรายชื่อนักเรียนที่เคยประดิษฐ์นาฬิกาแปลกๆ ไปโรงเรียนแล้วไม่ถูกลงโทษ ซึ่งเด็กพวกนั้นไม่มีใครนับถือศาสนาอิสลามเหมือนอาเหม็ดเลย แถมยังมีเด็กวัย 17 ปีคนหนึ่งเคยสร้างระเบิดขนาดเล็กขึ้นมาจริงๆ เพื่อเป็นโครงงานวิทยาศาสตร์ แต่เด็กคนนั้นก็ไม่ถูกลงโทษใดๆ เช่นกัน นั่นทำให้ชาวเน็ตเพ่งเล็งเรื่องที่ทางการเมืองนี้เหยียดศาสนามากขึ้นอีก นอกจากนี้ยังวิจารณ์อาจารย์ในโรงเรียนที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง หรือสงสัยว่าทำไมอาจารย์วิชาวิศวกรรมถึงไม่มาช่วยอธิบายกับตำรวจ
นับเป็นเรื่องราวฟ้าหลังฝนที่ดีอีกเรื่องหนึ่งนะคะ แต่สิ่งที่ซ่อนในเรื่องนี้คือการเหยียดผิวหรือศาสนาที่หลายคนไม่รู้ตัวว่ามีอยู่ค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว ใครอยากร่วมให้กำลังใจอาเหม็ด หรืออยากติดตามสถานการณ์เรื่องราวของเขา ตามไปได้ที่ทวิตเตอร์ ค้นหาแฮชแท็ก #IStandWithAhmed นะคะ รับรองว่าตามอ่านตาแฉะค่ะ
13 ความคิดเห็น
ผมคนหนึงที่เป็นแฟนช่องนี้ พพอได้ข่าวขากช่องนี้เมื่อสองวันก่อนก็ งง ๆ เหมือนกันครับ เอ้อ เอากะเค้า
ถ้าเหมารวมการกระทำของคนบางกลุ่มที่นับถือศาสนาเดียวกันมันไม่ถูกต้องคะ เราคนนึงล่ะที่เป็นคนอิสลาม ศาสนาขึ้นอยู่กับตัวคนปฏิบัตินะ ไม่ใช่จะมีความคิดแบบนั้นทุกคน.... เป็นกำลังใจให้ถึงที่สุดค่ะ
จ้ะ ไม่สอบถามไม่พิสูจน์ใด ๆ ทั้งสิ้นเลยนะนี่ จับเข้าคุกเลยจ้าแหม เด็ก 14 ปี เจอแบบนี้ถ้าไม่ได้กำลังใจระดับนี้อาจไม่ไว้ใจใครอีกเลยนะ อาจารย์คนนั้นก็นะ เหอ ๆ สงสัยคนที่นั่นดูหนังมากไปเลยมโนไปไกลเลยทีเดียว
แต่นักสืบเน็ตอเมริกาก็น่ากลัวนะ สืบได้ขณะที่ว่าใครเคยทำระเบิดเป็นโครงงาน และนับถือศาสนาอะไร
เมื่อไหร่-เรื่องเหยียดเผ่าพันธุ์มันจะหมดไปจากโลกสักที น่าจะหายไปพร้อมกับไดโนเสาร์ นี่ตำรวจและครูสมควรออกมาขอโทษทางทีวี หนังสือพิมพ์ด้วย จับไปแล้วยังเหยียดเขาอีก โคตรเลว...
แค่นับถือศาสนาอิสลามแต่ไม่ได้นับถือคริสต์มันผิดตรงไหน ศาสนาทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดีนะคะ//สู้ๆนะเราจะรอดูนายที่ช่อง3นะเออ
ถ้าอาเหม็ดโต ขึ้นมา ต้องเป็นวิศวกรที่เก่งมากๆคนหนึ่งเเน่ๆเลยนะคะ