รวม 7 หนังผีที่ (อาจ) ไม่ได้สร้างจากเรื่องจริงอย่างที่อ้าง

        ใครไม่ได้ออกไปไหนก็นั่งดูหนังผีมาราธอนไปแบบพี่น้องนะคะ วันนี้พี่น้องจะมาพูดถึงคำกล่าวอ้างของหนังผีหรือหนังสยองขวัญสมัยนี้ที่เอะอะก็ "Based on True Story" เอะอะก็ "Based on Actual Events" น้อยหน่อยก็ "Inspired by True Story" งี้
        ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงเชื่อกันอยู่หรอก แต่เดี๋ยวนี้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงง่ายเหลือเกิน หาดูก็รู้แล้วว่าเหตุการณ์จริงคืออะไรกันแน่ ทีนี้ก็เหลือแต่ว่าที่บอกว่า "อิงจากเรื่องจริง" นี่ มาก-น้อยแค่ไหน?
        วันนี้พี่น้องขอยกหนังผี 7 เรื่องที่อาจไม่ได้ "อิงจากเรื่องจริง" อย่างที่กล่าวอ้างค่ะ
 

1. The Possession มันอยู่ในร่างคน [2012]


 
ในหนัง: ไคลด์ คุณพ่อที่เพิ่งหย่าจากภรรยา และได้รับสิทธิเลี้ยงดูลูกในวันหยุด วันหนึ่งเขากับเอ็ม (ลูกสาว) ซื้อกล่องเก็บของใบเก่ามา แล้วลูกสาวดันเป็นคนเปิดดู หลังจากนั้นเอ็มก็เปลี่ยนไป เหมือนมีบางอย่างสิงร่างของเธอ และทำให้เกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติหลายครั้ง
 
ความจริง: กล่องเจ้าปัญหาในเรื่องคือ "กล่องดิบบิก" เป็นตู้เก็บไวน์ของชาวยิว เจ้าของแรกเป็นใครไม่รู้ แต่สืบย้อนกลับไปได้ว่า คนแรกๆ ที่เป็นเจ้าของกล่องนี้คือชาวโปแลนด์ที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และซื้อกล่องนี้ที่สเปน พอชาวโปแลนด์คนนี้เสียชีวิต กล่องก็ถูกส่งเข้างานประมูล แล้ว เควิน แมนนิส ชาวอเมริกันคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโอเรกอนก็มาประมูลได้ไป
        แมนนิสเป็นเจ้าของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ตอนรับกล่องมา เขาเจอหลานสาวของชาวโปแลนด์พอดี เธอเล่าให้เขาฟังว่ากล่องนี้ถูกเก็บไว้ในห้องตลอด และไม่เคยมีใครเปิดมัน เวลาปู่ของเธอพูดถึงกล่องนี้จะต้องถ่มน้ำลายสามครั้ง เขาบอกว่ากล่องนี้มีวิญญาณร้ายตามความเชื่อของชาวยิวแฝงอยู่
        เมื่อแมนนิสกลับไปบ้านแล้วเปิดกล่องดูก็พบเพียงเหรียญในปี 1920 สองเหรียญ ปอยผมสีบลอนด์และสีน้ำตาล ด้านในกล่องแกะสลักคำในภาษาฮีบรูว่า 'ชาลอม'
        เขาตั้งใจว่าจะมอบกล่องนี้เป็นของขวัญให้แม่ แต่แม่ของเขากลับเสียชีวิตลงก่อน คำพูดสุดท้ายของเธอคือ "No Gift" (ไม่เอาของขวัญ) และ "Hate Gift" (เกลียดของขวัญ)
        หลังจากนั้นไม่ว่าเขาจะพยายามยกให้ใคร หรือขายต่อให้ใคร ทุกคนก็จะเอาเจ้ากล่องนี้มาคืนพร้อมบอกว่าได้กลิ่นแปลกๆ บ้าง รู้สึกไม่ดีบ้าง เขาจึงขายกล่องนี้ทาง อีเบย์ และเล่าเรื่องตามความจริงทั้งหมด
        คนต่อมาที่ซื้อไปคือนักศึกษาหนุ่มชื่อ เนสเก้ และก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน คือได้กลิ่นแปลกๆ แต่หาที่มาไม่ได้ และเริ่มมองเห็นภาพหลอน เขาจะประกาศขายกล่องนี้ลงอีเบย์อีกครั้ง โดยเล่าเรื่องราวทั้งหมด ผู้คนสนใจมากและพร้อมจ่ายเงินซื้อเจ้ากล่องปริศนานี้จากราคาตั้งต้นที่ 108 เหรียญ กลายเป็น 280 เหรียญทันที
        เรื่องราวของกล่องดิบบิกเริ่มเป็นที่สนใจและกลายเป็นเรื่องหลอนในอินเทอร์เน็ต ตอนนี้เจ้าของกล่องคือเจสัน แฮกซ์ตัน ภัณฑารักษ์และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยในมิสซูรี่ ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาจะไม่เอากล่องเข้าบ้านเด็ดขาด

สรุป: ในหนังเอาไปแค่ความเชื่อเรื่องกล่อง เหตุการณ์ประเภทรถชน แมลงบินว่อน แค่เพิ่มให้ดูมีอะไรเฉยๆ แต่ในการถ่ายทำเอง นักแสดงของเรื่องก็ยังไม่กล้าให้เอากล่องจริงเข้าฉาก

 

2. The Blair Witch Project สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย (1999)


 
ในหนัง: หนังเรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ในปี 1999 ด้วยแผนการตลาดเด็ดดวงจากการโปรโมทว่าทั้งเรื่องคือคลิปวิดีโอของจริงที่นักศึกษา 3 คนเข้าไปถ่ายสารคดีเกี่ยวกับฆาตกร "แบล วิช" ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง และเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ ขณะหลงทางในป่า หลังจากนั้นพวกเขาก็หายสาบสูญไป
 

 
ความจริง: นักศึกษาทั้ง 3 คนคือนักแสดงที่ถูกจ้างให้มาถ่ายทำหนังแบบด้นสด เป็นเวลา 8 วัน บทของหนังเรื่องนี้มีแค่สามสิบกว่าหน้า และมีข้อตกลงร่วมกันว่านักแสดงแต่ละคนจะต้องใช้เครื่อง GPS ในการหา "บท" ต่อไปของตัวเอง แต่บทจะเป็นแค่ข้อความที่บอกว่าต้องเดินไปทางไหนคร่าวๆ ส่วนบทพูดและความดราม่าอื่นๆ ให้นักแสดงคิดเองหมด
        เมื่อคนเข้าไปดูหนังจริงๆ ด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นอะไรดีๆ กลับพบเพียงมุมกล้องชวนปวดหัว ก้อนหิน ต้นไม้ กิ่งไม้ ความมืด กับเสียงตกใจของตัวละครที่ไม่รู้ว่าเห็นอะไร แต่ทุกคนคงไม่โกรธเท่ากับการที่รู้ภายหลังว่าทั้งคลิปวิดีโอเป็นการจัดฉาก

สรุป: หนังเรื่องนี้ทำให้เกิดทายาทอสูรตามมา นั่นคือ Paranormal Activities ซึ่งทุกคนในยุคนี้คงรู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง

 

3. Texas Chainsaw Massacre สิงหาสับ (1974)


 
ในหนัง: เมื่อหลุมศพของปู่เธอถูกทำลาย แซลลี่จึงระดมพล พาพวกพ้องออกไปตามหาความจริงที่เท็กซัส และได้พบกับฆาตกรโรคจิตที่สวมหนังมนุษย์เป็นหน้ากาก ถือเลื่อยไฟฟ้าไล่ถลกเนื้อเถือหนังคนที่หลงเข้ามาแถวบ้าน พร้อมหน้าด้วยครอบครัวที่หลงใหลในการกินเนื้อมนุษย์
 
ความจริง: เรื่องนี้ผู้กำกับได้แรงบันดาลใจจากคดีเก่าเมื่อปี 1954 ของชายแก่ที่ชื่อเอ็ดดี้ ชาวบ้านรู้จักเอ็ดดี้ดีว่าเขาเป็นคนจิตใจไม่ปกติและชื่นชอบเรือนร่างของผู้หญิงเป็นพิเศษ เอ็ดดี้เริ่มก่ออาชญากรรมโดยการลักพาตัวผู้หญิงวัยไล่เลี่ยกับแม่เขา (ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว) แล้วชำแหละในโรงนา เอาเนื้อเอาหนังไปทำของตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่สต๊าฟไว้ใส่แทนเสื้อ หญิงเคราะห์ร้ายคนสุดท้ายนั้นมีลูกเป็นนายอำเภอ เขาจึงตามสืบจนพบศพแม่ตัวเองในสภาพไม่น่ามองภายในโรงนา คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญชาวอเมริกาในขณะนั้นมาก และตำรวจพบภายหลังว่ามีศพผู้หญิงในบ้านของเอ็ดดี้ราว 15 ศพทีเดียว
 
สรุป: Psycho กับ Silence of the Lambs ก็ได้แรงบันดาลใจจากคดีของเอ็ดดี้ แต่ไม่มีใครพูดว่าหนังของตัวเองสร้างจากเรื่องจริง อันที่จริงหนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรเหมือนกับคดีของเอ็ดดี้เลยนอกจากฆาตกรใช้หนังคนโปะหน้าเหมือนกัน

 

4. The Amityville Horror ผีทวงบ้าน (1979)

ในหนัง: ตามสไตล์บ้านเก่าผีดุของอเมริกา ครอบครัวลูทซ์ นำโดยสองสามีภรรยา จอร์จ และเคธี่ ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่อมิตี้วิลล์ และค้นพบภายหลังว่าบ้านหลังนี้เคยเกิดคดีสังหารหมู่ตายยกครัว เชื่อว่าวิญญาณชั่วร้ายในบ้านอาจจะเป็นเหตุให้เกิดการสังหารนี้ (แหม่...นึกถึง American Horror Story ซีซั่นแรกเลย)
 
ความจริง: อันที่จริงหนังเรื่องนี้สร้างตามเรื่องเล่าของครอบครัวลูทซ์ตัวจริงเยอะอยู่ โดยอิงจากหนังสือของเจย์ แฮนสัน ที่ไปสัมภาษณ์ครอบครัวลูทซ์อีกทีว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนั้นที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจย้ายออก ใช้ชื่อว่า The Amityville Horror: A True Story
        ความจริงก็คือที่นี่เกิดเหตุฆาตกรรมจริง โดยนาย โรนัลด์ เดฟิโอเป็นคนยิงสมาชิกในครอบครัวของเขาเสียชีวิตทั้งหมด 6 คน แต่เรื่องเห็นอะไรแปลกๆ ฝันร้ายว่าคนในครอบครัวตาย ห้องลับ หรือนักบวชมาช่วยเจิมบ้านแล้วดันมีผีมากระซิบไล่ออกไปนั้นเป็นเรื่องแต่งของครอบครัวลูทซ์ เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

สรุป: น่าจะเปลี่ยนโฆษณาหน้าหนังเป็น "หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องแต่ง"

 

5. The Haunting in Connecticut คฤหาสน์...ช็อค (2009)


 
ในหนัง: นี่ก็บ้านผีดุอีกหลัง สร้างจากเรื่องจริงของครอบครัวสเนเดเกอร์ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในคอนเน็กติคัต เนื่องจากลูกชายของบ้านนี้ต้องได้รับการรักษาโรคมะเร็ง แต่ดันมารู้ทีหลังว่าบ้านหลังนี้เคยเป็นที่สำหรับเก็บศพมาก่อน แถมยังมีการทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ทำให้วิญญาณทั้งหลายยังคงวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย
 
ความจริง: หนังเรื่องนี้สร้างจากหนังสืออีกทีเช่นเดียวกันกับ Amityville Horror คนเขียนคือ เรย์ การ์ตัน ที่สัมภาษณ์ครอบครัวสเนเดเกอร์แล้วเอามาเขียน แต่ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะเขียนเป็นนิยาย เนื่องจากเขาไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และครอบครัวสเนเดเกอร์ก็เล่าเรื่องไม่ตรงกันบ้าง ต้นเรื่องกับท้ายเรื่องต่างกันบ้าง แม้แต่ลูกชายของครอบครัวนี้ที่ควรจะเป็นคนเห็นผีมากที่สุดกลับบอกว่าเขาเลิกเห็นผีก็หลังจากได้ยาของหมอนี่แหละ (อ้าว)
        คนเขียนยังบอกอีกว่าเขาได้ปรึกษากับสองศรี เอ็ด และลอร์แรน วอร์เรน ซึ่งเป็นคู่หูดูโอตัวตั้งตัวตีในการค้นหาความลับเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติในอเมริกา (สองคนนี้โผล่ไปทุกบ้านที่มีผีสิง) เอ็ด วอร์เรน บอกกับเขาว่าให้เขียนๆ ไปเถอะ คนพวกนี้เสียสติ เขาก็เลยมาพึ่งเรา เราก็แค่ทำยังไงก็ได้ให้สิ่งที่เขาเชื่อมันดูสมจริง
 
สรุป: บ้านหลังนี้เคยเป็นสถานที่เก็บศพจริง แต่ผีที่ครอบครัวนี้อ้างว่าเห็น น่าจะหลอนกันไปเอง

 

6. The Exorcism of Emily Rose พลิกปมอาถรรพ์สยองโลก (2005)


 
ในหนัง: พูดถึงเด็กหญิงชื่อเอมิลี่ โรส ที่เป็นโรคลมชัก (ตามที่แพทย์แจ้งมา) แต่อาการที่แย่ลงทำให้เธอเริ่มหันเข้ามาทางไสยศาสตร์ และคิดว่าบางทีอาการของเธออาจเกิดจากการกระทำของสิ่งชั่วร้าย เธอรับการปัดรังควานโดยนักบวช แต่สุดท้ายเธอก็เสียชีวิตจากการขาดอาหารและน้ำ หลังจากนั้นนักบวชคนนี้จึงถูกศาลตัดสินลงโทษข้อหาฆ่าคนโดยประมาท
 
ความจริง: เด็กหญิงที่เสียชีวิตตัวจริงชื่อแอนนาลีส มิเชล อายุเพียง 16 ปี และหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมชัก หนังเก็บรายละเอียดจากเรื่องจริงมาเกือบหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งข้ออ้างของนักบวชสองคน ที่รับผิดชอบในการไล่ผีบอกกับศาลว่า มีวิญญาณชั่วร้ายสิงแอนนาลีสถึง 6 ตน เช่น ฮิตเลอร์ ยูดาส อิสคาริออต หรือเนโร่ แต่ศาลก็ตัดสินโทษสองคนนี้อยู่ดี หลังจากนั้นคณะกรรมการวาติกันก็ประกาศว่าอาการของแอนนาลีสเป็นแค่อาการของคนที่เป็นโรคลมชัก ไม่ได้เกิดจากปิศาจหรือผีร้ายแต่ประการใด
 
สรุป: หนังสร้างจากเรื่องจริง แต่ที่ไม่น่าจะจริงก็ตรงหนังพยายามเน้นว่าเอมิลี่ (แอนนาลีส) อาจจะโดนผีร้ายสิงจริงๆ ก็ได้ นึกถึงกรณีผีปอบบ้านเราที่พอโดนสิงแล้วต้องเอาไม้มาตีให้ผีออก จนคนจะตายก่อนจริงๆ

 

7. The Conjuring คนเรียกผี (2013)


 
ในหนัง: นี่ก็บ้านผีสิงอีกแล้ว และมีสองคู่หูดูโอ เอ็ดกับลอร์แรน วอร์เรนมาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากสองคนนี้เป็นคนรับเคสตรวจสอบปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบ้านของครอบครัวเพอร์รอน ในปี 1971 เมืองแฮร์ริสวิลล์ ครอบครัวเพอร์รอนพบเหตุประหลาด เช่นประตูเปิดปิดเองได้ วิญญาณเข้าสิงคุณแม่ให้ฆ่าลูกตัวเอง วิญญาณต้องมาโผล่ตอนตีห้าสิบห้าทุกวัน (ตื่นเช้าดีจัง) และตุ๊กตาเด็กผู้หญิงสุดหลอนที่กลายเป็นตัวเปิดหนังภาคต่อ Annabelle
 
ความจริง: หนังเรื่องนี้อาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้างตรงที่ครอบครัวเพอร์รอนย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านนี้จริง และพวกเขาก็ยืนยันจนวันที่หนังเข้าฉาย (ไม่เหมือนครอบครัวลูทซ์) ว่าพวกเขาเจอผีจริงๆ เอ็ดกับลอร์แรนนักหาผี ก็ยืนยันว่านี่คือเรื่องจริง (อืม...) เอ็ดยังบอกด้วยว่าปิศาจตัวฉกาจในบ้านนี้ชื่อแบธชีบา หรือแม่มดที่ฆ่าลูกตัวเองสังเวยแก่ซาตาน จึงพยายามสิงคนที่เข้ามาอาศัยอยู่ให้ฆ่าลูกตัวเองด้วย
        แต่หลังจากที่หนังเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปก็มีผู้หญิงที่ชื่อ นอร์ม่า ซุตคลิฟ อ้างว่าเป็นเจ้าของคนปัจจุบันของบ้านหลังนี้บอกว่าหนังเรื่องนี้โกหกทั้งเพ ไม่มีแม่มดแบธชีบา ไม่มีผี ไม่มีอะไรทั้งนั้น เธอกับลูกๆ อาศัยอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ไม่มีประวัติใดๆ เลยที่พูดถึงการสังเวยซาตาน แบธชีบาเท่าที่รู้ก็ไม่ได้ฆ่าลูกตัวเองแล้วแขวนคอตาย แต่ตายด้วยโรคธรรมดานี่แหละ นอร์ม่าบอกว่าไอ้ที่น่ากลัวกว่าผีก็คือเหล่านักล่าท้าผีที่มาบุกบ้านเธอเพื่อหาความจริงต่างหาก
        ในขณะเดียวกัน ครอบครัวเพอร์รอนยังคงยืนยันกับทุกคนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง อ่านจากในหนังสือที่ลูกสาวคนหนึ่งของบ้านเขียนได้เลย (มีตั้ง 3 ภาคแหนะ) เธอบอกว่าหนังเรื่อง The Conjuring สร้างจากเรื่องของครอบครัวเพอร์รอนจริง ไม่ได้อิงจากหนังสือที่เธอเขียน แต่อิงจากบันทึกของคู่หูล่าผีวอร์เรน ซึ่งฝั่งนั้นก็อาจจะเจออะไรที่ครอบครัวเพอร์รอนไม่ได้เจอก็ได้
 
สรุป: ใช่หรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ คงแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน ที่แน่ๆ ทุกคนคงจะยังจำกรณี Amitiville Horror ได้...
 
        ยุคนี้คงไม่ค่อยมีใครเชื่อคำว่า 'หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง' เท่าไรแล้ว ยิ่งคนที่ดูหนังมากๆ คงเบื่อกับคำนี้ทีเดียว แต่ผู้ผลิตหนังบางคนก็ยังเชื่อว่านี่คือแผนการตลาดที่ดีที่สุดในการดึงคนมาดูหนังผีที่คนเริ่มจำได้แล้วว่าผีจะโผล่มาตอนไหนบ้าง
        สู้ทำหนังผีที่น่ากลัวสุดๆ เหนือธรรมชาติสุดๆ ให้รู้กันไปเลยว่าเมคขึ้นมาแต่ดูแล้วกลัวจริง หลอนจริงไม่ดีกว่าหรือ?

 
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
io9.com
forward.com
youtube.com
thedissolve.com
horror-movies.ca
headinavice.com
aol.com
en.wikipedia.org
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

11 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Moommimyhrean Member 23 ต.ค. 58 21:47 น. 2

แต่ตุ๊กตาแอนนาเบลมีจริง ยังเห็นรูปของจริงอยู่เลย น่าตาน่ารักมากๆ แต่ในหนัง ไม่กล้าแม้จะมอง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Pearratda Member 24 ต.ค. 58 01:47 น. 4

คือ เรากลัวรูปอ่ะ กลัวว่าเลื่อนๆมาจะเจอรูปน่ากลัวๆ แต่ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ หรือเป็นเพราะอ่านกระทู้นี้ตอน 1:48 ก็ได้เลยเกิดอาการกลัวเขิลจุง

0
กำลังโหลด
ราเมงอร่อย Member 26 ต.ค. 58 17:05 น. 5

เลือนลงมานี่ตกใจแอนนาเบล -0- หลังจากดูเรื่องนี้ไม่กล้าแตะตุ๊กตาบาร์ยี้เลยกลัวอิตุ๊กตานี่มากเสียใจ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Lutécia Member 3 พ.ย. 58 18:50 น. 8

บ้านเก็บศพในเรื่อง

มันเอาไว้เก็บศพนักบวชจริงเหรอคะ

แต่ตามหลักศาสนาคริสต์

ถ้าเป็นถึงนักบวชเขาไม่ให้เอาไปทำแบบนั้นนะ

0
กำลังโหลด
Taylorrsis Member 7 พ.ย. 58 15:20 น. 9
เรื่องของ แอนนาลิส มิชเชล เท่าที่เึยอ่านนี่ก็มีหลักฐานที่ว่าน่าจะจริงเนอะอยู่นะคะ แล้วอาหารที่เกิดมันก็ประหลาดไม่ปกติเท่าไรด้วย
0
กำลังโหลด
Akyu Dreamcast Member 23 เม.ย. 59 02:43 น. 10

พีคกับคำว่า ที่น่ากลัวกว่าผีคือคนล่าท้าผีนั้นแหละคือแบบ เรารู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น คนอวดผีน่าจะทำบ้าง เห็นไป ตึกร้าง โรงพยาบาลร้าง อะไรแบบนี้บ่อยแล้วอะ
หรือเปล่า ไม่ได้ติดตามเขิลจุง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด