"รอนนี่ ฟีจ" จากเด็กชายผู้หลงใหลแฟชั่น กลายเป็นเจ้าของแบรนด์ดังในนิวยอร์ก

         สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และเรื่องสนุกๆ จากรอบโลกเช่นเคย ^^ วันก่อนพี่ได้อ่านเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่เค้าเก็บสะสม "รองเท้าผ้าใบ" เยอะมากๆ ตอนแรกก็คิดว่า คงเป็นคนรวยที่สะสมของที่ชอบตามปกติ แต่ขอบอกว่าผิดคาด เพราะเรื่องของเค้าน่าสนใจมากๆ จะเป็นยังไง ลองมาอ่านกันดูเลย



RONNIE FIEG (รอนนี่ ฟีจ) 
อายุ : 33 ปี
อาชีพ : ผู้ก่อตั้ง ผู้บริหาร และนักออกแบบ แบรนด์ KITH เป็นร้านค้าในนิวยอร์กซึ่งรวมสินค้าเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังๆ ไว้ รวมถึงผลิตสินค้าแฟชั่นภายใต้ชื่อแบรนด์ของตัวเองด้วย
ของสะสม : รองเท้าผ้าใบ

 
         2 สิ่งในชีวิตที่ผู้ชายคนนี้รักมากคือ รองเท้าผ้าใบ และ ซีเรียล(ที่กินเป็นอาหารเช้า) เขาเริ่มสนใจแฟชั่นตั้งแต่ยังเด็กเพราะแม่ของเขานั้นแต่งตัวเก่งมากๆ ดังนั้นเขาจึงเริ่มสะสมรองเท้าผ้าใบตั้งแต่อายุ 13 ปี รองเท้าคู่แรกที่เขาเก็บเงินซื้อเอง คือ Nike Air More Uptempos ส่วนคู่ที่เขายกนิ้วให้ว่าหายากมากๆ คือ Nike Air Force 1 Linens ที่ขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรกที่วางขาย เขาได้มาในปี 2001 และไม่เคยใส่เลย เพิ่งจะหยิบออกมาใส่ครั้งแรกในปี 2015 นี้เอง

Nike Air Force 1 Linens 

        เมื่อโตขึ้น เขาเริ่มทำงานเป็นพนักงานเช็คสต๊อกสินค้าของร้านรองเท้าแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เพื่อที่จะได้อยู่กับสิ่งที่ชอบจนได้เลื่อนเป็นผู้จัดการ หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ไม่นาน เขาจึงตัดสินใจลงทุนเปิดร้าน KITH ของตัวเองในปี 2011 ซึ่งเป็นร้านที่รวมเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ต่างๆ มาขายในร้านเดียว รวมถึงยังออกแบบสินค้าคอลเลคชั่นของตัวเองด้วย



         ไม่หมดแค่นั้น เหมือนที่เกริ่นไปว่าเขาชอบซีเรียลมากๆ ดังนั้นหลังจาก KITH เริ่มอยู่ตัว เขายังเปิดร้านขายซีเรียลในย่านบรูคลีนของนิวยอร์ก เป็นร้านเล็กๆ สีขาวดำที่ดูมินิมอล + ฮิปสเตอร์สุดๆ ไปเลย เพราะตอนเด็กๆ เขากินชอบกินซีเรียลมากๆ แต่พ่อและแม่ไม่ซื้อให้กินเพราะในซีเรียลมีน้ำตาลสูง เขาจึงต้องแอบไปกินที่บ้านเพื่อนตลอด ดังนั้นการได้เปิดร้านซีเรียลจึงเป็นอะไรที่เขาตั้งใจมากๆ แถมยังเป็นร้านซีเรียลร้านแรกในนิวยอร์กด้วย!! เรียกว่าเป็นคนที่นำความชอบของตัวเองมาต่อ
ยอดเป็นธุรกิจได้เยี่ยมจริงๆ (น่าอิจฉาสุดๆ) 



        เขาเล่าว่า การสะสมอะไรที่ตัวเราเองชอบมากๆๆ มันไม่ใช่แค่งานอดิเรก แต่มันเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ และมีผลต่อชีวิตจนเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นหน้าที่การงาน  สำหรับการเลือกซื้อรองเท้านั้น เขาเล่าว่า เขาพยายามซื้อสไตล์ที่คลาสสิกและใส่ได้นาน เพราะตอนนี้บ้านของเขานั้นมีพื้นที่จำกัดและเต็มไปด้วยรองเท้า หากซื้อตามเทรนด์ แป๊บๆ ก็ตกเทรนด์ จึงเลือกซื้อแบบคลาสสิกที่ใส่ไปได้ตลอด ให้คุ้มกับพื้นที่เก็บรองเท้านั่นเอง ... อืม มีเหตุผล



       ถ้าให้พูดถึงตัวเอง เขามองตัวเองว่าเป็นคนที่ชอบมองไปข้างหน้า ชอบวางแผน และลงมือทำจริง เขาพยายามมาตลอด จนในปี 2011 เขาก็ทำทุกอย่างที่ฝันให้เป็นจริงในวัย 29 ปีในขณะนั้น ส่วนสไตล์การแต่งตัวของเขา เขาบอกว่าให้ดูจากแบรนด์ KITH ของเขาได้เลย เพราะเขาลงมือออกแบบเสื้อผ้าในแบบที่เขาอยากใส่นั่นเอง


        และโดยส่วนตัวเขาชอบแฟชั่นที่ญี่ปุ่นมากๆ เขารู้สึกว่าคนญี่ปุ่นเป็นชาติที่เปิดรับและใจกว้างเกี่ยวกับเรื่องแฟชั่น ต่อให้ชิ้นบนและชิ้นล่างไม่ได้เข้ากัน แต่ถ้าอยากใส่ ก็ไม่มีใครแคร์ ดังนั้นโตเกียวจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาชอบที่สุด ทุกครั้งที่ไปก็จะได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ กลับมาพัฒนาแบรนด์ของตัวเอง ส่วนไอดอลในดวงใจ เขาชอบ Ralph Lauren 

       
       ชีวิตในวันหนึ่งของเขา เริ่มจากตอนเช้าจะตื่นขึ้นมาแล้วเปิดเพลงฟัง อาบน้ำแต่งตัว โดยมีแฟนสาวที่อยู่ด้วยกันเตรียมชาและกาแฟไว้ให้ดื่ม จากนั้นเขาจะนั่งรถไฟใต้ดินไป 2 สถานีเพื่อไปยังร้าน KITH ตรวจสอบความเรียบร้อยร้าน จากนั้นก็ไปยังที่ออฟฟิศ และนั่งทำงานไปเรื่อยๆ (ฟังดูมีความสุขจัง) เขามองว่าที่นิวยอร์กมีความหลากหลายที่ลงตัว แม้แต่ถนนเส้นเดียวกันก็ยังเห็นวัฒนธรรมที่ต่างกัน ซึ่งสิ่งนี้แหละที่มันกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้เขาอยากทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา


        สิ่งที่เขาภูมิใจที่สุดในตอนนี้ เขาสามารถจ้างพนักงานทุกคนให้พวกเขามีงานทำ แถมยังสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ด้วยแบรนด์ของตัวเอง :) และตอนนี้ก็ยังร่วมมือกันแบรนด์ดังต่างๆ อย่าง Asics และ Puma ในการผลิตรองเท้าผ้าใบคอลเลคชั่นพิเศษอีกด้วย

       

        อ่านจบแล้วต้องร้องว่า ชีวิตดี๊ดี! จะมีกี่คนที่ได้ทุกสิ่งที่ตัวเองชอบมากๆ มาต่อยอดเป็นธุรกิจได้แบบนี้ ได้อยู่กับสิ่งที่ชอบ แถมได้เงิน บอกเลยว่านี่แหละไอดอล

ข้อมูลประกอบ
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Tsukisora arisa Member 5 พ.ย. 58 22:41 น. 1

ตั้งใจ

​ช่างเป็นคนที่โชคดีอะไรยั่งงี้นะ สามารถเอาสิ่งที่ชอบมาหากินได้นี่ มันช่างดีเลิศเสียนิกะไร , อิจฉาคะ แต่ก็จะพยายามในแบบของตัวเองต่อไป และ จะเป็นแบบพี่เขาให้ได้

0
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

Tsukisora arisa Member 5 พ.ย. 58 22:41 น. 1

ตั้งใจ

​ช่างเป็นคนที่โชคดีอะไรยั่งงี้นะ สามารถเอาสิ่งที่ชอบมาหากินได้นี่ มันช่างดีเลิศเสียนิกะไร , อิจฉาคะ แต่ก็จะพยายามในแบบของตัวเองต่อไป และ จะเป็นแบบพี่เขาให้ได้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด