สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และวัฒนธรรมต่างประเทศสนุกๆ เช่นเคยค่ะ ในปี 2559 เราจะได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงกันแล้ว และในปี 2562 ก็ตามมาด้วยรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเส้นสีน้ำเงิน แต่หลายๆ คนก็แอบบ่นกันว่า ค่ารถไฟฟ้าบ้านเราเนี่ยแพงเหมือนกันนะถ้าเทียบกับค่าครองชีพ พี่เลยลองหาข้อมูลของประเทศอื่นๆ ในเอเชียมาฝาก มาดูกันค่ะว่าค่ารถไฟฟ้า&รถไฟใต้ดินบ้านเค้าเป็นเท่าไรบ้าง
BTS(บีทีเอส) ย่อมาจาก Bangkok Mass Transit System ที่พวกเรารู้จักกันดีว่าเป็นรถไฟ(ลอย)ฟ้า ใครจะไปเชื่อว่าเปิดใช้บริการมาแล้ว 16 ปี! ปัจจุบันมีมากกว่า 30 สถานี ค่อนข้างครอบคลุมบริเวณใจกลางเมืองกรุงเทพฯ สำหรับค่าบริการ BTS นั้น เริ่มต้นที่ 15 บาท (สถานีเดียว) จนถึง 52 บาท อย่างที่บอกว่าหลายคนแอบบ่นว่าแพงจังเลยหากเทียบกับค่าครองชีพบ้านเรา สาเหตุหลักๆ ก็เพราะว่า BTS เป็นโครงการที่ลงทุนโดยเอกชนทั้ง 100 % ค่ะ พูดง่ายๆ ก็เหมือนธุรกิจที่ต้องแสวงกำไรนั่นเอง
ส่วน MRT(เอ็มอาร์ที) ย่อมาจาก Metropolitan Rapid Transit เป็นระบบยอดนิยมที่ใช้กันหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทย โดยรถไฟใต้ดินที่ไทยเปิดใช้งานมาแล้ว 12 ปี ตอนนี้ยังวิ่งแค่ใต้ดิน แต่ส่วนต่อขยายที่กำลังสร้างหรือเส้นทางสายใหม่ที่กำลังสร้างนั้น จะเริ่มขึ้นมาวิ่งลอยฟ้ากันบ้างเหมือนกับ BTS โดยที่กำลังจะเปิดใช้ปีหน้าคือ สายสีม่วง(บางซื่อ-บางใหญ่) ตามมาด้วยรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน เปิดใช้ปี 2562 ค่ะ สำหรับค่าบริการของเส้นทางที่มีอยู่แล้ว เริ่มต้นที่ 16-42 บาท ก็ลุ้นกันต่อว่า ถ้าเส้นทางใหม่และส่วนต่อขยายเสร็จ ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไรกับเส้นทางที่ยาวขึ้น
รถไฟใต้ดินที่ฮ่องกงนั้นเรียกกันว่า MTR(เอ็มทีอาร์) ย่อมาจาก Mass Transit Railway เปิดใช้มาแล้วตั้งแต่ปี 1979 กับเส้นทางยาวถึง 218 กิโลเมตร รวมทั้งหมด 155 สถานี มีทั้งวิ่งบนดินและใต้ดิน โดยบริษัทที่ดำเนินงานนั้นก็มีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 4.5-29 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 21-135 บาท (ไม่นับสายที่ยาวไปถึงเซินเจิ้น ประเทศจีน) ราคาฟังดูเหมือนไม่ถูกเลย แต่พี่เคยนั่งจากต้นสายฝั่งนึงไปสุดอีกฝั่ง บอกเลยว่านั่งยาวสะใจมากกกจนก้นเปียกไปหมด เลยรู้สึกค่อนข้างคุ้ม + หากเทียบกับค่าครองชีพคนฮ่องกงก็ไม่แพงเท่าไรเลยค่ะ เพราะอาหารทั่วไปจานนึงที่นั่นก็เริ่มต้นที่เกือบ 100 บาทแล้ว
มาที่รถไฟใต้ดินที่เกาหลี เปิดใช้ตั้งแต่ปี 1974 ใครเคยนั่งคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาถูกมากและสถานีเยอะมากกกกก ยาวเหยียดจนถึงรอบนอกกรุงโซล รวมทั้งหมด 18 สาย เป็นระบบขนส่งมวลชนที่แม้แต่ CNN ยังเคยยกให้ว่าเป็นหนึ่งในระบบขนส่งมวลชนที่ดีที่สุดในโลก และเป็นที่เดียวในโลกที่ทุกๆ สถานีใช้จอสี LCD เพื่อแสดงตารางเวลาการมาถึงของรถไฟขบวนถัดไป ทั้งๆ ที่ค่าโดยสารคิดเพียงแค่ 1,050 วอน-1,200 วอนเท่านั้น คิดเป็นเงินไทยก็คือ 30-40 บาทไม่เกินนี้ (ยกเว้นสายพิเศษที่สร้างมาภายหลัง เช่น สายที่ไปสนามบิน) ถ้าเทียบกับค่าครองชีพที่เกาหลีแล้วถือว่าถูกมากๆๆๆ เพราะข้าวที่นั่นเริ่มต้นก็จานละ 5,000 วอนหรือ 150 บาทแล้วค่ะ ที่ถูกขนาดนี้เพราะเจ้าของหลักคือรัฐบาลล้วนๆ เลยค่ะ อาจมีเอกชนมาแจมบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนน้อยมากๆ หากเทียบกับสัดส่วนที่รัฐบาลดูแล
มาต่อที่รถไฟญี่ปุ่นค่ะ บอกเลยว่าระบบรถไฟญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างซับซ้อนกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียสักนิดนึง พูดง่ายๆ คือมีรถไฟหลายเจ้ามาก ทั้งของรัฐบาลและเอกชน จะเป็นระบบที่คล้ายๆ ของยุโรป คือมีรถไฟของหลายๆ ยี่ห้อมาใช้ชานชาลาร่วมกัน แล้วก็บางทีขบวนที่ผ่านหน้าเราเราก็ไม่สามารถขึ้นได้เพราะไม่ได้ไปยังสถานีที่เราต้องการ บางคันเป็นรถด่วน ด่วนมาก หรือพิเศษสำหรับชั่วโมงเร่งด่วน ดังนั้นจะขอพูดถึงแต่ในส่วนใจกลางโตเกียวที่เป็นรถไฟใต้ดินเท่านั้น ค่าโดยสารอยู่ที่ 170-200 เยน หรือประมาณ 51-60 บาทเท่านั้น ถือว่าถูกมากๆ ถ้าเทียบกับค่าครองชีพคนญี่ปุ่น รถไฟใต้ดินที่โตเกียวมีหลายเส้นมากๆ และผ่านสถานีต่างๆ ที่รถไฟของ Japan Railway (JR) ซึ่งวิ่งบนดินอาจไม่ผ่านโดยเฉพาะตัวเมืองชั้นในและรอบๆ พระบรมมหาราชวัง
wikimedia.org
ต่อมาเป็นระบบรถไฟใต้ดิน เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เปิดใช้ครั้งแรกในปี 1993 เปิดทีหลังเมืองหลวงอย่างปักกิ่ง แต่เป็นรถไฟใต้ดินที่มีคนใช้มากที่สุดของประเทศ รูปแบบจะค่อนข้างจะคล้ายของที่เกาหลีมาก มีทั้งหมด 14 สาย มีทั้งวิ่งบนดินและใต้ดิน ยาวรวม 538 กิโลเมตร โดยสายที่ยาวที่สุดยาวถึง 72 กิโลเมตร (ยาวกว่ารถไฟบีทีเอสสายสีลม 5 เท่า) ราคาเริ่มที่ 5 หยวน จนถึง 10 หยวน หรือ 25-50 บาทเท่านั้นค่ะ จัดว่าราคากลางๆ ถ้าเทียบกับค่าครองชีพที่นั่น
monorails.org
ต่อกันที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ เราบ้างดีกว่า กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เรียกระบบขนส่งมวลชนนี้ว่า MYrapid นอกจากจะอยู่ใกล้ชิดติดขอบกับประเทศไทยแล้ว บ้านเค้าก็มีระบบรถไฟฟ้าในช่วงเวลาไล่เลี่ยเรามากๆ เลยค่ะ ความยาวของเส้นทางก็ใกล้เคียงกัน จำนวนสถานีก็ใกล้เคียงกันอีกต่างหาก โดยหลักๆ ในกัวลาลัมเปอร์ จะมีรถไฟ 3 เส้นทาง โดย 2 เส้นทางเป็นรถไฟแบบรถไฟฟ้ารางเบา ส่วนอีก 1 เส้นทางเป็นโมโนเรลลอยฟ้า พูดง่ายๆ ถ้าใครไปเดินเล่นใจกลางเมือง แหงนหน้ามองขึ้นไป ก็จะเห็นรถไฟโมโนเรลลอยฟ้าแน่ๆ ราคาถูกสุดเริ่มต้นที่ 1.30 ริงกิต-6.30 ริงกิต หรือ 13 บาท-63 บาท ดูสิ ขนาดราคายังใกล้กับบ้านเราเลย ฝาแฝดชัดๆ
wikipedia.org
ปิดท้ายด้วยรถไฟใต้ดินหรือ MRT ของสิงคโปร์ เปิดใช้ในปี 1987 ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 สาย 121 สถานี ความยาวทั้งหมด 170 กิโลเมตร และกำลังวางแผนสร้างเพิ่มอีก 3 สาย ค่าโดยสารอยู่ที่ 0.79-2.07 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 20-53 บาทค่ะ ราคาใกล้เคียงบ้านเรามากๆ แต่ถือว่าถูกถ้าเทียบกับค่าครองชีพที่นั่น เพราะข้าวเริ่มที่จานละ 4 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือ 100 บาท
จริงๆ ยังมีอีกหลายประเทศที่มีระบบรถไฟใต้ดิน เช่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินเดีย และมีอยู่ระหว่างการก่อสร้างอย่างเวียดนามด้วยค่ะ ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้พลเมืองในประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็พลอยสบายไปด้วยเลยหากได้ไปเที่ยว ส่วนของไทย พี่ล่ะแอบอิจฉาน้องๆ ที่อยู่ชั้นประถมตอนนี้ ตอนพวกหนูเรียนมหาวิทยาลัยหรือทำงาน กทม.ก็คงมีรถไฟทั่วแล้ว ดี๊ดีอะ ว่าแต่ใครเคยขึ้นของที่ไหน ลองมาแชร์กันได้เลย
11 ความคิดเห็น
ที่ SG ถือว่าถูกจริงถ้าเทียบกับค่าครองชีพ และชอบมากเพราะสะดวก เส้นทางหลากหลายไปได้เกือบทุกที่ บางที่ไปไม่ได้ก็รถเมย์ แต่รถเมย์บ้านเค้าก็สะดวกมาก(บัตรรถเมย์ MRT เป็นบัตรเดียวกัยด้วยสะดวกดี) ชอบๆ
จีนก็เช่นกันครับ 1 เมือง / 1 บัตร
สิงคโปร์ถือว่าค่อนข้างถูกจริงด้วยค่ะ สะดวกสบายและก็วิ่งผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญทุกจุด จำได้ว่าเสียค่าเดินทางไม่กี่บาท ผิดกับค่าอาหารลิบลับ ใช้กับบัตรอีซี่ลิงค์ยิ่งดีค่ะ
บ้านเรานี่เด็กน้อยไปเลย
ของญี่ปุ่นแล้วแต่สายค่ะ จริงๆแล้วโดยปกติทั่วไปแทบทุกสายจะจอดสถานีที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเช่นชิบูย่า ฮาราจูกุ ชินจูกุ อาซากุสะ ประมาณนี้ แล้วจะรวมกันที่สถานีใหญ่ก็คือสถานีกลางโตเกียว(ที่ๆชิงคันเซนจอดด้วยนั่นแหล่ะ รถไฟครบทุกสายค่ะ) แล้วจากนั้นจะแยกไปตามตรอกซอยย่อยอีกที รถจะวนเป็นวงรีๆ รวมๆแล้ว ไปทั่วทั้งเมืองชั้นในชั้นนอกค่ะ
ชอบซับเวย์ของเกาหลีมากเลยค่ะ ตอนแรกที่ไปเห็นว่ามีหลายสายกลัวจะสับสนใช้ไม่เป็น แต่เอาจริงๆไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเลยค่ะ เพราะมีทั้งป้ายบอกทางเป็นภาษาอังกฤษตอนจะเปลี่ยนสถานีแบบช็อตๆเลยว่าเดินตรง ว่าเลี้ยวซ้ายหรือขวา ว่าลงบันได ยิ่งมีแอปพลิเคชั่นของซับเวย์เองจะสะดวกมากเรื่องเวลาเพราะซับเวย์ที่นี่รถไฟมาตรงเวลามากๆค่ะ แถมซับเวย์ของที่นี่คือครอบคลุมมากๆเลยค่ะ อยากไปไหนในโซลซับเวย์ไปถึงหมด อาจจะมีบ้างที่ต้องเดินเข้าตรอก เข้าซอย แต่ก็เดินนิดเดียวค่ะ คือสะดวกมาก ไม่มีแบบนั่งซับเวย์ แล้วต่อรถเมล์ ต่อมอเตอร์ไซต์รับจ้างเลยค่ะ สะดวกจริงๆค่ะ ปลื้มซับเวย์ของที่นี่มากจริงๆ
ในปักกิ่งนะ ใต้ดินเชื่อมทั้งเมือง เว้นบางสายที่เป็นลอยฟ้า ราคาแต่ก่อน1หยวน(5บาท) ไปได้ทุกป้าย แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ปรับราคาเริ่ม1หยวนสูงสุดไม่เกิน7หยวน(35บาท) ไม่นับสายตรงไปสนามบิน คือมันดีมาก ราคาถูกและก็ไปได้ทั้งเมือง จะว่ามีสถานีทุกแยกใหญ่เลยก็เป็นได้ แม้ว่าตอนนี้จะสร้างไม่เสร็จหมดนะ แต่ในปี 2020 จะสร้างเสร็จทุกสาย และยิ่งกว่านั้น คือมีแอพที่ทางการรถไฟที่นั่นสร้างขึ้น ค้นหาสถานีใกล้สุดโดยไม่ต้องใช้เน็ต หรือสัญญาณอะไรเลย //ตอนไปครั้งแรกอึ้งมาก