รวม 25 ศัพท์อังกฤษบอกเพศสภาพ ที่อาจไม่เคยได้ยินมาก่อน

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้ English Issues ขอนำเสนอเรื่องนี้ค่อนข้างเซนซิทีฟค่ะ นั่นคือคำศัพท์เกี่ยวกับเพศและรสนิยมทางเพศนั่นเอง ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ ค่ะ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เช่นกัน ฉะนั้นไปดูศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้อธิบายถึงแต่ละเพศกันเลย


     พี่เคยอธิบายไปในตอนก่อนๆ แล้วถึงความต่างของ sex กับ gender ว่าเป็น "เพศ" ที่ต่างกันยังไง sex คือเพศทางกายภาพตั้งแต่เกิดของเรา ส่วน gender หมายถึงเพศตามสภาพจิตใจของคนนั้น เช่นแม้ร่างกายจะเป็นเพศหญิง แต่จิตใจรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายแบบนี้ก็ถือว่า gender ตัวเองเป็นชาย

     แต่ทุกวันนี้ไม่ได้มีแค่ 4 เพศตามที่เราเคยคิดกันตอนเด็กๆ แล้ว โลกนี้ไม่ได้มีแค่หญิงแท้ชายแท้  กายเป็นชายใจเป็นหญิง หรือกายเป็นหญิงใจเป็นชายแค่นั้นแล้ว บางคนมีร่างกายเป็นผู้หญิง จิตใจก็เป็นผู้หญิง แต่รักผู้หญิงหวานๆ ด้วยกันก็มี บางคนชอบได้หมดทุกเพศ แต่ไม่ต้องการมีสัมพันธ์ทางเพศกับใครเลยก็มีเช่นกัน ยุคนี้จึงมีศัพท์บัญญัติทางเพศเกิดขึ้นมามากมาย บางคำได้รับการยอมรับจนได้บรรจุลงพจนานุกรมแล้ว บางคำเป็นคำที่ใช้แค่ในกลุ่ม LGBT หรือกลุ่มเฉพาะของตนเอง วันนี้พี่รวบรวมคำที่น่าสนใจมาให้ดูค่ะ อาจจะไม่ครอบคลุมครบทุกเพศและรสนิยมทางเพศที่มีในโลก เพราะมันเยอะมากจริงๆ แต่ก็หวังว่าจะพอเป็นไกด์ไลน์ให้น้องๆ พอเข้าใจลักษณะทางภาษาและเข้าใจความหลากหลายทางเพศมากขึ้น


androgynous

     ลักษณะที่มีทั้งของเพศชายและหญิงอยู่ในตัว จะหมายถึงผู้มีลักษณะทางกายภาพทั้งของผู้ชายและผู้หญิงอยู่ในตัว จะมองว่าเป็นเพศใดก็ได้ หรือจะหมายถึงการแสดงออกที่มีทั้งดูเหมือนผู้ชายและผู้หญิงก็ได้เหมือนกัน ส่วนมากจะเจอคำนี้ในวงการแฟชั่น เพราะตอนนี้กระแสนิยมนายแบบหรือนางแบบที่สามารถถ่ายแบบเป็นได้ทั้งผู้หญิงหรือผู้ชายกำลังมาแรง


aromantic

     คนที่ไม่มีความรู้สึกหรือแทบไม่มีความรู้สึกโรแมนติกกับผู้อื่น ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีอารมณ์ห่วงหาอาทรผู้อื่น เขามีอารมณ์อื่นๆ หมดเพียงแต่รู้สึกในแบบโรแมนติกกับคนอื่นไม่เป็น ฉะนั้นความรู้สึกดีต่างๆ ของคนที่เป็นแบบนี้จะเป็นได้มากที่สุดคือแบบเพื่อนรักเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่จะไม่พัฒนาไปมากกว่านั้น


asexual

     คนที่ไม่มีความสนใจหรือมีความสนใจน้อยมากในการมีเพศสัมพันธ์ นั่นคือเขาสามารถรู้สึกรักชอบคนอื่นได้ มีความรักโรแมนติกได้ แต่เขาไม่ได้อยากที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่คำนี้มีนิยามค่อนข้างหลากหลาย มักเป็นคำที่ใช้อธิบายตัวเองมากกว่าอธิบายตัวตนของผู้อื่น บางคนอาจบอกว่าตัวเองเป็น asexual เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน แต่บางคนอาจบอกว่าตัวเองเป็น asexual เพราะอยากจะมีความรักแบบไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ก็ได้


bigender

     คนที่ไม่ได้เหมือน "ผู้หญิง" และ "ผู้ชาย" แบบที่สังคมกำหนดมา หมายถึงในแง่ลักษณะนิสัยและการแสดงออกนะคะ เขาดูมีนิสัยเหมือนทั้งผู้หญิงและผู้ชายตามขนบของสังคม จึงเรียกตัวเองว่าเป็น bigender เพื่อบอกว่าเป็นทั้ง 2 เพศเลย (bi = สอง)


bisexual

     เดิมหมายถึงคนที่สามารถมีความรู้สึกรักใคร่และสนใจทางเพศกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ตอนนี้ความหมายเปลี่ยนไปว่าเป็นคนที่มีความรู้สึกรักใคร่และสนใจในเรื่องทางเพศกับเพศใดก็ตามมากกว่า 1 เพศ อาจจะสนใจเป็นผู้ชายกับผู้หญิงข้ามเพศ หรือจะสนใจทั้งผู้หญิงในแบบที่สังคมกำหนด ผู้หญิงข้ามเพศ และผู้ชายข้ามเพศหมดเลยก็ได้ และไม่จำเป็นว่าต้องชอบแต่ละเพศเท่าๆ กัน อาจจะโอนเอียงชอบเพศใดมากเป็นพิเศษก็ได้เช่นกัน


cisgender

     คนที่มีเพศตามสูติบัตรตรงกับเพศทางสภาพจิตใจที่เป็นอยู่ และเป็นเพศสภาพตรงตามที่สังคมขีดเส้นไว้เลยว่านี่คือผู้หญิง นี่คือผู้ชาย ง่ายๆ เลยคือคนที่เกิดมามีกายภาพเป็นเพศหญิง ตอนนี้ก็มีจิตใจเป็นเพศหญิงอยู่ ก็เรียกว่าเป็นพวก cisgender ค่ะ ถือเป็นคำตรงข้ามกับ transgender


demiromantic

     คนที่จะไม่รู้สึกรักลึกซึ้งกับคนอื่น ถ้ายังไม่มีความรู้สึกแน่นแฟ้นกับคนคนนั้นก่อน แปลง่ายๆ ก็คือกว่าที่จะรักโรแมนติกได้ ต้องมีการสร้างความรู้สึกอื่นระหว่างกันมาก่อนแล้ว เช่นชอบแบบเพื่อนก่อน แล้วก็เริ่มรู้สึกสนใจมากกว่าเพื่อน แล้วถึงกลายเป็นความรักได้จะไม่ใช่คนที่เกิดรักแรกพบ


demisexual

     คนที่จะไม่รู้สึกสนใจทางเพศกับผู้อื่น ตราบใดที่ยังไม่เกิดความรู้สึกรักหรือชอบคนนั้นซะก่อน ไม่จำเป็นต้องรักโรแมนติกแบบชู้สาวก็ได้ อาจจะเป็นความชอบแบบเพื่อนก็ได้ แต่จำเป็นต้องมีความรู้สึกพวกนี้ก่อนถึงจะเริ่มคิดสนใจในเรื่องเพศกับคนนั้น ฉะนั้นสายหื่นที่เห็นภาพคนดังนุ่งน้อยห่มน้อยแล้วเกิดอารมณ์ก็ไม่ถือว่าเป็นกลุ่มนี้นะคะ


heterosexual

     คนที่มีความรู้สึกสนใจ รักใคร่ และถูกดึงดูดทางเพศกับเพศตรงข้าม เช่นผู้ชายชอบผู้หญิง ผู้หญิงชอบผู้ชาย เรียกอีกอย่างว่า Straight ก็ได้


homosexual

     คนที่มีความรู้สึกสนใจ รักใคร่ และถูกดึงดูดทางเพศกับเพศเดียวกัน คำนี้มีหลายคนไม่ชอบ เพราะมันเป็นศัพท์ทางการเพศที่ใช้กันต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีต และสมัยก่อนก็ถือว่าเป็นโรคจิตเภทอย่างหนึ่ง ปัจจุบันใช้ gay หรือ lesbian จะดีกว่า


gynesexual

     มีความรู้สึกสนใจในเพศหญิง จะใช้อธิบายคนเพศใดก็ได้ เพียงแต่ว่าเขาคนนั้นสนใจในเพศหญิง และจะเป็นเพศหญิงธรรมดาหรือไม่ก็ได้


androsexual

     มีความรู้สึกสนใจในเพศชาย จะใช้อธิบายคนเพศใดก็ได้ เพียงแต่ว่าเขาคนนั้นสนใจในเพศชาย และจะเป็นเพศชายธรรมดาหรือไม่ก็ได้

     ** ยังจำ androgynous ได้มั้ย ตอนนี้น่าจะสังเกตเห็นแล้วว่ามันคือการเอาผู้ชาย (andro) กับผู้หญิง (gyne) มาผสมกัน


apromantic

     ผู้ที่มีความรู้สึกรักโรแมนติกกับผู้อื่น แต่ไม่ต้องการได้รับความรู้สึกนั้นกลับคืน นั่นก็คือคนที่ขอเป็นฝ่ายรักเขาข้างเดียวโดยไม่ต้องการให้เขารักตอบนั่นเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นการแอบรัก จะรักแบบเปิดเผยโจ่งแจ้งเลยก็ได้ เป็นความรู้สึกของพวกพระรองนั่นเอง


pansexual

     ผู้ที่มีความรู้สึกสนใจ รักใคร่ และถูกดึงดูดทางเพศกับเพศใดก็ได้ เรียกได้ว่าถ้ารักใครก็รักเพราะตัวตนคนนั้นจริงๆ ไม่มีขอบเขตของเพศมาจำกัด


panromantic

     คล้ายๆ กับ pansexual แต่ตัดความรู้สึกทางเพศออกไป แค่รักโรแมนติกเฉยๆ และสามารถรักกับใครก็ได้โดยไม่สนเรื่องเพศของคนนั้นเช่นกัน


polysexual

     คล้ายกับ pansexual แต่ไม่ใช่เพศใดก็ได้ pan หมายถึงทั้งหมด นั่นคือรักได้กับทุกเพศแต่ poly หมายถึง many นั่นคือรู้สึกสนใจ รักใคร่ และถูกดึงดูดทางเพศได้กับหลายเพศ แต่ไม่ใช่ครบทุกเพศ แปลว่ายังมีขอบเขตอยู่ว่าเพศไหนได้ เพศไหนไม่ได้ แต่มากกว่าสองเพศขึ้นไป นอกจากนี้ถ้าแค่ถึงขั้นรักโรแมนติกแต่ไม่ได้ถึงกับมีความดึงดูดทางเพศก็เรียกได้ว่าเป็น polyromantic


skoliosexual

     คนที่มีความรู้สึกรักใคร่ชอบพอและมีความสนใจทางเพศกับผู้ที่ไม่ได้เป็น cisgender จะเป็นเพศใดก็ได้ จะชอบแค่เพศเดียวหรือหลายเพศก็ได้ แต่จะไม่ชอบเฉพาะผู้ที่เป็น cisgender เท่านั้น


transman

     ผู้ชายข้ามเพศ คือผู้ที่เกิดมาเป็นเพศหญิง แต่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เป็นเพศชาย


transwoman

ผู้หญิงข้ามเพศ คือผู้ที่เกิดมาเป็นเพศชาย แต่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เป็นเพศหญิง


transgender

     เพราะ gender เป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า sexual ที่เป็นเรื่องของกายภาพ จึงหมายถึงผู้ที่แสดงออกไม่ตรงกับลักษณะของแต่ละเพศที่สังคมกำหนด เช่น เพศชายแบบที่สังคมกำหนดคือต้องเข้มแข็ง แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เป็นของผู้ชายโดยเฉพาะ และถ้าใครที่เกิดมาเป็นเพศชายและโตขึ้นมามีลักษณะเช่นนี้ก็จะเป็นพวก cisgender แต่ถ้าใครที่เกิดมาเป็นเพศชาย แต่ชอบใส่กระโปรง ใส่เสื้อใน ขี้แง แบบนี้ก็ถือว่าเป็น transgender ได้ เพราะเขามีลักษณะไม่ตรงตามนิยามของเพศชายที่สังคมกำหนด แต่รสนิยมทางเพศของเขาจะชอบผู้หญิงอยู่หรือชอบผู้ชายก็ได้
     ฉะนั้น transgender จึงเป็นคำเรียกรวมๆ ของผู้ที่แสดงออกไม่ตรงตามแบบที่สังคมกำหนด โดยไม่สนใจเรื่องรสนิยมทางเพศ จะเป็นผู้ชายแต่งหญิงที่ชอบผู้หญิงอยู่ก็ได้ จะเป็นผู้ชายแต่งหญิงที่ชอบผู้ชายก็ได้เช่นกัน หรือจะเป็นผู้หญิงที่เหมือนเป็นทอมแต่จริงๆ แอบชอบเกย์อยู่ก็ได้ คำนี้มันกว้างจริงๆ ค่ะ


transsexual

     เหมือนเป็นอีกระดับของ transgender เพราะเป็นเรื่องของกายภาพแล้ว ผู้ที่จัดว่าตัวเองเป็น transsexual คือผู้ที่รู้สึกว่าเพศทางกายภาพแต่กำเนิดของตัวเองไม่ตรงกับสิ่งที่ตัวเองเป็นจริงๆ จึงเปลี่ยนแปลงหรือคิดที่จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ตนเองให้เป็นอีกเพศหนึ่งที่ตรงกับใจตัวเอง ไม่ว่าจะแค่ใช้ฮอร์โมนหรือว่าผ่าตัดแปลงเพศเลยก็ได้


questioning

     คนที่ยังไม่แน่ใจกับเพศสภาพตัวเอง หรือผู้ที่กำลังค้นหาอยู่ว่าตัวเองมีรสนิยมทางเพศแบบใด หรือจริงๆ แล้วตัวเองมีเพศสภาพใดกันแน่


intersex

     ผู้ที่มีโครโมโซม ฮอร์โมน หรืออวัยวะในร่างกายที่ไม่ตรงกับกายภาพของผู้หญิงหรือผู้ชายทั่วไป เช่นไม่ได้เป็น XX หรือ XY หรือมีอวัยวะเพศของทั้งสองเพศ (เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด)


gender fluid

     เพศสภาพที่เหมือนผสมผสานทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย fluid คือของเหลว จึงสื่อว่าเพศสภาพแบบนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละวัน วันนี้อาจจะเทไปทางเป็นผู้ชายมากกว่าอีกวันอาจจะเทไปทางผู้หญิงมากกว่าก็ได้ แล้วแต่อารมณ์ของคนคนนั้น


metrosexual

     ผู้ชายที่ดูแลตัวเองดี ใช้เวลา พลังงาน และเงินไปมากมายกับการดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ได้เป็น transgender แต่เรียกได้ว่าดูแลตัวเองให้ออกมาดูดีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยยังไม่หลุดไปจากกรอบที่สังคมกำหนดมาว่าเพศชายต้องเป็นอย่างไร


     แค่นี้ก็เยอะมากแล้ว แต่จริงๆ มีเยอะกว่านี้อีกค่ะ บางคนอาจจะเรียกตัวเองว่าเป็นแบบนึงแต่ให้นิยามที่ต่างออกไปบ้างก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือทางที่ดีเราไม่ควรไปเรียกคนอื่นว่าเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ ให้เขาระบุเองจะดีกว่า เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ ความหมายแต่ละคำที่พี่หามาล้วนมาจากชุมชน LGBT แต่ว่าแต่ละชุมชนก็มีนิยามบางอย่างที่ต่างกันออกไปอีก แต่ก็หวังว่าจะได้คำอธิบายที่ค่อนข้างเป็นกลางที่สุดแล้วนะคะ




ข้อมูลอ้างอิง
www.huffingtonpost.com, itspronouncedmetrosexual.com
www.soc.ucsb.edu, www.uua.org
www.asexuality.org, www.stop-homophobia.com
asexualeducation.tumblr.com, genderqueerid.com
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
... 14 ก.พ. 64 21:14 น. 4

แล้วคนที่ชอบเพศเดียวกันแบบที่ตอนเป็นเพศก็ชอบเพศเดียวกันแต่พอtransเป็นอีกเพศนึงแล้วก็ชอบเพศที่ตัวเองเป็นอยู่นี้มีคำนิยามมั้ยอะ

1
minniemay13 18 เม.ย. 64 21:51 น. 4-1

โฮโมเซ็กชวล เช่น เกิดเป็น ญ รักชอบ ญ เปลี่ยนแปลงตนเอง เป็นอัตลักษณ์ชาย ตัดหน้าอกเทคฮอร์โมนเป็น ชาย แล้วตอนนี้ รักชอบแต่ ชาย คือ ไม่ว่าคุณจะเลือกเป็นเพศไหน รูปลักษณ์ไหน ก็จะชอบเพียงเพศที่มีรูปลักษณ์เหมือนตนเอง จะเรียกว่าโฮโมเซ็กชวล (ชอบเพศเดียวกัน) และ ถ้าจะให้ครอบคลุมและชัดเจน ก็น่าจะต้องบอกว่า เป็นทรานเจนเดอร์ ที่มีรสนิยมทางเพศ เป็นโฮโมเซ็กชวล แยกออกจากกัน ตัวตนของเรา(สิ่งที่เราคิดเราเป็น) กับ รสนิยมทางเพศของเรา (สิ่งที่เรารักชอบมีใจเสน่ห์หา) แต่ถ้า สิ่งที่คุณบอก เฉพาะเจาะจงลงไปอีก เช่น ข้ามเพศจาก ญ เป็น ชาย แล้ว รู้สึกชอบ คนที่มีเพศกำเนิดชาย ในอดีต อาจจะเป็นชายที่แปลงเพศหรือไม่แปลงเพศไม่ทราบได้ และคนนี้ มีการแสดงออกเป็นหญิง มีหน้าอกผมยาว ฯลฯ คือมีความแฟมินีน เป็นหญิง แต่อาจจะมีจู๋อยู่ก็ได้นะ ถ้าคนที่คุณชอบ หมายถึงเพศ จากความมีจู๋ (ตีความจากคำนี้ "พอtransเป็นอีกเพศนึงแล้วก็ชอบเพศที่ตัวเองเป็นอยู่" ไม่ได้บอกเพศสภาพการแสดงออกของคนที่ชอบ) ถ้าเป็นแบบนี้ คุณเป็น คนรักต่างเพศ ทั่วไป คือ นิยามตัวเองเป็นชาย และชอบ ความเป็นหญิง ถือเป็น heterosexual

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด