5 เหตุผล...ทำไมวัยรุ่นจึงควรท่องเที่ยวตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ

พอทำงานแล้ว ไม่สามารถลาหยุดยาวๆ ได้

        เมื่อน้องๆ เข้าสู่ชีวิตการทำงาน บริษัทส่วนมากจะให้ลาพักร้อนได้ปีละ 7-10 วัน บางบริษัทใจดีมาก ให้ตั้ง 15 วัน แต่บางบริษัทก็ให้น้อยมากแค่ปีละ 5 วัน แถมบางที่ยังไม่ให้ลารวดเดียวหลายวัน T^T ดังนั้นการจะไปเที่ยวไหน(ไกลๆ)นี่ลำบากมากเลยค่ะ พูดง่ายๆ คือบางคน(พี่นี่แหละ)คิดว่าไม่คุ้มค่าตั๋ว บางทีค่าตั๋วเครื่องบิน 3-4 หมื่น แต่ได้ไปแค่ 5-6 วัน คือรู้สึกว่าไม่คุ้มแฮะ แต่สมัยเรียนนี่สิ อูย หยุดยาวช่วงปิดเทอมนี่มันสุขีปรีดาอะไรขนาดนั้น จะไปเที่ยวเป็นเดือนๆ ยังได้เลยจ้า

       ดังนั้นหากใครไม่ขัดสนเรื่องการเงิน พี่แนะนำว่า หากมีโอกาสไปเที่ยวช่วงปิดเทอม ลองไปประเทศไกลๆ ที่ต้องใช้เวลาเที่ยวนานๆ เช่น อเมริกาใต้ ยุโรปหลายประเทศ อเมริกา แคนาดา ที่เราต้องใช้เวลาเที่ยวเป็นสิบๆ วัน เพราะพอมาเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว โอกาสไปมันยากมากเลย ส่วนประเทศใกล้ๆ หรือไม่ไกลมาก เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ อะไรแบบนี้ เก็บไว้เที่ยวตอนทำงานก็ได้นะ เพราะก็ไปกันแค่ 3-4 วันไม่ค่อยเกินนี้

อายุน้อย มักได้ส่วนลดเพียบ

       ในระหว่างท่องเที่ยว เรามักต้องซื้อตั๋วนั่นนี่ต่างๆ เช่น ตั๋วรถไฟในต่างประเทศ และหลายๆ อย่างที่มีส่วนลดให้กับคนที่เป็นเยาวชน หรือ Youth เช่น อายุต่ำกว่า 20 ปีหรือแล้วแต่กำหนดค่ะ ส่วนลดก็บอกเลยไม่ใช่ร้อยสองร้อยนะจ๊ะ มียกตัวอย่างมาให้ดู

        ตั๋วรถไฟเดินทางในประเทศอังกฤษแบบ 4 วัน ราคาปกติอยู่ที่  $274 แต่หากเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 26 ปี  $219 ลดไปถึง $55 หรือเกือบสองพันบาทจ้า เยอะมากพูดเลย

   
        สำหรับพี่...วัยนี้ ไปไหนจ่ายราคาเต็มสิจ๊ะ กระเป๋าตังค์ร้องไห้หนักมาก

ไปไหนได้แบบไม่ต้องมีห่วง

        พูดง่ายๆ คือคนทำงานเนี่ย ก่อนจะลาไปไหนยาวๆ โอ้โห ต้องเคลียร์งานกันล่วงหน้าหัวฟูกันเป็นเดือน พี่เคยลายาวสิบวัน ก็ต้องทำงานล่วงหน้าเอาไว้ก่อน ปั่นงานกันแบบหัวหมุน แถมระหว่างเที่ยวอยู่ ก็ต้องแวะเข้ามาเช็คงานผ่านอีเมลหรือผ่านมือถือกันแทบทุกชั่วโมงแม้จะกำลังเที่ยวอยู่ก็เถอะ คือบางคนอาจจะปิดมือถือแล้วเที่ยวแบบลืมงานเอาไว้ข้างหลังเลย (ไว้ค่อยกลับมาจัดการ) แต่หลายๆ คนก็ทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ อาจมีงานเข้ากะทันหัน ก็ต้องจัดการ หรือกลัวงานมีช่องโหว่ มีอะไรผิดพลาด จึงต้องเช็คอยู่เรื่อยๆ

มีแรง! 

       หลายๆ คนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ คืออะไร? มนุษย์เงินเดือนอายุ 25 ก็มีแรงไม่ต่างจากเด็กอายุ 18 หรอกน่ะ...แต่สำหรับบางคนแล้วไม่ใช่ค่ะ อย่างเพื่อนพี่คนนึง ตอนนี้ป่วยเป็นโรคยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนคือออฟฟิศซินโดรม อาการหลักๆ ก็คือปวดหลังเพราะนั่งตลอดทั้งวัน ต้องไปพบคุณหมอด้านกายภาพบำบัดอยู่เรื่อยๆ แน่นอนค่ะว่าการจะเที่ยวแบบโลดโผน เช่น เดินเขา ปีนเขา ก็เป็นอะไรที่ต้องบอกลากันไปเลยล่ะ เพื่อนคนนี้ถึงกับบ่นเสียดายว่า ตอนวัยเรียนน่าจะออกไปเที่ยวเยอะๆ พอมาตอนนี้จะไปเที่ยวก็ไปไม่ค่อยได้เพราะสุขภาพไม่อำนวย

​ค้นหาตัวเองระหว่างทาง

       หลายคนที่ใกล้เรียนจบแล้ว อาจจะยังนึกไม่ออกว่าจบไปอยากทำงานอะไรกันแน่? เชื่อเถอะค่ะว่าระหว่างการเดินทาง เราจะได้เจอนั่นเจอนี่ ทำให้ได้เจออะไรใหม่ๆ แถมได้ค้นเจอตัวเองอีกต่างหาก มีน้องที่รู้จักห่างๆ คนนึงเค้าไปเที่ยวเมืองนอกแล้วพักโฮสเทลแบบ Dormitory(หอพักรวม) ปรากฎว่าชอบมากๆ เพราะได้เจอและพูดคุยกับชาวต่างชาติทั้งวัน เหมือนได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ พอกลับมาไทยก็รู้สึกว่า อยากพาตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศแบบนั้นอีก เลยลงมือตกแต่งห้องว่างในบ้านที่ไม่ได้ใช้ให้สวยงาม แล้วลงให้เช่าใน airbnb บอกเลยว่ามีนักท่องเที่ยวฝรั่งมาพักเต็มตลอด เดือนนึงรับทรัพย์กันไป 2-3 หมื่น แถมตอนนี้ก็วางแผนจะต่อเติมเพิ่มห้องพักเป็นธุรกิจหลักหลังเรียนจบอีกด้วย เจ๋งอะ!

pic : pixabay