สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน ... หลายๆ คนอาจไม่รู้ว่าก่อนที่นักโทษประหารบางคนก่อนตายเขาจะคิดยังไง พูดอะไรบ้าง แน่นอนว่ามันหลากหลายอารมณ์มาก ไม่ว่าจะต้องการแสดงความกล้าของตัวเองออกมา เล่นมุกตลกร้าย บ่นในเรื่องเล็กน้อย จนถึงสำนึกในควาผิดของตัวเอง วันนี้ พี่ก้าง เลยอยากยกตัวอย่างของนักโทษประหาร 5 คนที่ต่างอารมณ์ ต่างความคิดนี้มารวมกันให้อ่านกันครับ ว่าแล้วก็ไปกันเลย
1.“Let's do it!” (เป็นแรงบันดาลใจในการทำสโลแกนของไนกี้ในภายหลัง)
ในฤดูหนาวปี 1976 ทั่วประเทศต่างฮือฮากับข่าวของ Gary Gilmore (แกรี่ กิลโมล) ฆาตกรผู้เลือกเองว่าให้ประหารเขาเสีย จากคดีที่รัฐยูทาห์ แกรี่เป็นอาชญากรมืออาชีพที่ได้สังหารคนถึงสองคนภายในเวลาเพียงสองวันไปในช่วงฤดูร้อนของปี 1976 หนึ่งในนั้นเป็นคนดูแลปั้มน้ำมัน ส่วนอีกคนเป็นผู้จัดการโรงแรม คณะลูกขุนจึงต่างก็มีมติเป็นเป็นเอกฉันท์ให้ตัดสินโทษประหารชีวิตแกรี่เสีย
ในช่วงเวลานั้น รัฐยูทาห์ มีเพียงสองตัวเลือกในการประหารชีวิตคือ การแขวนคอ และ การยิงเป้า และแกรี่ก็เลือกที่จะโดนยิงเป้า เขากลายเป็นนักโทษประหารคนแรกก่อนที่จะมีการปรับกฎหมายโทษประหารชีวิตใหม่ในปี 1976
ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง ก่อนที่แกรี่จะโดนยิงเป้า เขาถูกนำไปไว้ที่โรงงานเก่าหลังคุก ซึ่งที่นั่นเป็นที่ๆ แกรี่สั่งเสียก่อนตายเอาไว้ว่า “Let’s do it!” (เอาเลยสิ!) ทันทีที่แกรี่ตาย กระจกตาของเขาถูกนำไปบริจาคให้ผู้ที่ต้องการตามคำขอของเขาก่อนตาย
แกรี่ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมบางอย่าง เช่น เพลงที่ตำรวจมักร้องกันชื่อ Bring on the Night ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของแกรี่ในคืนก่อนวันประหาร, หนังเรื่อง The Postman Always Rings Twice ที่ แจ็ก นิโคลสัน แสดงเป็นตัวเอกของเรื่องก็ได้แรงบันดาลใจมาจากแกรี่ และแน่นอนว่าส่วนที่เป็นที่สะดุดตาที่สุดคือ สโลแกนของทาง Nike นั่นก็คือ “Just Do It.” ซึ่ง แดน วีเดน (ครีเอทีฟเบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ดังมากมาย เคยกวาดรางวัลในงานโฆษณามาแล้วนับไม่ถ้วน) ออกมาบอกในภายหลังว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำพูดสุดท้ายของแกรี่อีกด้วย
2.“French Fries” (คำพูดของเฟรนซ์ก่อนถูกประหารด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า)
James D. French (เจมส์ ดี เฟรนช์) ถูกประหารเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1966 เป็นอาชญากรคนสุดท้ายที่ถูกประหารภายใต้กฎหมายโทษประหารโอคลาโฮมา ก่อนจะใช้กฎหมาย Furman v. Georgia (มีความยืดหยุ่นในคำสั่งโทษประหารมากกว่าฉบับเดิม)
เขาเป็นนักโทษเพียงคนเดียวของสหรัฐที่ถูกประหารในปีนั้น แต่เดิมเขาถูกดำเนินให้จำคุกตลอดชีวิต เขาอยากฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำ จึงก่อคดีในคุกฆ่านักโทษร่วมห้องของเขาเพื่อจะได้โทษประหารสมใจอยาก
กล่าวกันว่า คำพูดก่อนจะถูกประหารด้วยเก้าอี้ช๊อตไฟฟ้าของเขานั้นคือ “How's this for a headline? French Fries” แปลได้ประมาณว่า “เอาพาดหัวข่าวแบบนี้เป็นไง? เฟรนช์ฟรายส์” (เป็นมุกการพ้องเสียงชื่อของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าตัวเองจะถูกทอดนั่นแหละ)
3.“Soldiers, Fire!” (คำพูดของ Michael Ney ก่อนออกคำสั่งให้เพชรฆาตยิงเป้าเขา)
ถ้าจะพูดถึงหนึ่งในจอมพลที่มีชื่อเสียงของนโปเลียน ต้องมีชื่อ Michel Ney (มีแชล แน) หรือผู้ที่ทหารรู้จักในนาม le Rougeaud (แปลว่าขิง) ซึ่งมีที่มาจากสีผมของเขา เรื่องมันสืบเนื่องมาจากการพ่ายแพ้ที่เมืองวอเตอร์ลู เนย์ถูกตามล่าและจับตัว ก่อนที่เขาจะถูกนำตัวไปขัง เขาถูกตัดสินโทษว่าเป็นกบฎ เขาถูกพิพากษาให้ประหารชีวิตโดยการยิงเป้าใกล้ๆ กับสวนลุกซ็องบูร์ในวันที่ 7 ธันวาคม เขาได้เลือกสิ่งที่แปลกประหลาดและถือว่าเจ๋งมากๆ เป็นความต้องการก่อนตาย นั่นก็คือ เขาเลือกที่จะเป็นคนสั่งให้เพชรฆาตยิงเขาด้วยตัวเอง
ขณะที่กำลังประหาร เนย์ปฏิเสธที่จะใส่ผ้าปิดตาและยืนยันว่าเขาจะสั่งยิงด้วยตัวของเขาเอง ซึ่งเป็นคำพูดก่อนตายดังนี้
"Soldiers, when I give the command to fire, fire straight at my heart. Wait for the order. It will be my last to you. I protest against my condemnation. I have fought a hundred battles for France, and not one against her... Soldiers Fire!”
(แปล ทหาร เมื่อข้าสั่งยิงเมื่อไหร่ จงยิงยิงตรงมาที่หัวใจข้า รอคำสั่ง นี่จะเป็นคำสั่งสุดท้ายของข้า ข้าขอคัดค้านการลงโทษครั้งนี้ ข้าสู้ศึกมานับร้อยเพื่อฝรั่งเศส และไม่มีแม้ซักครั้งที่จะคิดเป็นปรปักษ์ต่อประเทศ…ทหาร ยิง! )
4.“I did not get my Spaghetti-O's, I got spaghetti. I want the press to know this.” (เป็นการบ่นเกี่ยวกับอาหารมื้อสุดท้ายของเขา)
ตามธรรมเนียมแล้ว นักโทษประหารชีวิตของอเมริกาจะได้รับอนุญาตให้ขออะไรก็ได้เป็นมื้อสุดท้าย ก่อนจะถูกประหารชีวิต และนี่คือหนึ่งในนักโทษที่จริงจังมากในเรื่องนี้
Thomas J. Grasso (โทมัส เจ. กราสโซ่) ถูกประหารในปี 1995 เพราะนำสายไฟประดับต้นคริสมาสตร์รัดคอหญิงชราวัย 85 ปี เรื่องแปลกของเขาก็คืออาหารมื้อสุดท้ายที่เขาต้องการ เขาสั่ง หอยแมลงภู่นึ่ง 24 ตัว หอยกาบนึ่ง 24 ตัว (ปรุงรสด้วยมะนาวด้วย) ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์ 1 อันจากเบอร์เกอร์คิง บาร์บีคิวซี่โครงครึ่งโหล สตรอเบอร์รี่มิลค์เชคสองขวด พายฟักทองครึ่งซีกราดด้วยวิปครีม สตรอเบอร์รี่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และ สปาเก็ตตี้ มีทบอลยี่ห้อ SpaghettiOs กระป๋องขนาด16 ออนซ์ เสิร์ฟตามอุณหภูมิของห้อง…
แต่เป็นที่น่าเสียดายสำหรับเขา รายการสั่งอันซับซ้อนและยาวพรืดของเขาดูเหมือนจะทำให้พนักงานห้องครัวประสาทกินจนเกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงขึ้นมา คำพูดของกราสโซ่ก่อนตายเลยเป็น “I did not get my Spaghetti-O's, I got spaghetti. I want the press to know this” แปลได้ว่า “ฉันไม่ได้กิน Spaghetti-O's ของฉัน ที่ฉันได้มามันเป็นแค่สปาเก็ตตี้ธรรมดาๆ ข้าอยากให้สื่อรู้เรื่องนี้ไว้ด้วย”
5."I'd rather be fishing." (พูดโดย Jimmy Glass ก่อนถูกนำไปประหาร)
Jimmy L. Glass (จิมมี่ แอล. กลาส) ถูกประหารในวันที่ 12 มิถุนายน 1987 เขาถูกจับข้อหายิง นิวตัน และ เออลิน บราวน์ เสียชีวิตในขณะที่เข้าไปปล้นบ้านของพวกเขา ในวันคริสมาสต์ ปี 1982 ซึ่ง กลาสและจิมมี่ วินโก้ (ถูกโทษประหารด้วยเช่นกัน) ได้หลบหนีออกจากคุก เวบสเตอร์ พารีช ได้ก่อนวันประหารหนึ่งวันในตอนนั้น
คำพูดสุดท้ายของ กลาสคือ “I'd rather be fishing.” แปลได้ว่า “ตอนนั้นฉันน่าจะไปตกปลา” (เกิดสำนึกผิดขึ้นมา) ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้น
น่าเสียดายที่ในตอนนั้นมีการลงมติแก้ไขกฎหมายในการประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า แต่แพ้เสียงโหวตไปเพียง 1 เสียงเท่านั้น เขาจึงถูกประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าไปในที่สุด
อ่านๆ มาน่าจะสังเกตกันได้ใช่ไหมครับว่า กฎหมายในสมัยนั้น ไม่ได้ยืดหยุ่นอะไรมากเลยถ้าเทียบกับสมัยนี้ แต่ก็อย่าได้คิดว่าแม้จะทำผิดแล้วเดี๋ยวก็ได้ออกมาเถอะครับ เพราะการได้ฆ่าใครไปแล้ว เท่ากับทำลายชีวิตครอบครัวของเหยื่อเลยก็ว่าได้เลยล่ะครับ ส่วนวันนี้ขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก oddee.com
6 ความคิดเห็น
แนวดีแฮะ ของจอมพลนี่ดูกล้าหาญดี
เคยอ่านของเบ้นธนชาติว่า ความจริงสโลแกนไนกี้มีความเฬวมากกว่านั้น 55555555
ไม่รู้จะเชื่ออันไหนดีเลยครับ
น่าสงสารคนสุดท้ายยจังเลลยอ่ะ เค้าอุส่าห์สำนึกผิดเเล้ววเเท้ๆเลยยอ่าา
#โด่ววว ไรกันอ่าาา- -* เเค่เสียงเดียววเองงงงงงง ทำมายยยยยยยยยยย
น่าสงสารคนที่ไม่ได้กินสปาเกตตี้ โธ่! นี่มันอาหารมื้อสุดท้ายของเขานะ จะให้เขาไปหาสปาเกตตี้ยี่ห้อนั้นกินชาติหน้าหรือในนรกรึไง